วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

นครพนม เจ้าหน้าที่เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังรอการระบายหลังฝนตกนานเกือบ 2 ชั่วโมง

วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม ในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น.ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเมืองนครพนมนานเกือบ 2 ชั่วโมง ทำให้หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขัง เช่นที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลนครพนม หน้าตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม ซอยถนนอดุลยทาน และถนนบำรุงเมือง ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีระดับน้ำที่สูงต่ำต่างกันออกไปบางแห่งสูงประมาณ 20-25 เซนติเมตร เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากตกลงมาประกอบกับกลับบริเวณปากท่อระบายน้ำมีขยะไหลมาอุดตันทางน้ำทำให้การไหลของน้ำลงไปที่ท่อระบายน้ำได้ช้า ดังนั้นเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองนครพนมจึงได้กระจายกำลังออกไปตามจุดต่าง ๆ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน รวมทั้งได้เปิดเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่ได้มีการติดตั้งตรงปากท่อระบายน้ำเพื่อสูบน้ำลงสู่แม่น้ำโขง คาดน้ำที่รอการระบายจะแห้งเหมือนปกติภายในเวลาครึ่งชั่วโมง ถ้าฝนไม่ตกลงมาเพิ่มเติม



ขณะเดียวกันนอกจากในพื้นที่จะมีปริมาณน้ำฝนที่รอการระบายแล้ว ก็ยังมีหลายจุดที่ต้นไม้ใหญ่ล้มทับสายไฟฟ้า บริเวณหน้าบ้านพักสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม ทำให้เสาไฟแรงสูงโค่นเอียงสายไฟตกลงมา นอกจากนี้ยังมีจุดที่สายไฟฟ้าดับเป็นทางยาวตามถนนชยางกูล ตั้งแต่บริเวณปั้มน้ำมัน ปตท.บ้านท่าควายจนถึงสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 (นครพนม - คำม่วน) เนื่องจากสายไฟฟ้าแรงสูงขาดหลายช่วง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้ากำลังเร่งดำเนินการแก้ไข ซึ่งคาดว่าคงต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะสามารถจ่ายไฟให้กับประชาชนได้ใช้งานเช่นเดิม

นรข.นครพนม นำกำลังพลดูแลผู้ประสบวาตภัยบ้านนาถ่อน อ.ธาตุพนม

        วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม พลเรือตรี จรัสเกียรติ  ไชยพันธุ์  ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) นำกำลังพลศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงลงพื้นที่บ้านนาถ่อน ตำบลนาถ่อน อำเภอธาตุพนม เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 ที่มีพายุพัดบ้านเรือนเสียหายจำนวนกว่า 30 หลังคาเรือน โดยก่อนหน้านี้กำลังพลของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อำเภอธาตุพนม องค์การบริหารส่วนตำบลนาถ่อน หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอธาตุพนม ตลอดจนภาคส่วนอื่น ๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ในการสำรวจความเสียหาย ให้การช่วยเหลือเบื้องต้น รวมถึงการรื้อถอนซ่อมแซมและปรับปรุงบ้านเรือนของประชาชนให้ทุกคนเข้าอยู่อาศัยได้ แม้ปัจจุบันจะยังมีอีกหลายหลังที่ยังไม่แล้วเสร็จเนื่องจากเสียหายทั้งหลัง

พลเรือตรี จรัสเกียรติ  ไชยพันธุ์ ผบ.นรข. เปิดเผยว่า ในวันนี้นอกจากจะเป็นการลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ประสบภัยแล้ว ศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงก็ได้นำเอาถุงยังชีพ ชุด นรข.ร่วมใจสู้ภัยโควิด 2564 ที่ประกอบไปด้วย ไข่ไก่ น้ำมันพืช  ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือมามอบให้กับประชาชนที่เดือดร้อนเพิ่มเติมด้วย ในส่วนของประชาชนทั่วไปก็ได้จัดทีมแพทย์ออกให้บริการตรวจสุขสภาพอนามัยเบื้องต้น พร้อมให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพกับทุกคนแบบถึงที่ เนื่องจากในช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยเพราะกำลังเปลี่ยนผ่านจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งอากาศเช่นนี้จะส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนที่มีร่างกายอ่อนแอทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย และในโอกาสนี้ก็ยังได้พูดคุยแลกเปลี่ยนแนวความคิดกับผู้นำชุมชน ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ ถึงแนวทางการดำเนินงานของกองทัพเรือ พร้อมยืนยันว่ากองทัพเรือพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือและเคียงข้างทุกคนเสมอ

วันพุธที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

นครพนม รวมใจปลูกต้นเหลืองปรีดียาธรสร้างการตระหนักรักษาป่า เนื่องในวันวิสาขบูชาและวันต้นไม้ประจำปีของชาติ

 วันที่ 26 พฤษภาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ร่วมกันปลูกต้นเหลืองปรีดียาธรเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนพนมนาคราช เนื่องในวันวิสาขบูชาและวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ทำให้ทุกคนได้ตระหนักถึงการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของชาติ ซึ่งจะช่วยป้องกันและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ลดมลภาวะเป็นพิษจากฝุ่นและหมอกควัน

สำหรับการส่งเสริมให้ประชาชนปลูกต้นไม้ในประเทศไทย มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ พ.ศ.2484 โดยกรมป่าไม้ จากนั้นในปี พ.ศ.2495 ได้มีการกำหนดให้มีวันปลูกต้นไม้ประจำปีขึ้น โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ.2495 กำหนดให้วันชาติ คือวันที่ 24 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันปลูกต้นไม้ประจำปี และส่งเสริมให้ประชาชนขอรับกล้าไม้ไปปลูกในสถานที่ต่างๆได้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2503 ทางราชการได้ประกาศยกเลิกวันชาติ คณะรัฐมนตรีจึงได้กำหนดให้วันเข้าพรรษาของทุกปีเป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ แต่เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ฝนตกก่อนถึงวันเข้าพรรษาและทิ้งช่วง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติให้วันวิสาขบูชาเป็นวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติแทนวันเข้าพรรษา ซึ่งคณะรัฐมนตรีก็ได้มีมติเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2532 กำหนดให้วันวิสาขบูชาของทุกปีเป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ เพราะเป็นระยะเริ่มต้นฤดูฝน มีฝนตกลงมาแล้ว ซึ่งจะทำให้กิจกรรมการปลูกต้นไม้ได้ผลดียิ่งขึ้น

และในการปลูกต้นไม้ในวันนี้ ที่จังหวัดนครพนม ได้เลือกบริเวณดังกล่าว เพราะถนนพนมนาคราช หรือถนนสาย ง ที่ทางหลวงชนบทได้ก่อสร้างขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเมืองในอนาคต ช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรที่หนาแน่นในเขตเมือง เพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางในพื้นที่จังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ จึงต้องการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้มีความสวยงาม ตลอดเส้นทางเหลืองอร่ามเมื่อต้นปรีดียาธรเจริญเติบโตเต็มที่ โดยถนนพนมนาคราชเป็นถนนเลี่ยงเมืองที่ตัดใหม่สายทางแยกจากถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 มีจุดเริ่มต้นโครงการอยู่บริเวณหน้าหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง และไปบรรจบกับถนนเฟื่องนครและถนนนิตโย (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 ) มีการก่อสร้างเป็นผิวจราจรแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 4 ช่องจราจร ไป-กลับ ไหล่ทางกว้าง 2 เมตร ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยตลอดสายทาง มีทางเท้าและระบบระบายน้ำใต้ทางเท้าบริเวณชุมชน พร้อมก่อสร้างสะพาน 1 แห่ง ระยะทางรวม 3.774 กิโลเมตร


วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

จ.นครพนม ส่งบุคคลากรทางการแพทย์และกำลังแรงใจสนับสนุน รพ.บุษราคัม

วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ยังคงมีอยู่โดยในวันนี้พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง กทม เพื่อกลับภูมิลำเนา 1 ราย โดยได้เดินทางมาด้วยรถตู้รับจ้างแม้ขณะเดินทางจะมีการปิดแมสก์ตลอดเวลาแต่ผู้โดยสาร 13 รายที่ร่วมเดินทางมาด้วยก็กลายเป็นบุคคลเสี่ยงสัมผัสสูงทั้งหมด แยกเป็นคนในพื้นที่จังหวัดนครพนม 10 รายและต่างจังหวัดอีก 2 ราย ขณะที่อีกรายเป็นนักเรียนที่ระหว่างปิดภาคเรียนได้ไปอาศัยอยู่กับพ่อและแม่ที่นนทบุรี และเมื่อใกล้จะเปิดภาคเรียนบิดาจึงได้นำรถยนต์ส่วนตัวมาส่งที่นครพนมพร้อมกับญาติ ทำให้เคสนี้มีผู้เสี่ยงสัมผัสสูงรวมทั้งสิ้น 5 ราย โดยทั้ง 2 กรณีเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อและให้กักตัวเองทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ในภาพรวมปัจจุบันจังหวัดนครพนมมีผู้ป่วยติดเชื้อรวมสะสม 137 ราย รักษาหายแล้ว 120 ราย เสียชีวิต 2 ราย ยังคงรักษาอยู่ 15 ราย และในสถานกาณ์ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อรักษาตัวอยู่ไม่มาก บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขของจังหวัดนครพนมจึงได้อาสาที่จะไปดูแล ฟื้นฟู รักษาผู้ป่วยติดเชื้อที่โรงพยาบาลบุษราคัม อาคารชาแลนเจอร์ เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ที่มีผู้ป่วยเข้าทำการรักษาอยู่มากกว่า เพื่อที่จะเป็นการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ในการแบ่งเบาภาระ หน้าที่ ช่วยกันดูแลประชาชน ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ระหว่างวันที่ 26 พฤษภาคม - 10 มิถุนายน 2564

โดยในวันนี้นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม พร้อมนายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม และคณะผู้บริหาร ตลอดจนบุคลากรโรงพยาบาลนครพนม ได้นำบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่อาสาสมัครไปปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย นายแพทย์ขวัญชัย ประเสริฐยิ่ง อายุรแพทย์ นางสาวจิราวรรณ สันติเสวี เภสัชกร นางบุญรอง ยามแย้ม พยาบาลวิชาชีพ นางจิรัชญา ฤทธิกรรณ์ พยาบาลวิชาชีพ นางสาวช้องนาง สุวรรณราช พยาบาลวิชาชีพ นายปริญญา ดวงมณี นักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ (Paramedic) และนายพัฒนพล โกพล เจ้าหน้าที่เวชกิจฉุกเฉิน (EMT-I) ประกอบพิธีไหว้พระขอพร จากพระพุทธนิราพาธโลกนาถดิลก พระพุทธรูปประจำโรงพยาบาลนครพนม ประกอบพิธีถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย ก่อนที่จะร่วมกันกล่าวขอบคุณที่ทุกคนได้เสียสละตนเองเพื่อส่วนรวมและเป็นตัวแทนของประชาชนจังหวัดนครพนมไปปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ จากนั้นจึงได้ร่วมกันมอบดอกไม้และพระเครื่องเพื่อเป็นกำลังใจและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับบุคคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขก่อนออกเดินทาง


วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

การเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบเข้าเมืองในสถานการณ์โควิด - 19


การปฏิบัติหน้าที่ในการเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมีหลายหน่วยด้วยกันที่รับผิดชอบ และหนึ่งในนั้นก็คือหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เรามาดูว่าทางหน่วยงานมีแนวทางการปฏิบัติอย่างไร ในการควบคุมสถานการณ์ในขณะนี้
พลเรือตรี จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เปิดเผยว่า ปกติบางท่านอาจจะเข้าใจว่า หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) รับผิดชอบเฉพาะแถวภาคอีสานอย่างเดียว จริงๆ แล้ว นรข. เป็นหน่วยเฉพาะกิจของกองทัพเรือ มีพื้นที่รับผิดชอบตลอดแนวลำแม่น้ำโขง ตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมี นรข. อยู่ด้วยกัน 4 เขต คือ เขตเชียงราย เขตหนองคาย เขตนครพนม และ เขตอุบลราชธานี รับผิดชอบแบ่งพื้นที่กันไป โดยสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ นรข.เขตนครพนม มีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอยู่แต่ไม่มากนัก จากสถิติในปีงบประมาณนี้ มีการกระทำผิดแล้วทั้งหมด 8 ครั้ง จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้ 23 คน เป็นราษฎรชาวไทย 4 คนซึ่งเป็นผู้นำพาและเป็นราษฎรชาวลาว 19 คน แต่สถานการณ์ภาพรวมของการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตลอดลำแม่น้ำโขงจะปรากฏอยู่ตลอดแนว ซึ่งที่ นรข.เขตเชียงราย มีการตรวจพบการกระทำผิดถึง 17 ครั้ง ที่ นรข.เขตหนองคาย มีการกระทำความผิดที่จับกุมได้ 9 ครั้ง ที่ นรข.เขตอุบลราชธานี มีการจับกุมได้ 3 ครั้ง สรุปว่าการจับกุมที่ผ่านมาตั้งแต่ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา นรข. สามารถจับกุมได้ทั้งหมด 37 ครั้ง เป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวม 180 คน เป็นราษฎรชาวไทย 27 คน และเป็นคนลาว 118 คน นอกจากนี้ยังมีราษฎรชาวจีนอีก 35 คน โดยทั้งหมดนี้จะมีกระบวนการที่มีคนนำพาเป็นคนไทยอยู่ทุกรายการ ซึ่งจากภาพรวมจะสังเกตได้ว่ามีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตลอดแนวลำแม่น้ำโขง ซึ่งการลักลอบเข้ามาในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเข้าไปในพื้นที่ตอนในเพื่อทำมาหากิน และอาจจะมีเป็นขบวนการอย่างเช่นที่อุบลราชธานี ที่เข้ามาครั้งเดียวประมาณ 60 คนและมีรถตู้มารับเข้าไปในพื้นที่ส่วนใน ซึ่งก็ได้ทลายตรงนี้ไปแล้วเรียบร้อย
ในช่วงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด -19 การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายยิ่งจะต้องมีความเข้มงวดกวดขันมากยิ่งขึ้น เพราะบุคคลเหล่านี้อาจจะเป็นผู้นำพาหะโรคเข้ามาสู่ประเทศไทยได้ ซึ่ง นรข. เองก็ได้มีการกำชับกำลังพลตลอดแนวลำแม่น้ำโขงให้เพ่งเล็งไม่ให้เกิดการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้มีเรื่องที่เป็นใจอยู่คือฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเรา โดยเฉพาะ สปป.ลาว ได้มีการเข้มงวดกวดขันคนของเขาด้วยทำให้ประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายลดน้อยลง แต่อย่างไรก็ตาม นรข. ก็ยังใช้มาตรการลาดตระเวน การตรวจสอบตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองให้ได้ 100 % และปัจจุบันกำลังพลของหน่วยไม่ได้ออกจากพื้นที่ยังคงปฏิบัติงานในพื้นที่ครบทุกนาย อีกทั้งก็ต้องขอขอบคุณทางจังหวัดนครพนมที่ได้ให้เจ้าหน้าที่ของ นรข.นครพนม ซึ่งประกอบไปด้วยสถานีเรือบ้านแพง สถานีเรือนครพนม สถานีเรือธาตุพนม และนรข.เขตนครพนมที่อยู่ธาตุพนมได้รับการฉีดวัคซีนโควิด -19 เรียบร้อยแล้วทั้งหมดทุกนาย ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่ต้องห่วงกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อ ทำให้ทุกคนมีกำลังใจในการทำงานมากยิ่งขึ้นด้วย
เราจะเห็นว่าแม้ภารกิจจะมีความเสี่ยง แต่กำลังพลทุกนายของ นรข. ก็พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบเข้าเมืองให้ทุกคนมีความปลอดภัยและห่างไกลจากไวรัสโควิด -19

สพม.นครพนม นำข้อสอบลุยถึงบ้านสร้างโอกาสเรียนต่อให้นักเรียนที่ต้องกักตัว


วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายศักดา ชัยภัย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม เปิดเผยว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่ทุกคนต้องมีวินัยในตนเอง และปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 และจะมีนักเรียนส่วนหนึ่งที่จะต้องเข้าเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ทำให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนมจำเป็นต้องให้โรงเรียนในสังกัดเปิดการสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในชั้นดังกล่าว ดังนั้นจึงได้มีการเสนอเรื่องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม โดยในที่ประชุมวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ได้มีมติอนุญาตให้จัดการสอบได้ ทั้งนี้ทุกโรงเรียนที่เปิดสอบจะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เช่น ให้จัดห้องสอบได้ไม่เกินห้องละ 20 คน ต้องมีการตรวจคัดกรองนักเรียนทุกคนก่อนเข้าห้องสอบ มีการทำความสะอาดห้องสอบก่อนและหลังการสอบ ไปจนถึงการทำความสะอาดห้องน้ำที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่เฝ้าดูแลรักษาความสะอาดทุกครั้งหลังเด็กนักเรียนออกจากห้องน้ำ นอกจากนี้ยังต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้เด็กนักเรียนที่มาสอบมีวินัยในตนเอง หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่เตรียมไว้ให้ ต้องสวมแมสก์และรักษาระยะห่าง

ซึ่งในระหว่างวันที่ 22 – 23 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมาได้มีการจัดการสอบคัดเลือกนักเรียนโดยสนามสอบโรงเรียนนครพนมวิทยาคม ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผู้มีสิทธิ์สอบ 513 คน เข้าสอบ 402คน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีผู้มีสิทธิ์สอบ 124 คน เข้าสอบ 81 คน ส่วนสนามสอบโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผู้มีสิทธิ์สอบ 440 คน เข้าสอบ 399 คน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีผู้มีสิทธิ์สอบ 165 คน เข้าสอบ 126 คน และมีนักเรียนอีกหลายคนที่มีสิทธิ์สอบแต่ต้องถูกกักตัวตามคำสั่งจังหวัดนครพนม เพราะมาจากพื้นที่เสี่ยง คณะกรรมการดำเนินการจัดสอบของสถานศึกษาจึงได้ดำเนินการสอบให้กับนักเรียนเหล่านี้เพิ่มเติมใน 2 รูปแบบเพื่อไม่ให้เสียโอกาสทางการศึกษา คือให้อาจารย์นำข้อสอบไปให้ทำการสอบที่บ้านของนักเรียนที่ถูกกักตัว และให้สอบโดยใช้ระบบ google meet ที่เป็นแบบระบบออนไลน์ อาจารย์ถามนักเรียนตอบ นอกจากนี้ยังมีกรณีนักเรียนต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน ก็ได้จัดสถานที่สอบให้เป็นกรณีพิเศษเช่นเดียวกัน




และในโอกาสนี้อยากจะฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ปกครองและนักเรียนที่ไม่มีที่เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ในจังหวัดนครพนม สามารถยื่นความจำนงออนไลน์บนเว๊บไซต์ สพม.นพ. ระหว่างวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2564 หรือจะติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทางหมายเลข 042-516217 หรือ 095-1928182 ในเวลาราชการได้

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

นครพนม พบผู้ป่วยโควิด – 19 เพิ่ม 1 ราย แนะประชาชนอย่าแชร์ข่าวลือเพราะสร้างผลกระทบและมีความผิด

วันที่ 22 พฤษภาคม 2564 ที่ห้องประชุมร่มฉัตรชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 ในพื้นที่ ซึ่งในวันนี้จังหวัดนครพนม มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขี้น 1 ราย ทำให้มียอดสะสมผู้ติดเชื้อเป็น 135 ราย ทั้งนี้มีการรักษาหายแล้ว 120 ราย ยังคงรับการรักษาอยู่ 13 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยผู้ป่วยที่พบการติดเชื้อในครั้งนี้เป็นผู้ป่วยที่มาจากพื้นที่เสี่ยง กทม. ร่วมกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 124 ,125, 130, 131 และ 132 ของจังหวัดนครพนม ซึ่งระหว่างการเดินทางมานั้นได้เดินทางมาพร้อมกันด้วยรถยนต์ส่วนตัว รวม 6 คน และได้เข้าทำการตรวจหาเชื้อพร้อมกันทันที แต่ครั้งแรกผู้ป่วยรายนี้ไม่พบการติดเชื้อจึงได้ทำการกักตัวเองที่บ้านตามมาตรการของจังหวัด กระทั่งในครั้ง 2 จึงมีผลยืนยันเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ จึงทำให้รายนี้ไม่พบผู้สัมผัสเสี่ยงแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ดีทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ก็มีความกังวลและอยากประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกรณีในลักษณะนี้ว่า ขออย่าพยายามเดินทางจะดีกว่า เพราะมีความเสี่ยงที่จะกระจายเชื้อให้กับบุคคลอื่นกลายเป็นผู้ติดเชื้อวงที่ 2 ที่ 3 ตามมาได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจะส่งผลต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสิ้นเปลืองงบประมาณในการรักษาเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ซึ่งปัจจุบันที่ กทม. มี รพ.สนาม ที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีกเป็นจำนวนมาก

และในโอกาสนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้กล่าวยืนยันเกี่ยวกับกรณีที่มีข่าวลือที่แชร์กันไปว่าผู้ป่วยก่อนหน้านี้ของจังหวัดนครพนม ที่มีอาชีพรับเหมาก่อสร้างและทำงานอยู่ที่เขตหลีกสี่ กทม. เป็นผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์อินเดียนั้นไม่เป็นความจริง โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังหาตัวผู้กระทำความผิดอยู่ เพราะเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จที่ทำให้เกิดการตื่นตระหนก ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเป็นจำนวนมาก ซึ่งการที่จะทราบได้ว่าเป็นสายพันธุ์ไหนนั้นเจ้าหน้าที่จะต้องมีการส่งตรวจอย่างละเอียดแต่ข่าวลือนี้ได้มีการเขียนเป็นเรื่องเป็นราวไปแล้ว โดยทุกวันนี้จังหวัดนครพนมยังไม่ได้รับการยืนยันว่าผู้ที่ได้รับเชื้อโควิด – 19 ที่มารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดนครพนมเป็นสายพันธุ์ไหน จึงมีความเป็นห่วงประชาชนเพราะการแชร์ไปโดยที่ไม่ทราบข้อมูลแท้จริง ก็มีความสุ่มเสี่ยงที่จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไปด้วยเช่นเดียวกันกับผู้กระทำผิด


นรข.นครพนม บูรณาการเข้ม จับผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลางกัญชา 350 แท่ง/กิโลกรัม

วันที่ 22 พฤษภาคม 2564 ที่สโมสรทหารสัญญาบัตร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม พลเรือตรี จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) พร้อมด้วย นาวาเอกฤทธิ์ นาทวงค์ ผบ.นรข.เขตนครพนม นายกิติภูมิ คีรีวรรณ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร นายยุทธพงษ์ มีศรี ปลัดอำเภอท่าอุเทน ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงการณ์จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง จำนวน 350 แท่ง/กิโลกรัม และรถยนต์ฟอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 ฒศ 4804 กทม. ภายหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านเหล่าหนาด ตำบลพนอม อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม

โดยภายหลังการรับแจ้ง นาวาโท วรภัทร แสงสุวรรณ ผู้ช่วยหัวหน้ายุทธการและงานข่าว นรข. และ รักษาการ หน.สน.เรือนครพนม และนาวาโท บุญเชิด กุลอำภา หน.สน.เรือบ้านแพง ได้ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ร่วมกันวางแผน และระดมกำลังลงพื้นที่สกัดกั้น ปราบปราม จับกุม โดยได้ส่งชุดลาดตระเวนทั้งทางบกและทางน้ำ กระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 21 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบเรือหาปลาติดเครื่องยนต์ขับข้ามแม่น้ำโขงจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นได้ดับเครื่องยนต์เพื่อให้เงียบเสียงและใช้วิธีการพายเรือเข้ามาเทียบฝั่งบริเวณด้านหลังวัดศรีสะอาด แล้วพายเลาะขึ้นไปบริเวณป่าช้าเผาศพประจำหมู่บ้าน เมื่อถึงจุดหมายก็มีชายฉกรรจ์ประมาณ 7 - 8 คน ขนวัตถุบางอย่างลงจากเรือมาวางไว้บนตลิ่ง สักพักก็มีรถจักรยานยนต์ขับนำรถยนต์ของกลางเข้ามาขนวัตถุต้องสงสัยใส่กระบะท้ายรถ เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นดังนั้นจึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจค้น พอกลุ่มชายฉกรรจ์เห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้พากันวิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทางในความมืด ขณะเดียวกันคนที่อยู่ในรถยนต์ 2 คน ก็เตรียมจะขับหลบหนีเช่นเดียวกันแต่ถูกเจ้าหน้าที่บล็อกเส้นทางไว้หมดจึงยอมจำนน ซึ่งจากการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยบนรถยนต์พบว่าเป็นกัญชาอัดแท่ง จำนวน 350 แท่ง/กิโลกรัม มีการซีลอย่างดี 2 แบบ คือแบบที่อัดศูนย์ยากาศกับแบบแพ็คทั่วไป แต่อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 แบบมีขนาดน้ำหนักเท่ากันคือประมาณ 1 กิโลกรัมต่อแท่ง เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การว่าไม่เคยเดินทางมาจังหวัดนครพนม จึงมีรถจักรยานยนต์นำทางเข้าพื้นที่ ซึ่งหลังจากออกนอกเขตได้แล้ว นายทุนจึงจะแจ้งพิกัดว่าให้ไปส่งที่ไหนบริเวณใด จึงไม่รู้ว่ากัญชาล๊อตนี้ต้องไปส่งให้กับใคร ส่วนค่าจ้างนั้นยังไม่ได้ตกลงกัน อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ปักใจเชื่อ โดยได้ร่วมกันทำบันทึกตรวจยึด พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 และของกลางทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

คคก.นครพนม เปิดให้ประชาชนทั่วไปเริ่มจองฉีดวัคซีนโควิด - 19 ได้แล้ว

วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด – 19 ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ซึ่งในวันนี้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 ราย ทำให้จังหวัดนครพนมมียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมเป็น 134 ราย ที่ปัจจุบันมีการรักษาได้กลับบ้านแล้ว 120 ราย ยังคงรักษาอยู่ 12 ราย และยอดเสียชีวิตยังคงเท่าเดิมคือ 2 ราย โดย 2 รายที่ตรวจพบในวันนี้มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง เป็นกลุ่มเสี่ยงแรงงานที่ไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานครและได้เดินทางกลับบ้านพร้อมเพื่อนที่เป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 128 และ 129 ของจังหวัดนครพนมทั้งนี้ได้มีการกักตัวอยู่ที่บ้านตั้งแต่เข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครพนมพร้อมกับการตรวจคัดกรองหาเชื้อ ซึ่งในครั้งแรกทั้ง 2 รายตรวจไม่พบเชื้อ กระทั่งครบ 7 วันเจ้าหน้าที่ทำการตรวจหาเชื้ออีกครั้ง ปรากฏว่ามีผลเป็นบวกจึงกลายเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 133 และ 134 ของจังหวัด เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวเข้าทำการรักษา


สำหรับแนวทางการดำเนินการให้บริการฉีดวัคซีนของจังหวัดนครพนมนั้นในช่วงแรกได้มีการฉีดให้บุคคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้าไปแล้ว ส่วนระยะต่อมาคือกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังที่มีการลงทะเบียนไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมียอดจองฉีดวัคซีนเข้ามามากถึง 129,777 ราย คิดเป็นร้อยละ 84.77 ของกลุ่มเป้าหมาย โดยหลังจากนี้จะเปิดให้กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีอายุระหว่าง 18 – 59 ปี สามารถจองฉีดวัคซีนได้ซึ่งถ้าใครจะลงทะเบียนจองผ่านระบบ application หมอพร้อม จะเริ่มจองได้ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป แต่เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนมากขึ้นจังหวัดนครพนมก็ได้จัดบริการเพิ่มอีก 4 ช่องทาง ซึ่งในส่วนนี้สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คือ การจองผ่าน LINE NPM Covid19 หรือจะลงทะเบียนจองที่โรงพยาบาลชุมชน และ รพ.สต.ใกล้บ้าน หรือจะติดต่อเจ้าหน้าที่ อสม. ผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อจองวัคซีนก็ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังสามารถโทรไปที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ที่เป็นสายด่วน Hotline ศูนย์ข้อมูลโควิด – 19 ของจังหวัดนครพนม ที่จะมีทั้งของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนมและของโรงพยาบาลประจำอำเภอทั้ง 12 อำเภอ โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมมีความคาดหวังว่าประชาชนจะมีการลงทะเบียนจองเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพราะถ้าทุกคนได้รับการฉีดวัคซีน นั่นหมายถึงทุกคนมีภูมิคุ้มกัน ซึ่งถ้าสถานการณ์ทั่วประเทศดีขึ้น ทุกอย่างก็จะเริ่มมีการคลายมาตรการ ทุกคนจะสามารถใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สามารถจัดงานและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะจังหวัดนครพนมที่มีงานบุญประเพณีไหลเรือไฟรออยู่ในช่วงวันออกพรรษา ซึ่งทุกปีจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากมาร่วมงาน ถ้าสามารถจัดงานดังกล่าวได้ก็จะทำให้ประชาชนก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และด้านอื่น ๆ ก็จะขับเคลื่อนตามไปด้วย


นครพนม ตั้งเต้นท์วางจำหน่ายปลานิลสด ช่วยเหลือผู้เลี้ยง และสินค้าทางการเกษตรอื่น ๆ

วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม สำนักงานพานิชย์จังหวัดนครพนม ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกรมประมง และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครพนม ได้ร่วมกันเปิดเต้นท์ตามโครงการผู้ว่าฯชวนซื้อปลาฝ่าวิกฤติโควิด 2019 ที่บริเวณหน้าสวนชมโขง ฝั่งด้านข้างศาลากลางจังหวัดนครพนม และที่บริเวณหน้าสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธกส.นคพนม จำกัด ซึ่ง เพื่อให้เกษตรกรที่เลี้ยงปลานิลในกระชัง บ้านเหล่าสวนกล้วย ตำบลหนองเทา อำเภอท่าอุเทน ได้นำปลานิลสดๆ จากกระชังของตนเองมาวางจำหน่ายเป็นการช่วยเหลือให้เกษตรกรได้มีรายได้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ทำให้กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลในกระชังจำหน่ายได้น้อยลง ไม่ว่าจะเป็นการส่งให้พ่อค้าแม่ค้าคนกลางในตลาดสด ตลาดนัดที่มีการรับจำนวนน้อยลงเนื่องจากประชาชนมาจับจ่ายในตลาดน้อยลง ตลาดนัดบางแห่งก็ไม่ได้เปิดเหมือนช่วงเหตุการณ์ปกติ งานรื่นเริงที่มีการรวมกลุ่มกันมาก ๆ ก็ยังไม่สามารถจัดได้ หรือแม้แต่การตระเวนจำหน่ายในพื้นที่ก็มีการรับซื้อน้อยลงเช่นเดียวกัน ทำให้กลุ่มเกษตรกรไม่สามารถจำหน่ายได้ตามเป้าที่วางไว้จากเดิมที่เคยขายได้ประมาณวันละ 1 ตัน ก็เหลืออยู่ไม่กี่ร้อยกิโลกรัม ทำให้มีปลานิลตกค้างอยู่ในกระชังเป็นจำนวนมาก


โดยในวันนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลนำปลามาวางจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด คืออยู่ที่กิโลกรัมละ 55 บาท ซึ่งถ้าลูกค้าต้องการให้ชำแหละก็พร้อมบริการให้โดยคิดการดำเนินการเพิ่มกิโลกรัมละ 5 บาท โดยจะเปิดเต็นท์ตั้งแต่เวลา 9:00 น เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีสินค้าเกษตรอื่น ๆ ที่มีปัญหาในการจำหน่ายอีก เช่น สับปะรดท่าอุเทน ที่ได้รับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากกรมทรัพย์สินปัญญา ว่ามีรสหวานฉ่ำที่ในช่วงนี้จะมีค่าความหวานสูงถึง 18 บริกซ์ นอกจากนี้ยังมีเนื้อละเอียดแน่นสีเหลืองเข้ม ตาตื้น มีกลิ่นหอม ไม่กัดลิ้น ไม่ระคายคอ และแกนหวานกรอบรับประทานได้เช่นเดียวกัน รวมถึงฟักทองที่หลายคนชอบซื้อหามารับประทานเพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย เป็นอาหารเพื่อสุขภาพของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะฟักทองมีกากใยที่สูง มีแคลอรี่และไขมันน้อย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความอ้วนและควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี โดยตลอดเวลามีประชาชนแวะเวียนสลับสับเปลี่ยนกันมาสอบถามและซื้อกลับไปปรุงเป็นอาหารไว้รับประทานที่บ้านกันเป็นระยะ ๆ เนื่องจากทั้ง 2 จุดเป็นจุดที่ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถมองเห็นได้โดยสะดวก ทำให้เกษตรกรทุกคนดีใจเป็นอย่างมากที่สามารถจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น


วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Tops Supermarket รับซื้อสับปะรด GI ช่วยเกษตรกรชาวสวนนครพนม

วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ที่อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยคณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัด (เซลล์แมนจังหวัด) ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรชาวสวนผู้ปลูกสับปะรดอำเภอท่าอุเทนและอำเภอโพนสวรรค์ ร่วมส่งมอบสับปะรดให้กับตัวแทนบริษัทเซ็นทรัลฟู้ดรีเทล จำกัด หรือที่หลายคนรู้จักในนาม Tops Supermarket ที่ได้ส่งรถบรรทุกกระจายสินค้ามารับซื้อผลผลิตเพื่อนำไปจำหน่ายตามสาขาต่าง ๆ ช่วยเหลือเกษตรกรทั้ง 2 อำเภอ ที่ในช่วงนี้สับปะรดท่าอุเทน ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดนครพนมและได้รับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากกรมทรัพย์สินปัญญา ที่กำลังมีผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ทำให้จำหน่ายในพื้นที่ได้น้อย เป็นการป้องกันผลผลิตได้รับความเสียหายและช่วยพยุงราคาสินค้าเกษตรในพื้นที่

นายพงษ์นรินทร์ วงศ์บุญมา ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อสินค้าท้องถิ่นและการเกษตรประจำภาคอีสาน บริษัทเซ็นทรัลฟู้ดรีเทล จำกัด เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีนโยบายรับซื้อสินค้าผลผลิตทางการเกษตร สินค้า GI และผักผลไม้ โดยตรงจากเกษตรกรทั่วประเทศอยู่แล้ว โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง อย่างสับปะรดท่าอุเทนที่มารับซื้อในวันนี้ก็มีแผนที่จะรับซื้อสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละประมาณ 5 -10 ตันต่อเที่ยว เพื่อส่งเข้าศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทไปจำหน่ายยัง Tops Market , Tops SUPERSTORE และ Central Food Hall ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยจะมีการรับซื้อตลอดทั้งฤดูกาล สำหรับสเปคสินค้าก็ขึ้นอยู่กับฤดูกาลผลิตเบื้องต้นจะกำหนดไว้คร่าว ๆ ประมาณ 1.6 - 2 กิโลกรัมต่อลูก ส่วนราคารับซื้อก็จะนำราคาตลาดเพื่อเป็นการพยุงราคาไม่ให้ราคาสินค้าตกต่ำ โดยล็อตนี้รับซื้อสับปะรดให้กับเกษตรกรในราคา 16 บาทต่อลูก โดยแต่ละลูกจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.2 - 1.5 กิโลกรัม ครั้งต่อไปที่จะอยู่ในช่วงพีคสุดของสับปะรด ลูกจะมีขนาดใหญ่มากขึ้น ทางบริษัทก็ได้มีการขยับน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 - 2 กิโลกรัม โดยราคาก็จะขยับขึ้นตามไปด้วย ซึ่งราคาจะเป็นการบวกค่าบริหารจัดการ บวกค่าขนส่งให้กับเกษตรกรอยู่แล้ว ส่วนการรับสินค้าทางบริษัทวางแผนไว้คือให้กลุ่มเกษตรกรนำสินค้ามารวมกันที่ตลาดประชารัฐของดีท่าอุเทนในทุก ๆ วันพุธ โดยบริษัทจะส่งรถบรรทุกกระจายสินค้ามารับยังจุดที่ได้นัดหมาย

คณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา มอบอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์สนับสนุนโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม

วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ที่อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานที่ปรึกษาโครงการสืบสานพระราชปณิธานโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชในคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา พร้อมด้วยนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นตัวแทนส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์และวัสดุสนับสนุนการบริการทางการแพทย์ ให้กับคณะบุคคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนมได้ใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่ได้มีการพิจารณาศึกษาเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ทรงมีต่อการพัฒนาชาติบ้านเมืองในหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงวางรากฐานการพัฒนาประเทศด้านการแพทย์และการสาธารณสุข เพื่อแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพของประชาชน รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างทั่วถึง


โดยโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เป็นโรงพยาบาลที่ก่อกำเนิดขึ้นด้วยปณิธานอันแน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบท ถิ่นทุรกันดารห่างไกล โดยรัฐบาลร่วมกับพสกนิกรชาวไทยได้แสดงออกซึ่งความจงรักภักดีร่วมกันบริจาคทรัพย์สินสมทบสร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชขึ้นมาเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นของขวัญแด่พระองค์ท่าน และเพื่อให้โรงพยาบาลที่จัดสร้างขึ้นสามารถให้บริการประชาชน ทหาร ตำรวจตลอดจนพลเรือน โดยเฉพาะผู้ด้วยโอกาสทางสังคม ผู้มีรายได้น้อย ผู้พิการและผู้สูงอายุได้ด้วยดีตลอดไปจึงได้นำทรัพย์สินที่ประชาชนร่วมกันบริจาคจัดตั้งเป็นมูลนิธิชื่อว่า มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช และในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด - 19 ระลอกเดือนเมษายน จังหวัดนครพนมพบผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 132 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนมได้รับผู้ป่วยติดเชื้อเข้าทำการรักษาทั้งสิ้น 28 ราย ไม่มีผู้ป่วยเสียชีวิต ปัจจุบันยังคงรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล จำนวน 3 ราย


ทั้งนี้อุปกรณ์ทางการแพทย์และวัสดุสนับสนุนทางการแพทย์ที่นำมามอบให้กับโรงพยาบาลในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย อุปกรณ์ทางการแพทย์ 5 รายการ ได้แก่ เครื่องให้สารละลายทางเส้นเลือดดำพร้อมเสาน้ำเกลือ จำนวน 1 เครื่อง เครื่องควบคุมการให้สารน้ำโดยกระบอกฉีดยา จำนวน 1 เครื่อง เครื่องวัดอุณหภูมิแบบมีขาตั้งจำนวน เครื่อง เครื่องวัดความดันแบบกระเป๋า จำนวน 3 เครื่อง เครื่องวัดออกซิเจนที่ปลายนิ้ว จำนวน 4 เครื่อง และวัสดุสนับสนุนการบริการทางการแพทย์ จำนวน 15 รายการ อาทิ ถุงมือตรวจโรค หน้ากากอนามัยและเฟสชิลล์ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลหรือชุด PPE ถุงขยะประเภทต่าง ๆ เจลแอลกอฮอล์และน้ำยาฆ่าเชื้อ รวมถึงอุปกรณ์กีฬา รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 320,000 บาท

วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

นครพนม จัดงานผ่านระบบออนไลน์ ครบรอบ 131 ปีวันคล้ายวันเกิดประธานโฮจิมินห์และ 45 ปีความสัมพันธ์การทูตไทย - เวียดนาม

วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ที่บริเวณอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ บ้านนาจอก ตำบลหนองญาติ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายวิศรุต จินธนะเสถียร นายกสมาคมชาวเวียดนามแห่งประเทศไทย นายศิวรัตน์ ตันติพัฒกุลชัย นายกสมาคมไทยเวียดนาม จังหวัดนครพนม และคณะกรรมการสมาคมที่เกี่ยวข้องกับชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม ร่วมกันวางดอกไม้เพื่อแสดงการระลึกถึงประธานโฮจิมินห์ เนื่องในวันครบรอบ 131 ปี วันคล้ายวันเกิดผู้นำการกอบกู้ชาติเวียดนามจนประสบผลสำเร็จ จากนั้นได้ร่วมงาน 45 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย- เวียดนาม ผ่านระบบออนไลน์ Video Conference ที่มี H.E. Mr. Phan Chi Than (ฟัน จี้ ทัน ) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ผู้แทนระดับสูงจากประเทศเวียดนาม ตลอดจนกงสุลใหญ่เวียดนามประจำจังหวัดขอนแก่น ประธานสภาธุรกิจไทย - เวียดนาม ภาคเอกชนและสมาคมที่เกี่ยวข้องกับชาวไทยเชื้อสายเวียดนามร่วมงานในครั้งนี้

โดยงานดังกล่าวเป็นการสานสัมพันธ์ทางการทูตของประเทศไทยกับเวียดนามที่มีมาอย่างยาวนาน ทั้งด้านการค้าการลงทุน การเมืองการปกครอง และการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 ซึ่งในปีนี้คณะทำงานเตรียมจัดงานที่บริเวณอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญเชิงสัญลักษณ์ความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย – เวียดนาม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดนครพนมที่รัฐบาลเวียดนามได้สนับสนุนงบประมาณกว่า 3 หมื่นล้านด่อง หรือประมาณ 45 ล้านบาทมาก่อสร้าง เพื่อเป็นเกียรติประวัติและที่ระลึกแก่ประธานโฮจิมินห์ แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่ต้องมีการคุมเข้มการจัดกิจกรรมต่าง ๆ สร้างความปลอดภัยให้ประชาชน จังหวัดนครพนมจึงได้อนุญาตให้สมาคมชาวเวียดนามแห่งประเทศไทย และสมาคมไทย- เวียดนามจังหวัดนครพนม จัดงานในรูปแบบที่ต้องจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงาน จึงมีเฉพาะคณะตัวแทนเข้าร่วมกิจกรรมในการวางดอกไม้แสดงการระลึกถึง และใช้วิธีร่วมงานผ่านระบบออนไลน์แทน อย่างไรก็ดีทางสภาธุรกิจไทย – เวียดนาม บริษัทภาคเอกชน และคณะทำงานโครงการ 45 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย- เวียดนาม ก็ได้ให้ความอนุเคราะห์สนับสนุนงบประมาณในการบูรณะภูเขาเหนียงอานจำลอง ที่ตั้งอยู่ในอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ เป็นจำนวน 1,400,000 บาท เพื่อให้อนุสรณ์สถานแห่งนี้ยังคงความงดงาม มีความปลอดภัยต่อผู้เข้าเยี่ยมชม นอกจากนี้ยังให้ความสนใจในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สินค้าขึ้นชื่อของชุมชนบ้านนาจอก ที่จังหวัดนครพนมโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนมได้ร่วมกันสนับสนุนการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชน ท่องเที่ยววิถีเกษตรและวัฒนธรรมบ้านนาจอก คือ ชาอัสสัม และยาดมชาอัสสัม โดยมีการปรับเปลี่ยนชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อให้มีความโดดเด่นไปจากยี่ห้อสินค้าอื่น ๆ เพื่อพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ ผลักดันสินค้าให้สามารถจำหน่ายเป็นรายได้ของชุมชนเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย


นรข.นครพนม พร้อมใจบริจาคโลหิตสร้างคลังเลือดสำรองช่วยประชาชน เนื่องในวันอาภากร องค์บิดาของทหารเรือ

วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ที่กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม พลเรือตรี จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง นำกำลังพลร่วมกันบริจาคโลหิตให้กับโรงพยาบาลนครพนมและสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ที่ได้ออกหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการ ณ จุดที่ตั้ง เพื่อสำรองโลหิตไว้ใช้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 และในยามฉุกเฉิน จำนวน 18,900 ซีซี ภายหลังการประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะแด่พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย เนื่องในวันอาภากร ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์ และเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่วีรชนของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ที่ได้สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน

โดยพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นเจ้านายพระองค์แรกที่สำเร็จการศึกษาวิชาการทหารเรือจากประเทศอังกฤษ ทรงมีจุดประสงค์อย่างแรงกล้าจะฝึกให้ทหารเรือไทยเดินเรือทะเลได้อย่างชาวต่างประเทศและสามารถรบทางเรือได้ เนื่องจากในอดีตประเทศไทยต้องว่าจ้างชาวต่างชาติมาเป็นผู้บังคับการเรือ โดยในปี พ.ศ. 2462 พระองค์ทรงเป็นผู้บังคับการเรือนำเรือหลวงพระร่วงจากประเทศอังกฤษเข้ามายังกรุงเทพมหานคร และนับเป็นครั้งแรกที่นายทหารเรือไทยเดินเรือได้ไกลข้ามทวีป นอกจากนี้พระองค์ยังทรงวางรากฐานพัฒนากิจการทหารเรือ จัดตั้งฐานทัพเรือ โรงเรียนนายเรือ ให้มีความเข้มแข็ง มั่นคง มีความเจริญก้าวหน้าเป็นที่ประจักษ์ มาตราบเท่าทุกวันนี้ ทรงได้รับการเชิดชูในหมู่ทหารเรือเรียกขานพระองค์ว่า เสด็จเตี่ย หรือ หมอพร และ พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย ต่อมาในปี 2536 มีประกาศกองทัพเรือขนานพระนามพระองค์ว่า พระบิดาของกองทัพเรือไทย และในปี 2544 แก้ไขเป็น องค์บิดาของทหารเรือไทย


จ.นครพนม สั่งสร้างภูมิคุ้มกันโควิดบุคคลากรทางการศึกษาด่วน ก่อนเปิดภาคเรียนใหม่

วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายกิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม(ด้านเวชกรรมป้องกัน) และนางสาวรัชนี เต็มอุดม รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม (ด้านส่งเสริมพัฒนา) ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด – 19 ในพื้นที่ที่วันนี้ยังคงไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันเป็นวันที่ 5 โดยปัจจุบันจังหวัดนครพนมมีผู้ติดเชื้อสะสม 132 ราย รักษาหายแล้ว 112 ราย เสียชีวิต 2 ราย ที่เหลือรักษาอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ในส่วนของโรงพยาบาลสนามได้มีการปิดเป็นการชั่วคราวเนื่องจากไม่มีผู้ป่วยรักษา ขณะที่ยอดการจองวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง มียอดลงทะเบียนจอง 130,021 ราย ดังนั้นจึงได้มีการบริหารจัดการโดยวางแผนการฉีดวัคซีนกระจายไปตามอำเภอต่าง ๆ ซึ่งใน 1 วัน สามารถรองรับประชาชนที่จะมาฉีดได้ประมาณวันละ 5,130 - 6,000 คน โดยรอบแรกเดือนมิถุนายนได้รับการจัดสรรวัคซีนมา 77,000 โด๊ส คาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 15 วัน

และในโอกาสที่กระทรวงศึกษาธิการได้มีการเลื่อนการเปิดเทอม 1/2564 จากวันที่ 1 มิถุนายนออกไปเป็นวันที่ 14 มิถุนายน จังหวัดนครพนมก็ได้มีการวางแผนในการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการศึกษาเป็นการด่วนเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด - 19 สำหรับนักเรียน นักศึกษา คณะครู และบุคลากรทางการศึกษาไม่ให้ต้องเสี่ยงกับการติดเชื้อ โดยได้ให้บุคลากรเหล่านี้สามารถลงทะเบียนจองวัคซีนเพื่อฉีดก่อนเปิดภาคเรียนได้ รวมถึงได้มีการแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง 21 จังหวัดเดินทางเข้ามาในพื้นที่ก่อนการเปิดภาคเรียน เพราะจะต้องมีการกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการของจังหวัดพร้อมทั้งได้แนะนำถึงขั้นตอนและวิธีการในการเตรียมความพร้อมสำหรับสถานที่กักตัวให้ปลอดภัยกับคนในบ้าน ที่จะต้องมีการแยกห้องและของใช้อย่างชัดเจน ข้อปฏิบัติและหลักที่สำคัญที่จะต้องทำอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น การรับประทานอาหาร การทำความสะอาด การกำจัดขยะ และการใช้ห้องสุขา

นอกจากนี้ยังมีการเตรียมแผนรองรับสำหรับการจัดสรรวัคซีนให้กับบุคคลกลุ่มอาชีพเสี่ยงติดเชื้อ ผู้มีอาชีพ/กิจการที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน เช่น สาธารณูปโภค อาหาร ยา ฯลฯ เพราะกลุ่มบุคคลเหล่านี้มีโอกาสสัมผัสกับบุคคลอื่นเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น พ่อค้าแม่ค้าในตลาด พนักงานขนส่ง พนักงานเดลิเวอรี่ พนักงานโรงแรม และพนักงานในสถานบันเทิง


วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

พ่อค้าหนังเค็มนครพนม พลิกวิกฤตเป็นโอกาสขายออนไลน์จนลูกค้าที่อยากได้ต้องเข้าคิวรอ

วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายวัฒนา สมสิ้ว ชาวบ้านน้อยชลประทาน ตำบลเวินพระบาท อำเภอท่าอุเทน ซึ่งยึดอาชีพทำหนังเค็มขาย เปิดเผยว่า ตอนแรกที่ไวรัสโควิดแพร่ระบาดใหม่ ๆ ส่งผลให้ยอดขายตกลงเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงได้ปรึกษากับครอบครัวและพยายามหาช่องทางการตลาดใหม่ ๆ เพื่อทำให้การขายต่อไปได้ ซึ่งก็มองว่าในวิกฤติยังมีโอกาส นั้นคือการขายออนไลน์ เพราะเมื่อเกิดสถานการณ์โควิด – 19 ทำให้คนไม่กล้าที่จะออกไปไหน มีเวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น เมื่อว่างก็จะหยิบจับมือถือขึ้นมาเล่น มาดูสิ่งต่าง ๆ ไปเรื่อย รวมทั้งการสั่งสินค้าออนไลน์ ถ้าเราสามารถทำสื่อให้เข้าถึงก็น่าจะเป็นอีกเส้นทางที่สามารถต่อยอดรายได้ จึงได้สร้าง สร้างเพจ Facebook ชื่อ หนังเค็มพ่อประนอม และแขก หนังเค็มนครพนม ขึ้นมา โดยอาศัยการศึกษาวิธีทำจากยูทูป ส่วนการนำเสนอและวิธีการขายจะยึดหลัก รับผิดชอบ มีสัจจะ จริงใจ ซื่อสัตย์และไม่หยุดพัฒนา ซึ่งนั่นหมายถึงลูกค้าทุกคนจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ไม่มีสารเคมี เพราะใช้เกลือเป็นวัตถุดิบในการหมักเท่านั้นเมื่อรวมกับระยะเวลาที่เหมาะสมทำให้มีรสชาติที่มีความอร่อยพอเหมาะเป็นไปตามภูมิปัญญาที่สืบทอดต่อกันมากว่า 40 ปี จากรุ่นพ่อ ที่สำคัญคือผลิตตามความต้องการของลูกค้าที่สดใหม่เสมอและรับประกันการเคลมให้เมื่อเกิดการชำรุดเสียหาย ไม่ว่าจะมาจากการขนส่งหรือประเด็นอื่น ๆ โดยจะมีการติดต่อกับลูกค้าเสมอ

ด้านนางสาวอุธาน ชนะเคน ภรรยา กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า หนังเค็มที่ผลิตออกมาจะมีทั้งแบบที่ลูกค้าต้องนำไปเผาเอง แบบที่เผาแล้วพร้อมนำไปปรุงอาหารสำหรับคนที่อยู่คอนโด หรือบางรายสั่งแบบหั่นให้พร้อมอุปกรณ์เครื่องเคียงที่ใช้ประกอบอาหารก็พยายามจัดหาให้แบบเบ็ดเสร็จ โดยปัจจุบันกำลังเริ่มผลิตคู่มือสำหรับการปรุงอาหารจากหนังเค็มติดไปกับบรรจุภัณฑ์ให้ด้วย เพื่อความสะดวกสบายสำหรับผู้ที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรให้ได้เมนูที่อร่อย ๆ และเมื่อเราตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการได้แบบบนี้ทำให้การขายมียอดเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้มีกระทั่งลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส อเมริกา แคนาดา สิงคโปร์ ซึ่งลูกค้าต่างประเทศส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าคนกลางที่นำของเราไปขายต่ออีกที ในลักษณะเปิดเพจขายเช่นเดียวกัน ทำให้ทุกวันนี้มีการสั่งจองเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนบางช่วงลูกค้าต้องรอคิวเพราะการผลิตจะทำตามลำดับออร์เดอร์ที่สั่งจองเข้ามา เพื่อให้ทุกคนได้สินค้าที่สดและใหม่เสมอ สำหรับราคาขายที่ตั้งไว้ก็ไม่แพงเพราะจำหน่ายอยู่ที่แพ็คละ 100 บาท ถ้าไม่หั่นจะได้น้ำหนักอยู่ที่ 180 กรัม แต่ถ้าหั่นแล้วจะอยู่ที่ 150 กรัม ส่วนลูกค้าที่มีการสั่งมาจำนวนมาก ๆ เช่น สั่งมา 1,000 บาท ก็จะทำให้ในลักษณะขายส่งคือได้ 12 แพ็ค ส่วนค่าส่งสินค้านั้นก็ขึ้นอยู่กับระยะทางของผุ้รับแต่ละแห่งว่าอยู่ใกล้ไกลขนาดไหนซึ่งในส่วนนี้ลูกค้าจะต้องจ่ายเพิ่มเติมเอง สำหรับใครที่สนใจสามารถติดต่อได้ทางเพจ Facebook หนังเค็มพ่อประนอม และแขก หนังเค็มนครพนม หรือจะติดต่อทาง LINE ID : Watthana3573 หรือจะติดต่อผ่านเบอร์ 063 023 2246 หรือเบอร์ 086 303 8495 ก็ได้เช่นเดียวกัน รับรองว่าจะไม่ผิดหวังกับหนังเค็มคุณภาพดีที่พร้อมส่งตรงถึงบ้านทุกคน


วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

นครพนม ยอดจองวัคซีนกลุ่มเป้าหมายร้อยละ 82.16 ปรับแผนเฝ้าระวังโควิดแนะนักเรียนนักศึกษาจากพื้นที่เสี่ยงมาก่อนล่วงหน้าเปิดเทอม

วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนมได้แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด – 19 ในพื้นที่ โดยในวันนี้จังหวัดนครพนมไม่พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้น เป็นวันที่ 3 แล้ว ทำให้ ณ ปัจจุบันมียอดสะสมอยู่ที่ 132 ราย รักษาหายแล้ว 109 ราย เสียชีวิต 2 ราย และอยู่ระหว่างการรักษา 21 ราย ขณะที่ยอดการจองเพื่อฉีดวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง มียอดผู้จองแล้วทั้งสิ้น 125,785 ราย คิดเป็นร้อยละ 82.16 ของกลุ่มเป้าหมาย โดยในกลุ่มประชาชนทั่วไป (18-59 ปี) จะเริ่มลงทะเบียนจองวัคซีนได้ปลายเดือนนี้

สำหรับการประชุมในวันนี้คณะกรรมการได้มีมติร่วมกันในการปรับมาตรการ คำสั่งจังหวัดในหลาย ๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าจังหวัดนครพนมที่ให้มีผลตั้งแต่วันนี้ 17 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง คือผู้ที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด รวม 21 จังหวัด ต้องรายงานตัวกับผู้นำชุมชน อสม. เจ้าหน้าที่ในพื้นที่และเข้ารับการตรวจคัดกรองพร้อมกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ยกเว้นกรณีที่มีการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ภายหลัง 2 สัปดาห์ไม่ต้องกักตัว แต่ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ใช้กับพื้นที่ควบคุม 56 จังหวัด ที่ต้องประเมินความเสี่ยงจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ขณะที่นักเรียนนักศึกษาที่กำลังจะเปิดภาคเรียนถ้ามาจากพื้นที่เสี่ยง 21 จังหวัดต้องมีการตรวจคัดกรองและกักตัวเป็นเวลา 14 วัน จึงจะเข้าสถานศึกษาได้ ดังนั้นจึงอยากให้นักเรียนนักศึกษามาก่อนล่วงหน้าที่จะมีการเปิดภาคเรียน



ในส่วนของคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงยังคงให้สนามชนไก่ สนามกัดปลา สนามมวย สถานที่สำหรับจัดให้มีการเล่นพนันทุกชนิด สถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะหรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน สวนสัตว์ สวนน้ำ สวนสนุกและสระว่ายน้ำยังคงให้ปิดเช่นเดิม ส่วนกิจกรรมที่ห้ามจัด คือ กิจกรรมสังคมที่มีการรวมกลุ่มกันมากกว่า 20 คน ไม่ว่าจะเป็น จัดแสดงคอนเสิร์ต ดนตรี หมอลํา รถแห่ รำวง การจัดประชุม อบรม สัมมนา งานเลี้ยง งานสังสรรค์ หรือกิจกรรมอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน ส่วนที่ให้เปิดได้แต่ต้องปฏิบัติตามแนวทางการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัส covid19 คือ ประเภทสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการให้เปิดทำการได้ แต่ห้ามเล่นดนตรี ห้ามบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน โรงภาพยนตร์ โรงละครร้านเกมส์ สถานบริการ internet cafe สนามกีฬา สถานที่ออกกำลังกาย คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ร้านพระเครื่องบูชา พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด สถานที่จัดนิทรรศการ ศูนย์แสดงสินค้าทุกประเภท ขณะที่ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มเปลี่ยนจากเดิมที่ให้เปิดไม่เกิน 21:00 น เป็นเปิดไม่เกิน 23:00 น ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าให้ปิดในเวลา 21:00 น ร้านสะดวกซื้อเปิดระหว่างเวลา 5.00 - 23.00 น.ร้านเสริมสวยตกแต่งผมจำกัดเวลาให้บริการรายละไม่เกิน 2 ชั่วโมงนั่งรอในร้านได้

วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานเครื่อง Oxygen High Flow แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด-19


ตามที่เกิดการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด – 19 ในประเทศไทย ซึ่งการระบาดในครั้งนี้ส่งผลเป็นวงกว้างทำให้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก หลายโรงพยาบาลขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะเครื่องออกซิเจน ไฮ โฟลว์ (Oxygen High Flow) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็น และสำคัญในการช่วยชีวิตผู้ป่วยภาวะหายใจล้มเหลว หรือมีภาวะพร่องออกซิเจน และเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้มากยิ่งขึ้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์นายกกิตติมศักดิ์และองค์ประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนาได้พระราชทานงบประมาณ จากกองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด – 19 (และโรคระบาดต่าง ๆ ) จัดซื้อเครื่องออกซิเจน ไฮ โฟลว์ (Oxygen High Flow) จำนวน 480 เครื่อง พระราชทานแก่โรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด – 19
โดยในวันนี้ 14 พฤษภาคม 2564 นายมนู ชัยวงศ์โรจน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารโรงพยาบาลได้พร้อมใจกันประกอบพิธีรับมอบเครื่องออกซิเจน ไฮ โฟลว์ (Oxygen High Flow) พระราชทาน ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนมได้รับพระราชทาน จำนวน 5 เครื่อง อย่างสมพระเกียรติ ก่อนที่จะนำไปใช้ในการดูแลผู้ป่วยวิกฤติและผู้ป่วยที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ยังความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนจังหวัดนครพนม

ทั้งนี้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เป็นโรงพยาบาลที่ก่อกำเนิดขึ้นด้วยปณิธานอันแน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบท ถิ่นทุรกันดารห่างไกล โดยรัฐบาลร่วมกับพสกนิกรชาวไทยได้แสดงออกซึ่งความจงรักภักดีร่วมกันบริจาคทรัพย์สินสมทบสร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชขึ้นมาเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นของขวัญแด่พระองค์ท่าน และเพื่อให้โรงพยาบาลที่จัดสร้างขึ้นสามารถให้บริการประชาชน ทหาร ตำรวจตลอดจนพลเรือน โดยเฉพาะผู้ด้วยโอกาสทางสังคม ผู้มีรายได้น้อย ผู้พิการและผู้สูงอายุได้ด้วยดีตลอดไปจึงได้นำทรัพย์สินที่ประชาชนร่วมกันบริจาคจัดตั้งเป็นมูลนิธิชื่อว่า มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โดยในวันที่ 20 กันยายน 2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางศิลาฤกษ์เพื่อความเป็นสิริมงคลในการก่อสร้าง กระทั้งแล้วเสร็จในวันที่ 10 สิงหาคม 2521 และได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2521 ปัจจุบันเป็นโรงพยาบาลขนาด 120 เตียง และในสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด – 19 ที่จังหวัดนครพนมมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสมรวม 132 ราย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนมได้รับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเข้าทำการรักษารวมทั้งสิ้น 28 ราย ซึ่งหายกลับบ้านแล้ว 22 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยทั่วไปที่มาเข้ารับบริการอีกประมาณวันละ 500 ราย

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

จ.นครพนม ฉีดวัคซีนแล้ว 7,384 ราย ไม่มีคนเสียชีวิต


วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนมร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด – 19 ในพื้นที่ โดยในวันนี้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้น 3 ราย รวมสะสม 127 ราย ขณะที่การรักษานั้นมีผู้ป่วยที่รักษาหายได้กลับบ้านเพิ่ม 4 ราย รวมสะสม 96 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตยังคงเท่าเดิมคือ 2 ราย โดยในวันนี้ 1แรก เป็นผู้ป่วยที่โดยสารรถตู้มาจากจังหวัดนนทบุรีร่วมกับเพื่อนที่เป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 124 โดยรายนี้มีประวัติทราบว่าหัวหน้างานติดโควิด – 19 เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ส่วนตัวเองเริ่มมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เมื่อวันที่ 3 พ.ค.กระทั้งวันที่ 10 พ.ค. ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาที่อำเภอศรีสงครามและได้กักตัวอยู่ที่เถียงนา เมื่อแพทย์ทราบว่าเพื่อนที่เดินทางมาด้วยกันและพักด้วยกันติดเชื้อจึงได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจและผลปรากฏว่าติดเชื้อเช่นเดียวกัน ขณะที่อีก 2 ราย เป็นสามีภรรยาชาวอำเภอนาแก มีอาชีพค้าขายอยู่ที่แฟลตเคหะบ่อนไก่ กทม. วันที่ 2 พ.ค.ทั้งคู่เริ่มมีอาการปวดศีรษะจึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ด้วยวิธี RT-PCR ซึ่งผลไม่พบเชื้อแต่ยังคงมีอาการปวดศีรษะอยู่ กระทั่งในวันที่ 8 พ.ค. ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด – 19 เข็มที่ 1 และในวันที่ 10 พ.ค. ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยรถยนต์ส่วนตัวและเข้ารับการตรวจหาเชื้อซึ่งผลปรากฏว่าติดเชื้อทั้งคู่ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 2 ราย คือป้าและหลานที่เดินทางกลับมาด้วย โดยเคสนี้เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษา เพราะช่วงแรกที่ทั้งคู่ตรวจไม่พบเชื้อแต่มีอาการปวดศีรษะ จากนั้นได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 ซึ่งในเวลาต่อมาได้เดินทางกลับภูมิลำเนาและเข้าตรวจหาเชื้อปรากฎว่าทั้งคู่ติดเชื้อ แต่ปรากฏว่าสามีกลับไม่มีอาการอะไร ขณะที่ภรรยามีอาการแต่ไม่รุนแรง

อย่างไรก็ดีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนมได้ยืนยันว่าการฉีดวัคซีนนั้นเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อโรค ช่วยลดอัตราความรุนแรงของโรคลงได้ ทั้งยังลดการเสียชีวิตจากโรคได้ 100 % ส่วนที่มีความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงนั้น เท่าที่จังหวัดนครพนมมีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 7,384 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่มี 2 ราย ที่อาการแขนขาอ่อนแรงในวันแรก ซึ่งทีมแพทย์ก็ได้ดูแลอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันทั้งคู่สามารถกลับมาทำงานได้เป็นปกติทุกอย่าง จึงขอให้มั่นใจได้ว่าวัคซีนโควิดไม่ได้อันตรายอย่างที่หลายคนเข้าใจ ทั้งนี้ในการฉีดแต่ละครั้งผู้ที่เข้ารับบริการจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองร่างกายจากทีมแพทย์ก่อนจึงจะเข้ารับวัคซีนได้ เมื่อฉีดแล้วก็ต้องรอดูอาการข้างเคียงอีกอย่างน้อย 30 นาที จากนั้นจึงเข้าตรวจร่างกายอีกครั้ง ซึ่งถ้าไม่มีผลข้างเคียงจริงๆ แพทย์จึงจะให้กลับบ้านได้ โดยระหว่างที่รอครบกำหนดฉีดเข็มที่ 2 ก็จะมีการติดตามอาการที่ฉีดเข็มแรกอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองได้เข้ารับการฉีดวัคซีนพร้อมกับบุคคลากรทางการแพทย์จนครบทั้ง 2 เข็มแล้ว ซึ่งก็ไม่มีอาการข้างเคียงอะไร มีเพียงอาการตื่นเต้นในช่วงแรกที่ฉีดเท่านั้น จึงอยากให้ประชาชนทุกคนได้รับวัคซีนเช่นเดียวกัน เพราะวัคซีนจะเป็นเกราะป้องกันโรคให้กับทุกคน โดยในวันนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ได้เปิดจองสิทธิ์เข้ารับวัคซีน ได้ 5 ช่องทาง คือลงผ่าน Application Line OA หมอพร้อม หรือ NPM-Covid-19 ติดต่อ รพ.สต.ในพื้นที่ หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน สายด่วนวัคซีน Hotline ของแต่ละโรงพยาบาล รถเคลื่อนที่ Mobile Vaccine Unit ที่จะออกให้บริการในชุมชนต่าง ๆ และลงทะเบียนโดยตรงกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชน

วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

จ.นครพนม ประสาน Tops Supermarket รับซื้อสับปะรด GI ช่วยเกษตรกรชาวสวน

วันที่ 12 พฤษภาคม 2554 ที่จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เรียกประชุมด่วนคณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัด (เซลล์แมนจังหวัด) เพื่อหารือวางแผนร่วมกับตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดอำเภอท่าอุเทนและอำเภอโพนสวรรค์ ในการช่วยเหลือชาวสวนสับปะรดหวานทั้ง 2 อำเภอที่ในช่วงนี้มีผลผลิตออกสู่ท้องตลาดในปริมาณที่มากตามฤดูกาล ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่ทำให้อาจจำหน่ายในพื้นที่ได้น้อย ซึ่งจะส่งผลต่อราคาที่ลดลงตามกลไกของตลาด อีกทั้งเป็นการป้องกันผลผลิตที่อาจจะได้รับความเสียหายหากเวลาผ่านไปนานกว่านี้

โดยในการหารือครั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้เน้นย้ำกับคณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัด (เซลล์แมนจังหวัด) และตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดอำเภอท่าอุเทนและอำเภอโพนสวรรค์ ว่าอยากให้ราคาสินค้าดังกล่าวถึงเกษตรกรผู้ปลูกจริง ๆ ไม่อยากให้ทุกอย่างไปตกอยู่ที่พ่อค้าคนกลาง เพราะฉะนั้นจะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีทั้งระบบ ทั้งในเรื่องการกระจายจำนวนการรับซื้อที่ทั่วถึงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม การนำเงินส่งต่อยังตัวเกษตรกรที่ต้องเปิดบัญชีในลักษณะกลุ่มเกษตรกรไม่ใช่เปิดบัญชีในนามห้างหุ่นส่วนจำกัดที่เป็นของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยเบื้องต้นได้มีการประสาน Tops Supermarket ในการรับซื้อสับปะรดเพื่อไปวางจำหน่ายให้แล้ว ซึ่งทางห้างจะรับซื้อจำนวน 50 ตัน ในราคาลูกละ 15 บาทแต่ต้องคัดขนาดอยู่ระหว่าง 1.3-1.5 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้พานิชย์จังหวัดนครพนมประสานส่วนราชการ ห้างร้านและเครือข่ายเพื่อรับซื้อส่วนที่เหลือเพิ่มเติม รวมถึงการส่งมอบสินค้าในรูปแบบต่าง ๆ เช่นในต่างจังหวัดที่จะให้ไปรษณีย์ไทยเป็นผู้กระจายสินค้า ในส่วนของช่องทางการจำหน่ายเดิมที่กลุ่มเกษตรกรกำลังดำเนินอยู่ ที่ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทร 064 – 3667223, 098-1707112, 080-1800015 และการส่งโรงงานที่ชลบุรีก็ให้คงไว้เช่นเดิม รวมถึงในส่วนของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ เช่น การเปิดช่องทางออนไลน์จำหน่ายผ่านทางเพจ facebook ตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ จังหวัดนครพนม และการไปรับมาจำหน่ายช่วย

ทั้งนี้สับปะรดที่เกษตรกรอำเภอท่าอุเทนและอำเภอโพนสวรรค์ปลูก เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดนครพนม ที่ได้รับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากกรมทรัพย์สินปัญญาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 โดยเป็นสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียสายน้ำผึ้ง ซึ่งได้มีการนําต้นพันธุ์มาจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยลักษณะต้นพันธุ์มีรสเปรี้ยวแต่เมื่อเจอสภาพอากาศและสภาพดินในพื้นที่ทำให้สับปะรดกลายพันธุ์ มีรสหวานฉ่ำที่ในช่วงนี้จะมีค่าความหวานสูงถึง 18 บริกซ์ นอกจากนี้ยังมีเนื้อละเอียดแน่นสีเหลืองเข้ม ตาตื้น มีกลิ่นหอม ไม่กัดลิ้น ไม่ระคายคอ และแกนหวานกรอบรับประทานได้เช่นเดียวกับเนื้อแตกต่างไปจากพันธุ์เดิม โดยในปี 2564 นี้มีเกษตรกรปลูกสับปะรดทั้งสิ้น 5,500 ไร่ แบ่งเป็นอำเภอท่าอุเทน 4,000 ไร่ และอำเภอโพนสวรรค์ 1,500 ไร่


นรข. บูรณาการหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ตรวจยึดกัญชา 188 กก.

วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ที่สโมสรทหารสัญญาบัตร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง นครพนม น.อ.ฤทธิ์ นาทวงษ์ ผบ.นรข.เขตนครพนม พร้อมด้วย พ.อ.วิทธิพงศ์ อรรคคำ รอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พ.ต.อ.จตุรงค์ มหิทธิโชติ ผกก.สส.ภ.จว.นครพนม พ.ต.ท.อัศรายุทธ ทองลอง สว.ส.รน.กก.10 บก.รน. ตำรวจน้ำนครพนม นายประพันธ์ศักดิ์ บุตรรัตต์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารปกครอง และนายจักรพงศ์ เที่ยงภักดิ์ ปลัดอำเภองานป้องกัน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดกัญชาจำนวน 188 แท่ง/กิโลกรัม ภายหลังชาวบ้านแจ้งว่าจะมีขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่


จากเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 นรข.เขตนครพนม ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าจะมีการลักลอบลำเลียงและซุกซ่อนยาเสพติดบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงด้านตอนท้ายเมืองลงไปในตำบลท่าค้อ อำเภอเมืองนครพนม จึงได้มีการรายงานผู้บังคับบัญชาและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันวางแผน โดย น.ท.วรภัทร แสงสุวรรณ หัวหน้า สน.เรือเขตนครพนม ได้นำกำลังพลร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองนครพนมลาดตระเวนและซุ่มตรวจการณ์ ทั้งทางบกและทางน้ำ ซึ่งใช้อยู่ 2 วัน กระทั้งเช้าวันนี้ เวลาประมาณ 5.45 น. ในขณะที่ชุดลาดตระเวนทางบกเดินลาดตระเวนริมฝั่งแม่น้ำโขงก็ได้ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยเป็นกระสอบสีดำ จำนวน 4 กระสอบวางอยู่ใกล้กับสวนสมุนไพรบ้านท่าค้อ จึงได้มีการส่งสัญญาณและวางกำลังซุ่มอยู่บริเวณดังกล่าวจนเวลาผ่านไป 4 ชั่วโมงก็ไม่มีผู้ใดเข้ามาในพื้นที่ที่มีวัตถุต้องสงสัยวางเจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจเข้าทำการตรวจสอบ ขณะเดียวกันชุดลาดตระเวนทางน้ำก็ได้ตรวจพบกระสอบสีดำลอยอยู่ในน้ำในบริเวณใกล้เคียงกันอีก 1 กระสอบ เจ้าหน้าที่จึงได้นำของกลางทั้งหมดมารวมกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าวัตถุภายในกระสอบเป็นยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 (กัญชา) จำนวน 188 แท่ง/กิโลกรัม จึงได้ร่วมกันทำบันทึกตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมนำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อติดตามสืบสวนสอบสวนหาขบวนการผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จ.นครพนม ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย แนะประชาชนสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนทั้งจังหวัด

วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และนายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ได้ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด – 19 ในพื้นที่หลังก่อนหน้านี้ 3 วัน จังหวัดนครพนมไม่พบผู้ติดเชื้อ โดยในวันนี้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1 ราย เป็นชาวอำเภอศรีสงคราม เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงจังหวัดนนทบุรีเริ่มมีอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 กระทั้งวันที่ 10 ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยรถตู้โดยสาร ซึ่งระหว่างเดินทางมีทั้งการสวมแมสและไม่สวมแมส ทำให้ผู้ที่โดยสารร่วมมาด้วย 16 ราย กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงโดยปัจจุบันจังหวัดนครพนมมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 124 ราย ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหายได้กลับบ้านวันนี้มี 7 ราย รวมสะสม 92 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตยังคงเท่าเดิมคือ 2 ราย

โดยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่เป็นอยู่ในขณะนี้คาดว่ายังคงต้องใช้เวลาอีกนาน และถ้าอยากให้สถานการณ์สงบลงเร็ว คือต้องมีการปฏิบัติการตรวจเชิงรุกเพื่อควานหาตัวผู้ป่วย แยกคนมีเชื้อออกจากคนปกติและทำการรักษาไม่รอให้พบผู้ป่วยแล้วนำตัวมารักษา ซึ่งในส่วนนี้จังหวัดนครพนมดำเนินการแล้ว อย่างที่สองที่ต้องทำควบคู่กันไปก็คือการฉีดวัคซีน โดยการฉีดในช่วงแรกนั้นจะเป็นการฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้าเพื่อให้บุคลากรกลุ่มนี้ที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อมีภูมิคุ้มกัน และในช่วงพฤษภาคมถึงมิถุนายนทางรัฐบาลก็มีเป้าหมายเนื่องจากตัวเลขที่ผ่าน ๆ มาคนที่นอนโรงพยาบาลและคนที่มีอาการรุนแรง รวมทั้งคนที่เสียชีวิต โดยส่วนใหญ่เกิดจากคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และคนที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง เพราะฉะนั้นในระยะที่ 2 จึงเป็นการฉีดวัคซีนให้กับให้บุคคลเหล่านี้ ส่วนของประชาชนทั่วไปจะเป็นหลังจากมิถุนายนเป็นต้นไป ซึ่งในบุคลากรด่านหน้านั้นจะได้รับในส่วนของวัคซีน Sinovac แต่ประชาชนทั่วไปของนครพนมตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนจะได้ในส่วนของวัคซีน astrazeneca และในช่วงปลายปีประชาชนอาจจะมีทางเลือกเกี่ยวกับวัคซีนมากขึ้น อย่างไรก็ตามเชื้อไวรัสโควิด – 19 คงไม่รอให้เราฉีดก่อนค่อยมา เพราะฉะนั้นคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม จึงอยากให้ประชาชนทุกคนที่มีโอกาสได้เข้ารับการฉีดเร็วที่สุด ซึ่งจากการทดลองวัคซีน Sinovac มีประสิทธิภาพ 50 - 60 % แต่ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ตัวเลขล่าสุดของประเทศอินโดนีเซียสามารถป้องกันการติดเชื้อได้มากถึง 94 % เพราะฉะนั้นไม่ว่าวัคซีนยี่ห้ออะไรก็มีคุณสมบัติป้องกันการเสียชีวิตได้ 100 % แม้บางรายอาจจะมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ซึ่งเป็นส่วนน้อย โดยของนครพนมก็มีคนที่มีอาการข้างเคียงเช่นกัน คือแขนขาอ่อนแรง แต่ตอนนี้ทั้ง 2 ราย หายเป็นปกติแล้ว ดังนั้นถ้าทุกคนชั่งผลของวัคซีนกับโอกาสที่จะติดเชื้อที่เมื่อติดแล้วมารักษาช้าเกิน 6 วันมีโอกาสเสียชีวิตมากถึง 25 % จึงอยากให้ทุกคนได้เห็นถึงความสำคัญของตรงนี้เพราะถ้าฉีดถึง 5 แสนคน นั้นหมายถึงประชาชนจังหวัดนครพนมจะไปไหนมาไหนได้อย่างสบายใจ ระบบเศรษฐกิจจะดีขึ้น สำหรับการลงทะเบียนจองวัคซีนนั้นมีให้เลือกได้หลายช่องทางตามความสะดวกไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนผ่าน Line หมอพร้อม ผ่าน Application หมอพร้อม หรือจะแจ้งประสาน อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไปจนถึงการติดต่อด้วยตนเองที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือ รพ.สต. นอกจากนี้จังหวัดนครพนมก็ยังมีรถ Vaccine Mobile Unit ออกให้บริการรับลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ตามอำเภอต่าง ๆ เพิ่มเติมให้ด้วย

วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

จ.นครพนม เดินหน้ามาตรการเคาะประตูบ้านพีอาร์เชิงรุก รับลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด -19

วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ที่อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นำคณะผู้บริหารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนมลงพื้นที่ร่วมประชุมวางแผนการดำเนินงานในการบริหารจัดการวัคซีนและชี้แจงการให้บริการรับลงทะเบียนจองสิทธิ์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด - 19 แก่บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลท่าอุเทน สาธารณสุขอำเภอท่าอุเทน และตัวแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งจะมีการลงพื้นที่เคาะประตูบ้านปฏิบัติการเชิงรุก อธิบายถึงสถานการณ์การแพร่ระบาด ความจำเป็น ขั้นตอนการเข้ารับวัคซีน การเฝ้าระวังหลังฉีด 30 นาทีแรกและการเฝ้าระวังหลังกลับบ้าน รวมถึงประโยชน์ที่ประชาชนได้รับจากการฉีดวัคซีนที่จำทำให้มีผู้ป่วยเป็นโรคน้อยลง ความรุนแรงของโรคลง ลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค ลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ทำให้ระบบสาธารณสุขดีขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น ทำให้ทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่กลับคืนสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น

โดยภายหลังการประชุมคณะเจ้าหน้าที่ได้แยกย้ายกันนำรถรับลงทะเบียนวัคซีนเคลื่อนที่ Vaccine Mobile Unit ออกปฏิบัติการประชาสัมพันธ์ประกาศเชิญชวนประชาชนชาวนครพนมทันที พร้อมกับมีการตั้งโต๊ะรับลงทะเบียนจองสิทธิ์ให้กับผู้ที่สมัครใจ ทั้งนี้นอกจากการลงทะเบียนด้วยการเคาะประตูบ้านแบบนี้แล้ว ประชาชนที่สนใจยังสามารถลงทะเบียนผ่านทางทาง Line QA หรือ Application “หมอพร้อม” หรือจะติดต่อด้วยตนเองที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือ รพ.สต. ในพื้นที่ หรือแจ้งประสาน อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านก็ได้เช่นเดียวกัน หรือจะไปลงทะเบียนจองสิทธิ์กับรถรับลงทะเบียนวัคซีนเคลื่อนที่ ณ จุดให้บริการของแต่ละอำเภอก็ได้ ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วยข้อมูลโควิด – 19 จังหวัดนครพนม โทร 082-8498155 และ 061-0192999

สำหรับการฉีดวัคซีนนั้นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ประกอบด้วย คือโรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคอ้วน จะเริ่มฉีด ในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ส่วนกลุ่มประชาชนทั่วไป (อายุ 18-59 ปี) จะสามารถลงทะเบียนจองสิทธิ์ได้ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะเริ่มฉีดวัคซีนในเดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นไป