วันที่ 15 พฤศจิกายน 2562
ที่ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงผู้อำนวยการโรงเรียนและครูแนะแนวตามโครงการเพิ่มศักยภาพด้านอาชีพแก่นักเรียนครอบครัวยากจนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ
ที่สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดนครพนม ร่วมกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครพนม สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครพนม
สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครพนม
และหอการค้าจังหวัดนครพนมจัดขึ้น เพื่อเสริมศักยภาพให้บุคคลากรทางการศึกษาในการพัฒนาทักษะและเพิ่มศักยภาพให้นักเรียนมีความสามารถเหมาะสมกับการประกอบอาชีพและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบัน
ทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายการดำเนินงานร่วมกัน และสามารถใช้ข้อมูลข่าวสารด้านอาชีพ
เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชื่อมโยงข้อมูลที่เป็นประโยชน์และทันสมัยร่วมกัน
ซึ่งจากข้อมูลของหน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดการศึกษาภาคบังคับพบว่าในแต่ละปีการศึกษามีนักเรียนที่จบการศึกษาภาคบังคับแล้วไม่ได้เรียนต่อเนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจนและมีความจำเป็นต้องเข้าสู่ตลาดแรงงาน
ในฐานะแรงงานไร้ฝีมือ เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวเป็นจำนวนมาก โดยในปีการศึกษา
2561 ทั่วประเทศมีจำนวนมากถึง
147,644 คน ดังนั้นเพื่อสร้างให้นักเรียนของจังหวัดนครพนมที่จบการศึกษาภาคบังคับแล้วไม่ได้เรียนต่อเนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจนสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างเหมาะสมจังหวัดนครพนมจึงได้มีการบูรณาการของหน่วยงานต่าง
ๆ จัดการประชุมชี้แจงดังกล่าวขึ้น ซึ่งผู้ที่ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จะได้ทราบถึงความเป็นมาโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนครอบครัวยากจนที่ไม่ได้ศึกษาต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ
โครงการเตรียมความพร้อมแก่กำลังแรงงาน ข้อมูลตลาดแรงงานและอาชีพ การวัดบุคลิกภาพเพื่อการศึกษาต่อ
ข้อมูลสถานการณ์ตลาดแรงงานเพื่อรองรับเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษนครพนม ขั้นตอนการสำรวจ
การรวบรวม การสรุปและจำแนกข้อมูลนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย วิธีการกรอกแบบสอบถามและแบบสำรวจสรุปผล
การให้การสนับสนุนเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่ง เงินสงเคราะห์กองทุนคุ้มครองเด็กเงินทุนเพื่อการประกอบอาชีพหรือเงินสงเคราะห์แก่นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย
รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของลูกจ้างเมื่อเข้าทำงานและกฎหมายแรงงานที่ควรรู้

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น