วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563

ผู้ว่าฯนครพนม มอบ กอ.รมน.และปกครอง ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจและมาตรฐานการปฏิบัติงานก่อนห้ามเข้า – ออกเมืองแก้ปัญหาไวรัสโควิด 19



วันที่ 10 เมษายน 2563 ที่จังหวัดนครพนม พันเอก สุระ สินโสภา รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลและจังหวัดนครพนมได้มีมาตรการต่าง ๆ ออกมาเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID 19) โดยหนึ่งในนั้นคือมาตรการเคอร์ฟิวที่ห้ามออกนอกเคหสถาน หรือการห้ามมั่วสุม ชุมนุมกันเพื่อการใด ๆ ณ พื้นที่นั้น ยกเว้นมีความจำเป็นหรือเป็นผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งหน่วยงานภาครัฐได้มีการตั้งจุดตรวจคัดกรองขึ้นในทุก ๆ อำเภอ ประกอบกับในวันที่ 13 เมษายน 2563 จังหวัดนครพนมจะมีการประกาศห้ามเข้า-ออกเมือง นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม จึงได้มอบหมายให้ชุดเฉพาะกิจ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครพนมร่วมกับฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองตำบลต่าง ๆ ในเขตอำเภอเมือง ประกอบด้วย จุดตรวจคัดกรองตำบลท่าค้อ ตำบลขามเฒ่า ตำบลดงขวาง และตำบลบ้านกลาง เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและมอบแนวนโยบายในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับทุกคน รวมถึงฝากการขยายผลสร้างการรับรู้เกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้าใจ

ด้าน พันโท ณัฐ เหมือนบุดดี หัวหน้าชุดเฉพาะกิจกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เน้นย้ำในเรื่องของการปฏิบัติงานที่ถูกต้อง เป็นธรรมและเท่าเทียมกันทุกคนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทุกนายต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน ไม่อาศัยช่องว่างระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งถ้ามีการร้องเรียนและตรวจสอบพบว่าผิดจริงจะมีการลงโทษสถานหนัก รวมถึงฝากสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับเรื่องของการที่จังหวัดจะมีประกาศห้ามเข้า-ออกเมือง ตั้งแต่วันที่ 13 - 30 เมษายน 2563 ซึ่งเข้าใจว่าจะทำให้ทุกคนมีความไม่สะดวกเพิ่มมากขึ้น จึงอยากให้วางแผนให้ดี ถ้าใครมีความจำเป็น ก็ให้รีบไปดำเนินการติดต่อล่วงหน้าที่อำเภอทุกอำเภอ หรือถ้ามีเรื่องเร่งด่วนฉุกเฉินก็สามารถติดต่อประสานได้ที่จุดตรวจคัดกรอง เพื่อทำบันทึกขออนุญาตจากนายอำเภอแต่ละอำเภอทุกรายไม่มีข้อยกเว้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแรงงานต่างด้าวที่จะมีการลักลอบข้ามไปยังประเทศของตนเอง เนื่องจากช่วงนี้มีการประกาศปิดด่านแล้ว ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคทำให้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 รวมถึงในเรื่องของการทำผิดกฎหมายอื่น ๆ ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น