วันที่ 2 พฤษภาคม 2562 ที่อำเภอท่าอุเทน
จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มอบหมายให้
ว่าที่ร้อยตรี ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน
บูรณาการงานร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดินอำเภอท่าอุเทน
ด่านศุลกากรหวัดนครพนม กรมเจ้าท่า หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง
ตำรวจน้ำนครพนม
กองกำลังตำรวจตะเวนชายแดนที่ 237 สถานีตำรวจภูธรท่าอุเทน
ปกครองอำเภอท่าอุเทน และนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าอุเทน ลงพื้นที่ตรวจท่าทรายหลังมีเรื่องร้องเรียนท่าทรายกระทำตามกฎหมาย
ว่าที่ร้อยตรี ภูมิศักดิ์ ขำปู่
นายอำเภอท่าอุเทน เปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอเรียนชี้แจงว่า จากภาพข่าวที่นายกเทศมนตรีตำบลท่าอุเทนได้ให้ข่าวไป
มีประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ 3 ประเด็น คือในส่วนของเทศบาลหรือท้องถิ่นไม่มีอำนาจในการร่วมพิจารณาการดูดทราย
ขอเรียนชี้แจงว่าในขั้นต้นที่ผู้ประกอบการยื่นเรื่องเทศบาลอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องแต่หลังจากนั้นคณะกรรมการระดับอำเภอจะมีการเชิญหน่วยงานต่าง
ๆ ลงพื้นที่ตรวจสอบในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความเห็น ก่อนที่จะเสนอคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด
เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบและพิจารณาอีกครั้ง ก่อนที่จะส่งให้ระดับกระทรวงตรวจสอบและพิจารณา
ซึ่งจากข้อสังเกตของผู้บริหารท้องถิ่นอาจจะมองว่าทำไมท้องถิ่นไม่มีอำนาจในการพิจารณาหรือมีอำนาจค่อนข้างน้อย
จึงขอเรียนว่าแต่ละหน่วยก็มีอำนาจที่แตกต่างกันออกไปตามบทบาทหน้าที่ แต่กฎหมายแต่ละส่วนจะเชื่อมโยงถึงกันหมด
ทั้งนี้ทั้งนั้นอำนาจในการตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เพื่ออนุมัติได้เลย
ซึ่งทางอำเภอพยายามให้ทุกส่วนพิจารณาในทุกมิติที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกัน
ประเด็นต่อมาคือการเก็บค่าธรรมเนียมในการดูดทราย
ซึ่งในทางปฏิบัติที่เกิดขึ้น พบว่าผู้ประกอบการบางรายไม่จ่ายค่าธรรมเนียมให้กับทางเทศบาลตำบลท่าอุเทน
โดยอ้างว่าไม่มีกำไรในการประกอบการ ซึ่งในส่วนนี้ได้นำเรียนกับนายกเทศมนตรีตำบลอุเทน
ว่าสามารถที่จะฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายได้ รวมถึงให้รายงานผ่านมาทางอำเภอและจังหวัดเพื่อให้เพิกถอนใบอนุญาตเนื่องจากไม่จ่ายค่าธรรมเนียม
ซึ่งทางเทศบาลตำบลท่าอุเทนก็เข้าใจและจะเร่งดำเนินการในส่วนนี้ต่อไป
ประเด็นต่อมาคือเรื่องของการอนุญาตดูดทราย ที่มีอยู่ 3 มิติด้วยกัน คือผู้ประกอบการได้รับใบอนุญาตมาแล้ว
โดยมีอายุ 1 ปี กฎหมายกำหนดว่าให้ยื่นต่อใบอนุญาตภายใน 90 วันก่อนที่ใบอนุญาตจะหมดอายุ
ถ้าผู้ประกอบการปฏิบัติตามและคณะกรรมการระดับกระทรวงยังไม่แจ้งมาให้ถือว่าสามารถดูดทรายได้
แต่ถ้ายื่นต่อใบอนุญาตเกิน 90 วัน กฎหมายกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดูดทราย ปี 2546 ถือว่าสิ้นสุดแล้วไม่สามารถดูดทรายได้
ส่วนกรณีที่ไม่ได้ขออนุญาตเลยหรืออยู่ระหว่างการขออนุญาตใหม่ ไม่สามารถดูดทรายได้เช่นเดียวกับคนที่ไม่ขออนุญาตในห่วงกำหนดเวลา
ทั้งนี้ทางจังหวัดได้มีการแต่งตั้งคณะทำงาน
ตามคำสั่งที่ 97/2557 ประกาศลงวันที่ 29 เมษายน 2557 จำนวน 3 ชุด ประกอบไปด้วยคณะทำงานว่าด้วยการวางแผนมาตรการในการเฝ้าระวัง
ทำหน้าที่ประสานกับท่าทรายในการทำ MOU
ตกลงกันเกี่ยวกับการดูดทรายที่ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม
ต่อพื้นที่ ส่วนชุดที่ 2 จะเป็นคณะทำงานเกี่ยวกับความมั่นคง ซึ่งจะดูแลเกี่ยวกับเส้นแบ่งแดนของประเทศ
การกำกับดูแลให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามแนวกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งกรณีที่ท่าทรายมีข้ามไปดูดทรายประเทศเพื่อนบ้าน
หรือประเทศเพื่อนบ้านข้ามมาดูดทรายในฝั่งเรา ถ้าไม่ปฏิบัติตามกฎหมายก็จะใช้กฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีไป
ส่วนชุดที่ 3 คือคณะกรรมการว่าด้วยการควบคุม ซึ่งจะมีหน้าที่ให้ท่าทรายในฝั่งไทยปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดูดทรายปี
2546 อย่างเคร่งครัด
ซึ่งจากการปฏิบัติที่ผ่านมาและการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันนี้
ขอยืนยันว่าไม่มีท่าทรายเถื่อน หรือมีการลักลอบดูดทราย เนื่องจากที่ผ่านมามีการตรวจสอบทุกเดือน
และทุกสัปดาห์แบบไม่มีการแจ้งล่วงหน้า โดยแต่ละหน่วยที่เกี่ยวข้องมีการลงพื้นที่ตลอดเวลา
เช่น กรมเจ้าท่าก็จะมีหน่วยตรวจสอบแบบรายสัปดาห์ ของทางอำเภอก็จะเป็นภาพรวมแบบรายเดือน
เพราะฉะนั้นขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดแล้ว ซึ่งอาจจะมีบ้างที่ท่าทรายมีการร้องเรียนคนอื่น
ที่เหมือนลิ้นกับฟันแต่ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น