วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

จ.นครพนม จัดงาน การผลิตลิ้นจี่ นพ.1 ปลอดภัย พืช GI นครพนม สร้างอนาคตใหม่ให้เกษตรกร


วันที่ 1 พฤษภาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ลิ้นจี่ นพ.1 นั้น เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดนครพนม ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา โดยได้ตราสัญลักษณ์ GI ไทย เพื่อรับรองถึงแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ ด้วยมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ คือ มีผลขนาดใหญ่ เปลือกสีแดงอมชมพู รูปทรงเหมือนไข่ เนื้อผลแห้งสีขาวขุ่น รสชาติหวานอมเปรี้ยว ไม่มีรสฝาด ที่สำคัญอีกอย่างคือ ผู้ผลิตผ่านการตรวจสอบระบบควบคุมภายใน ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพของสินค้า สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งกำเนิดของวัตถุดิบได้ จึงทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดผลไม้ ทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านการตลาด เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกทั้งเป็นการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรและประชาชนทั่วไป ได้ทราบถึงแนวทางในการพัฒนา และการส่งเสริมการผลิตลิ้นจี่ นพ.1 ให้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น จังหวัดนครพนม โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม จึงได้จัดงานวันรณรงค์การผลิตลิ้นจี่ นพ.1 ปลอดภัย พืช GI นครพนม ขึ้น ที่บริเวณแปลงลิ้นจี่ของนางรัศมี อุทาวงษ์ บ้านขามเฒ่า หมู่ที่ 2 ตำบลขามเฒ่า อำเภอเมืองนครพนม

ด้านนายเอนก รัตน์รองใต้ เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า กิจกรรมในครั้งนี้เกษตรกรและประชาชนที่เข้าร่วมกว่า 200 คน จะได้รับความรู้เกี่ยวกับดินที่เหมาะในการเพาะปลูกลิ้นจี้ นพ.1 วิธีการการปรับปรุงดินให้เหมาะสม การขยายพันธุ์ลิ้นจี่ การป้องกันและการกำจัดศัตรูลิ้นจี่ รวมไปถึงการเก็บเกี่ยว การแปรรูป และการทำการตลาด ผ่านทางสถานีเรียนรู้ 4 ฐาน ที่ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนมและภาคีเครือข่ายจัดขึ้น นอกจากนี้ยังจะได้ทราบถึงแนวทางในการพัฒนาและการจำหน่ายลิ้นจี่ นพ.1 ในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ตามแนวทางที่ส่วนราชการ เกษตรกรและภาคเอกชน ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อพัฒนาให้ลิ้นจี่ นพ.1 เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น และก้าวสู่ตลาดอาเซียนได้อย่างยั่งยืน และแม้นว่าในปีนี้สภาพอากาศในจังหวัดนครพนมจะไม่เอื้ออำนวยต่อผลผลิตมากนัก ทำให้ลิ้นจี่ นพ. 1 มีผลผลิตน้อยกว่าปีที่ผ่านมาเป็นจำนวนมาก เกษตรกรไม่สามารถส่งผลผลิตออกต่างประเทศได้ แม้มีออเดอร์รองรับก็ตาม อย่างไรก็ดีราคาลิ้นจี่ก็ผกผันสวนทางกับผลผลิต โดยราคาขยับสูงขึ้นอีก 1 เท่าตัว อยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท ขณะเดียวทางสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ก็ได้เล็งเห็นถึงโอกาสที่จะเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ เพราะมีประชาชนในหลายพื้นที่ สนใจหากิ่งพันธุ์ ลิ้นจี่ นพ.1 ไปปลูก จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ถ่ายทอดความรู้ เกี่ยวกับการตอนกิ่งพันธุ์ วิธีการปฐมพยาบาลและดูแลกิ่งพันธุ์ เพื่อให้เกษตรกรได้นำไปสร้างรายได้เพิ่มในส่วนนี้จากแปลงลิ้นจี่ของตนเองด้วย
        

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น