วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563
ที่จังหวัดนครพนม เวลา 9.00 น. บรรยากาศการลงพื้นที่สุ่มตรวจปริมาณควันดำยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเข้มงวด
โดยวันนี้นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้เป็นประธานนำคณะทำงานซึ่งประกอบไปด้วย
สำนักงานขนส่งจังหวัดนครพนม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม แขวงทางหลวงจังหวัดนครพนม
แขวงทางหลวงชนบทจังหวัดนครพนม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนม
ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม อำเภอธาตุพนม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บูรณาการลงพื้นที่ตรวจควันดำรถโดยสารและรถบรรทุก
ที่ถนนทางหลวงหมายเลข 212 บริเวณสามแยกบ้านธาตุน้อย ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม
โดยในจัดนี้เป็นการตรวจวัดปริมาณควันดำและการตรวจจับน้ำหนักรถบรรทุกไปพร้อมกัน
ซึ่งใช้มาตรการเดียวกันทั้งหมด คือ
รถบรรทุกต้องมีน้ำหนักไม่เกินมาตรฐานที่กำหนดของแต่ละประเภท รถที่มีปริมาณควันดำเกิน 45%
ลงโทษเปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท และออกคำสั่งห้ามใช้รถทันที โดยเจ้าของรถต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ
ณ สำนักงานขนส่งก่อน เมื่อผ่านการตรวจสภาพแล้วจึงจะสามารถนำรถไปใช้งานได้อีกครั้ง
ขณะที่รถที่มีค่าควันดำอยู่ระหว่าง 30 – 45 % ก็ใช้มาตรการแนะนำให้ความรู้ในการดูแลรักษารถยนต์
จากนั้นในช่วงบ่ายได้เดินทางไปสุ่มตรวจเรือโดยสารข้ามฟาก ที่บริเวณท่าเรือโดยสารเทศบาลเมืองนครพนม
ซึ่งในแต่ละวันจะมีประชาชนชาวไทย ชาวลาวและนักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้บริการข้ามฟากไปมาระหว่างจังหวัดนครพนมกับแขวงคำม่วน
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562
จนถึงเวลา 11.00 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตรวจวัดควันดำไปแล้วทั้งสิ้น
6,158 คัน เป็นรถบรรทุก 184 คัน รถโดยสาร 5,937 คัน รถตู้โดยสาร 37 คัน ซึ่งรถส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคือมีค่าปริมาณควันดำอยู่ที่ประมาณ 1.6 - 29 %
ขณะที่รถที่มีค่าควันดำ 30 – 45 % มี จำนวน 19 คัน แยกเป็นรถโดยสาร 14 คัน
รถบรรทุก 3 คัน รถยนต์ 2 คัน และพบรถที่มีควันดำเกิน 45% จำนวน 1 คัน สำหรับการตรวจควันดำของจังหวัดนครพนมจะยังคงมีเช่นนี้ไปเรื่อย
ๆ โดยสลับเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย ๆ และไม่มีการแจ้งล่วงหน้าให้ผู้ประการทราบ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น