โรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่ทุกคนต้องเข้าไปรับการรักษาเมื่อมีอาการเจ็บป่วย
ซึ่งในปัจจุบันเรามักจะเห็นว่ามีเหตุการณ์และข่าวความรุนแรงในโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง
วันนี้เรามาลองติดตามดูว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีการเตรียมพร้อมและรับมือกับปัญหากันอย่างไร
นายแพทย์ จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม
เปิดเผยว่า การเตรียมความพร้อมรับกรณีดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น ทางจังหวัดนครพนมได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ไม่ว่าจะเป็น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน หัวหน้ากลุ่มงานบริหารในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดนครพนม
มาปรึกษาหารือร่วมกันว่าจะเตรียมพร้อมอย่างไง ซึ่งที่ประชุมได้มีข้อสรุปที่จะทำร่วมกัน
3 มาตรการ คือด้านสถานที่ ซึ่งได้มีการตรวจเช็คทุกโรงพยาบาล 12 แห่งแล้วว่า มีการติดกล้องวงจรปิดและใช้ได้ทุกแห่งเพียงพอในทุกโรงพยาบาล
มีการตรวจเช็คระบบการเข้าออกในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ซึ่งต้องสามารถเข้าออกได้ 2
ทางเป็นอย่างน้อย รวมถึงให้จัดสถานที่พักรอสำหรับญาติผู้ป่วยที่ตามมาอย่างเพียงพอ มาตรการที่ 2 คือมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย
ซึ่งก็ได้มีการซ้อมแผนกรณีที่เกิดเหตุขึ้นในโรงพยาบาล ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม
ทั้งนี้ได้เน้นย้ำตลอดเวลาว่าระบบการรักษาของโรงพยาบาลต้องมีความพร้อมเสมอ ทั้งในช่วงเทศกาลปีใหม่หรือเทศกาลงานบุญงานประเพณีในแต่ละพื้นที่
โดยอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ต้องพร้อม มีการจัดตั้งทีมเสริมถ้าเกิดกรณีฉุกเฉินสามารถเรียกได้ตลอด
24 ชั่วโมง รวมทั้งให้หัวหน้าฝ่ายการพยาบาลเข้ามาทำหน้าที่พูดคุยกับคนไข้และญาติคนไข้เพื่อให้ข้อมูลอยู่ตลอดเวลาเป็นการคลายความวิตกกังวล
และถ้ามีกรณีการชกต่อยกันมา จะแยกการรักษาไปคนละที่ เช่น แยกโรงพยาบาล แต่ถ้าแยกไม่ได้จะแยกห้องตรวจ
เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะอย่างที่เคยเกิดเหตุการณ์ในที่อื่น ๆ นอกจากนั้นยังให้มีการจัดเวรยาม
24 ชั่วโมง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่พยาบาล ทั้งยังได้มีการสั่งการประสานกับทีมท้องถิ่นท้องที่
เช่น อปพร. อสม. เพื่อจัดอัตรากำลังเสริมในกรณีที่โรงพยาบาลมีอัตรากำลังน้อยหรือเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ
และอีกหนึ่งโมเดลสำคัญของจังหวัดที่ได้มีการพูดคุยกับทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม
คือท่านได้กรุณาจัดนายตำรวจสัญญาบัตร 1 นาย และนายตำรวจชั้นประทวนอีก 6 นาย ให้ไปประจำทุกโรงพยาบาล
12 แห่ง ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 2 มกราคม
2563 แบบอยู่ 24 ชั่วโมง ส่วนวันเวลาปกติที่ไม่อยู่ในช่วงดังกล่าว ก็จะมีเบอร์โทรประสานที่สามารถติดต่อได้ตลอดเวลาเพื่ออำนวยความสะดวก
ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งจะเข้ามาสร้างความอุ่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและพี่น้องประชาชนที่มาทำการรักษา
ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น หรือถ้าเกิดขึ้นจริง ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้าระงับเหตุได้อย่างทันท่วงที
ส่วนมาตรการสุดท้ายคือถ้ามันจำเป็นจริง ๆ และไม่อยากให้เกิด เราจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด
เนื่องจากว่าโรงพยาบาลหรือสถานรักษาพยาบาล ถือเป็นสถานที่ปราศจากความขัดแย้งทั้งหมดทั้งปวง
เพราะจะต้องใช้ความรู้ความสามารถ สมาธิในการรักษาคนไข้ ดังนั้นถ้าเกิดมีเรื่องชกต่อย
ทะเลาะวิวาทกัน ทำร้ายกันเอง หรือทำลายข้าวของทรัพย์สินทางราชการ ชกต่อยเจ้าหน้าที่
จะมีการดำเนินการแจ้งความทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
เราจะเห็นว่ามาตรการที่ออกนั้นคลอบคลุมทั้งหมด
แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการที่เราทุกคนมีน้ำใจ มีจิตสำนึกที่ดี
และไม่ก่อความวุ่นวายในสถานที่สำคัญที่เป็นที่พึงของทุกคนในยามฉุกเฉิน


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น