วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 ที่จังหวัดนครพนม
นายเอนก รัตน์รองใต้ เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในอดีตเกษตรกรส่วนใหญ่พอเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ก็จะมีการเผาต่อซังข้าว หรือบางรายก็ปล่อยทิ้งไว้ เมื่อมีคนไปเผาหญ้าที่อยู่ใกล้เคียงกับบริเวณนั้นก็เกิดการลุกลามไปทั่วพื้นที่
ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้มีการรณรงค์ส่งเสริม
และสร้างความเข้าใจ ตลอดจนทำให้ทุกคนได้เข้าใจถึงความสำคัญของวัสดุทางการเกษตรที่เหลือใช้และนำกลับมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่นอีก
เช่น การไถกลบตอซังข้าวเพื่อให้ย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยบำรุงดิน ทำให้ทุกคนลดรายจ่ายในฤดูกาลผลิตครั้งต่อไป
ขณะเดียวกันก็สามารถนำไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้อีก เช่นกลุ่มเกษตรกรบ้านนกเหาะ หมู่ที่
8 ตำบลโคกสูง อำเภอปลาปาก ที่ได้นำเอาองค์ความรู้ในด้านการเพาะเห็ด มาใช้กับตอซังข้าวผลิตเห็ดขายสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวเป็นอย่างดี
นายนิรันดร์ ทศราช
ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเห็ดบ้านนกเหาะ เปิดเผยว่า
ที่มาของการนำตอซังข้าวมาทำก้อนเชื้อเพาะเห็ดนั้น เกิดจากที่เดิมพากันใช้ขี้เลื้อยมาทำแล้วมีราคาสูง
ประกอบกับทางหน่วยงานได้มาให้ความรู้ถึงผลกระทบที่เกิดจากการเผาตอซัง
ทำให้คนในชุมชนเกิดความคิดว่าจะเอาตอซังข้าวหลังการเก็บเกี่ยวมาใช้ประโยชน์ในส่วนนี้แทนขี้เลื้อย
ซึ่งนอกจากจะไม่มีค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบแล้ว ยังทำให้ทุกคนมีรายได้เช่นดังเดิมอีกด้วย
โดยทุกคนจะช่วยกันนำตอซังข้าวในแปลงนาของตนเองมารวมกลุ่มกันผลิตเป็นก้อนเชื้อเพาะเห็ด
เพื่อเก็บในโรงเรือนที่ร่วมกันสร้างประมาณ 4,300 ก้อนต่อ 1 โรงเรือน หลังจากนั้นก็ช่วยกันดูแล
รดน้ำเช้าเย็นถ้าวันไหนร้อนจัดก็จะรดตอนเที่ยงเพิ่มเติม พอเห็ดออกดอกก็จะมาช่วยกันเก็บขาย
ซึ่งจะมีพ่อค้าคนกลางมารับถึงที่ในราคากิโลกรัมละ 60 บาท บางวันในกลุ่มก็จะออกขายกันเองตามชุมชนซึ่งจะได้ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ
80 บาท แต่ละวันเกษตรกรภายในกลุ่มที่มีอยู่ประมาณ 40 คนจะมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่
150 - 200 บาทต่อคน ก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ดีเพราะผลัดเปลี่ยนเวรกันมาดูแลก้อนเห็ดและรดน้ำวันละไม่ถึง
2 ชั่วโมงแต่มีรายได้ทุกวัน โดยก้อนเชื้อเห็ดที่ทำในแต่ละครั้งนั้นจะมีอายุนานถึง
4 เดือนให้ได้เก็บเกี่ยวรายได้ในส่วนนี้ ส่วนเวลาที่เหลือทุกคนก็สามารถไปประกอบอาชีพอย่างอื่นได้อีก
ไม่ว่าจะเป็นการปลูกพืชใช้น้ำน้อยและรับจ้างทั่วไป ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ทำให้ทุกคนรู้จักการบริหารจัดการร่วมกัน
เกิดความรัก ความสามัคคีของคนในชุมชนอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น