วันที่ 16 เมษายน 2562
ที่บริเวณสถานีขนส่งจังหวัดนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม
บรรยากาศการเดินทางกลับของประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยว ที่ได้เดินทางมาเยือนจังหวัดนครพนมเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
โดยในวันนี้ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดนครพนม ได้มีการคาดการว่าจะมีปริมาณประชาชนมาใช้บริการรถโดยสารสาธารณะจะมากกว่าวันปกติ
ดังนั้นเพื่อให้รถโดยสารมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน จึงได้จัดเที่ยวรถโดยสารเพิ่มเติมอีกจำนวน
17 เที่ยว ทำให้ตลอดทั้งวันจะมีเที่ยวรถทั้งสิ้น 31 เที่ยว
ส่วนด้านมาตรฐานความปลอดภัยนั้นหน่วยงานต่าง
ๆ ได้บูรณางานร่วมกัน ตั้งแต่ รถโดยสารทุกคันที่จะให้บริการจะต้องมีการติดระบบ GPS ทุกคัน
เพื่อให้สามารถตรวจสอบและติดตามรถจนถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
รวมถึงมีการตรวจสมรรถภาพของรถทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเช็คลมยาง สภาพยาง
สภาพโดยรอบตัวรถ ไฟเตือน ไฟฉุกเฉิน สภาพเบาะนั่ง สายรัดนิรภัย ประตูนิรภัย
อุปกรณ์ป้องกันและระงับเหตุฉุกเฉินภายในรถ เช่น อุปกรณ์ดับเพลิง ค้อนทุบกระจก ประตูฉุกเฉิน
ที่เมื่อเกิดเหตุสามารถนำเครื่องมือเหล่านี้มาใช้ได้ทันที
รวมถึงการตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ
ที่จะต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ ไม่มีสารเสพติดในร่างกาย
มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะมาใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ
ว่าจะได้รับความปลอดภัยตลอดการเดินทาง
ขณะเดียวกัน นายสยาม ศิริมงคล
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ก็ได้นำคณะจิตอาสา พร้อมด้วยคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครพนม
มาให้บริการประชาชนระหว่างนั่งรอรถออกจากสถานี ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย สอบถามการเกี่ยวกับการเดินทาง
การให้คำแนะนำในส่วนต่าง ๆ รวมถึงการแจกผ้าเย็นคลายร้อนและน้ำดื่ม โดยในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมยังได้แจ้งเตือนไปยังประชาชนที่มาใช้บริการรถโดยสารสาธารณะด้วยว่า
ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจความพร้อมของรถ และผู้ขับขี่อย่างดีแล้ว เมื่อทุกคนขึ้นรถก็อย่าลืมใช้เข็มขัดนิรภัยด้วย
เพราะถ้ามีเหตุฉุกเฉินจะเป็นเครื่องมือในการป้องกันตนเองได้เป็นอย่างดี รวมถึงหากพบเห็นพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
หรือถูกเอารัดเอาเปรียบ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1584 ตลอดเวลา
จะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและหากพบการกระทำผิดจริง จะมีการลงโทษตามกฎหมายทันที
ส่วนผู้ที่ใช้รถใช้ถนนก็ขอให้เพิ่มความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎจราจรด้วย
ถ้าเหนื่อยล้าก็ขอให้หยุดพักตามจุดตรวจ จุดบริการที่หน่วยงานราชการจัดไว้รองรับ
หรือตามปั๊มน้ำมันที่มีอยู่ตลอดเส้นทางก็ได้เช่นเดียวกัน ยอมเสียเวลาสักนิด
เพื่อชีวิตและความปลอดภัยของทุกคน


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น