วันที่
30
กันยายน 2562 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม
นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมธิการการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร
พร้อมด้วยนายไพจิต ศรีวรขาน ประธานคณะกรรมธิการการปกครอง พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามการบริหารงบประมาณพัฒนาจังหวัดนครพนม
ประจำปีงบประมาณ 2562-63 โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
และคณะหัวหน้าส่วนราชการร่วมประชุม บรรยายสรุปแผนการใช้งบประมาณและความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามแผนงาน
โครงการ พร้อมทั้งปัญหาและอุปสรรค เกี่ยวกับการบริหารงบประมาณพัฒนาจังหวัด การบริหารงบประมาณในการพัฒนาการศึกษาของมหาวิทยาลัยนครพนม
การติดตามโครงการยกระดับและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดนครพนม
การป้องกันปราบปรามการแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ การดำเนินงานแก้ไขปัญหาเรื่องราวร้องทุกข์ของศูนย์ดำรงธรรม
ทางรถไฟรางคู่และถนนเชื่อมต่อที่จะเข้ามายังจังหวัดนครพนม รวมถึงการรายงานความคืบหน้าของการขอขึ้นทะเบียนพระธาตุพนมเป็นมรดกโลก
นายไชยา
พรหมา ประธานคณะกรรมธิการการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการทำงานในเชิงรุกที่มีการบูรณาการกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าไปช่วยเหลือให้คำแนะนำ ในประเด็นปัญหาของแต่ละจังหวัดในด้านงบประมาณ
การบริหารงบประมาณ ซึ่งที่ผ่านมานั้นพรรคการเมืองแทบจะไม่มีบทบาทและประชาชนเองก็ขาดที่พึ่ง
จะเห็นได้จากการได้รับการร้องเรียนว่างบประมาณต่าง ๆ ที่บริหารจัดการโดยจังหวัดของส่วนราชการต่าง
ๆ ขาดการมีส่วนร่วม ขาดการแก้ไขปัญหาที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะฉะนั้นจึงมีผลกระทบที่เกิดขึ้นในกรอบปีงบประมาณที่ถูกจัดลำดับไว้แล้ว
โดยในปี 63
ส่วนราชการได้ดำเนินการนำเสนอแผนงานเพื่อเข้าสภาไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นอาจจะทำอะไรมากได้ไม่
และในปี 64 ที่ขณะนี้กำลังเริ่มต้นที่ส่วนราชการในระดับจังหวัด
เริ่มที่จะดำเนินการขอแผนงานในการใช้งบประมาณ ดังนั้นจึงต้องลงพื้นที่เพื่อประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด
และส่วนราชการทุกหน่วยงาน ว่าอยากให้เกิดการบูรณาการร่วมกันในการจัดทำงบประมาณ ให้มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน
เพื่อเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน งบประมาณทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับการจัดสรรเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์แห่งชาติ
ยุทธศาสตร์จังหวัดและสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ส่วนประเด็นต่าง ๆ ที่เป็นข้อกฎหมาย
จะเห็นได้ว่าการมาในครั้งนี้แทบทุกจังหวัดมีปัญหา ซึ่งเป็นปัญหาในส่วนกลางด้วยซ้ำไป
ไม่ใช่ปัญหาของจังหวัด เนื่องจากว่าติดขัดในเรื่องของข้อกฎหมาย ที่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหาที่อำนาจของผู้ว่าฯ
ที่ถึงแม้จะมีอำนาจในการแก้ไขปัญหาแต่ติดกฎหมายในหลายๆส่วน ไม่ว่าจะเป็น สำนักงบประมาณ
กรมบัญชีกลาง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นภารกิจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งคณะกรรมาธิการการปกครองที่เกี่ยวข้องโดยตรง
ที่จะจับมือร่วมกันบูรณาการในการแก้ไขปัญหาและนำเสนอกับฝ่ายบริหาร เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด
ส่วนประเด็นการใช้จ่ายงบประมาณอาจจะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เป้าหมาย ก็ได้รับทราบในเบื้องต้นว่า
มันมีข้อจำกัดในเรื่องของการโอนเงินงบประมาณในช่วงปลายปีงบประมาณ ทำให้การบริหารจัดการส่วนใหญ่เป็นไปตามกรอบวิธีปฏิบัติของส่วนราชการ
เพราะฉะนั้นนี่คือปัญหา ซึ่งไม่ใช่ปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้น เป็นปัญหาโครงสร้างที่เกิดขึ้นมานานแล้ว
เป็นหน้าที่ที่คณะกรรมาธิการจะต้องทำความเข้าใจและนำเสนอในการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน
โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือต้องมีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น