วันที่ 14 ตุลาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนม
บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันออกพรรษายังเป็นไปด้วยความคึกคักของประชาชนและนักท่องเที่ยว
โดยเฉพาะคืนที่ผ่านมาที่เป็นวันออกพรรษา และจังหวัดนครพนมได้จัดให้มีการประกวดเรือไฟขนาดใหญ่
ที่สร้างจากไม้ไผ่ รวมกว่า 20,000 ลำ โดยมีการประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟนับแสนดวงเพื่อให้เกิดเป็นลวดลายที่งดงามยามแสงสว่างของตะเกียงส่องไสวกระทบกับผิวน้ำและแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ
สื่อให้เห็นถึงความสมัครสมานสามัคคี ความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ และร่วมกันสืบสานเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงามให้คงอยู่สืบไป
ทำให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้ามาชมความงดงาม วิจิตรตระการตาในครั้งนี้จนเต็มพื้นที่ตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง
รวมระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร กับมหกรรมไหลเรือไฟในครั้งนี้ที่มีการจัดสร้างโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม
และจากอำเภอทั้ง 12 อำเภอ รวมทั้งสิ้น 13 ลำ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมงจึงสามารถไหลครบทุกลำ
โดยก่อนหน้านี้หลายคนทราบข่าวว่า ในระหว่างการสร้างเรือไฟนั้น
ได้เกิดลมกรรโชกแรงและมีเรือไฟเสียหายไป 2 ลำ คือของอำเภอเมืองและอำเภอท่าอุเทน
ซึ่งศิลปินเรือไฟต่างร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้นมาใหม่ในเวลาอันรวดเร็ว
คือระยะเวลาเพียง 6 วัน แต่ยังคงขนาดความยาว ความสูงและลวดลายที่งดงามไว้เช่นดังเดิมจึงอยากมาเห็นและสัมผัสด้วยตาตนเอง
ตั้งแต่ขบวนการสร้างไปจนวิธีและขั้นตอนการไหลเรือไฟ และเก็บความทรงจำดี ๆ เอาไว้ จึงมีการเดินทางมาล่วงหน้าหลายวัน
ทำให้บรรยากาศในพื้นที่จังหวัดนครพนมคึกคักไปด้วยผู้คนที่มาส่งแรงใจและชมความงดงามในปีนี้
และเมื่อถึงเวลาไหลเรือไฟจริง ๆ สิ่งที่รอคอยก็ไม่ทำให้ทุกคนที่มาผิดหวังกับความยิ่งใหญ่อลังการของเรือไฟ
โดยเรือไฟที่ชนะการประกวดในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย
รางวัลชนะเลิศเรือไฟที่มีขนาดความยาวเฉพาะตัวลำเรือไฟ 40 - 60 เมตร ได้แก่ อำเภอปลาปาก รองลงมาคืออำเภอนาหว้าและอำเภอบ้านแพง ขณะที่เรือไฟขนาดความยาวเฉพาะลำตัวเรือตั้งแต่
61 เมตรขึ้นไป ประเภทสวยงามรางวัลชนะเลิศได้แก่อำเภอโพนสวรรค์
รองลงมาคืออำเภอเมืองนครพนมและอำเภอเรณูนคร ส่วนประเภทความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่อำเภอนาแก
รองลงมาคือองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนมและอำเภอศรีสงคราม

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น