วันที่ 9 ตุลาคม 2562 ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง
เทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม
ซึ่งเป็นสถานที่ที่จังหวัดนครพนมจัดให้ประชาชนแต่ละอำเภอมาร่วมกันสร้างเรือไฟ
และจัดสร้างซุ้มวิถีคนทำเรือไฟเพื่อแข่งขัน ทั้งเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เอกลักษณ์และอัตลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัวของแต่ละชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนม
ให้ประชาชนทั่วไปตลอดจนนักท่องเที่ยวได้สัมผัสและรู้จัก ไม่ว่าจะเป็น
เครื่องแต่งกายที่ชนเผ่าต่าง ๆ สวมใส่ ซึ่งจะมีความหมายเฉพาะที่สื่อถึงความเป็นตัวตนของชนเผ่านั้น
ๆ การพูดคุยที่มีสำเนียงและท่วงทำนองที่แปลกกันออกไป ตลอดจนศิลปวัฒนธรรม ประเพณี
และอาหารที่เป็นเมนูเฉพาะถิ่น ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน แม้กระทั่งสถานที่ท่องเที่ยวก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่
โดยวิถีคนทำเรือไฟที่จัดสร้างและแสดงนั้นมีทั้งสิ้น 13 ซุ้ม
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือชนเผ่าไทญ้อ ของชาวอำเภอท่าอุเทน ที่มีการย่อส่วนแห่งท่องเที่ยวอย่างพระธาตุท่าอุเทน
และพระบาทเวินปลามาให้ผู้ที่มาร่วมงานประเพณีไหลเรือไฟ ประจำปี 2562 ได้กราบไหว้
นอกจากนั้นก็ได้นำเอาวิถีชีวิตเกษรตรพอเพียง ที่น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 9 มาจัดแสดงด้วย โดยความต่างในครั้งนี้คือมีการนำเอาสับปะรดขึ้นชื่อของชาวอำเภอท่าอุเทน
ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) มาจัดแสดงด้วยการตกแต่งตามแนวรั้วของซุ้ม
รวมถึงจัดมุมถ่ายภาพสวยๆให้นักท่องเที่ยวได้เก็บความประทับใจด้วย
ซึ่งจะมีทั้งลูกปกติและลูกที่กลายพันธ์ กลายเป็นอีกหนึ่งสีสันที่ทำให้คนสนใจ
เพราะรูปร่างที่แปลกตา เห็นครั้งแรกเข้าใจว่าเป็นพืชนิดอื่นแต่เมื่อสังเกตรู้ว่าเป็นสับปะรด
นายสุภวิทย์ พรรณวงศ์
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สับปะรดที่นำมาจัดซุ้มโชว์ในครั้งนี้
เป็นสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียที่เกษตรกรชาวท่าอุเทนปลูกอยู่ในสวนอยู่แล้ว โดยรูปร่างที่ผิดแปลกไปจากเดิมที่เห็นอยู่ตามจุดต่าง
ๆ ของซุ้มนั้น เกิดจากการที่สับปะรดได้รับปุ๋ยไนโตรเจนมากจนเกินไป ซึ่งปกติ 1 ไร่ ที่ปลูกสับปะรดประมาณ
4,000 ต้น จะมีสับปะรดกลายพันธุ์ในลักษณะแบบนี้ประมาณ 20-30 ต้น ซึ่งไม่สามารถนำไปรับปะทานได้แต่ด้วยความสวยงามและแปลกตาที่มีรูปร่างคล้ายพัด
คล้ายดอกไม้ หรือคล้ายสัตว์ต่าง ๆ จึงได้ร่วมกันนำมาจัดตกแต่งสถานที่ภายในซุ้มของอำเภอ
ทำให้เป็นอีกหนึ่งความต่างที่ลงตัวให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาได้เก็บความประทับใจและสอบถาม
กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนอยากมาสัมผัสกับวิถีชีวิตเชิงเกษตรของชาวท่าอุเทน ซึ่งใครอยากเห็นสับปะรดกลายพันธ์ที่ว่าก็เชิญได้ที่ซุ้มวิถีคนเรือไฟของชาวท่าอุเทน
ซึ่งจะจัดแสดงไปจนถึงวันที่ 14 ตุลาคม 2562 นี้
หรือจะมาท่องเที่ยวที่อำเภอท่าอุเทนก็พร้อมยินดีให้การต้อนรับเช่นเดียวกัน

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น