วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2563

นครพนม คุมเข้มแก้ปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด 19 เตรียมห้ามเข้า-ออกเมือง มีผล 13 เม.ย.นี้


วันที่ 9 เมษายน 2563 ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการณ์ ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนมได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 เริ่มจากมาตรการเบาไปหาหนัก ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาของการแพร่ระบาดของโรค เช่น การปิดสถานที่บางสถานที่ที่จะส่งผลกระทบต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรค การห้ามออกนอกเคหสถานของพี่น้องประชาชน การตั้งจุดตรวจคัดกรองคนที่จะเข้าออกเมือง การกำหนดให้พี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับจากที่ต่างๆเก็บตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วันเพื่อดูอาการ โดยใช้กลไก อสม. ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกัน ขณะที่ด้านธุรกิจที่ยังคงมีการนำเข้าส่งออกผ่านทางสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 (นครพม-คำม่วน) ก็มีมาตรการคือผู้ที่ออกนอกราชอาณาจักรเกินกว่า 5 ชั่วโมงกลับเข้ามาต้องถูกกักตัวก่อนที่จะออกไปสู่พื้นที่สาธารณะเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 40 คนที่ต้องกักตัวตามพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่รัฐจัดให้ โรงแรมหรือสถานที่อื่นตามกำลัง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลอย่างสม่ำเสมอตามหลักการของสาธารณสุข

แต่อย่างไรก็ตามจากการติดตามประเมินสถานการณ์ทุกวัน จะเห็นได้ว่าในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีพี่น้องประชาชนจำนวนมากกลับเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดได้กำหนดมาตรการให้มีการเก็บตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน และทุกวันนี้ก็ยังคงมีอยู่ โดยแต่ละคนก็มีการใช้เส้นทางหลัก เส้นทางรอง ใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หรืออาศัยกันมากับคนในพื้นที่ ทำให้อาจเป็นช่องว่างในการดำเนินการของจังหวัด ที่ปัจจุบันเราจะรู้ว่ามีคนติดเชื้อจริงและกำลังรักษาอยู่ 1 คน แต่ข้อเท็จจริงเราไม่รู้เลยว่าเป็นความจริงหรือไม่เพราะยังมีอีกกว่า 5,000 คน ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงรอดูอาการอยู่ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องปิดกั้นพื้นที่ในช่วงเวลาหนึ่งอย่างเข้มงวดและควรเกิน 14 วัน จะทำให้เรารู้ว่าจริงๆแล้วนครพนมมีผู้ที่ป่วยจริงกี่คน ทั้งยังจะเป็นเครื่องมือช่วยให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนอีก 7 แสนกว่าคนในจังหวัด โดยมาตรการดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในวันที่ 13 เมษายน ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 ซึ่งจะเป็นการห้ามเข้าออกเมือง แต่ถ้ามีความจำเป็นจริง ๆ ก็มีช่องทางให้ดำเนินการตามกรณีฉุกเฉินที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ โดยทุกรายที่จะเข้าหรือออกต้องได้รับการอนุญาตจากนายอำเภอเท่านั้น

นี่คือสิ่งที่อยากจะเรียนให้ทุกท่านทราบ เพราะเข้าใจดีว่าทุกฝ่ายไม่มีใครได้รับความสะดวกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานหนักมากขึ้น ภาคธุรกิจที่ค้าขายยากขึ้น พี่น้องประชาชนไปมาหาสู่กันลำบาก ดำเนินกิจกรรมทางประเพณีวัฒนธรรมยากขึ้น แต่เชื่อว่าถ้าเราทุกคนร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด จังหวัดนครพนมจะเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ประชาชนมีความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น