วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2562

จังหวัดนครพนม ประกอบพิธีมอบโล่ที่ระลึกและเสื้อ Super Biker อุ่นไอรักพระราชทาน


วันที่ 31 มีนาคม 2562 ที่บริเวณห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานประกอบพิธีมอบโล่ที่ระลึกและเสื้อ Super Biker อุ่นไอรัก พระราชทาน แก่บุคคลตัวอย่าง Super Biker ประเภทต่าง ๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรม Bike อุ่นไอรัก ของจังหวัดนครพนมที่จัดขึ้น เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชานุญาต ให้จัดกิจกรรมปั่นจักรยาน Bike อุ่นไอรัก ในงานอุ่นไอรักคลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ทั้งในกรุงเทพมหานครและในส่วนภูมิภาค ทั้ง 76 จังหวัด เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญในการรักษาสุขภาพ ด้วยการออกกำลังกายและส่งเสริมให้เกิดความรักความสามัคคีในครอบครัวและสังคม

โดยทรงพระราชทานพระราชานุญาต ให้หน่วยงานราชการในพระองค์ ดำเนินการคัดเลือกผู้เข้าร่วมกิจกรรม Bike อุ่นไอรักจากทั่วประเทศ ที่สมควรได้รับ Super Biker เพื่อเป็นเกียรติประวัติและเป็นกำลังใจของ Hero ในกิจกรรม Bike อุ่นไอรัก ในการเป็นต้นแบบให้ประชาชนทั่วไป โดยในโอกาสนี้มีบุคคลตัวอย่างของจังหวัดนครพนมได้รับโล่ที่ระลึกและเสื้อ Super Biker ประกอบไปด้วย ประเภทบุคคลตัวอย่างผู้เป็นแรงบันดาลใจ Bike อุ่นไอรัก ได้แก่ นายนวพงศ์ พิลาบุตร ประเภทครอบครัวจักรยานอุ่นไอรัก ได้แก่ นายกู้เกียรติ กุลตั้งวัฒนา นางปาริชาติ กุลตั้งวัฒนา และเด็กชายรวิศ กุลตั้งวัฒนา ประเภทแข็งแกร่ง กายใจ แบบอย่างที่ดี (อายุมากที่สุด) ได้แก่นางศรีคุณ วงศ์ธิ ประเภทหนูน้อยจักรยาน สร้างอนาคตไทย (อายุน้อยที่สุด) ได้แก่ เด็กหญิงปวริสณ์ ผดุงธิติฐ์ และประเภทนักปั่นสุขใจ จักรยานสดใส สวยงาม ได้แก่นายพัชระ ยาหัส

จังหวัดนครพนม ประกอบพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลแด่ ร.3 เนื่องในวันเจษฎาบดินทร์ พร้อมจัดงานวันข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2562


วันที่ 31 มีนาคม 2562 เวลา 07.00 น. ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมกันประกอบพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์และสามเณร จำนวน 68 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพและวันวันเจษฎาบดินทร์

จากนั้นในเวลา 9.00 น. นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ประธานในพิธีได้นำทุกคนประกอบรัฐพิธีถวายราชสดุดีแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ที่บริเวณศาลาประชาคมยงใจยุทธ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันน้อยใหญ่นานัปการ ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา รักษาบ้านเมือง ด้านการศึกษาและด้านอื่น ๆ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อพสกนิกรชาวไทยและประเทศชาติ ครั้นเมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตล่วงเลยมา 43 ปี พระองค์ก็ยังทรงได้โปรดพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ (เงินถุงแดง) ไว้เพื่อประโยชน์แก่แผ่นดิน ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถใช้กอบกู้เอกราชในดินแดนบางส่วนและรักษาอำนาจอธิปไตยไว้ได้มาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นประชาชนชาวไทยและรัฐบาล จึงพร้อมใจกันประดิษฐานพระราชานุสาวรีย์ ณ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ หน้าวัดราชนัดดาราม ในปี พ.ศ.2541 รวมทั้งทางราชการก็ได้มีการถวายพระราชสมัญญาว่า "พระมหาเจษฎาราชเจ้า” และคณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 31 มีนาคมของทุกปีเป็น วันระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า หรือ วันเจษฎาบดินทร์

จากนั้นได้ประกอบพิธีมอบเกียรติบัตรแก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่นระดับจังหวัด จำนวน 25 ราย เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการที่ประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนข้าราชการด้วยกัน ขณะที่ข้าราชการดีเด่นระดับประเทศของจังหวัดนครพนม 4 ราย ประกอบด้วย นายรักสกุล สุริโย เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนม นางอัมรา ณ นครพนม นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ พันตำรวจเอก จุลฤทธิ์ จุลกะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรธาตุพนม และนางทิพวรรณ เสนจันทร์ฒิชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนอุเทนพัฒนา จะเดินทางไปเข้ารับใบประกาศเกียรติคุณและครุฑทองคำ ณ ตึกไทยคู่ฟ้า-สันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลต่อไป จากนั้นทุกคนได้ร่วมกันมอบทุนการศึกษาของกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2562 เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ครอบครัวมีฐานะยากจนและด้อยโอกาสในจังหวัดนครพนม จำนวน 80ทุน โดยมียอดเงินปัจจัยจากส่วนราชการ พ่อค้าและประชาชน บริจาคสมทบผ้าป่ากองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 182,653 บาท  

วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2562

นักปั่นกว่า 800 ชีวิต ร่วมกิจกรรม ปั่น 2 น่อง ท่อง 2 แผ่นดินที่นครพนม


วันที่ 30 มีนาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดและนำนักปั่นจักรยานกว่า 800 ชีวิต จาก 33 จังหวัดทั่วประเทศทำกิจกรรมปั่น 2 น่อง ท่อง 2 แผ่นดิน สานสัมพันธ์ไทย- ลาว นครพนม คำม่วน ที่จังหวัดนครพนม โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมกับเรือนจำกลางจังหวัดนครพนมจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชนในการดูแลรักษาสุขภาพของตนเองและครอบครัวให้แข็งแรง ปราศจากการเจ็บป่วย ด้วยการปั่นจักรยาน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก ทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของจังหวัดนครพนมที่มีการรณรงค์ให้การปั่นจักรยานเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของประชาชน และเป็นการสานสัมพันธ์อันดีของจังหวัดนครพนมและแขวงคำม่วนที่มีมาอย่างยาวนาน

โดยกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากผู้เข้าร่วมจะได้ร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังได้ทำบุญด้วยเพราะหลังหักค่าใช้จ่ายทางคณะที่จัดงานจะมีการนำเงินที่ได้ไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลนครพนม กองทุนช่วยเหลือผู้ต้องขังไร้สิทธิ์เรือนจำกลางจังหวัดนครพนม และโรงหมอแขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วยและผู้ต้องขังในเรือนจำ สำหรับเส้นทางในการปั่นในครั้งนี้ เริ่มต้นที่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช มุ่งหน้าไปตามถนนสุนทรวิจิตรเลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง ผ่านสถานที่สำคัญของจังหวัดนครพนม เช่น ตลาดอินโดจีนนครพนม หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมหลังเก่า โบสถ์นักบุญอันนาหนองแสง  มุ่งหน้าสู่สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 ซึ่งเป็นจุดแวะพักจุดที่ 1 จากนั้นทุกคนร่วมกันปั่นข้ามสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 เข้าสู่เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผ่านอนุสาวรีย์แห่งการต่อสู้ 21 มีนาคม โรงหมอคำม่วน ก่อนที่จะไปแวะพักรับประทานอาหารและกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพระธาตุศรีโคตรบอง จากนั้นย้อนกลับตามเส้นทางเดิมมาสิ้นสุดที่ลานพญาศรีสัตตนาคราช รวมระยะทางทั้งสิ้น  84 กิโลเมตร

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2562

จ.นครพนม แบ่งโซนเตรียมรับนักท่องเที่ยวทุกวัยช่วงสงกรานต์ ยืนยันความปลอดภัยไร้อนาจาร

   วันที่ 29 มีนาคม 2562 ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าศาลจังหวัดนครพนม 100 ปี (2461) ตรงข้ามลานตะวันเบิกฟ้า ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เทศบาลเมืองนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายวิทยา ศรีธิราช รองนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม พันตำรวจเอก ณรงค์ นาคทั่ง รองผู้บังคับการภูธรจังหวัดนครพนม นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศบาลเมืองนครพนม นายสุหฤทธิ์ ชาญวนังกูร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานนครพนม นายสมนาม เหล่าเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม และนายธนพัต ทีฆธนานนท์ ประธานกลุ่ม YEC ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานสงกรานต์รื่นรมย์บุญปีใหม่ไทย-ลาว 2562 และวันรวมชาติพันธุ์ 8 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน นี้

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า จากที่ ททท. ได้ประกาศนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด และเปิดแคมเปญ Amazing ไทยเท่ Cool Isan เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและสร้างกระแสสำหรับนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้าสู่จังหวัดภาคอีสาน เพื่อกระตุ้นการมีรายได้กระจายสู่ชุมชน ดังนั้นจังหวัดนครพนมจึงได้มีแนวคิดในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ โดยการบูรณาการความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่ ภายใต้ธีมา Pink Summer ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 4 โซน ประกอบไปด้วยโซนเกี่ยวกับศาสนา ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม ซึ่งผู้ที่มาโซนนี้จะได้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับการสรงน้ำพระ รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ การตบประทายก่อเจดีย์ทราย ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ในยามรุ่งอรุณ ปิดท้ายด้วยการรื่นเริงชวนหรรษา ชมตลาดโบราณ แข่งขันกินข้าวปุ้น(ขนมจีน) ส้มตำรสนรกแตก จากนั้นผ่อนคลายกับรำวงย้อนยุค ขณะที่โซน 2 เรียกว่าโซนแห้ง จะเป็นโซนจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน และสินค้าที่ขึ้นชื่อจากทุกอำเภอของจังหวัดนครพนม พร้อมนำผลไม้ขึ้นชื่อประจำจังหวัด เช่น แตงโมไร้เมล็ด สับปะรดหวานที่สุดในโลก รวมถึงน้ำผลไม้ที่แปรรูปมาวางจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มคลายกระหาย

 ส่วนโซน 3 ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของสงกรานต์ปีนี้ เรียกว่าโซนเปียก ที่จะมีปาร์ตี้โฟม การแสดงดนตรีแดนซ์แนว Electronic Dance Music มาให้ทุกคนได้ร่วมสนุก และที่ผ่านมาการเล่นน้ำสงกรานต์มีบางคนเล่นน้ำไปในทางที่ไม่เหมาะสมทำให้ผู้ปกครองเกิดความกังวลถึงความปลอดภัยของลูกหลาน ดังนั้นในโซนนี้จะมีความเข้มงวดสูงสุด ต้องปลอดแอลกอฮอล์และการลามกอนาจาร 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎ กติกาอย่างเคร่งครัด เริ่มตั้งแต่การเล่นน้ำที่จะใช้ได้เฉพาะน้ำประปาสะอาดที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้เท่านั้น ส่วนโซน 4 จะเป็นโซนแนวประติมากรรมจากทราย โดยจะให้กลุ่มผู้มีอารมณ์ศิลปิน ได้แสดงความสามารถและจินตนาการของตนเออย่างเต็มที่ จึงขอเชิญพี่น้องประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวทุกคนมาสัมผัสกับเมืองรองที่สุขที่สุดได้ที่จังหวัดนครพนม

จ.นครพนม เจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนหลังพายุพัดบ้านเสียหายกว่า 20 หลัง


   วันที่ 28 มีนาคม 2562  ที่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม นายศรี  ศรีพุทธรินทร์  นายอำเภอนาแก นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชนท้องถิ่น กำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยทหารพัฒนา นพค. 22 อำเภอนาแก ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น หลังชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลคำพี้ อำเภอนาแก ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ที่มีทั้งฝนตกหนักและลมกระโชกแรงเมื่อคืนที่ผ่าน ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย กว่า 20 หลังคาเรือน โดยมี 5 หลังที่เสียหาย

โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบความเสียหายรวมถึงช่วยซ่อมแซมปรับปรุงให้กับมามีสภาพใช้งานได้ดังเดิม เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีที่พักอาศัย พร้อมประสานองค์กรบริหารส่วนตำบลคำพี้ ในการให้การสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือตามระเบียบราชการ ในการจัดซื้อวัสดุมาใช้ในการซ่อมแซม ทั้งนี้ในพื้นที่อำเภอนาแก ในช่วง นี้ได้รับผลกระทบจากพายุบ่อยครั้ง เฉพาะตำบลคำพี้ อำเภอนาแกในช่วงรอบเดือนที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนเสียหายแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งบางรายต้องเสียค่าซ่อมแซมบ้านนับแสนบาท
ขณะเดียวกันทางหน่วยงานราชการก็ได้มีการเตรียมอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมเพื่อเข้าดูแล ช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดเหตุ รวมถึงก็ได้มีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เฝ้าระวัง ป้องกัน และตรวจสอบบ้านเรือนของตนเองให้มีความมั่นคง แข็งแรง และขอให้เก็บผลผลิตการเกษตรที่อาจจะได้รับความความเสียหาย  เนื่องจากสภาพอากาศ ในช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดพายุได้ง่าย

กสทช. สร้างผู้สื่อข่าวท้องถิ่นที่มีจรรยาบรรณและรู้เท่าทันกฎหมายในยุคดิจิตอลที่นครพนม

วันที่ 28 มีนาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายกีรติ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาองค์กรวิชาชีพและส่งเสริมการบริการอย่างทั่วถึง กสทช. เปิดเผยว่า ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นถือเป็นบุคคลากรที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเผยแพร่ ข้อมูลข่าวสารในด้านต่าง ๆ ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้รับรู้ รับทราบและเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้สื่อข่าวท้องถิ่น ให้มีศักยภาพในการผลิตและนำเสนอข่าวสารให้มีรูปแบบที่น่าสมใจมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้ในการผลิตรายการ ให้มีคุณภาพด้วยความประหยัด คุ้มค่า และก้าวสู่การเป็นสื่อมวลชนมืออาชีพ ทั้งเป็นการสร้างองค์ความรู้ให้ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับคุณธรรมและจริยธรรมของผู้ใช้สื่อดิจิตอลทุกระบบ ดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยสำนักพัฒนาองค์กรวิชาชีพและส่งเสริมการบริการอย่างทั่วถึง จึงได้จัดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการผู้สื่อข่าวท้องถิ่นในยุคภูมิภาคสื่อดิจิตอลขึ้น 

โดยผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมในครั้งนี้ที่ประกอบไปด้วยผู้สื่อข่าวท้องถิ่นและ Youtuber จากจังหวัดนครพนม สกลนคร มุกดาหาร และบึงกาฬ จะได้รับองค์ความรู้เกี่ยวกับ ทิศทางการสื่อข่าวท้องถิ่นในภูมิทัศน์สื่อดิจิตอล ปัญหาด้านจริยธรรมในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงการรู้เท่าทันสื่อ และการนำเสนอข่าวและการสื่อข่าวในแพลตฟอร์มต่าง ๆ  การสร้างตัวตนและการเล่าเรื่องในสื่อดิจิตอล นอกจากนี้ทุกคนยังจะได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติในการเป็นผู้สื่อข่าวและรายงานข่าวท้องถิ่นผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟน รวมถึงเทคนิคและวิธีการตัดต่อคลิปวีดีโอผ่าน Application และการใช้ระบบมูลผ่าน iCloud และ Multi- platform

วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2562

จังหวัดนครพนมบูรณาการหน่วยงาน คุมเข้มร้านค้ารายย่อย ป้องกันการกักตุนสินค้าหรือจำหน่ายเกินจริง


วันที่ 26 มีนาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบการค้าของผู้ประกอบการรายย่อย ร่วมกับ คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดนครพนม พาณิชย์จังหวัดนครพนม สรรพสามิตจังหวัดนครพนม สาธารณสุขจังหวัดนครพนม กอ.รมน.นครพนม ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม และประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม เพื่อตรวจสอบข้อมูลการค้าขายของผู้ประกอบการรายย่อย พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับนโยบาย แนวทางในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ในการควบคุมและป้องกันการกักตุนสินค้า หรือการขายสินค้าในราคาที่แพงเกินความเป็นจริง ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยปฏิบัติตามตามระเบียบ กฎหมายอย่างเคร่งครัด และเกิดความเป็นธรรมสำหรับผู้บริโภค โดยเฉพาะสินค้าอุปโภค บริโภคและของใช้ประจำวันที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน

โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการสุ่มตรวจผู้ประกอบรายย่อย ในบริเวณอำเภอเมืองนครพนม  จำนวน 5 ร้าน  เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ว่าจะได้รับสินค้าที่ดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ปลอดภัยและไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ ร้านค้า โดยเฉพาะในช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ ที่ประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวจะมีการจัดงานรื่นเริงสังสรรค์ โดยผลการลงพื้นที่ไม่ปรากฏว่ามีร้านค้าใดกระทำผิดระเบียบและกฎหมาย ทั้งนี้จังหวัดนครพนมยังมีการส่งเจ้าหน้าที่อีกหลายชุดลงพื้นที่ตรวจสอบ ตามร้านค้าจุดอื่น ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งหากผู้ใดพบเห็นการจัดทำฉลากสินค้าไม่ถูกต้อง หรือพบเห็นการถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนได้ที่ สายด่วน 1567 ทางจังหวัดนครพนมจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบในทันที

จังหวัดนครพนม สร้างเจ้าบ้านน้อย รุ่น 2 เสริมศักยภาพการท่องเที่ยวในพื้นที่


วันที่ 26 มีนาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดโครงการยกระดับมาตรฐานคุณภาพการบริการและสินค้าการท่องเที่ยว โดยมีนายปริญญา ธรเสนา ศึกษาธิการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย คณะครู นักเรียน นักศึกษา บุคลากรทางการศึกษาร่วมกิจกรรม

จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่มีความเก่าแก่ มีเรื่องเล่า ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมาก และเพื่อเป็นการส่งเสริมศักยภาพในด้านการบริการให้กับนักท่องเที่ยวให้มีความประทับใจมากยิ่งขึ้น จังหวัดนครพนม โดยสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครพนม จึงได้จัดโครงการยกระดับมาตรฐานคุณภาพการบริการและสินค้าการท่องเที่ยวขึ้น โดยการอบรมในครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 2 ที่จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 26-29 มีนาคม 2562 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษาตลอดจนบุคลากรทางการศึกษาได้มีความเข้าใจเกี่ยวกับการเป็นเจ้าบ้านน้อยขั้นพื้นฐาน มาตรฐานการในการต้อนรับและให้บริการแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงเป็นการเพิ่มพูนความรู้ในด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมของแต่ละชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนม พระธาตุประจำวันเกิด สินค้าประจำถิ่น และความเป็นมาของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดนครพนมและจังหวัดข้างเคียง ทำให้ทุกคนเกิดความรัก ความภาคภูมิใจในถิ่นกำเนิดและมาช่วยกันอนุรักษ์และรักษาสิ่งเหล่านี้ให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน

โดยผู้ที่เข้ารับการอบรมในครั้งนี้มีทั้งสิ้น 160 คน จะได้เรียนรู้ภาคทฤษฎีเพื่อให้เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของการเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่น มารยาทและจรรยาบรรณมัคคุเทศก์ คุณลักษณะที่ดีของการเป็นมัคคุเทศก์ มาตรฐานการต้อนรับและการบริการ บุคลิกภาพของมัคคุเทศก์ ฝึกทักษะการสื่อสารทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาเวียดนาม ภาษาลาวและภาษาจีน รวมถึงการผลิตสื่อวีดีโอเพื่อการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้  จากนั้นทุกคนจะได้ลงพื้นที่จริงเพื่อฝึกปฏิบัติ  ทั้งนี้ผู้ที่ผ่านการอบรมจะได้เริ่มทดลองปฏิบัติงานจริงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้  กับงานประเพณี สงกรานต์นครพนมรื่นรมย์บุญปีใหม่ ไทย - ลาว 2562 ที่จะมีกิจกรรมอย่างหลากหลายให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดนครพนมได้ร่วมสนุกและลุ้นรับของรางวัล

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2562

ผู้ว่าฯนครพนมนำคณะลงพื้นที่ เตรียมความพร้อมแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์


วันที่ 25 มีนาคม 2562 ที่บริเวณบ่อน้ำพระอินทร์ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ตรวจติดตามการเตรียมความพร้อมแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่จะใช้ในการประกอบพระราชพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดนครพนม เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการติดตามงานที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้มีการมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการบูรณะโครงสร้างของโรงเรือนเดิมที่มีการสร้างครอบบ่อน้ำพระอินทร์ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดนครพนมใหม่ รวมถึงการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบสถานที่ให้มีความเป็นระเบียบ เรียบร้อย สวยงาม สมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างสูงสุด นอกจากนี้ยังมีการกำหนดจุดต่าง ๆ ที่จะใช้ประกอบพระราชพิธี วิธีการเคลื่อนย้ายน้ำศักดิ์สิทธิ์จากบ่อพระอินทร์ไปยังพระอุโบสถเพื่อประกอบพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษก การเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยและการจัดระเบียบการจราจร รวมถึงการปฐมพยาบาลและการประชาสัมพันธ์ ซึ่งการดำเนินงานในการเตรียมความพร้อมในส่วนต่าง ๆ ภาพรวมมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์

โดยบ่อน้ำพระอินทร์เป็นบ่อน้ำโบราณของวัดพระธาตุพนมที่มีมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยก่อสร้างพระธาตุพนม ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัด แต่ในอดีตกาลนั้นการสร้างพระธาตุจะมีประชาชนมาร่วมกันในการก่อสร้างองค์พระธาตุพนมจำนวนมาก ซึ่งในระหว่างการสร้างจำเป็นต้องใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคและการบริหารจัดการด้านต่าง ๆ ดังนั้นจึงได้มีการเจาะบ่อขึ้นมา โดยบ่อน้ำพระอินทร์นั้นจะตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ห่างจากองค์พระธาตุพนมประมาณ 60 เมตร บ่อมีขนาดกว้าง 1.5 เมตร ลึก 10 เมตร เป็นบ่อน้ำจืด ใส สะอาดและมีน้ำอยู่ในบ่อตลอดทั้งปี โดยครั้งล่าสุดที่มีการประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่บ่อน้ำพระอินทร์แห่งนี้ คือเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2554 ในพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554

จิตอาสากับการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าของจังหวัดนครพนม


เมื่อพูดถึงโรคพิษสุนัขบ้า หลายคนอาจไม่ได้ให้ความสำคัญ เนื่องจากไม่ได้เลี้ยงสุนัขหรือแมว แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราอาจจะได้รับเชื้อจากสัตว์เลี้ยงของคนอื่น หรือสัตว์จรจัดก็ได้ ซึ่งหากได้รับเชื้อและไม่สามารถฉีดวัคซีนได้อย่างทันท่วงที นั่นหมายถึงการเสียชีวิตอย่างแน่นอน และด้วยพระปณิธานและพระวิสัยทัศน์ ในศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและสรรพชีวิต จึงได้มีโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้าขึ้นมา เพื่อสร้างให้ประเทศไทยปลอดจากโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งนอกจากหน่วยงานราชการแล้ว ก็ยังมีคณะจิตอาสาภาคประชาชน ที่สมัครเข้ามาเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนงานไปสู่จุดหมาย วันนี้เรามาลองติดตามกันว่า อาสาสมัครปศุสัตว์ด้านโรคพิษสุนัขบ้า ทำหน้าที่อะไรกันบ้าง

นายปิติ พรรณุวงษ์  ปศุสัตว์อำเภอวังยาง รักษาราชการแทนปศุสัตว์อำเภอเรณูนคร เปิดเผยว่า อาสาสมัครปศุสัตว์ด้านโรคพิษสุนัขบ้า ก่อนที่จะปฏิบัติงานนั้น จะต้องได้รับการอบรมจากปศุสัตว์ หรือสัตวแพทย์ก่อน เนื่องจากต้องรู้เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน การใช้วัคซีน และการแนะนำเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้ากับเจ้าของเลี้ยงสัตว์ โดยปศุสัตว์จะมีการอบรมให้ความรู้ 1 วัน หลังจากนั้นจะมีการออกใบมอบอำนาจให้ เพื่อให้สามารถลงมือปฏิบัติหน้าที่ในหมู่บ้านได้ ทั้งนี้แต่ละหมู่บ้านจะมีอาสาสมัครเริ่มตั้งแต่ 1 - 2 คน หรือบางหมู่บ้านอาจจะมีมากกว่านั้นเพราะเป็นจิตอาสาที่มีความประสงค์จะทำงาน ไม่มีเบี้ยเลี้ยงตอบแทนให้ ซึ่งนอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว ก็ยังจะมีการให้คำแนะนำ เกี่ยวกับการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแก่ประชาชนด้วย เช่น ถ้าเกิดถูกสุนัขกัดต้องทำตัวอย่างไร หรือเกี่ยวกับการป้องกันไม่ให้สุนัขกัด กับคาถา 5 ย คือ อย่าเหยียบ อย่าแหย่ อย่าแย่ง อย่าหยิบและอย่ายุ่ง ให้กับประชาชนหรือเจ้าของสัตว์ ที่สำคัญอีกอย่างคือการเฝ้าระวังในพื้นที่ เช่นหากเกิดข้อสงสัยว่าสุนัขนั้นเป็นโรคพิษสุนัขบ้า อาสาสมัครจะรีบแจ้งให้ปศุสัตว์อำเภอทราบ เพื่อที่จะได้เข้ามาตรวจสอบหรือวินิจฉัยว่าสัตว์ตัวนั้นเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่

อย่างไรก็ดี เมื่ออาสาสมัครเหล่านี้ไปบริการให้ถึงบ้านแล้ว ก็ขอให้ทุกคนได้ใส่ใจ และนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงมาช่วยกันเฝ้าระวัง เพื่อสร้างให้สังคมและประเทศของเราปลอดจากโรคพิษสุนัขบ้า

สกู๊ปข้าราชการพลเรือนดีเด่นจังหวัดนครพนม กับการทำงานแบบครอบครัวที่มุ่งสู่จุดหมายตามนโยบายจังหวัดและกระทรวง

ข้าราชการพลเรือน ถือเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญยิ่ง ต่อภารกิจของรัฐบาล ในการขับเคลื่อนโยบายเพื่อพัฒนาประเทศและการให้บริการแก่ประชาชน และเพื่อเป็นการเผยแพร่ ประกาศกิติคุณ เชิดชูเกียรติข้าราชการ ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นข้าราชการดีเด่น สมควรเป็นแบบอย่างแก่ข้าราชการด้วยกัน โดยรัฐบาลจึงได้กำหนดให้วันที่ 1 เมษายนของทุกปี เป็นวันข้าราชการพลเรือน เรามาลองติดตามดูว่าข้าราชการดีเด่นระดับประเทศของจังหวัดนครพนมมีแนวทางการดำเนินงานกันอย่างไร

นายรักสกุล สุริโย เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางการดำเนินงานการปฏิบัติ หน้าที่ราชการของตนเองนั้น จะเน้นในเรื่องของการทำงานเป็นทีมเวิร์ค ในเรื่องของการครองตนครองงาน ที่สำคัญที่สุดไม่ว่าจะเป็นงานนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ งานนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดก็ดี จะให้ความสำคัญโดยมีการจัดลำดับความสำคัญเป็นลำดับมากน้อย แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือส่วนราชการไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ทั้ง 20 หน่วย ที่สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดนครพนมจะต้องรับรู้ เกี่ยวกับความสำคัญของงานนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัด ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อรับรู้ด้วยกันแล้วทุกคนจะได้ทำงานตามเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง และมีความสุข แม้ในส่วนของสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนมจะมีบุคลากรไม่มากแต่ทุกคนก็ทำงานด้วยความจริงใจและมีความสุข ซึ่งไม่ใช่ความสุขเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ แต่ต้องทำให้ทุกคนมีความสุขในทุกวัน คือต้อง Happy Everyday ไม่ใช่ Happy Friday และเมื่อทุกคนมีความสุขก็จะทำงานอย่างเต็มที่ เต็มใจและเกิดความภาคภูมิใจในหน้าที่การงาน นอกจากนี้ถ้ามีสิ่งไหนที่บอกกล่าวกันได้ก็จะบอก คิดว่าทุกคนเป็นครอบครัว จึงเป็นที่มาการการที่คณะกรรมการได้คัดเลือกให้เป็นข้าราชการดีเด่นของจังหวัดนครพนมในครั้งนี้

และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งในแนวทางการปฏิบัติงานของข้าราชการต้นแบบ ที่ประสบผลสำเร็จ ได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่ในชีวิตราชการ กับรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่นระดับประเทศ 

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562

บรรยากาศประชาชนลุ้นคะแนนหลังปิดหีบเลือกตั้งที่นครพนม

 วันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักของประชาชนที่เดินทางมารอลุ้นผลคะแนนผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) และพรรคที่ตนเองชื่นชอบ โดยหลังการปิดหีบ เวลา 17.00 น. ทุกคนได้ไปลุ้นการนับคะแนนของแต่ละเขตเลือกตั้ง ขณะเดียวกันที่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม(หลังเก่า) คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ก็ได้จัดสถานที่ไว้ให้ประชาชนเดินทางมาดูผลการนับคะแนนได้เช่นเดียวกัน โดยมีการนำโปรเจคเตอร์มาฉายให้ทุกคนได้เห็นความเคลื่อนไหวของคะแนนในแต่ละเขตเลือกตั้งที่มีการส่งข้อมูลรายงานมาเรื่อย ๆ  ทำให้แต่ละครั้งที่มีการรายงานข้อมูลเข้ามา ก็จะมีเสียงพูดคุยวิเคราะห์ข้อมูลกันไปตามรายงาน ยิ่งจำนวนหน่วยที่รายงานเข้ามาเหลือน้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งบีบหัวใจคนที่ลุ้นมากขึ้นเรื่อย  

ทั้งนี้ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ จากการตรวจนับไปแล้ว 60 % ปรากฏว่า เขตเลือกตั้งที่ 1 นายศุภชัย โพธิ์สุ (ครูแก้ว) พรรคภูมิใจไทยได้คะแนนนำคนอื่น ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 นางมนพร เจริญศรี พรรคเพื่อไทยได้คะแนนอันดับที่หนึ่ง ขณะที่เขตเลือกตั้งที่ 3 นายไพจิต ศรีวรขาน พรรคเพื่อไทย ได้คะแนนนำคนอื่นๆ และเขตเลือกตั้งที่ 4 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ พรรคเพื่อไทยได้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่ง

ชาวนครพนมคึกคัก ทยอยออกมาใช้สิทธิ์อย่างต่อเนื่องคุณยาย 87 ปี นั่งรอคิวอันดับแรก วันที่ 24 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) พร้อมกันทั่วประเทศ โดยบริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองนครพนม(หลังใหม่) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 1,100 หน่วยที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม จัดให้เป็นสถานที่ลงคะแนนเลือกตั้ง โดยอยู่ในเป็นหน่วยเลือกตั้งที่ 10 ของเขต 2 มีคุณยายวัย 87 ปี หรือ น.ส.วนิดา สุดสงวน อยู่บ้านเลขที่ 161/1 ถนนอภิบาลบัญชา อำเภอเมืองนครพนม มานั่งรอคิวเป็นคนแรก พร้อมกับเปิดเผยว่าตนเองนอนไม่หลับตั้งแต่ตอนตีหนึ่ง ด้วยรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เลือกผู้แทนเข้าไปทำหน้าที่ในสภาหลังจากที่รอมานานพอสว่างจึงรีบเดินทางมานั่งรอที่หน่วยเลือกตั้งที่มีสิทธิ์ ซึ่งทำให้ได้เห็นขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมอุปกรณ์และเอกสารต่างๆ ไว้รอผู้มาใช้สิทธิอย่างขะมักเขม้น ทำให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความถูกต้องและเรียบร้อยตามระเบียบ และเมื่อถึงเวลา 8.00 น. เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยทำการเปิดหีบคุณยายวัย 87 ปีก็ได้ใช้สิทธิ์เป็นคนแรก ซึ่งต่อมาไม่นาน นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ที่มีภารกิจในช่วงเช้าของทุกสัปดาห์ในการนำประชาชนออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานกับกิจกรรมปั่นจักรยานชายโขง ทุกวันอาทิตย์ ก็ได้ปั่นรถจักรยานคู่ชีพมาต่อคิวใช้สิทธิ์ลงคะแนน โดยมีรายชื่ออยู่ในลำดับที่ 229 ตามทะเบียนบ้านเลขที่ 160 ถนนสุนทรวิจิตร ซึ่งระหว่างรอคิวก็ได้ฝากสื่อมวลชนกระจายข่าวในการเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิกันมากๆ เพื่อเลือกคนดี มีความสามารถเข้าไปทำหน้าที่ในสภา โดยหลังหย่อนบัตรเลือกตั้งลงหีบแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมก็จะออกไปตรวจความเรียบร้อยตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ และร่วมกิจกรรมทำความสะอาดในชุมชนร่วมกับหน่วยงานราชการและประชาชนในพื้นที่ สำหรับในพื้นที่จังหวัดนครพนมนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ได้แบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 4 เขต มีหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 1,100 หน่วย มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 551,036 คน จากประชากรทั้งหมด 718,786 คน แยกเป็นเขตเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 138,358 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 270 หน่วยในพื้นที่อำเภอศรีสงคราม อำเภอนาหว้า อำเภอบ้านแพง และอำเภอนาทม เขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวน 133,895 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 268 หน่วย ในพื้นที่อำเภอท่าอุเทน อำเภอโพนสวรรค์ อำเภอเมืองนครพนม (เฉพาะเขตเทศบาล) ตำบลท่าค้อ ตำบลนาราชควาย ตำบลหนองญาติ และตำบลอาจสามารถ เขตเลือกตั้งที่ 3 จำนวน 139,280 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 273 หน่วย ในพื้นที่อำเภอธาตุพนม อำเภอเรณูนคร อำเภอเมืองนครพนม เฉพาะตำบลขามเฒ่า ตำบลคำเตย ตำบลนาทราย ตำบลดงขวาง ตำบลบ้านกลาง และตำบลโพธิ์ตาก และเขตเลือกตั้งที่ 4 จำนวน 139,503 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 289 หน่วย ในพื้นที่อำเภอปลาปาก อำเภอวังยาง และอำเภอเมืองนครพนม เฉพาะตำบลกุรุคุ ตำบลบ้านผึ้ง และตำบลวังตามัว


 วันที่ 24 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) พร้อมกันทั่วประเทศ โดยบริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองนครพนม(หลังใหม่) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 1,100 หน่วยที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม จัดให้เป็นสถานที่ลงคะแนนเลือกตั้ง โดยอยู่ในเป็นหน่วยเลือกตั้งที่ 10 ของเขต 2 มีคุณยายวัย 87 ปี หรือ น.ส.วนิดา สุดสงวน อยู่บ้านเลขที่ 161/1 ถนนอภิบาลบัญชา อำเภอเมืองนครพนม มานั่งรอคิวเป็นคนแรก พร้อมกับเปิดเผยว่าตนเองนอนไม่หลับตั้งแต่ตอนตีหนึ่ง ด้วยรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เลือกผู้แทนเข้าไปทำหน้าที่ในสภาหลังจากที่รอมานานพอสว่างจึงรีบเดินทางมานั่งรอที่หน่วยเลือกตั้งที่มีสิทธิ์ ซึ่งทำให้ได้เห็นขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมอุปกรณ์และเอกสารต่างๆ ไว้รอผู้มาใช้สิทธิอย่างขะมักเขม้น ทำให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความถูกต้องและเรียบร้อยตามระเบียบ

และเมื่อถึงเวลา 8.00 น. เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยทำการเปิดหีบคุณยายวัย 87 ปีก็ได้ใช้สิทธิ์เป็นคนแรก ซึ่งต่อมาไม่นาน นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ที่มีภารกิจในช่วงเช้าของทุกสัปดาห์ในการนำประชาชนออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานกับกิจกรรมปั่นจักรยานชายโขง ทุกวันอาทิตย์ ก็ได้ปั่นรถจักรยานคู่ชีพมาต่อคิวใช้สิทธิ์ลงคะแนน โดยมีรายชื่ออยู่ในลำดับที่ 229 ตามทะเบียนบ้านเลขที่ 160 ถนนสุนทรวิจิตร ซึ่งระหว่างรอคิวก็ได้ฝากสื่อมวลชนกระจายข่าวในการเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิกันมากๆ เพื่อเลือกคนดี มีความสามารถเข้าไปทำหน้าที่ในสภา โดยหลังหย่อนบัตรเลือกตั้งลงหีบแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมก็จะออกไปตรวจความเรียบร้อยตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ และร่วมกิจกรรมทำความสะอาดในชุมชนร่วมกับหน่วยงานราชการและประชาชนในพื้นที่

สำหรับในพื้นที่จังหวัดนครพนมนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ได้แบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 4 เขต มีหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 1,100 หน่วย มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 551,036 คน จากประชากรทั้งหมด 718,786 คน แยกเป็นเขตเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 138,358 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 270 หน่วยในพื้นที่อำเภอศรีสงคราม อำเภอนาหว้า อำเภอบ้านแพง และอำเภอนาทม เขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวน 133,895 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 268 หน่วย ในพื้นที่อำเภอท่าอุเทน อำเภอโพนสวรรค์ อำเภอเมืองนครพนม (เฉพาะเขตเทศบาล) ตำบลท่าค้อ ตำบลนาราชควาย ตำบลหนองญาติ และตำบลอาจสามารถ เขตเลือกตั้งที่ 3 จำนวน 139,280 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 273 หน่วย ในพื้นที่อำเภอธาตุพนม อำเภอเรณูนคร อำเภอเมืองนครพนม เฉพาะตำบลขามเฒ่า ตำบลคำเตย ตำบลนาทราย ตำบลดงขวาง ตำบลบ้านกลาง และตำบลโพธิ์ตาก  และเขตเลือกตั้งที่ 4 จำนวน 139,503 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 289 หน่วย ในพื้นที่อำเภอปลาปาก อำเภอวังยาง และอำเภอเมืองนครพนม เฉพาะตำบลกุรุคุ ตำบลบ้านผึ้ง และตำบลวังตามัว

วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2562

นครพนมคึกคัก กกต.เร่งแจกบัตรเลือกตั้งส่ง 1,100 หน่วยใน 4 เขต รวมยอดผู้มีสิทธิ์ 5.5 แสนกว่าคน


วันที่ 23 มีนาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศการเตรียมความพร้อมจัดการเลือกตั้ง ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นไปอย่างคึกคัก โดยทางคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ได้ระดมเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการการเลือกตั้งที่ดูแลหน่วยเลือกตั้งทั้ง 4 เขต ในพื้นที่ 12 อำเภอ เร่งคัดแยกเพื่อนำส่งบัตรเลือกตั้งไปตามหน่วยเลือกตั้งทั้ง 1,100 หน่วย ซึ่งคาดว่าในวันนี้จะส่งครบทุกเขตและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีอุปสรรค หรือปัญหาใดๆ ด้วยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง คอยดูแลรักษาเรียบร้อยอย่างเข้มงวด


ในส่วนของผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในพื้นที่ จังหวัดนครพนมนั้น มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ทั้งสิ้น 551,036 คน  จากประชากรทั้งหมด 718,786 คน แยกเป็นเขตเลือกตั้งที่ 1  จำนวน 138,358 คน ในพื้นที่อำเภอศรีสงคราม อำเภอนาหว้า อำเภอบ้านแพง และอำเภอนาทม มีหน่วยเลือกตั้ง 270 หน่วย  เขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวน 133,895 คน ในพื้นที่อำเภอท่าอุเทน อำเภอโพนสวรรค์ อำเภอเมืองนครพนม (เฉพาะเขตเทศบาล) ตำบลท่าค้อ ตำบลนาราชควาย ตำบลหนองญาติ และตำบลอาจสามารถ มีหน่วยเลือกตั้ง 268 หน่วย เขตเลือกตั้งที่ 3 จำนวน 139,280 คน ในพื้นที่อำเภอธาตุพนม อำเภอเรณูนคร อำเภอเมืองนครพนม เฉพาะตำบลขามเฒ่า ตำบลคำเตย ตำบลนาทราย ตำบลดงขวาง ตำบลบ้านกลาง และตำบลโพธิ์ตาก  มีหน่วยเลือกตั้ง 273 หน่วย และเขตเลือกตั้งที่ 4 จำนวน 139,503 คน ในพื้นที่อำเภอปลาปาก อำเภอวังยาง และอำเภอเมืองนครพนม เฉพาะตำบลกุรุคุ ตำบลบ้านผึ้ง และตำบลวังตามัว มีหน่วยเลือกตั้ง 289 หน่วย

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562

ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ลงพื้นที่ติดตามงานที่บ้านทันสมัย นครพนม


วันที่ 21 มีนาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม พลโท อรรฐพร โบสุวรรณ ผู้อำนวยสำนักงานประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกองทัพบกพร้อมคณะลงพื้นที่ ติดตามติดตามความก้าวหน้าเกี่ยวกับการส่งเสริมอาชีพของโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ บ้านทันสมัย ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก ซึ่งเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ให้รายได้และความมั่นคงในชีวิต ภายใต้การดูแลของกองทัพภาคที่ 2 เขตพื้นที่มณฑลทหารบกที่ 210 โดยมี พันเอก สุระ สินโสภา รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 พร้อมด้วยนายอำเภอปลาปาก ข้าราชการและประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับและบรรยายสรุปเกี่ยวกับความคืบหน้าของการดำเนินงาน

  สำหรับโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่บ้านทันสมัยเป็นโครงการตามพระราชดำริฯของสมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่มีพระเสาวนีย์ให้ขยายงานด้านศิลปาชีพการทอผ้าไหม ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมวิชาชีพให้ราษฎรและสมาชิกเพิ่มเติมนอกเหนือจากอาชีพหลัก เนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2535 พระองค์ท่านได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรที่บ้านทันสมัย ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม เพื่อให้ราษฎรมีรายได้อีกทางหนึ่ง ทรงรับสั่งให้ราษฎรทอผ้าที่ส่วนใหญ่ทำประจำอยู่แล้ว โดยมีกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 จัดเจ้าหน้าที่ประสานให้ความช่วยเหลือในการนำเส้นไหม เส้นด้ายพระราชทานไปส่งให้ราษฎรในพื้นที่ ใช้ทอผ้า เมื่อแล้วเสร็จจะรับผ้าไหมและผ้าฝ้ายนำส่งกองราชเลขานุการในพระองค์ ราษฎรก็จะได้รับค่าตอบแทน โดยปัจจุบันมีสมาชิก 360 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบไปด้วย กลุ่มทอผ้าไหม 232 คน กลุ่มทอผ้าฝ้าย 69 คน และกลุ่มทอฝ้าปัก 59 คน

พลโท อรรฐพร โบสุวรรณ เปิดเผยว่า การดำเนินงานของโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่บ้านทันสมัยถือว่าสมพระราชประสงค์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงต้องการให้ราษฎรมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง เกิดความภาคภูมิใจในประเทศและสิ่งที่ตนเองมีอยู่ รวมถึงมีการขยายความรู้เกี่ยวกับวิชาชีพสู่ชนรุ่นหลังและคนในชุมชน ทำให้ทุกครอบครัวเกิดความรัก ความสามัคคีและมีความสุขอย่างยั่งยืน

นครพนม เตรียมบูรณะอาคารศาลเก่าอายุ 100 ปี พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ประวัติศาสตร์


วันที่ 21 มีนาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายธนทร ผดุงธิติฐ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการเจ้าหน้าที่ร่วมบวงสรวง พระภูมิเจ้าที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนที่จะมีการปรับปรุงสถานที่ศาลหลังเก่า ซึ่งมีอายุ 100 ปีที่เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของจังหวัดนครพนมแห่งใหม่ต่อไปในอนาคต โดยอาคารศาลแห่งนี้เริ่มก่อสร้าง เมื่อ พ.ศ. 2460 เป็นอาคารตึกแบบโบราณ ชั้นเดียว เสาผนังก่ออิฐเป็นปูน ไม่มีโครงสร้างเหล็ก คาน พื้นเพดานและโครงสร้างหลังคาทำด้วยไม้เนื้อแข็ง หลังคามุงกระเบื้องดินเผา เริ่มเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2461 และเมื่อปี พ.ศ. 2483 ประเทศไทยมีกรณีพิพาทกับอินโดจีนฝรั่งเศส อาคารศาลได้ถูกกระสุนปืนและลูกระเบิด ทำให้ผนังแตกร้าว 40 กว่าแห่ง จึงทำการซ่อมแซมพร้อมดัดแปลงใต้ถุนอาคารศาล เป็นห้องขังนักโทษ และใช้งานเป็นที่ทำการศาลจังหวัดนครพนมมาจนถึงวันที่ 3 มีนาคม 2506

นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับศาลเก่าแห่งนี้ เป็นอาคารสถานที่เก่าแก่ของจังหวัดนครพนม โดยในอดีตใช้เป็นศาลพิพากษา เมื่อมีสถานที่พิพากษาแห่งใหม่ ก็ใช้เป็นที่พักของผู้พิพากษาต่อ ๆ กันมา ซึ่งในปัจจุบันไม่มีการใช้ประโยชน์อะไร ดังนั้นศาลจังหวัดนครพนม และจังหวัดนครพนมจึงได้ปรึกษากันเพื่อเตรียมพัฒนาให้เป็นสถานที่แหล่งเรียนรู้ในกิจการของศาลจังหวัดนครพนม รวมถึงเป็นการอนุรักษ์อาคารที่มีความเก่าแก่สวยงามให้คงไว้ ทั้งนี้จังหวัดมีแผนที่จะปรับปรุงอาคารหลังนี้ร่วมกับศาลจังหวัดนครพนม แบ่งเป็น 2 ส่วนสำคัญ คือส่วนที่เป็นตัวอาคารทั้งผนัง หลังคา ให้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยสวยงามเช่นดังเดิม และอีกส่วนจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับความรู้ ที่จะจัดแสดงในศาลหลังนี้เมื่อปรับปรุงแล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของจังหวัดนครพนม เพราะทำเลที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองและอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ไปมาสะดวก สถานที่มีความกว้างขวางสวยงาม รอเพียงการปรับปรุงตัวอาคารและเนื้อหาในการนำเสนอให้เรียบร้อยกว่านี้ สำหรับวันนี้เป็นการบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อที่จะเข้ามาทำกิจกรรมในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ 13 - 15 เมษายนที่จะถึงนี้ ที่พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวจะเดินทางมาในพื้นที่จำนวนมาก จังหวัดนครพนมก็จะมีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนมในช่วงสงกรานต์ ในพื้นที่ศาลแห่งนี้เช่นกัน โดยพื้นที่ด้านหน้าของศาล จะมีการประดับตกแต่งให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมพื้นที่

นครพนม บูรณาการหน่วยงานลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม


วันที่ 21 มีนาคม 2562 ที่ตำบลนาขมิ้น อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มอบหมายให้ นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้นำชุมชน ลงพื้นที่เยี่ยมและตรวจสอบข้อเท็จจริงครอบครัวผู้ประสบปัญหาทางสังคม จำนวน 2 ครอบครัวเพื่อให้ความช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ตามโครงการ นครพนมอุดมสุข ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง  

โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการเยี่ยมและตรวจสอบ ครอบครัวของนางดา บุรีขันธ์ ที่มีอายุ 102 ปี ทำให้ไม่สามารถเดินได้ด้วยมีความชราภาพมากแล้ว ซึ่งอาศัยอยู่กับบุตรสาวที่อายุ 75 ปี ป่วยเป็นโรคหัวใจ โรคไต และความดัน มีเพียงเบี้ยผู้สูงอายุในการประทังชีวิตและเพื่อนบ้านคอยแวะเวียนมาให้ความช่วยเหลือ ในเบื้องต้นจังหวัดนครพนม โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนมได้มอบเงินช่วยเหลือ 3,000 บาท และมอบเงินในการปรับปรุง ซ่อมแซมบ้านเรือนและห้องน้ำให้มีสภาพที่ดีขึ้นอีกจำนวน 20,000 บาท เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม มอบถุงยังชีพจำนวน 2 ถุง และผ้าห่ม 2 ผืน ทั้งนี้ทางจังหวัดได้มอบหมายให้สาธารณสุขอำเภอโพนสวรรค์ ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลสุขภาพให้กับทั้ง 2 คนอย่างใกล้ชิด ส่วนอีกครอบครัวคือ ครอบครัวนายบุญมา บุรีขันธ์อายุ อายุ 76 ปี ที่อาศัยอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ ประกอบไปด้วย ภรรยา บุตรชายที่ป่วยเป็นโรคกระดูกสันหลังคดงอไม่สามารถเดินได้ หลานชายที่ป่วยเป็นออทิสติก และบุตรสาวที่เป็นผู้หารายได้มาเลี้ยงครอบครัวเพียงลำพัง โดยเบื้องต้นหน่วยงานได้มอบเงินช่วยเหลือ 2,000 บาท มอบถุงยังชีพจำนวน 2 ถุง และผ้าห่ม 2 ผืน มอบนมกล่อง จำนวน 2 ลัง กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตมอบสวัสดิการช่วยเหลือสมาชิก ปีละ 300 บาท นอกจากนี้ทางจังหวัดยังได้มอบหมายให้สาธารณสุขอำเภอโพนสวรรค์เข้ามาดูแลด้านสุขภาพรวมถึงทำกายภาพบำบัดให้กับบุตรชาย มอบหมายให้แรงงงานจังหวัดนครพนมและประกันสังคมจังหวัดนครพนม ให้คำแนะนำและหางานสำหรับผู้พิการให้บุตรชายได้ทำ รวมถึงประสานศูนย์การศึกษาพิเศษนครพนมรับหลานชายเข้าศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2562

ส.ปชส.นครพนม ร่วมกับปศุสัตว์และ อปมช. ออกหน่วยบริการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอำเภอโพนสวรรค์


วันที่ 20 มีนาคม 2562 นายวิรพ จันทฤทธิ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวเพราะไม่ได้เลี้ยงสุนัขหรือแมว แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราอาจจะได้รับเชื้อจากสัตว์เลี้ยงของคนอื่นหรือสัตว์จรจัดก็ได้ ซึ่งหากได้รับเชื้อและฉีดวัคซีนไม่ทัน นั่นหมายถึงการเสียชีวิตอย่างแน่นอน และด้วยพระปณิธานและพระวิสัยทัศน์ในศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและสรรพชีวิต จึงได้มีโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้าขึ้นมา เพื่อสร้างให้ประเทศไทยปลอดจากโรคพิษสุนัขบ้า

และเมื่อจังหวัดนครพนม มีโครงการจังหวัดเคลื่อนแบบบูรณาการฯ แบบครบวงจรในจุดเดียว ออกให้บริการประชาชนในพื้นที่ ที่โรงเรียนบ้านอ้อวังหมากเห็บ หมู่ที่ 1 ตำบลนาขมิ้น อำเภอโพนสวรรค์ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม จึงได้ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดนครพนม และอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน (อป.มช.) ออกให้บริการประชาชน โดยเป็นการนำเอาองค์ความรู้เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า การดูแลสุนัขและแมว การสังเกตการณ์ผิดปกติของสัตว์เลี้ยง การป้องกันไม่ให้เป็นโรคพิษสุนัขบ้า กับคาถา 5 ย คือ อย่าเหยียบ อย่าแหย่ อย่าแย่ง อย่าหยิบและอย่ายุ่ง และถ้าถูกสุนัขกัดต้องปฏิบัติตัวอย่างไรไปประชาสัมพันธ์และถ่ายทอดให้กับประชาชนในพื้นที่สร้างการตระหนักรู้ เข้าใจและเห็นความสำคัญในการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทย รวมถึงการขึ้นทะเบียนสุนัขและแมว การฉีดวัคซีน และการผ่าตัดทำหมันเพื่อควบคุมประชากรสุนัขและแมวในพื้นที่

จ.นครพนม บูรณาการออกหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการประชาชนอำเภอโพนสวรรค์


วันที่ 20 มีนาคม 2562 ที่โรงเรียนบ้านอ้อวังหมากเห็บ หมู่ที่ 1 ตำบลนาขมิ้น อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยคณะหัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ นำโครงการจังหวัดเคลื่อนที่แบบบูรณาการ หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน และกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดนครพนม ออกให้บริการประชาชนในระดับพื้นที่

โดยกิจกรรมในครั้งนี้ประกอบไปด้วย การร่วมกันสวดมนต์ไหว้พระ การกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตนแสดงเจตนารมณ์ปกป้องสถาบันสำคัญของชาติเพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ และการประกาศเจตนารมณ์รวมพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จากนั้นเป็นการแนะนำส่วนราชการต่าง ๆ ให้กับประชาชนได้รู้จักถึงการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ารับบริการได้ถูกต้องตามความต้องการ รวมถึงตอบข้อซักถามที่ประชาชนสงสัย ทั้งยังได้นำเอานโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล ไปชี้แจงให้ประชาชนได้รับรู้ รับทราบ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก การสร้างการตระหนักรู้และเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง การน้อมนำศาสตร์พระราชามาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในระดับพื้นที่ จากนั้นได้มอบพันธุ์ปลาแก่ผู้นำชุมชนเพื่อนำไปปล่อยตามแหล่งน้ำ จำนวน 50,000 ตัว มอบอุปกรณ์กีฬาแก่โรงเรียน มอบทุนการศึกษาของกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 7 ทุน มอบเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน 20 ราย มอบเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะยากลำบาก 10 ราย มอบถุงยังชีพเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนมจำนวน 160 ถุง และการให้บริการของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดนครพนมที่ได้นำเอาเครื่องมือ อุปกรณ์ ตลอดจนทีมแพทย์มาให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงการให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพและทำทันตกรรม

 นอกจากนี้ยังมีบริการของหน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่ได้มาให้บริการแบบครบวงจรในจุดเดียว ทั้งด้านการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ ที่ดิน เทคโนโลยีสมัยใหม่ การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย การเลือกใช้พลังงาน การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การให้คำปรึกษาคำแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย การสร้างบ้าน การทำบัตรประชาชน การฝากเงินออม การทำประกันสังคม การต่อใบขับขี่ การทำประกันภัย การวางแผนออมกับ กอช. การรับเรื่องราวร้องทุกข์ร้องเรียน การแจกพันธุ์ต้นไม้ การขึ้นทะเบียนและทำหมันสัตว์ การออกร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก สินค้าทางการเกษตร และสินค้า OTOP รวมถึงการถ่ายทอดวิชาชีพเพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้และนำไปสร้างเป็นอาชีพและรายได้เลี้ยงครอบครัว

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2562

ปภ.นครพนม ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือบ้านถูกเพลิงไหม้อำเภอธาตุพนม


วันที่ 18 มีนาคม 2562 ที่บ้านโพนแพง หมู่ที่ 2 ตำบลโพนแพง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มอบหมายให้ นายเดชา พลกล้า ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้องและเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้การช่วยเหลือครอบครัวประชาชนที่บ้านถูกเพลิงไหม้ จำนวน 4 หลังคาเรือน ประกอบไปด้วย บ้านนางศรีอัมพร ฐิติเจริญภัทร เลขที่ 52 เสียหายทั้งหลัง บ้านนางกองคูน แสนคำ เลขที่ 138  เสียหายทั้งหลัง บ้านนายโชคชัย แสนคำ เลขที่ 54 เสียหายบางส่วน และบ้านนางจอม แสนคำ เลขที่ 72 เสียหายบางส่วน

นายเดชา พลกล้า ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากที่จังหวัดได้รับรายงานเมื่อเวลา 7.50 น.ของเช้าวันนี้ว่ามีบ้านเรือนประชาชนบ้านโพนแพงเกิดเพลิงไหม้และสร้างความเสียหายให้บ้านทั้งหลัง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม จึงได้มอบให้ตนเองและคณะหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเป็นการด่วน ทั้งยังเป็นการให้กำลังใจครอบครัวที่ประสบภัยในครั้งนี้ด้วย ซึ่งจากการสอบถามประชาชนที่เห็นเหตุการณ์และเจ้าของบ้านคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามขยายวงกว้างอย่าง แม้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเข้ามาระงับเหตุตั้งแต่เริ่มแต่กว่าเพลิงจะสงบลงได้ก็ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน  สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นในวันนี้ทางเหล่ากาชาดได้นำเงินมาช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยหลังละ 5,000 บาท อำเภอธาตุพนมมอบเงินช่วยเหลือหลังละ 1,000 บาท นอกจากนี้ยังมีเครื่องอุปโภคบริโภคและผ้าห่มอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนการช่วยเหลือด้านอื่น ๆ นั้น ได้มีการประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อขอเบิกจ่ายงบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(อัคคีภัย) ออกมาให้การช่วยเหลือทั้ง 4 ครัวครอบ ส่วนการป้องกันภัยในลักษณะนี้ที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกนั้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้มีข้อสั่งการให้ทุกอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดนครพนมทุกแห่ง เตรียมความพร้อมของกำลังเจ้าหน้าที่ รถดับเพลิงและเครื่องมือในการระงับเหตุให้พร้อม รวมถึงการสร้างเครือข่ายการให้ความช่วยเหลือใกล้เคียงด้วย ซึ่งเมื่อเกิดเหตุต้องสามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที เพื่อที่จะทำให้ประชาชนเกิดความสูญเสียน้อยที่สุด   

นครพนม ลูกหลานชาวไทญ้อร่วมสืบสานประเพณีนมัสการองค์พระธาตุท่าอุเทน

วันที่ 18 มีนาคม 2562 ที่บริเวณพระธาตุท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำประชาชนจังหวัดนครพนมและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประกอบพิธีนมัสการองค์พระธาตุท่าอุเทน ประจำปี 2562 เพื่อร่วมกันสืบสานประเพณีและศิลปวัฒนธรรมอันดีงามให้คงอยู่สืบไป โดยในช่วงเช้าทุกคนได้ร่วมกันประกอบพิธีอัญเชิญพระอุปคุตมาปกปักรักษา คุ้มครองผู้ที่มาร่วมงานให้มีความร่มเย็นเป็นสุขและแคล้วคลาดปลอดภัย จากนั้นเป็นการประกอบพิธีทำบุญตักบาตร และพิธีบวงสรวงองค์พระธาตุท่าอุเทน ก่อนที่ผู้เฒ่าผู้แก่จะนำบุตรหลานออกมารำบวงสรวงพระสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่บรรจุอยู่ในองค์พระธาตุท่าอุเทนเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

โดยในปีนี้มีผู้ร่วมรำทั้งสิ้น 300 คน จาก 6 ตำบลในอำเภอท่าอุเทน ซึ่งแต่ละตำบลก็จะมีการแต่งกายที่แตกต่างกันออกไปตามแบบฉบับของชนเผ่าไทญ้อ ส่วนท่ารำนั้นก็จะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุแต่ก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนย่อท้อ แต่เป็นเหมือนการทดสอบพลังแห่งศรัทธา ที่ทุกคนพร้อมใจกันแสดงออกมาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาพระสารีริกธาตุในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่เป็นการจำลองเอาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทญ้อ อำเภอท่าอุเทน ที่อยู่กันอย่างเรียบง่ายและพอเพียง มาจัดแสดงในลักษณะตูบที่พักให้ผู้ที่มาร่วมงานได้เห็นและร่วมสนุก ทั้งการชมการละเล่น พิธีกรรม ตลอดจนการลิ้มชิมรสกับเมนูอาหารพื้นบ้านเช่นปลาเนื้ออ่อนแห้งทอดกรอบ ทอดปลาส้ม นึ่งปลาคลัง หมกจ้อ แจ่วแมงดา เมี่ยงตาสวด และการจับจ่ายซื้อหาของฝากกับสินค้าชุมชน สินค้า OTOP

สำหรับพระธาตุท่าอุเทนนั้น เป็นพระธาตุเจดีย์ที่พระอาจารย์สีทัตถ์ร่วมกับพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา จังหวัดนครพนม หนองคายและจังหวัดสกลนคร สร้างขึ้นเมื่อวันอังคารเดือน 3  ขึ้น 12 ค่ำปีกุน หรือวันที่ 30 มกราคม 2454 เพื่อบรรจุพระสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า มีลักษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม ฐานกว้างและยาว 6 วา 3 ศอก และสูง 33 วา เป็นการก่อสร้างด้วยอิฐถือปูน แล้วเสร็จในเดือน 4 ขึ้น 15 ค่ำ ปีกุน หรือวันที่ 2 มีนาคม 2454 ดังนั้นชาวท่าอุเทน จังหวัดนครพนมจึงได้ถือเอาเดือน 4 ของทุกปีเป็นประเพณีพิธีนมัสการองค์พระธาตุท่าอุเทน ซึ่งลูกหลานชาวไทญ้อทุกคนจะกลับบ้านมาร่วมงานและกราบไหว้นมัสการองค์พระธาตุท่าอุเทน

จ.นครพนม ประกอบพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลแด่ ร.5 เนื่องในวันท้องถิ่นไทย ปี 2562


วันที่ 18 มีนาคม 2562 เวลา 7.00 น. ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำหัวหน้าส่วนราชการ คณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนข้าราชการ พนักงานราชการและลูกจ้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนในพื้นที่ร่วมประกอบพิธีทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันท้องถิ่นไทย ประจำปี 2562 และในเวลา 9.00 น. ทุกคนได้พร้อมใจกับประกอบพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดเพื่อถวายราชสักการะ

จากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร ขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2448 กลายเป็นจุดกำเนิดของการปกครองส่วนท้องถิ่นครั้งแรกในประเทศไทย ในการเริ่มต้นการกระจายอำนาจการปกครองให้แก่ประชาชน จนมีความเข้มแข็งและเป็นรากฐานการพัฒนาท้องถิ่นให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2553 กำหนดให้วันที่ 18 มีนาคมของทุกปี เป็นวันท้องถิ่นไทย ดังนั้นจังหวัดนครพนมจึงได้ร่วมกันประกอบพิธีดังกล่าวขึ้น เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน อีกทั้งเพื่อให้คณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ ตลอดจนบุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ตระหนักถึงหน้าที่ ความรับผิดชอบที่มีต่อประชาชน สังคมและประเทศชาติ รวมถึงให้ประชาชนได้เห็นถึงความสำคัญของการปกครองส่วนท้องถิ่น อันเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2562

จ.นครพนม รวมพลังปล่อยขบวนเชิญชวนใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 62


วันที่ 16 มีนาคม 2562 ที่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช เทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมพร้อมด้วย นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายสมพล พงษ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ตลอดจน พ่อค้า ประชาชน ที่มีจิตอาสาร่วมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ตระหนักถึงความสำคัญของการออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่จะถึงนี้

จากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้กำหนดให้วันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปพร้อมกันทั่วประเทศ และเพื่อให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์เป็นต้นไป ให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องสิทธิ์ หน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง บทบาทหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ตระหนักถึงความรับผิดชอบของตนเองในวิถีประชาธิปไตย และออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันดังกล่าว โดยมีการเดินรณรงค์ในครั้งนี้จะเดินไปตามถนนนิตโย จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามถนนอภิบาลบัญชา ก่อนที่จะมาสิ้นสุดที่บริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนม


นักปั่นคึกคัก ร่วมปั่นเพื่อการท่องเที่ยวที่นครพนม กับสนามที่ 4 ทัวร์ออฟแม่โขง


วันที่ 16 มีนาคม 2562 ที่บริเวณลานพนมนาคา เทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม  นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดและปล่อยตัวนักปั่นจำนวน 249 คน ในกิจกรรมทัวร์ออฟแม่โขง Pedaling Romantic Mekong ตามโครงการส่งเสริมกิจกรรมเชิงกีฬาและนันทนาการเพื่อการท่องเที่ยวที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนมจัดขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายที่สนใจเชิงกีฬาและนันทนาการ ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มน้ำโขง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรมและกีฬาให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ตลอดจนเพื่อให้การปั่นจักรยานเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นการออกกำลังกายและกิจกรรมกีฬานำการท่องเที่ยวที่ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งการปั่นในครั้งนี้ไม่มุ่งเน้นเอาแพ้หรือชนะกัน แต่จะเป็นลักษณะการปั่นเพื่อการท่องเที่ยวที่แวะเช็คอิน ถ่ายภาพสวยๆตามสถานที่ต่าง ๆ และการทำกิจกรรมเกมส์นันทนาการ กิจกรรมสาธารณะประโยชน์เพื่อสังคม และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่

สำหรับเส้นทางกิจกรรมทัวร์ออฟแม่โขง Pedaling Romantic Mekong จะมีทั้งสิ้น 5 สนาม ประกอบไปด้วยสนามจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม และมุกดาหาร  โดยในสนามที่ 4 ของจังหวัดนครพนมนั้นนักปั่นจะได้สัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ชุมชน รวมถึงธรรมชาติที่สวยงามที่มีเส้นทางจักรยานทอดยาวตามสายน้ำโขง และวิถีชีวิตคนนครพนมที่อยู่กันแบบสโลว์ไลฟ์ โดยการปั่นจะผ่านสถานที่สำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพญาศรีสัตนาคราช วัดมหาธาตุ พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการนครพนม สวนหลวง ร.9 สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 วัดสว่างสุวรรณาราม ศาลหลักเมือง รวมระยะทาง 38 กิโลเมตร

วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2562

ปศุสัตว์นครพนม ร่วมกับ ส.ปชส. และท้องถิ่นเดินหน้าสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าให้ชุมชน


วันที่ 14 มีนาคม 2562 ที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หมู่ที่ 3 บ้านโนนสว่างตำบลท่าลาด อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม นายนิทัศน์ เทศสวัสดิ์ นายอำเภอเรณูนคร เป็นประธาน kick off โครงการความร่วมมือการรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจังหวัดนครพนม ประจำปี 2562 เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนผู้เลี้ยงสุนัข แมว และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมให้เห็นถึงความสำคัญในการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า มีความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยง มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันและควบคุมประชากรสุนัข แมว ให้มีจำนวนที่เหมาะสม และทำให้จังหวัดนครพนมเป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า

โดยสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในปี 2561 จังหวัดนครพนม ได้มีการตรวจพบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน จำนวน 4 ครั้ง จากการส่งตัวอย่างตรวจ 125 ตัวอย่าง ทั้งนี้ในพื้นที่มีผู้สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้าจำนวน 4,894 ราย และไม่พบผู้เสียชีวิตจากการเป็นโรคพิษสุนัขบ้า โดยมีการฉีดวัคซีนในสัตว์ ทั้งสิ้น 77,166 ตัว สำหรับในปี 2562 จังหวัดนครพนมได้มีแผนการขับเคลื่อนงานภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและสรรพชีวิตในข้อทรงห่วงใยปัญหาโรคพิษสุนัขบ้าที่เป็นปัญหาสำคัญของชาติรวมถึงพระวิสัยทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพโลกหนึ่งเดียว โดยมีพระประสงค์ให้โรคพิษสุนัขบ้าหมดไปจากประเทศไทย ดังนั้นเพื่อสนองพระปณิธานและพระวิสัยทัศน์ จังหวัดนครพนม โดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครพนม ร่วมกับสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนมและองค์การบริหารส่วนตำบลท่าลาด จึงได้จัดกิจกรรม kick off โครงการความร่วมมือการรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจังหวัดนครพนมขึ้น เพื่อสร้างให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้าใจและรู้เท่าทันโรคพิษสุนัขบ้า

โดยกิจกรรมในครั้งนี้ประกอบไปด้วย การปล่อยขบวนเดินรณรงค์และจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า การขึ้นทะเบียนสุนัขและแมว การฉีดวัคซีนและผ่าตัดทำหมัน เพื่อควบคุมประชากรสุนัขและแมว รวมถึงการสร้างเครือข่ายอาสาปศุสัตว์ด้านโรคพิษสุนัขบ้า ที่จะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งกำลังในการช่วยเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในการดูแล ควบคุมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า รวมถึงการนำข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าไปถ่ายทอด แจ้งเตือนยังประชาชนในชุมชนของตนเองทำให้จังหวัดนครพนมเป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า