วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 ที่จังหวัดนครพนม
นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานนำคณะเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการธนาคารโค –
กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดําริจาก ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 75 จังหวัด รวมทั้งสิ้น
108 คน ร่วมประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อสืบสานพระราชปณิธานงานธนาคารโค
- กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ สู่การพัฒนาอาชีพเกษตรกรอย่างมั่นคง
เข็มแข็งและยั่งยืน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กองงานพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษจัดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์
ผลงานวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอผลสำเร็จของแต่ละหน่วยที่ใช้ในการขับเคลื่อนโครงการ
เพื่อสืบสานพระราชปณิธาน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้กรมปศุสัตว์เป็นผู้ดำเนินการ
มาตั้งแต่ปี 2522 และปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลากว่า 40 ปี
เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้มี โค – กระบือ เป็นของตนเอง เพื่อใช้ในการสร้างอาชีพ
สร้างรายได้ ทำให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุข มีชีวิตความเป็นอยู่ที่มั่นคง เข้มแข็งและยั่งยืน
นายสุรเดช สมิเปรม
รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการธนาคารโค –
กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดําริ ได้ให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรไปแล้ว 299,820
ราย โดยมีการสนับสนุนโค - กระบือไปแล้วไม่น้อยกว่า 300,000 ตัว
คิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่าหกพันล้านบาท ซึ่งยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการดำเนินงานเพื่อสนองพระราชปณิธานของพระองค์ท่าน
ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ทุกคนจะได้เห็นถึงแนวคิดใหม่ๆ เพื่อนำกับไปพัฒนาและขับเคลื่อนโครงการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ซึ่งหมายถึงเกษตรกรในพื้นที่จะได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย เช่นกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการของจังหวัดนครพนมที่มีการรวมกลุ่ม
แล้วนำมูลของ โค – กระบือและผลผลิตทางการเกษตรอื่น ๆ มาต่อยอดหมักผ้าไหม ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมมูลมงคล
ที่นอกจากจะสวยงาม มีกลิ่นหอม สวมใส่สบายแล้ว ยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในชุมชนอีกด้วย
ซึ่งถ้าทุกหน่วยที่มาสัมมนาในวันนี้สามารถส่งต่อแนวความคิดในลักษณะนี้ที่แตกต่างออกไป
ก็จะเป็นการพัฒนาความสำเร็จของโครงการเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น ทั้งนี้ในส่วนของการดำเนินงานที่มีปัญหาเกี่ยวกับกรณีเกษตรกรผิดสัญญาทางกรมปศุสัตว์ก็ได้กำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาไว้เรียบร้อยแล้วเพื่อให้ผู้ปฏิบัติสามารถดำเนินการต่อไปได้
รวมถึงขอความร่วมมือในการดำเนินโครงการไถ่ชีวิต โค - กระบือ
เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งได้มีการขยายเวลาดำเนินการออกไปจนถึงวันที่
4 พฤษภาคม 2563 เพื่อให้ครบเป้าหมายจำนวน 4,910 ตัว และที่สำคัญอีกอย่างคือการติดตามลูกโค
- กระบือตัวที่ 1 อายุครบ 18 เดือนจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อนำไปส่งต่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรรายใหม่ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น