วันที่
26 กรกฎาคม 2562 ที่ศาลาตรีมุขกาญจนาภิเษก วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายฆราวาสนำพสกนิกรชาวจังหวัดนครพนม
ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระธาตุพนม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
67 พรรษา 28 กรกฎาคม 2562 โดยมีพระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม
เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
โดยวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
เป็นวัดอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เป็นสถานที่ตั้งองค์พระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์
ที่ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุหรือกระดูกส่วนหน้าอกพระพุทธเจ้าเอาไว้ตามตำนานพระอุรังคธาตุ
ที่กล่าวไว้ว่า สมัยหนึ่งในปัจฉิมโพธิกาล
พระพุทธเจ้าพร้อมพระอานนท์ได้เสด็จมาทางอากาศเพื่อไปบิณฑบาตที่เมืองศรีโคตรบูร ภายหลังได้มาประทับแรมที่ภูกำพร้า
คือจุดที่สร้างองค์พระธาตุพนมในปัจจุบัน จากนั้นพญาอินทร์ได้เสด็จมาทูลถาม พระพุทธองค์จึงได้ตรัสว่าเป็นประเพณีของพระพุทธเจ้า
3 พระองค์ในภัททกัลป์ที่นิพพานไปแล้ว บรรดาสาวกจะนำพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ที่ภูกำพร้า
เช่นกันเมื่อพระองค์เสด็จนิพพาน พระมหากัสสะปะจะได้นำเอาพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ที่ภูกำพร้า
ครั้นเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพานพระอรหันต์ 500 องค์ และพญาเจ้าเมืองทั้ง 5 แห่งเมืองศรีโคตบูร
เมืองอินทปัตถนคร เมืองหนองหารน้อย เมืองหนองหารหลวง และแคว้นจุลมณี จึงได้พากันปั้นดินดิบ
เผาไฟแล้วก่อสร้างเป็นอุโมงค์ถวายเป็นพุทธบูชา จากนั้นพระมหากัสสปะจึงได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุเข้าบรรจุไว้ภายในและสร้างประตูไม้ประดู่ใส่ดาลปิดอุโมงค์ไว้ทั้ง
4
ด้าน ดังนั้นพระธาตุพนมจึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมีค่าสูงยิ่ง ที่พุทธศาสนิกชนหลากหลายเชื้อชาติให้ความเคารพศรัทธา
กราบไหว้บูชามาตลอดระยะเวลาหลายพันปี เมื่อมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทุกรัชกาลจะนำน้ำจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไปประกอบพิธีมุรธาภิเษก
เมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน
น้ำอบและผ้าคลุมมานมัสการพระธาตุพนมทุกปี และเมื่อถึงเทศกาลเข้าพรรษาจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานเทียนพรรษาเป็นพุทธบูชาทุกปีเช่นกัน ทั้งนี้พระธาตุพนมได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาตามลำดับ
กระทั่งวันที่ 11 สิงหาคม 2518 พระธาตุพนมได้พังทลายลงทั้งองค์ ประชาชนทั้งประเทศจึงได้ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นมาใหม่
โดยมีการสร้างครอบองค์เดิมทั้งยังคงรักษารูปแบบเดิมไว้ มีขนาดฐานกว้างด้านละ 12.33
เมตร สูง 53.60 เมตร เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูงแลดูสง่างาม โดยในวันที่ 23 มีนาคม
พ.ศ. 2522 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่
9 พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์
ได้เสด็จพระราชดำเนินในการพระราชพิธีเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระอุรังคธาตุ)
ขึ้นบรรจุในองค์พระธาตุพนม

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น