วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ที่กองร้อยทหารพราน 2110 บ้านปากห้วยม่วง
ตำบลหนองแวง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม พลตรีสวราชย์ แสงผล
ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พร้อมด้วย นายสยาม ศิริมงคล
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พลตรี ประสิทธิ์ ทิศาวงศ์
ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (ศอ.ปส.ชอน.บ.) นายอดุล ประยูรสิทธิ์ ผู้อำนวยการ ปปส.ภาค 4 พันเอกยงยุทธ ขันทวี ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1
กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พันเอกสุภัทร ชูตินันทน์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารที่
21 ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครพนม และกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 4,086,000
เม็ด รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิซูบิชิ ไททัน สีบรอนซ์ หมาบเลขทะเบียน ฒฐ 8560 กทม.
และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมาสด้า หลายเลขทะเบียน ฒล 2190 กทม. หลังหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยบูรณางานในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์
2563 ชุดปฏิบัติการข่าวของกองบังคับการควบคุมที่ 1 (กรมทหารราบที่ 3)
และชุดปฏิบัติการข่าวของกองร้อยทหารพรานที่ 2110 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดบริเวณท่าข้ามประเพณี
บ้านนาข่าท่า หมู่ที่ 8 ตำบลพะทาย อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม จึงได้บูรณาการและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จัดกำลังพล จำนวน 3 ชุด ปฏิบัติการซุ่มเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และสกัดกั้นตามเส้นทางเข้าออก
กระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบว่ามีรถยนต์จำนวน 2 คัน
วิ่งมาจอดบริเวณดังกล่าว จากนั้นก็มีกลุ่มบุคคล จำนวน 7-8 คน
ขนกระสอบปุ๋ยที่บรรจุสิ่งของบางอย่างมาขึ้นรถทั้งสองคัน
เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น เมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ ก็ได้วิ่งหลบหนีไปในความมืด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าภายในกระสอบบรรจุยาบ้า
จำนวน 4,086,000 เม็ด จึงได้ทำบักทึกการตรวจยึดและจับกุม โดยหลังจากนี้หน่วยงานจะได้ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม
และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 4
ร่วมกันสืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุมต่อไป
พลตรีสวราชย์ แสงผล
ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เปิดเผยว่า การปราบปรามในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันดำเนินการ
โดยเฉพาะการให้ข้อมูลข่าวสารของพี่น้องประชาชน ที่มีความหวังดีต่อประเทศชาติ ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญมากที่นำมาสู่การจับกุม
เพราะไม่ว่าจะแจ้งไปที่หน่วยงานใดเจ้าหน้าที่ทุกนายก็พร้อมที่จะดำเนินการปราบปราม ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่ได้เพ่งเล็งเฉพาะรายใหญ่เท่านั้น
แต่จะดำเนินการทั้งรายเล็ก รายย่อย รายขนาดกลาง และรายใหญ่ โดยวันนี้นอกจากจะเห็นว่ามีการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า
4 ล้านกว่าเม็ดแล้ว ก็ยังมีอีกคดีที่เป็นขยายผลจากการจับกุมผู้ค้ารายย่อยที่มีการซัดทอด
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลติดตามมาอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดเมื่อวานนี้ชุดปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่
23 ก็สามารถจับกุมผู้ค้าที่เป็นผู้สั่งการกัญาชาจากประเทศเพื่อนบ้านมาจำหน่ายได้อีก
1 ราย พร้อมของกลางกัญชา 100 กิโลกรัมเช่นเดียวกัน


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น