วันที่ 3 ตุลาคม 2562 ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย ชาวลาว ตลอดจนประชาชนและนักท่องเที่ยว
ได้ร่วมกันประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์สัตนาคารำลึก หรือพิธีบวงสรวงบูชาพญานาคที่คอยดูแลปกปักษ์รักษาองค์พระธาตุพนม
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครพนม แน่นบริเวณวัด โดยมีพระเทพวรมุนี
เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำประกอบพิธี
โดยพิธีศักดิ์สิทธิ์สัตนาคารำลึกนั้น
ชาวนครพนมได้ถือปฏิบัติติดต่อกันมาเป็นปีที่ 62 แล้ว เพื่อเป็นการรำลึกถึงองค์พญานาค
ทั้ง 7 เนื่องจากเคยเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นในคืนวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 11 ปี พ.ศ. 2500 โดยชาวบ้านในเขตอำเภอธาตุพนม
ได้พบเห็นแสงประหลาด เป็นลำงามมีขนาดโตเท่าลำต้นตาลใหญ่ มีสีต่างกันเจ็ดสี พุ่งแหวกอากาศแข่งกันเป็นลำยาวหลายเส้นมาจากทางทิศเหนือแล้วหายเข้าไปในองค์พระธาตุพนม
ต่อมาได้เกิดปาฏิหาริย์ มีการประทับร่างทรงสามเณรในวัด พร้อมบอกกล่าวว่าลำแสงที่ชาวบ้านพบเห็นนั้น
เป็นพญานาค 7 องค์ มีนามว่าพญาสัทโทนาคราชเจ้า
เป็นองค์ประธาน พญาศีลวุฒินาโค พญาหิริวุฒนาดโค พญาโอตตัปปะวุฒนาโค พญาสัจจะวุฒินาโค พญาจาคะวุฒนาโคและพญาปัญญาเตชะวุฒนาโค
ซึ่งทุกองค์มีวิชาความรู้แตกต่างกัน ได้เสด็จมารักษาพระอุรังคธาตุ
เนื่องจากเทพยดาที่รักษาองค์พระธาตุอยู่ก่อน นิสัยไม่ดีอาศัยกินสินบนและเครื่องเซ่นสรวงของชาวบ้านทำให้เกิดการเสื่อมศรัทธา
จึงต้องมาประทับรักษาแทน หลังจากนั้นเมื่อมีเหตุการณ์หรือเรื่องเดือดร้อนต่าง ๆ พญานาคก็จะมาประทับร่างทรง เพื่อโปรดชาวบ้าน
ด้วยการเทศนาสั่งสอน สนทนาทางโลก ทางธรรม และรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ จนชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสศรัทธา
ดังนั้นในทุกปีจึงได้มีพิธีบวงสรวงบูชาพญานาค โดยทุกคนที่มาร่วมงานจะนำเอาเครื่องสักการบูชา
ดอกไม้ธูปเทียน พานบายศรีรูปพญานาค จลอดจนเครื่องเส้นไหว้ต่าง ๆ มาถวาย เป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุพนมรวมถึงองค์พ่อพญานาค
จากนั้นร่วมกันสวดมนต์เจริญจิตภาวนา และการรับฟังพระธรรมเทศนากล่อมเกลาจิตใจ ตลอดทั้งคืนเพื่อเป็นการเสริมสร้างบารมีให้ตนเอง
ทั้งเป็นการแสดงออกถึงความเคารพศรัทธาต่อองค์พระธาตุพนมที่บรรจุพระอุรังคธาตุ
หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ และเป็นการรำลึกถึงพญานาคทั้ง 7
องค์

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น