วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

คณะกรรมการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่นครพนม ประเมิน อสม.ดีเด่น ระดับชาติ

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 นายพูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นประธานนำคณะกรรมการคัดเลือก อสม.ดีเด่น ระดับชาติ ประจำปี 2562 ซึ่งประกอบด้วย นายสังคม วิทยนันทน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ ๑ จังหวัดเชียงใหม่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายสาโรจน์ ยอดประดิษฐ์ นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ ด้านคุ้มครองผู้บริโภค และนายปัญญาวุฒิ บูรกรณ์ คณะกรรมการชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและประเมินผลการดำเนินงานการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ ของนายวิฑูรย์ แก้วแก่น อสม.ดีเด่นระดับภาค ประจำปี 2562 โดยมีนายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายแพทย์จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม พร้อมภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนร่วมให้การต้อนรับและร่วมรับฟังการนำเสนอ ณ บ้านเลขที่ 41 หมู่ที่ 6 ตำบลไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม

จากที่กระทรวงสาธารณสุขได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของ อสม. ในการพัฒนางานสาธารณสุขในระดับพื้นที่ที่ได้เสียสละเวลาและแรงกายแรงใจในการปฏิบัติหน้าที่สร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้กับประชาชนในชุมชน และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจและเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ อสม. คณะรัฐมนตรีจึงได้อนุมัติและกำหนดให้วันที่ 20 มีนาคมของทุกปีเป็นวัน อสม.แห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2537 ซึ่งในทุก ๆ ปี จะมีการคัดเลือก อสม.ที่มีผลงานดีเด่น จำนวน 11 สาขาทั่วประเทศเข้ารับโล่รางวัล โดยในปีนี้นายวิฑูรย์ แก้วแก่น ได้เป็นตัวแทน อสม.จังหวัดนครพนมส่งผลงานเข้าแข่งขันในระดับภาค ซึ่งสามารถผ่านการคัดเลือกเป็นตัวแทนระดับภาคเข้าแข่งขันในระดับประเทศในสาขาการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ ด้วยผลงานการเป็นผู้นำในการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพตำบลไผ่ล้อม ผ่านการขับเคลื่อนกิจกรรม 5 ส. 5 ร. คือ เสียสละ สมาชิก ส่วนร่วม สื่อสาร สนับสนุน ร่วมรับรู้ ร่วมวางแผน ร่วมกันทำ ร่วมรับผลประโยชน์ และร่วมรักษาอย่างยั่งยืน ที่เริ่มตั้งแต่งานสารวัตรอาหารประจำหมู่บ้าน เป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ชีวิตที่มั่นดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว สร้างการรับรู้และเข้าใจให้คนในชุมชนได้รู้เท่าทันการโฆษณาชวนเชื่อ การใช้ยาเกินขนาด การจำหน่ายยาห้ามขายและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ปลอดภัยในร้านชำ รถเร่ขายยา มีการสร้างเครือข่ายในการดำเนินงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชนและคนในชุมชน จนมีธรรมนูญสุขภาพประชาชนตำบลไผ่ล้อมที่ทุกคนต้องปฏิบัติร่วมกัน โดยมีศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคและระบบการเฝ้าระวัง ตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพ สินค้าอุปโภค บริโภคที่จำหน่ายในชุมชนและโรงเรียน คอยตรวจสอบ ให้คำปรึกษา แนะนำ รับเรื่องร้องเรียน รวมถึงส่งเสริมและพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ เครือข่ายสายรู้-สายลับ ที่ร่วมประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ผ่านบทสรภัญญ์และผญา รวมถึงการเฝ้าระวังในชุมชน จนมีนวัตกรรม เรดาร์ตรวจจับรับ 6 ไลค์ ที่เป็นเสมือนเครื่องหมายเตือนให้คนในชุมชนได้รู้เท่าทันของพิษภัยด้านสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีการสร้างกลุ่มนำหมักชีวภาพเพื่อลดการใช้ยาปราบศัตรูพืชและสารเคมี กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ที่ทำให้ทุกบ้านมีการปลูกผักปลอดสารพิษไว้รับประทาน และการขยายผลการดำเนินงานสู่ชุมชนอื่นๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น