วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ที่จังหวัดนครพนม
นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ปัญหาการเผาในที่โล่งทั้งในพื้นที่การเกษตรและในพื้นที่ป่า
ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก
เนื่องจากฝุ่นละออง PM
2.5 มีลักษณะที่เล็กกว่าฝุ่นทั่วไป มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน
เทียบเส้นผ่านศูนย์กลางเส้นผมมนุษย์ก็ประมาณ 1 ใน 25
และด้วยขนาดที่เล็กทำให้ขนจมูกของเราทำหน้าที่กรองฝุ่นไม่ได้ ซึ่งถ้าเราหายใจเข้าไปจะผ่านเข้าสู่ร่างกายได้โดยตรง
และถ้ามีสารอันตรายต่าง ๆ เกาะอยู่กับฝุ่นก็เหมือนกับเรารับสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายโดยตรงเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้การเผายังเป็นการทำลายหน้าดิน ทำให้ดินเสื่อมโทรมและสูญเสียแร่ธาตุในดิน
ซึ่งแหล่งอาหารที่จะทำให้พืชเจริญเติบโต ส่งผลต่อการผลิตสินค้าเกษตรของตัวเกษตรกรเองด้วย
ทั้งยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา คือผู้ใดที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดแม้เป็นของตนเองจนน่าจะเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น
หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท
ดังนั้นสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม
จึงได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลพิมานและโรงเรียนในพื้นที่ จัดกิจกรรมรณรงค์ลดการเผาในท้องถิ่น
ภายใต้งานรณรงค์ส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรขึ้น ที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน
บ้านพิมาน หมู่ที่ 3 ตำบลพิมาน อำเภอนาแก เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับเกษตรกรได้ตระหนักถึงผลกระทบจากการเผาและสิ่งที่จะได้ถ้าหยุดเผา
โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่การที่ทุกคนพร้อมใจกันกล่าวคำปฏิญาณตนต่อต้านการเผาในพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ป่า
การมอบป้ายปฏิญาณตนกับผู้นำชุมชน การถ่ายทอดความรู้การส่งเสริมการหยุดเผา การสาธิตการนำเศษวัสดุทางการเกษตรไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด
เช่น การทำปุ๋ยหมัก การผลิตเห็ด การนำไปคลุมต้นไม้เพื่อสร้างความชุ่มชื้นในดิน
และไถกลบเพื่อเป็นปุ๋ยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน จากนั้นจึงได้ร่วมกันเดินรณรงค์ไปในหมู่บ้านเพื่อสร้างการรับรู้แบบถึงตัวบุคคล

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น