วันที่ 10 มกราคม 2563
ที่บริเวณศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
ได้มีการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2563 ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้นำบุตรหลานที่เป็นเด็กพิเศษ
ที่ป่วยเป็นโรคออทิสติกและอยู่ในความดูแลทั้งจังหวัด ได้มาร่วมสนุกกับกิจกรรมในวันสำคัญของเด็กและเยาวชนทุกคนที่ปีนี้มีคำขวัญว่า
เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย
ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดที่นำมาให้เด็กพิเศษเหล่านี้ได้ร่วมสนุกจะแบ่งเป็นฐานต่าง เพื่อสร้างพัฒนาการทางด้านการสื่อสาร
การเข้าสังคม และการแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นการฝึกพูด การออกเสียง การบอกความต้องการ
การทำตามคำสั่งง่ายๆ การอยู่ร่วมกันกับคนหมู่มาก การเคลื่อนไหวร่างกาย และการเล่นกับเพื่อนๆ
ควบคู่ไปกับการชิงของรางวัลที่ผู้ใจบุญทั้งหน่วยงานภาครัฐ
ภาคเอกชนและประชาชนนำมาสนับสนุนกิจกรรม เช่น ของขวัญ เครื่องดื่ม ขนม ไอศกรีม
ตุ๊กตา รถยนต์ของเล่น สติกเกอร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยมีเจ้าหน้าที่
ครูพี่เลี้ยง และผู้ปกครองร่วมสนุกไปด้วย ทำให้บรรยากาศเติมไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ดังกึกก้องบริเวณงาน
นายสุพจน์ ชะพินใจ
ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครพนมเป็นศูนย์ที่ให้บริการด้านการศึกษาสำหรับคนพิการ
ตั้งแต่แรกเกิดถึง 18 ปี ซึ่งปัจจุบันมีเด็กพิเศษที่อยู่ในความดูแลทั้งสิ้น 271 คน
ส่วนใหญ่มีความผิดปกติทางด้านสมอง รองลงมาเป็นร่างกายพิการ
และในช่วงสัปดาห์วันเด็กแห่งชาตินี้ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ร่วมสนุกเหมือนเช่นเด็กปกติทั่วไป
จึงได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จัดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2563 ขึ้นมา
ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้ความสำคัญกับเด็ก ๆ เหล่านี้
ถือเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ให้กับผู้ปกครองและเด็ก ๆ เอง ที่จะเดินเคียงข้างกันในสังคมอย่างเข้มแข็ง
ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าเด็กเหล่านี้ ทำอะไรไม่เป็น เรียนหนังสือไม่ได้
ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเด็กพิเศษมีความรู้สึกนึกคิดเหมือนเด็กทั่วไป
เพียงแต่ไม่สามารถแสดงออกได้อย่างเหมาะสม หากได้รับการปรับพฤติกรรมอย่างเหมาะสม
เติมความรักความห่วงใย ความเข้าใจ ตลอดจนให้คำแนะนำ คำชี้แนะพิเศษตามสภาพปัญหาและความต้องการของเด็ก
ก็จะทำให้เด็กสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างปกติสุข
ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเด็กพิเศษของศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครพนม มีพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่อง
เพราะสามารถเข้าแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมระดับชาติ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เป็นอับดับที่
4 รองจากจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษและนครราชสีมา เท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น