วันที่ 17 ธันวาคม 2562
ที่หอประชุมหนองบึก ชั้น 3 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม ตำบลหนองแสง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดงานวันคนพิการสากล
ประจำปี 2562 ที่จังหวัดนครพนม โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนมจัดขึ้น
เพื่อส่งเสริมให้คนพิการได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม และเปิดโอกาสในคนพิการได้แสดงความสารมารถและศักยภาพให้ประชาชนทั่วไปได้เห็น
และเกิดเจตคติเชิงที่ดี ที่สร้างสรรค์ต่อคนพิการ เกิดการยอมรับคนพิการในฐานะที่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของสังคมที่ยังสามารถใช้สติปัญญาและความเชี่ยวชาญในการทำงานเลี้ยงตนเองและครอบครัว
ทั้งยังเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ
โดยกิจกรรมในวันนี้ประกอบไปด้วย
การจัดนิทรรศการโชว์และจำหน่ายสินค้าของผู้พิการ กลุ่มคนพิการ
ที่ได้ใช้เวลาว่างผลิตผลงาน ชิ้นงานต่างๆ ให้กับผู้ที่มาร่วมงาน
ซึ่งสินค้าก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักสาน พวงกุญแจ ดอกไม้
กระเป๋าถือ ของชำร่วย ผ้าทอ ยาสมุนไพร ของที่ระลึกที่เป็นพระธาตุพนมจำลอง ตลอดจนผลผลิตทางการเกษตรที่แปรรูปแล้ว
โดยราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ผู้พิการได้แสดงความสามารถในด้านต่างๆ
เช่น การร่ายรำ การร้องเพลง การนวดผ่อนคลายความเครียด
การทำกิจกรรมชิงโชคของรางวัลที่หน่วยงานต่าง ๆ นำมาสนับสนุน เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์
พัดลม จักรยานและของอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงการมอบเกียรติบัตรและช่อดอกไม้แก่คนพิการดีเด่นที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
บุคคลและหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนงานด้านคนพิการ มอบสิ่งอำนวยความสะดวกคนพิการ
มอบใบอนุญาตจัดตั้งศูนย์บริการคนพิการทั่วไป และมอบเงินเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ
ทั้งนี้วันคนพิการสากล
ซึ่งตรงกับวันที่ 3 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญระหว่างประเทศที่สหประชาชาติได้มีการส่งเสริมให้มีการเฉลิมฉลองและเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกร่วมกัน
จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้คนพิการได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม
มีโอกาสได้แสดงศักยภาพ ทำให้เกิดเจตคติเชิงสร้างสรรค์ต่อคนพิการและความพิการ
เกิดการยอมรับคนพิการในฐานะที่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของสังคม มาตั้งแต่ปี 2535 โดยในปีนี้จังหวัดนครพนมจัดงานคนพิการสากล
ประจำปี 2562 ภายใต้แนวคิด เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง สร้างการมีส่วนร่วม
เสริมความเป็นผู้นำคนพิการ สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น