วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563

ผู้ว่าฯนครพนม แจงระยะเปลี่ยนผ่านสู้โควิด 19 เน้นสร้างเกราะป้องกันจากภายนอก เพิ่มภูมิคุ้มกันภายใน และลดภาวะแรงกดดันที่เกิดขึ้นกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ


วันที่ 29 เมษายน 2563 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคลผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่ทั่วโลก ทั่วประเทศ รวมถึงจังหวัดนครพนมมีมาตรการต่าง ๆ ออกมาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทุกคนได้ทำงานอย่างหนัก เพื่อสร้างความมั่นใจในการดูแลพื้นที่ให้กับประชาชน แต่อย่างไรก็ตามกิจกรรมทั้งหลายที่พี่น้องประชาชนยังคงต้องดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะเป็น การประกอบอาชีพ การเดินทาง และการทำกิจกรรมหลายๆกิจกรรม ซึ่งจากการแถลงของนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของการดูแลความปลอดภัยจากโรคติดต่อมาเป็นอันดับที่ 1 ควบคู่ไปกับการดูแลภาคเศรษฐกิจ

เพราะฉะนั้นในระยะเปลี่ยนผ่านที่จะครบกำหนดตามคำสั่งต่างๆ ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนครพนมจึงได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาทบทวนมาตรการต่าง ๆ โดยรายละเอียด ภายใต้แนวปฏิบัติที่ว่าสร้างเกราะป้องกันจากภายนอก เพิ่มภูมิคุ้มกันภายใน และลดภาวะแรงกดดันที่เกิดขึ้นกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ  ทำให้มีหลายมาตรการที่ผ่อนปรนให้กับพี่น้องประชาชน เช่น เกี่ยวกับตลาดสดได้ผ่อนผันให้เปิดได้ในช่วงกลางวัน ตั้งแต่ 5.00 -18.00 น. ส่วนตลาดที่มีลักษณะเป็นตลาดโต้รุ่ง ตลาดนัดตลาดชุมชน ให้เปิดในเวลา 16:00 – 20.00 น. แต่ต้องผ่านมาตรฐานการตรวจสอบจากทางอำเภอและทางสำนักงานสาธารณสุขอำเภอก่อนจึงจะสามารถเปิดได้ ในส่วนของการเดินทางเข้าออกจังหวัดนครพนมทั้งทางบกและทางอากาศนั้นหลังวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ไม่ต้องขออนุญาตแล้วแต่ก่อนที่จะผ่านเข้ามาในจังหวัดนครพนมจะต้องมีการตรวจคัดกรองและให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ก่อนว่าไปที่ไหน พักอยู่ที่ไหน ประวัติก่อนหน้า 14 วันเป็นอย่างไร เพื่อที่จังหวัดจะได้ประมวลข้อมูลทั้งหมดและส่งต่อไปยังอำเภอและพื้นที่ ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. เข้าไปติดตามทุกรายที่เข้ามา ส่วนมาตรการที่ยังคงเดิมก็ยังคงมีหลายมาตรการเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การห้ามคนต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครพนมยกเว้นกรณีที่ได้รับอนุญาต  บริเวณสะพานมิตรภาพ 3 อนุญาตเฉพาะการขนส่งสินค้าที่กำหนดเท่านั้นบุคคลทั่วไปยังไม่สามารถเข้าออกได้ รวมถึงการจำหน่ายสุรา สถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดที่เคยห้ามก่อนหน้านี้ก็ยังคงมีเหมือนเดิม

ส่วนเรื่องที่เพิ่มเติมขึ้นมา ก็คือคณะกรรมการโรคติดต่อ มีมติให้ทุกคนที่จะออกนอกเคหสถานต้องสวมหน้ากาก ผู้ที่ไม่สวมหน้ากากแล้วอยู่ภายนอกเคหะสถานถือว่ามีความผิด มีโทษตามกฎหมายควบคุมโรคติดต่อ โดยจะเริ่มในวันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้จังหวัดนครพนมจะมีการประเมินสถานการณ์ทุกวันและมาตรการต่างๆ จะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของสภาพปัญหาในพื้นที่และตามนโยบายส่วนกลาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น