วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมขอบคุณ ร้านค้า สถานประกอบการ ตลอดจนประชาชนที่ให้ความร่วมในการป้องกันไวรัสโควิด 19 พร้อมผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติม


วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ที่ห้องประชุมพระธาตุนคร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมประชุม ร่วมกับพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ร่วมกับจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ

จากนั้นได้มีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมเพื่อพิจารณากำหนดมาตรการป้องกันโรคในการผ่อนคลายระยะที่ 3 ของจังหวัดนครพนมต่อ โดยในที่ประชุมได้มีการรายงานถึงผลการตรวจประเมินมาตรฐานการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มีการส่งเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจติดตาม ร้านค้า สถานประกอบการ ร้านอาหาร ตลาดสด และสถานบริการต่างๆ จำนวน 1,929 แห่ง ทั่วทั้งจังหวัด พบว่าประชาชนและผู้ประกอบการต่างก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ผ่านเกณฑ์มาตรฐานมากถึง 1,572 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 81.5 ในส่วนของร้านที่ไม่ผ่านเกณฑ์นั้น ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเกี่ยวกับการเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะนั่ง การคัดแยกและกำจัดขยะมูลฝอยที่ยังไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ และมีการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะไม่ครบทุกร้าน ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการให้คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อให้ทุกแห่งสามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง เช่น แนะนำการลงทะเบียนเพื่อสร้างคิวอาร์โค้ดไทยชนะในการตอบรับลงทะเบียน ให้เพิ่มรายละเอียดในการจัดทำทะเบียนเวลาก่อนเข้าและออกของสถานที่ รวมถึงแนะนำให้ลดความแออัดภายในร้านด้วยการโทรจองคิวการใช้บริการ

และในโอกาสนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมก็ได้มีการฝากขอบคุณผ่านสื่อมวลชนไปยัง ร้านค้า สถานประกอบการ ตลอดจนประชาชนที่ให้ความร่วมในการป้องกันไวรัสโควิด -19 เป็นอย่างดี ซึ่งจังหวัดนครพนมได้มีการเสนอมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น การให้ยึดมาตรการผ่อนคลายตามส่วนกลาง รวมถึงมีการผ่อนผันบางส่วนเพิ่มเติมขึ้นมา เช่น การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดภาคเรียนในปีการศึกษา 2563 ในระยะแรกนี้ให้ทยอยผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาเพื่อจัดการศึกษาการอบรมการประชุมหรือเพื่อประโยชน์ในการสอบ หรือการคัดเลือกบุคคล ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเด็กก่อนวัยเรียนให้เปิดได้เฉพาะการปฏิบัติงานที่จำเป็นของเจ้าหน้าที่เพื่อการนัดหมาย จัดสรรและแจกจ่ายเครื่องดื่มและอาหารกลางวันและการจัดเตรียมความพร้อมของสถานที่ แต่ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันที่ทางราชการกำหนด ขณะที่กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพหรือสันทนาการนั้นสามารถเปิดดำเนินการได้ เช่น สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนสให้เปิดดำเนินการได้โดยจำกัดจำนวนผู้เล่น ในการเล่นแบบรวมกลุ่มและงดเว้นการอบตัวหรืออบไอน้ำแบบรวม สถานที่ฝึกซ้อมมวย โรงยิมหรือค่ายมวยให้เปิดได้เฉพาะเพื่อการฝึกซ้อมการชกลม สนามกีฬาให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะกิจกรรมเพื่อการออกกำลังกายหรือการฝึกซ้อมในประเภทกีฬา ได้แก่ ฟุตบอล ฟุตซอล บาสเกตบอลและวอลเลย์บอล โดยต้องไม่เป็นการแข่งขันและมีจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมที่อยู่ในบริเวณสนามกีฬาไม่นับรวมผู้เล่นไม่เกิน 10 คน ขณะที่การเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัดก็ได้มีการผ่อนคลายการเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัดตามที่กระทรวงคมนาคมกำหนด โดยประชาชนผู้เดินทาง ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน การจัดระบบและระเบียบต่าง ๆ ที่ราชการกำหนด ทั้งนี้จังหวัดได้มีการพิจารณาลดพื้นที่เสี่ยง พื้นที่ระบาดลงเหลืออยู่ 5 จังหวัด ประกอบไปด้วย กรุงเทพฯ นนทบุรี ภูเก็ต ยะลา และนราธิวาส ในส่วนของแรงงานต่างด้าวยังคงมีมาตรการห้ามเดินทางเข้ามาในพื้นที่เช่นเดิม

วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

หน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. จังหวัดนครพนมร่วมกับอาสาสมัครและเครือข่าย แสกนพื้นที่หาผู้ประสบปัญหาทางสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19


วันที่ 29 พฤษภาคม 2563 ที่จังหวัดนครพนม นางสาวแสงดาว อารีย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในส่วนของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้น มีมาตรการต่าง ๆ เพื่อเยียวยาช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะในช่วงนี้จะเห็นว่ามีพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบของการระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นจำนวนมาก และขอนำเรียนในส่วนของ 4 หน่วยงานที่กำลังดำเนินการในขณะนี้ คือ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม บ้านพักเด็กและครอบครัว ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง และศูนย์การจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ที่ได้ร่วมกับเครือข่ายในชุมชนและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) บูรณาการเป็นทีม One Home ลงพื้นที่สำรวจหาผู้ประสบปัญหาทางสังคม ไม่ว่าจะเป็น เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ ผู้สูงอายุ คนเร่ร่อน/ไร้ที่พึ่ง และคนขอทาน เพื่อให้การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน

โดยการดำเนินการจะเริ่มจากการสำรวจข้อมูลของ อพม. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาลหรือชุมชนเอง แล้วรายงานเข้ามายังสำนักงาน รวมถึงข้อมูลที่มาจากศูนย์ช่วยเหลือสังคมที่ประชาชนโทรเบอร์สายด่วน 1300 ด้วย จากนั้นสำนักงานจะมีการคัดแยกพื้นที่ คัดกรองความจำเป็นเร่งด่วน แล้วจึงส่งนักสังคมสงเคราะห์ นักพัฒนาสังคมร่วมกับส่วนต่าง ๆ เป็นทีม One Home ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านและสำรวจข้อเท็จจริงอีกครั้งว่าเป็นไปตามที่มีการให้ข้อมูลมาหรือไม่อย่างไร แล้วรวบรวมข้อมูลมาจัดลำดับทำเรื่องอนุมัติเบิกเงินให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะมีการบันทึกเข้าในระบบฐานข้อมูลผู้ประสบปัญหาทางสังคมของกระทรวงด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้การลงพื้นที่สำรวจข้อมูลปัจจุบันครบทั้ง 12 อำเภอแล้ว แต่ทางหน่วยงานจะยังคงมีการบูรณาการดำเนินงานเช่นนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชน ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมนั้น จะมีทั้งการช่วยเหลือด้วยเงินสงเคราะห์ 2,000 บาท ซึ่งบางรายอาจจะไม่ได้รับ แต่จะเป็นเครื่องอุปโภคบริโภคที่มาจากการผู้มีจิตศรัทธาบริจาคนำไปมอบให้กับผู้ที่เดือดร้อนแทน

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

นครพนมเปิดเวทีรับแนวคิดและสร้างความเข้าใจผู้ประกอบการเกี่ยวกับโรงงานในชีวิตวิถีใหม่ เตรียมความพร้อมฟื้นฟูเศรษฐกิจจังหวัด


วันที่ 28 พฤษภาคม 2563 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการอบรมสัมมนาจัดเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมความพร้อมด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม ที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนมจัดขึ้น เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เจ้าของกิจการโรงงานอุตสาหกรรมและ/หรือผู้จดทะเบียนโรงงานอุตสาหกรรม ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2562 และเพื่อเป็นการกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน หลังสถานการณ์โควิด -19 รวมทั้งเป็นการส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของหน่วยงาน ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ร่วมรับรู้ ร่วมคิดหรือยกระดับไปสู่การมีส่วนร่วมในการประสานพลังระหว่างหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการ ยกระดับการพัฒนาระบบงาน นำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนมเพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับท้องถิ่นและชุมชนต่อไป

โดยผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จำนวน 200 คน จะได้รับความรู้เกี่ยวกับกฎหมายการประกอบกิจการโรงงานในชีวิตวิถีใหม่ New Normal เช่น การตั้ง/ขยาย/ต่อเติมโรงงาน ผังเมืองจังหวัดนครพนมที่สามารถตั้งโรงงานได้ กฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมโรงงาน กฎหมายด้านสาธารณสุขที่โรงงานควรรู้ มาตรการป้องกันและการลดมลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ภาษีที่โรงงานคนรู้ กฎหมายของแรงงานที่โรงงานควรรู้ กฎหมายด้านยาเสพติดกับโรงงานอุตสาหกรรม และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อเป็นรากฐานความรู้สู่การพัฒนาการตลาด นอกจากนี้ยังจะได้ร่วมเป็นเครือข่ายปราชญ์อุตสาหกรรมเพื่อถ่ายทอดความรู้ ภูมิปัญญา ประสบการณ์สู่คนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะพัฒนาต่อยอดธุรกิจเดิมให้เติบโตมากยิ่งขึ้น

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ลงพื้นที่นครพนมตรวจประเมินกิจกรรมจิตอาสาต้านภัยแล้ง


วันที่ 27 พฤษภาคม 2563 ที่จังหวัดนครพนม พันโท ภูมินรินทร์ สุขเสพ หัวหน้าชุดประเมินที่ 2 (2B) ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน(โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน) พร้อมคณะได้ลงพื้นที่บ้านเหล่า หมู่ที่ 14 ตำบลนาคำ อำเภอศรีสงคราม เพื่อตรวจติดตามประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม “จิตอาสาต้านภัยแล้ง การประสานความร่วมมือการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน” ในระดับจังหวัด ที่จังหวัดนครพนมได้ดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอปลาปาก อำเภอโพนสวรรค์ และอำเภอศรีสงคราม ที่มีความจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ ด้วยการขุดลอกหนองน้ำเดิม ขุดลอกหนองน้ำใหม่ หรือสร้างแหล่งน้ำในครัวเรือน รวมถึงมีกิจกรรมปลูกหญ้าแฝก ไม้พันธุ์ในบริเวณคันดิน ร่องน้ำเดิม หนองน้ำใหม่และแหล่งน้ำในครัวเรือนเพื่อเป็นการอนุรักษ์ดินและน้ำ ปรับปรุงสภาพแวดล้อม ป้องกันการพังทลายและการกัดเซาะคันดิน รวมถึงการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนจิตอาสาและทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมในการสร้างการดูแลและรักษาดิน น้ำและป่าของชุมชนให้มีความอุดมสมบูรณ์ โดยมีคณะวิทยากรจิตอาสา 904 ในสังกัด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม นายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับและชี้แจงกิจกรรมโครงการที่ได้ดำเนินงานที่ผ่านมา

โดยในวันนี้เป็นการตรวจประเมินกิจกรรมขุดลอกห้วยสายคำ ซึ่งเป็นคลองน้ำของชุมชนที่ประชาชนในพื้นที่ตำบลนาคำ อำเภอศรีสงคราม กว่า 500 ครัวเรือน ใช้ในการอุปโภคและการเกษตร แต่ด้วยกาลเวลาที่ยาวนานทำให้ห้วยสายคำมีสภาพที่ตื้นเขิน ดังนั้นคณะจิตอาสาจังหวัดนครพนมจึงได้ร่วมกันขุดลอกห้วยดังกล่าวเป็นระยะทาง 3,000 เมตร ให้กลับมาเป็นแหล่งกักเก็บน้ำของชุมชนเช่นเดิม จากนั้นเป็นการตรวจประเมินกิจกรรมขุดหลุมในคลองห้วยสายคำ จำนวน 3 หลุม เพื่อให้เป็นหลุมขนมครกไว้กักเก็บน้ำให้กับชาวบ้านและชุมชน ตามมาด้วยกิจกรรมสร้างฝายชะลอน้ำห้วยสายคำและการตรวจประเมินกิจกรรมแหล่งน้ำครัวเรือน (โคก หนอง นา) บ้านเหล่า หมู่ที่ 14 ตำบลนาคำ อำเภอศรีสงคราม ก่อนที่จะเดินทางไปที่อำเภอโพนสวรรค์เพื่อตรวจประเมินกิจกรรมขุดหลุมในคลอง (ลำห้วยค้อ) บ้านโพนสวรรค์ หมู่ที่ 7 ตำบลโพนสวรรค์ และตรวจประเมินกิจกรรมขุดลอกหนองน้ำเดิมห้วยวังยาง บ้านกุตาไก้ หมู่ที่ 10 ตำบลกุตาไก้ ของอำเภอปลาปาก

ทั้งนี้ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ได้ร่วมกับกระทรวงกลาโหม กรมกิจการพลเรือนทหารบก กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งในมิติเชิงพื้นที่และขับเคลื่อนกลไกจิตอาสา เพื่อสนับสนุน ป้องกันและลดผลกระทบจากภาวะขาดแคลนน้ำ เป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุดและทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการนำเครื่องจักรกล ยานพาหนะออกปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

นครพนม คลายมาตรการอนุญาตให้รถโดยสารประจำทาง หมวด 3 เปิดบริการได้


วันที่ 25 พฤษภาคม 2563 ที่ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ครั้งที่ 17/2563 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานป้องกัน ค้นหาและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกลุ่มประชากรเสี่ยงและสถานที่เสี่ยง (Sentinel Surveillance) โดยในที่ประชุมได้มีมติพิจารณาปรับลดจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงเหลือ 9 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. นครปฐม นนทบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี กระบี่ ภูเก็ต ยะลา และนราธิวาส และปรับลดจำนวนด่านคัดกรองบุคคลเข้าจังหวัดนครพนมลงเพื่อให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้ขอให้เจ้าหน้าที่เน้นสอบถามข้อมูลการเดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่มีการระบาดเป็นพิเศษ รวมทั้งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม หรือผู้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมมอบหมายมีอำนาจสั่งปิดสถานที่ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่ทางราชการหรือจังหวัดนครพนมกำหนดเป็นเวลา 3 วัน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติเกี่ยวกับการอนุญาตให้เปิดเดินรถโดยสารประจำทาง หมวด 3 รถโดยสารที่วิ่งประจำอยู่ในเส้นทางที่มีจุดเริ่มต้นในจังหวัดหนึ่งและไปสุดเส้นทางในอีกจังหวัดหนึ่งในส่วนภูมิภาค ระหว่างเส้นทางอาจผ่านเขตจังหวัดต่าง ๆ จังหวัดเดียว หรือหลายจังหวัดก็ได้ เพื่อเป็นการผ่อนคลายมาตรการการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง รวมทั้งเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจในจังหวัดนครพนม โดยอนุญาตให้มีการเดินรถโดยสารประจำทาง หมวด 3 เฉพาะเส้นทางที่มีต้นทางหรือปลายทางในพื้นที่จังหวัดนครพนมกับจังหวัดต่าง ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเท่านั้น สำหรับเส้นทางรถโดยสารประจำทาง หมวด 3 ข้ามภาค จะมีการประเมินสถานการณ์ตามความเหมาะสมในโอกาสต่อไป ในส่วนของการเดินรถโดยสารประจำทาง หมวด 2 ยังคงให้งดการเดินรถอยู่จนกว่าจะมีคำสั่งหรือประกาศเปลี่ยนแปลงหรือสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ในส่วนของรถโดยสารไม่ประจำทางยังคงให้งดการเดินรถเข้า-ออกภายในเขตพื้นที่จังหวัดนครพนมต่อไป
และในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการแบ่งทีมเพื่อออกตรวจติดตามประเมินผลการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคในสถานประกอบการทุกประเภทที่ได้มีการผ่อนปรนให้เปิดดำเนินการได้ก่อนหน้านี้ เช่น ตลาด ร้านจำหน่ายอาหาร กิจการค้าปลีก-ส่ง ร้านเสริมสวย แต่งผม กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย ห้างสรรพสินค้าด้วย

วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

รองผู้ว่าฯนครพนม นำทีมเหล่ากาชาดเยี่ยมให้กำลังใจและช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยตำบลกุรุคุ


วันที่ 22 พฤษภาคม 2563 ที่บริเวณบ้านโคกสง่า ตำบลกุรุคุ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้นำคณะจิตอาสา 904  สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ หลังเกิดเหตุพายุฤดูร้อนลมกรรโชกแรง ในคืนวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 เวลาประมาณ 23.30 น ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนจำนวน 32 คนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากบ้านเรือนเสียหายรวมทั้งสิ้น 16 หลังคาเรือนแบ่งเป็นเสียหายหนัก 3 หลัง และเสียหายบางส่วน 13 หลัง

โดยก่อนหน้านี้ทางอำเภอเมืองนครพนม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เร่งสำรวจและให้การช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ด้วยการจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ เพื่อมาซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับผู้ประสบภัย และระดมสรรพกำลังประชาชนจิตอาสา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อปพร. และกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 210 ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันกันซ่อมแซมบ้านเรือนผู้ประสบภัยมาอย่างต่อเนื่องจนแล้วเสร็จเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงหลังที่เสียหายหนักที่กำลังเร่งดำเนินการอยู่ พร้อมกันนี้ก็ได้มีการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ในการเฝ้าระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากช่วงนี้มีการแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาเกี่ยวกับพายุฤดูร้อน โดยขอให้ทุกคนหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่หรือที่ไม่แข็งแรง เพราะเมื่อมีพายุฝนและลมกรรโชกแรงอาจก่อให้เกิดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินได้ รวมทั้งมีการแนะนำให้ตัดต้นไม้ใหญ่ที่ปกคลุมบ้านเรือนเพื่อเป้นสการป้องกัน และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่องด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

รอง ผบ.สูงสุด ลงพื้นที่นครพนม เยี่ยมกำลังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติและตรวจมาตรการผ่อนคลายระยะ 2

วันที่ 21 พฤษภาคม 2563 ที่จังหวัดนครพนม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ภายหลังมีมาตรการให้กิจการและกิจกรรมได้รับการผ่อนคลายและเปิดดำเนินการได้ จึงได้สั่งการให้มีการตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน ในโอกาสนี้ พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (หน.ศปม.) จึงได้มอบหมายให้ พลเรือเอก พัชระ พุ่มพิเชษฐ์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติตามข้อกำหนดออก ตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 5 ฉบับที่ 6 และฉบับที่ 7 และคำสั่งปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง  ที่ 11/63 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เพื่อให้คำแนะนำ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย รวมทั้งรับทราบผลการดำเนินงาน การแก้ปัญหา ข้อขัดข้องต่าง ๆ ของเจ้าหน้าที่ชุดตรวจ ภายหลังรัฐบาลได้ประกาศการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 2 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คณะหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับและบรรยายสรุป

 โดยการตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ประกอบไปด้วย บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ซึ่งเป็นจุดที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนครพนม มีการผ่อนคลายมาตรการเกี่ยวกับการปิดช่องทางการเข้าออกของคน ยานพาหนะ และสิ่งของ เป็นการชั่วคราว ยกเว้นการนำเข้า ส่งออกสินค้าตามกฎหมายว่าด้วยการศุลกากรและ สินค้าผ่านแดน โดยอนุญาตให้พนักงานขับรถสินค้า จำนวน 1 คนและคนประจำรถสินค้า จำนวน 1 คน รวมคันละไม่เกิน 2 คน และต้องผ่านการตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 จากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พรมแดนสะพานมิตรภาพ 3 แล้วเท่านั้น ที่เดิมหากบุคคลดังกล่าวข้างต้นได้ไปอยู่นอกราชอาณาจักรไทยเป็นระยะเวลาเกิน 5 ชั่วโมง เมื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรไทยต้องเข้าสู่กระบวนการกักกันไว้เพื่อสังเกตอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน เป็นหากบุคคลดังกล่าวข้างต้นได้ไปอยู่นอกราชอาณาจักรไทยเป็นระยะเวลาเกิน 7 ชั่วโมง เมื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรไทยต้องเข้าสู่กระบวนการกักกันไว้เพื่อสังเกตอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน

จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการ ร้านค้าและประชาชนที่มาใช้บริการ ที่บริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม ร้านพลอยซุปเปอร์เซนเตอร์ ห้าง Big C สาขานครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆ แห่งที่จังหวัดนครพนมได้มีมาตรการผ่อนคลายให้กับประชาชน แต่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด คือ มีการคัดกรองวัดอุณหภูมิผู้ประกอบการ ผู้ขายและผู้ซื้อ ทำความสะอาดโดยการเช็ดทำความสะอาดพื้น พื้นผิวสัมผัส หรือแผงจำหน่ายสินค้าบ่อย ๆ ก่อนและหลังการจัดกิจกรรม ให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน ให้ผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการส่วนหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเสมอ ให้มีจุดบริการที่ล้างมือพร้อมสบู่เหลวหรือเจลแอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ให้เว้นระยะห่างของแผง ระยะนั่ง หรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ให้ควบคุมจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่ให้แออัดหรือลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักการเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน มีการทำทะเบียนผู้ประกอบการ กำหนดทางเข้าออกตลาดเพียงช่องทางเดียว หรือกรณีที่จำเป็นต้องมีทางเข้าทางออกหลายทาง ก็ให้มีการคัดกรองทุกช่องทางเข้าออก มีแผนผังและแบ่งโซนประเภทสินค้าในตลาด เช่น แผงขายอาหารสด อาหารบรรจุเสร็จ อาหารแห้ง แผงจำหน่ายเสื้อผ้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการแนะนำให้มีการใช้แพลตฟอร์ม ไทยชนะ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายซื้อจากห้างร้านต่าง ๆ เพื่อลดความแออัด ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการสัมผัสสิ่งของและธนบัตรได้ เพราะถึงแม้รัฐบาลจะผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 2 แล้ว แต่ยังคงมีความจำเป็นที่ทุกคนต้องรักษาวินัย ในการป้องกันและเฝ้าระวังโรค คือ ความไม่ประมาท เพื่อสร้างความปลอดภัยและทำให้ประเทศไทยบรรลุผลสัมฤทธิ์ในการควบคุมโรคโควิด – 19 

วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นำของยังชีพช่วยเหลือครอบครัวบ้านถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลังที่อำเภอเรณูนคร


วันที่ 20 พฤษภาคม 2563 ที่บ้านเลขที่ 36 หมู่ที่ 5 บ้านดงมะเอก ตำบลโพนทอง อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม นายบำรุง ศรีลาชัย นายอำเภอเรณูนคร พร้อมด้วยคณะเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารภัยจังหวัดนครพนม สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันและผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 5,000 บาท ตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ครอบครัวนายประเสริฐศิลป์ ผาสุข ที่บ้านประสบเหตุไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง เมื่อเวลาประมาณ 18.20 น. ของวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา

นางสมรัก วิโย ซึ่งเป็นญาติของนายประเสริฐศิลป์ ผาสุก เปิดเผยว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้น โดยชั้นบนเป็นไม้ส่วนชั้นล่างเป็นผนังก่ออิฐฉาบปูน มีผู้อยู่อาศัยในบ้านด้วยกัน 4 คน แต่วันเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้านเลยเนื่องจากทุกคนเดินทางไปต่างจังหวัด ขณะเกิดเหตุตนเองก็อยู่ที่ทุ่งนา มีเพื่อนบ้านแจ้งว่ามีบ้านในหมู่บ้านถูกไฟไหม้จึงรีบเข้ามาดู ก็เห็นไฟโหมลุกไหม้อย่างแรงทั่วบ้านแล้ว ซึ่งทุกคนที่เห็นต่างก็พยายามช่วยกันดับไฟเพื่อไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบลนางาม องค์การบริหารส่วนตำบลรณู เทศบาลตำบลเรณู ที่ได้นำรถน้ำดับเพลิงมาควบคุมเหตุ ซึ่งกว่าไฟจะสงบลงได้ก็ใช้เวลานับชั่วโมงทำให้บ้านเสียหายหมดทั้งหลัง รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น รถจักรยานยนต์ โทรทัศน์ พัดลมและของใช้อื่น ๆ และในวันนี้ก็ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ให้การช่วยเหลือนำสิ่งของและเงินมามอบให้ในครั้งนี้แทนญาติของตัวเองที่ยังอยู่ต่างจังหวัดด้วย

วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

สสจ.นครพนม เสริมกำลังทัพด้านสาธารณสุข แนะหลักคิดข้อปฏิบัติการเป็นข้าราชการที่ดี


วันที่ 19 พฤษภาคม 2563 ที่ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายแพทย์จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดการอบรมปฐมนิเทศผ่านระบบ Cisco Webex ให้กับนายแพทย์และทันตแพทย์ที่จบใหม่ที่ประสงค์จะมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดนครพนม ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขบรรจุใหม่ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้เข้ารับการอบรมหลักสูตรการเป็นข้าราชการที่ดี รวมทั้งสิ้น 34 ราย เพื่อพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข ทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการดูแล รักษาพยาบาล และให้คำปรึกษาในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน  เป็นการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)  

โดยในโอกาสนี้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ได้บรรยายพิเศษเกี่ยวกับนโยบายการดำเนินงานด้านสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ปี พ.ศ.2563 ภายใต้ภาวะวิกฤติการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมถึงได้ให้หลักคิดในการเป็นข้าราชการที่ดีกับหลักธรรมคำสอนในการครองตน ครองคนและครองงาน รวมถึงหลักปฏิบัติในการรักษาคนไข้ในโรงพยาบาลที่ข้าราชการใหม่ควรรู้และนำไปปฏิบัติ นอกจากนี้ผู้ที่เข้ารับการอบรมปฐมนิเทศในครั้งนี้ยังจะได้รับองค์ความรู้เกี่ยวกับประสบการณ์การปฏิบัติงานสู้โควิด 2019 และสิ่งที่น่าจดจำ ระบบข้อมูลข่าวสารสารสนเทศและระบบไอทีที่ควรรู้ในการปฏิบัติงาน บุคลิกภาพและการทำงานอย่างไรให้มีคุณภาพ ระเบียบข้อบังคับและแนวทางการจัดทำเอกสารและการเบิกจ่ายเงินประเภทต่าง ๆ  จิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริและการทำความดีด้วยหัวใจ ระเบียบวินัยและหัวใจแห่งความสำเร็จของการเป็นข้าราชการที่ดี เทคนิคการสื่อสารเชิงบวกเพื่อการจัดการความขัดแย้ง การทำงานเป็นทีมเพื่อสร้างสรรค์องค์กรคุณภาพ รวมถึง กฎ ระเบียบ วินัย สิทธิประโยชน์และความก้าวหน้าของการเป็นข้าราชการ คุณธรรมจริยธรรมนำพาสู่การเป็นข้าราชการที่ดี และธรรมะกับการเป็นข้าราชการที่ดี

วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

พาณิชย์จับมือเทศบาลเมืองนครพนม เปิดเต็นท์ขายปลานิลช่วยผู้เลี้ยงปลากระชัง


วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ที่บริเวณหน้าสวนชมโขง ฝั่งด้านข้างศาลากลางจังหวัดนครพนม สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม ได้ร่วมกับเทศบาลเมืองนครพนม เปิดเต็นท์เพื่อให้เกษตรกรที่เลี้ยงปลานิลในกระชัง บ้านเหล่าสวนกล้วย ตำบลหนองเทา อำเภอท่าอุเทน ได้นำปลานิลสดๆ จากกระชังมาวางจำหน่ายระหว่างวันที่ 18-22 พฤษภาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 9:00 น เป็นต้นไป โดยเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลจะวางจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด คืออยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท ซึ่งถ้าลูกค้าต้องการให้ชำแหล่ก็พร้อมบริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติมรวมถึงมีผักสวนครัว ประเภท ขิง ข่า ตะไคร้และใบมะกรูดแถมให้ เพื่อที่ลูกค้าจะได้นำไปปรุงเป็นเมนูอาหารรับประทานได้เลยโดยที่ไม่ต้องไปซื้ออะไรเพิ่มเติมมากนัก

นางสาวกัญญา ศรีจันทร์โพธิคุณ  พนักงานขายอาหารปลาบริษัทอินเทคค์ ฟีด จำกัด ซึ่งวันนี้เดินทางมาช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลในกระชังจำหน่ายปลา เปิดเผยว่า ปกติเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลในกระชังจะจำหน่ายปลาที่เลี้ยงล็อตนี้ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยจะมีทั้งการส่งแม่ค้าในตลาดสด ตลาดนัด และวางจำหน่ายเอง แต่ช่วงที่ผ่านมาที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้ไม่สามารถจำหน่ายได้ตามเป้าที่วางไว้ เพราะแม่ค้าในตลาดสดรับปลาน้อยลงเนื่องจากคนไม่ค่อยมาเดินตลาด ตลาดนัดก็ไม่ได้เปิด งานรื่นเริงอะไรก็ไม่มี ทำให้ช่วงดังกล่าวจากเดิมที่เคยขายได้ประมาณวันละ 1 ตันก็เหลืออยู่ไม่กี่ร้อยกิโลกรัม ทำให้มีปลานิลตกค้างอยู่ในกระชังประมาณ 100 ตัน ซึ่งในวันนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลในกระชังทุกคนดีใจมากที่สถานการณ์คลี่คลายเพราะนอกจากจะสามารถจำหน่ายในตลาดสด ตลาดนัดได้ตามปกติแล้ว หน่วยงานราชการยังเปิดให้มีการจำหน่ายที่สวนชมโขงเพิ่มเติมอีกหนึ่งจุด ซึ่งจุดนี้ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนสามารถมองเห็นได้โดยสะดวกทำให้ตลอดเวลามีลูกค้าแวะเวียนกันมาสอบถามและซื้อกลับไปปรุงอาหารไว้รับประทานกัน  

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ผบ.มทบ. 210 ส่งกำลังพลสนับสนุนเพิ่ม เร่งซ่อมบ้านผู้ประสบวาตภัยหวั่นฝนตกซ้ำ



วันที่ 17 พฤษภาคม 2563 ที่จังหวัดนครพนม พลตรี สามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 นำกำลังพลลงพื้นที่สนับสนุนเพิ่มเติมและเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนสลับกับลมกรรโชกแรง ในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 เวลาประมาณ 23.30 น. ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนหมู่ที่ 6 ตำบลกุรุคุ อำเภอเมือง เสียหายรวมทั้งสิ้น 16 หลังคาเรือน แบ่งเป็นเสียหายหนัก 3 หลัง  เสียงหายบางส่วน 13 หลัง โดยก่อนหน้านี้ทางมณฑลทหารบกที่ 210 ได้ส่งกำลังพลมาช่วยซ่อมแซมบ้านให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ร่วมกับทางอำเภอเมืองนครพนม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนจิตอาสา แต่เนื่องจากมีบ้านที่เสียหายหนัก 3 หลัง จำเป็นต้องรื้อถอนทั้งหมดก่อนจึงจะเริ่มซ่อมแซมได้ ทำให้เสียเวลาไปหลายวัน ดังนั้นในวันนี้จึงได้นำกำลังพลมาสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถดำเนินการได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

พลตรี สามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210  เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านในวันนี้ผู้ประสบภัยทุกคนยังคงมีกำลังใจที่ดีอยู่ เพราะทุกฝ่ายต่างเร่งระดมสรรพกำลัง ความสามารถ ในการช่วยเหลือในครั้งนี้ ทั้งเจ้าหน้าที่จากทางอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ได้เร่งสำรวจความเสียหาย และจัดหาวัสดุอุปกรณ์ มาให้ทุกคนได้ร่วมกันซ่อมแซมบ้าน ในส่วนของมณฑลทหารบกที่ 210 นั้น ได้ส่งกำลังพลมาช่วยเหลือตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2563 ซึ่งจากการประเมินเห็นว่าถ้ากำลังเพียงเท่านี้คงจะใช้เวลาอีกหลายวัน ประกอบกับช่วงนี้ที่มีพายุฤดูร้อนในหลาย ๆ พื้นที่ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบเพิ่มเติมแม้จะมีเฉพาะฝนไม่มีลมกรรโชกแรงก็ตาม เพราะปัจจุบัน 1 ใน 3 ครอบครัวที่บ้านเสียหายหนัก ต้องอยู่อย่างยากลำบาก ต้องอยู่ในบ้านที่กำลังซ่อมแซมในส่วนที่สมบูรณ์ดีอยู่ เนื่องจากไม่มีญาติในหมู่บ้านนี้ ขณะที่อีก 2 ครอบครัวไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านญาติเป็นการชั่วคราวก่อน แต่ก็คงไม่สบายใจเท่ากับได้อยู่บ้านของตัวเอง ซึ่งถ้าการซ่อมแซมบ้านเสร็จเร็วเท่าไหร่ นั้นหมายถึงเราสามารถคืนความสุขได้เร็วเท่านั้น

วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

นรข.นครพนม ร่วมใจบริจาคโลหิตสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เนื่องในวันอาภากร ประจำปี 2563


วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ที่กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นาวาเอก โชคชัย เรืองแจ่ม รองผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง นำกำลังพล จำนวน 70 นาย และประชาชนในพื้นที่ที่มีจิตเป็นกุศลประมาณ 20 คน ร่วมกันบริจาคโลหิตเนื่องในวันอาภากร ประจำปี 2563 ให้กับโรงพยาบาลนครพนมและสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ที่ได้ออกหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการ ณ จุดที่ตั้งเพื่อสำรองโลหิตไว้ใช้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และในยามฉุกเฉิน

โดยกิจกรรมการรวมใจบริจาคโลหิตในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ บิดาแห่งทหารเรือไทย เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ 19 พฤษภาคม ที่ได้ทรงวางรากฐาน พัฒนากิจการทหารเรือ จัดตั้งฐานทัพเรือ โรงเรียนนายเรือ ให้มีความเข้มแข็ง มั่นคง มีความเจริญก้าวหน้าเป็นที่ประจักษ์ มาตราบเท่าทุกวันนี้ และเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่วีรชนของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงที่ได้สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน โดยการบริจาคโลหิตในครั้งนี้ได้โลหิตรวมทั้งสิ้น 31,500 ซีซี

นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนสถานที่บริการหลังประชาชนมายื่นเรื่องตรวจสอบสิทธิ์เยียวยา 5 พัน มากกว่าทุกวัน

วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ที่จังหวัดนครพนม ประชาชนที่มีปัญหาจากการลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท กรณีเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังคงเดินทางมายื่นเรื่องกับทางเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่สำนักงานคลังจังหวัดนครพนมจะดำเนินการรับเรื่องร้องทุกข์เพื่อส่งผ่านต่อไปยังกระทรวงการคลังและรัฐบาลเพื่อตรวจสอบสิทธิ์และพิจารณาให้เข้าร่วมโครงการ จึงทำให้ประชาชนเดินทางมามากกว่าทุกวัน และด้วยประชาชนที่มามากขึ้นสำนักงานคลังจังหวัดนครพนมจึงได้เปลี่ยนสถานที่รับเรื่องใหม่ ที่มีพื้นที่กว้างกว่าเดิมเพื่อให้ทุกคนมีความสะดวกและมีระยะห่างที่เพียงพอไม่มีความเสี่ยงในการแพร่กระจายชองเชื้อโรค โดยสถานที่ใหม่ที่ให้บริการคือบริเวณศาลาประชาคมยงใจยุทธ ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างศาลากลางจังหวัดนครพนม รวมถึงมีการบูรณางานร่วมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม และ กอ.รมน.จังหวัดนครพนม เพื่อให้มีเจ้าหน้าที่เพียงพอในการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและรับเรื่องทั้งหมดด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง จากประชาชนที่เดินทางมาในวันนี้

โดยข้อมูล ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2563 จังหวัดนครพนมมีผู้ยื่นทบทวนสิทธิ์แล้ว ทั้งสิ้น 8,409 ราย เป็นผู้ขอทบทวนสิทธิ์เนื่องจากลงทะเบียนไม่สำเร็จเพราะเลขประจำตัวประชาชนไม่ถูกต้อง หรือระบบไม่พบข้อมูลการลงทะเบียนมากที่สุด รองลงมาเป็นอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล ข้อมูลที่นำส่งเพิ่มเติมไม่สมบูรณ์ ไม่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรการเยียวยา ระบบแจ้งว่าได้รับสิทธิ์แล้วแต่โอนเงินไม่สำเร็จเนื่องจากมีปัญหาเลขบัญชีไม่ถูกต้อง มีการยกเลิกการลงทะเบียนโดยไม่ได้ตั้งใจหรือเข้าใจผิด และกรณีอื่น ๆ เช่น ไม่ได้ลงทะเบียน ลงทะเบียนไม่เป็น ตามลำดับ และด้วยรัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน และมองว่ายังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ตกหล่นต้องการมาร้องทุกข์ จึงได้ขยายเวลาการรับเรื่องร้องทุกข์เงินเยียวยา 5,000 บาท เพิ่มเติม โดยตั้งแต่วันที่ 18 - 29 พฤษภาคม 2563 จะเปิดรับเรื่องร้องทุกข์รวมถึงให้ประชาชนสอบถามข้อมูลในวันเวลาราชการ ได้ที่ธนาคารของรัฐ ประกอบไปด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคาร ธกส. ทุกสาขาทั่วประเทศแทน

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

จ.นครพนม​ บูรณาการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยตำบลน้ำก่ำ​ อำเภอธาตุพนม

จ.นครพนม​ บูรณาการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยตำบลน้ำก่ำ​ อำเภอธาตุพนม
วันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ที่บริเวณศาลาประชาคมบ้านทับพวง​ ตำบลน้ำก่ำ​ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย​ คณะวิทยากรจิตอาสา 904  สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม​ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่​ หลังเกิดเหตุพายุฤดูร้อนลมกรรโชกแรงเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม​ 2563ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวน 19​  หลังคาเรือน ประกอบไปด้วย บ้าน​ทับพวง​ หมู่ที่​ 4 และหมู่ที่​ 20 จำนวน 14​ หลังคาเรือน​และบ้านนาหนาด​ หมู่ที่​ 9 จำนวน 5 หลังคาเรือน 


โดยก่อนหน้านี้ทางเทศบาลตำบลน้ำก่ำ และอำเภอธาตุพนม  ได้เร่งสำรวจและให้การช่วยเหลือ ในการจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ เพื่อมาซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับผู้ประสบภัย​ และได้ระดมสรรพกำลัง​  ซึ่งประกอบไปด้วยคณะจิตอาสา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อปพร. และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยกันซ่อมแซมบ้านเรือนผู้ประสบภัยจนแล้วเสร็จเกือบหมดแล้วเหลือเพียงหลังที่เสียหายหนักที่กำลังเร่งดำเนินการอยู่​ พร้อมกันนี้ก็ได้มีการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ในการเฝ้าระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้น​เนื่องจากช่วงนี้มีการแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา​เกี่ยวกับพายุ​ฤดูร้อน​โดยขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงเมื่อมีพายุฝนและลมกรรโชกแรง รวมทั้งการตัดต้นไม้ใหญ่ที่ปกคลุมบ้านเรือน และให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ​อย่างต่อเนื่องด้วย

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ชาวนครพนม แห่เติมและรับสิ่งของจากตู้ปันสุขคึกคัก


วันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศการแบ่งปันความสุขผ่านทางตู้ปันสุขยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยตู้ปันสุขของจังหวัดนครพนมนั้นมีผู้ที่ใจบุญนำมาตั้งวางไว้ในหลาย ๆ จุด ไม่ว่าจะเป็น ที่บริเวณหน้าร้านบ้านอาหารไทย ถนนสมุทรบรรหาร เทศบาลเมืองนครพนม บริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม บริเวณปากทางเข้าอุโมงค์นาคราชด้านข้างร้านกาแฟหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง บริเวณโรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์ และที่อื่น ๆ อีกหลายแห่งทั่วจังหวัดนครพนม เพื่อให้ทุกคนร่วมแบ่งปันอาหารให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตลอดจน ผู้ยากไร้ ผู้พิการ ได้นำไปรับประทาน

โดยผู้ใจบุญแต่ละคนจะมีการนำเอาสิ่งของต่าง ๆ  ไม่ว่าจะเป็น น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง ไข่ไก่ และสิ่งของอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ที่มีจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ไปใส่ไว้ในตู้ปันสุขมากบ้างน้อยบ้างตามกำลังของแต่ละคนที่จะแบ่งปันได้ในแต่ละมื้อ ซึ่งจาการสังเกตจะเห็นได้ว่าตู้ปันสุขไหนที่ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดหรือร้านสะดวกซื้อ จะมีของวางเยอะกว่าที่ที่อยู่ไกลออกไป เพราะหลายคนเมื่อจับจ่ายซื้อหาสินค้าแล้วก็จะแบ่งส่วนหนึ่งนำมาวางไว้ที่ตู้แห่งนี้ ขณะที่ผู้ยากไร้ ผู้ผู้พิการ หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบก็จะมารอรับของจากตู้ปันสุขในลักษณะหยิบของที่พอดีเพียงคนละชิ้นสองชิ้นเท่านั้น เพื่อเหลือไว้ให้คนอื่น ที่มาทีหลังได้นำไปรับประทานด้วยเช่นกัน จึงทำให้คนที่ผ่านไปมาได้เห็นภาพที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความประทับใจทั้งคนให้และคนรับ 

วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

อบจ.นครพนม จับมือทีโอที และ ม.นครพนม เปลี่ยนตู้โทรศัพท์เก่าเป็นตู้คัดกรองสู้ภัยโควิด 19


วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 ที่บริเวณโรงพยาบาลนครพนม ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายอนุคม ทองประเสริฐ โทรศัพท์จังหวัดนครพนม ร.อ.ดร.ชาญวิทย์ หาญรินทร์ คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม และนายวีระศักดิ์ จุลดาลัย อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม เป็นตัวแทนหน่วยงานในการส่งมอบตู้คัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 (Smart Swab Test Covid 19) จำนวน 2 ชุด ที่ได้ร่วมกันปรับปรุงตู้โทรศัพท์เก่าให้กลายเป็นตู้คัดกรองเชื้อเพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลนครพนมได้ใช้ในการปฏิบัติงานเป็นการลดความเสี่ยง โดยมีนายแพทย์ยุทธชัย ตริสกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม เป็นตัวแทนรับมอบ มีนายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ตลอดจนทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ร่วมเป็นสักขีพยานในการรับมอบครั้งนี้

จากสถานการณ์ปัจจุบันที่จังหวัดนครพนมยังเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะโรงพยาบาลนครพนม มีความเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อได้เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์ต้องตรวจและสัมผัสกับผู้ที่มีภาวะเสี่ยงในการตรวจคัดกรอง การเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากผู้ที่มีภาวะเสี่ยง จึงเป็นที่มาของการร่วมกันออกแบบตู้ตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 (Smart Swab Test Covid 19) ขึ้นมา โดยใช้ตู้โทรศัพท์เก่าของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มาเป็นโครงสร้างหลัก ซึ่งหลักการทำงานของตู้นั้นจะประกอบไปด้วย พื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนที่ชัดเจนคือส่วนของแพทย์และส่วนของผู้ที่มารับบริการ โดยที่แพทย์และผู้รับบริการไม่ต้องสัมผัสติดต่อกันโดยตรง ซึ่งการทำงานจะเริ่มเมื่อแพทย์ทำการตรวจและเก็บตัวอย่างเชื้อเสร็จ ผู้รับบริการออกจากตู้คัดกรองไปแล้ว ระบบเซนเซอร์ภายในตู้จะทำความสะอาดฆ่าเชื้อด้วยแสงอัลตราไวโอเลต UV (Ultraviolet) ประเภท UVC ที่มีความยาวคลื่นสั้นที่สุด (200-280 nm) ที่ส่งผลต่อโครงสร้างทางพันธุกรรมและยับยั้งไม่ให้ไวรัสทำการก๊อปปี้ตัวเองเพิ่มได้ ซึ่งจะเห็นได้ในประเทศจีนที่มีการนำแสง UVC ที่มีความเข้มข้นสูงมาใช้ในการต่อกรกับ COVID-19  เช่น รถเมล์ทุกคันถูกทำความสะอาดฆ่าเชื้อด้วยแสง UVC หรือตามโรงพยาบาลจะมีหุ่นยนต์ที่ฉายแสง UVC เพื่อทำความสะอาดพื้น ตามธนาคารก็ใช้แสง UVC เพื่อฆ่าเชื้อบนธนบัตร โดยหลังการทำความสะอาดด้วยแสง UVC แล้วจะเป็นการอบฆ่าเชื้อด้วยโอโซน ที่ผลิตขึ้นมาจากเครื่องที่ได้รับการรับรองจาก United States Environmental Protection Agency (US EPA) ถึงผลสัมฤทธิ์ในการกำจัดเชื้อโรคอันตรายต่าง ๆ  ในน้ำและในอากาศ  ก่อนที่พัดลมจะดูดอากาศภายในตู้เข้าสู่กระบวนการกรองอากาศผ่านแผ่นกรองอากาศ (HEPA Filter) ที่เป็นอุปกรณ์กำจัดสิ่งปนเปื้อนในอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในปัจจุบัน เมื่อเสร็จกระบวนการแล้วอากาศจึงจะถูกปล่อยออกสู่ภายนอก จากนั้นตู้จึงจะเปิดให้ผู้ใช้บริการรายใหม่เข้ารับการตรวจเป็นรายต่อไป ทั้งนี้กระบวนการทำงานทั้งหมดจะไม่ก่อให้เกิดสารพิษตกค้างและเป็นอันตรายต่อแพทย์รวมถึงผู้มาใช้บริการ จึงนับเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ออกมาตอบสนองความต้องการและลดความเสี่ยงให้กับทุกคน

เจ้าหน้าที่คลังนครพนมเร่งดำเนินการ หลังชาวบ้านยังคงมายื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบสิทธิ์ลงทะเบียนเยียวยา 5 พัน


วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 ที่บริเวณห้องคลังจังหวัดนครพนม ยังคงมีประชาชนที่มีปัญหาจากการลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท กรณีเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แล้วไม่สำเร็จ เดินทางมาร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่สำนักงานคลังจังหวัดนครพนม ผ่านไปยังกระทรวงการคลังและรัฐบาล เพื่อให้ตรวจสอบสิทธิ์และพิจารณาให้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว เพราะเป็นผู้ที่มีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จริง เนื่องจากระบบมีการคัดกรองคุณสมบัติผู้ผ่านเกณฑ์และไม่ผ่านเกณฑ์ แล้วแจ้งเตือนผ่านระบบ SMS กลับไป เช่น ระบบระบุว่าเป็นเกษตรกร เป็นนักศึกษา หรือบางรายระบุว่าหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนไม่ถูกต้อง ระบบไม่พบข้อมูลลงทะเบียนหรือกรอกข้อมูลไม่ถูกต้อง อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล ขอข้อมูลที่นำส่งเพิ่มเติม ไม่ได้รับสิทธิตามมาตรการเยียวยา รวมถึงระบบแจ้งว่าได้รับสิทธิแล้วแต่โอนเงินไม่สำเร็จ เนื่องจากมีปัญหาเลขบัญชีไม่ถูกต้อง ยกเลิกการลงทะเบียนโดยไม่ได้ตั้งใจหรือเข้าใจผิด และปัญหาอื่น ๆ ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้  

โดยภายหลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ได้มีการดำเนินการสอบถามและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลให้อีกครั้งเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดของข้อมูล ซึ่งในรายที่มีการยื่นทบทวนสิทธิ์แล้วเจ้าหน้าที่พิทักษ์สิทธิ์ประสานไปในขณะนั้นไม่อยู่ในพื้นที่ทำให้ไม่สามารถทบทวนสิทธิ์ได้ หรือรายที่ขอข้อมูลเพิ่มเติมวันนี้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการให้ได้ในทันทีเมื่อมีข้อมูลครบ ขณะที่ในรายอื่น ๆ ที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้ ก็จะรับเรื่องร้องเรียนเพื่อนำเอกสารทั้งหมดส่งต่อไปยังกระทรวงการคลังพิจารณาต่อไป โดยจะมีการชี้แจงถึงขั้นตอนและรายละเอียด เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ

วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

นครพนม สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง เปิดให้บริการขึ้นทะเบียนเยียวยาเกษตรกรวันหยุด ลดความเสี่ยงการแพร่บาดไวรัสโควิด - 19


วันที่ 9 พฤษภาคม 2563 ที่สำนักงานเกษตรอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 แห่งของจังหวัดนครพนม ที่มีการเปิดให้บริการแก่พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่เพื่อให้ทุกคนได้รับการขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ในการรับสิทธิ์เยียวยาจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ที่รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาครัวเรือนละ 15,000 บาท โดยจ่ายเดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน บรรยากาศเป็นไปด้วยความต่อเนื่องและเรียบง่ายที่อยู่บนมาตรฐานความปลอดภัยที่มีการตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย การเว้นระยะห่าง และการสวมหน้ากากอนามัยของเจ้าหน้าที่และเกษตรกรที่มารับบริการ

นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19  โดยในช่วงนี้ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ที่บริเวณสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม และเกษตรอำเภอทั้ง 12 แห่งของนครพนม จะมีเกษตรกรเดินทางมาใช้บริการขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของโรคได้ง่าย ดังนั้นกรมส่งเสริมการเกษตร จึงมีแนวทางให้สำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง เปิดให้บริการกับเกษตรกรในพื้นที่โดยไม่เว้นวันหยุดราชการเพื่อให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบได้รับการเยียวยาทันตามกรอบระยะเวลาที่ภาครัฐกำหนด ซึ่งทุกวันจะจัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยบริการพี่น้องเกษตรกรตั้งแต่เวลา 8.30 น. ไปจนถึง 17.00 น.  โดยเกษตรกรที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยานั้นเป็นเกษตรกรทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มพืช ประมง และกลุ่มปศุสัตว์ ทั้งนี้เกษตรกรต้องมีการขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรกับหน่วยงานนั้น ๆ และได้ปรับปรุงทะเบียนปี 2562/63 แล้ว

ดังนั้นจึงขอฝากให้เกษตรกรทุกรายเช็ครายชื่อที่ติดประกาศของทางหมู่บ้านให้ดี สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและมีการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2562/63 แล้ว หากมีรายชื่อในประกาศ ก็เพียงรอกระทรวงการคลังพิจารณาจ่ายเงินผ่านทางธนาคาร ธ.ก.ส. หรือธนาคารอื่น ๆ ที่ท่านได้แจ้งไว้ได้เลย  ส่วนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ก่อนปี 2562 และยังทำการเกษตรอยู่แต่ไม่ได้มาปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ให้แล้วเสร็จ คือ ให้ไปตรวจสอบรายชื่อที่ติดประกาศภายในหมู่บ้านตามที่ตั้งแปลงปลูก เมื่อพบรายชื่อในประกาศแล้ว ขอให้แจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับผู้นำชุมชนหรืออาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน หรือที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563  สำหรับเกษตรกรรายใหม่ที่ยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกรมาก่อนนั้นจะยังไม่มีชื่อในประกาศ ดังนั้นจึงต้องมีการปฏิบัติที่แตกต่างออกไป คือเมื่อมีการปลูกพืชแล้ว 15 วันตามเกณฑ์ ให้รีบไปติดต่อขึ้นทะเบียนเกษตรกร โดยให้ยื่นแบบฟอร์ม ทบก.01 พร้อมแนบหลักฐานที่กำหนดให้กับผู้นำชุมชน อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน หรือเกษตรอำเภอ ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 จากนั้นเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการลงไปตรวจสอบแปลงเกษตรของท่านเพื่อขึ้นทะเบียนให้

วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

คณะกรรมการโรคติดต่อนครพนม วางแนวทางรองรับการเปิดภาคเรียนปี 2563 และมาตรการเดินรถโดยสาร


วันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ที่ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ครั้งที่ 15/2563 ในการติดตามถึงมาตรการและแนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบไปด้วย การติดตามจำนวนคงคลังของหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ การตรวจรับคนที่มาจากจังหวัดภูเก็ตที่จังหวัดนครพนมได้ส่งรถบัสไปรับ รวมถึงคำสั่งจังหวัดนครพนมและประกาศที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ที่ได้ประกาศหรือสั่งไว้ก่อนวันที่กำหนดนี้และบังคับไม่ว่าจะเป็นการห้ามการให้กระทำการหรือผ่อนคลายใด ๆ ซึ่งถือว่าเป็นประกาศหรือสั่งตามข้อกำหนดที่ออกตาม ความมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปเช่นเดิม จนกว่าจะได้มีข้อกำหนด ประกาศหรือคำสั่งอื่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2563 รวมถึงให้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคในระดับต่าง ๆ การรายงานสถานการณ์โรคไข้ปวดข้อยุงลาย โรคชิคุนกุนยาของจังหวัดนครพนม และผลการดำเนินงานการเปิดตลาดชุมชน

โดยเฉพาะในส่วนของการเปิดรับนักศึกษาประจำปีการศึกษา 2563  นั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมได้มีการเน้นย้ำที่ต้องได้มาตรฐานด้านสาธารณสุขเพื่อความปลอดภัยของทุกคน ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 22 ได้กำหนดแนวทางการรับนักเรียนปีการศึกษา 2563 ประกอบไปด้วย การเปิดรับนักเรียนในชั้นระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จะรับสมัครระหว่างวันที่ 3 -12 พฤษภาคม 2563 ด้วยระบบสื่อออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ LINE ของโรงเรียน อีเมลของโรงเรียน และ Google form รวมถึงทางไปรษณีย์ ส่วนวิธีการสอบคัดเลือกจะดำเนินการสอบตามปกติ แต่จัดให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distance มีการกำหนดจุดตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิก่อนเข้าห้องสอบ มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือทุกจุดของทางเข้า ผู้เข้าสอบทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย และหากผู้สอบมีอาการผิดปกติหรือเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงจะมีการประสานโรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เข้าดูแลในทันที ส่วนการเปิดเรียนภาคเรียนที่ 1 นั้นจะเปิดในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 โดยไม่มีวันปิดภาคเรียนเว้นแต่โรงเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนครบตามหลักสูตรแล้ว ส่วนภาคเรียนที่ 2 เปิดภาคเรียนวันที่ 1 ธันวาคม 2563 และวันปิดภาคเรียนวันที่ 1-15 พฤษภาคม 2564

 นอกจากนี้ยังมีการหารือเกี่ยวกับการวางมาตรการรองรับ สำหรับการเปิดให้รถโดยสารประจำทางดำเนินการได้ โดยมติที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่าควรให้รถสายอีสานสามารถเปิดดำเนินการก่อนในเบื้องต้น ทั้งนี้ต้องมีการกำหนดมาตรการและรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมเข้ามาให้ทุกคนปฏิบัติตาม เช่น จะต้องมีการตรวจคัดกรอง การห้ามลงระหว่างทาง รวมถึงมาตรการระยะห่างในการนั่ง การกรอกแบบฟอร์มประวัติ เมื่อเข้ามาสู่จังหวัดนครพนมจะต้องมีการตรวจคัดกรองอีกครั้ง ต้องมีการแจ้งยอดจากต้นทางมาถึงปลายทางล่วงหน้ามาที่จังหวัดนครพนม  เบื้องต้นถ้าเปิดให้ดำเนินการจะกำหนดจุดให้ลงเพียง 3 แห่งก่อน คือที่บริเวณสถานีขนส่งอำเภอเมือง อำเภอธาตุพนมและอำเภอบ้านแพง ทั้งนี้มติที่ประชุมจะมาลงรายละเอียดเชิงลึกอีกครั้ง ก่อนจะมีการออกเป็นคำสั่งจึงจะสามารถดำเนินการได้

มูลนิธิพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว มอบเงินสนับสนุนซื้อเครื่องเขย่าโลหิตแก้ปัญหาคลังเลือดไม่เพียงพอ


วันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ที่จังหวัดนครพนม มูลนิธิพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว มอบเงินสนับสนุนเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนมในการจัดซื้อเครื่องเขย่าโลหิต จำนวน 50,000 บาท เพื่อใช้ในการออกหน่วยรับบริจาคโลหิตเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานทำให้ได้โลหิตที่มีความสมบูรณ์ที่สุด แก้ปัญหาคลังโลหิตของโรงพยาบาลไม่เพียงพอในช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่ประชาชนออกมาบริจาคน้อยกว่าปกติ โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และคณะเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ร่วมรับมอบและแสดงความขอบคุณ

สำหรับเครื่องเขย่าโลหิต เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับหน่วยรับบริจาคโลหิต เพราะโลหิตที่ไหลออกจากร่างกายเมื่อเข้าสู่ถุงกักเก็บโลหิตแล้วจะเกิดการแข็งตัว ทำให้เวลาบริจาคโลหิตทุกครั้งต้องมีการเขย่าถุงโลหิตอยู่ตลอดเวลา โดยเครื่องเขย่าโลหิตจะทำงาน โดยการนำเอาเทคโนโลยีไมโครคอนโทรลเลอร์มาเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องชั่งน้ำหนัก ใช้เป็นตัวประมวลผลและสั่งการควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้ถุงโลหิตเขย่าไปมาด้วยความสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ทำให้ตัวยาที่อยู่ในถุงจะผสมกับโลหิตที่ได้รับบริจาคได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีเสียงเตือนเมื่อเลือดไหลช้ากว่าปกติ ทำให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วต่อบุคลากรที่รับบริจาคโลหิต และที่สำคัญคือเมื่อผู้บริจาคโลหิตมีความรู้สึกผิดปกติจะสามารถกดปุ่มเรียกฉุกเฉินได้จากตัวเครื่อง เป็นการสร้างความมั่นใจอีกระดับให้กับผู้ที่มาบริจาคโลหิตว่ามีความปลอดภัย ทั้งนี้ผู้ที่มีจิตอันเป็นกุศลที่อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนในการซื้อเครื่องเขย่าโลหิตสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม โทร 042 511 580

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ธ.ก.ส.นครพนม แนะเกษตรกรใช้บัญชีธนาคารไหนก็ได้เพื่อรับเงินเยียวยา 15,000 บาท


วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ที่จังหวัดนครพนม นายพนมไพร ชัยยะ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลได้มีมาตรการเยียวยาเกษตรกร 15,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ช่วงนี้เกษตรกรที่ยังไม่มีบัญชี เดินทางมาที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในแต่ละสาขาเป็นจำนวนมาก แม้ทาง ธ.ก.ส.จะมีการจัดสถานที่เว้นระยะห่างให้กับทุกคนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19  ซึ่งจากการสอบถามเกษตรกรที่มาใช้บริการ หลายคนยังไม่ทราบว่าสามารถใช้บัญชีของธนาคารอื่นใดก็ได้ในการรับเงินเยียวยา

ดังนั้นจึงขอเรียนชี้แจงกับพ่อแม่พี่น้องเกษตรกรชาวจังหวัดนครพนมและเกษตรกรทุกท่านว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและลดความเสี่ยงในการแพระระบาดของไวรัสโควิด – 19 ทางรัฐบาลที่มีความห่วงใยทุกคนได้มอบหมายให้ ธ.ก.ส. เปิดเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาในส่วนนี้ โดยหลังจากที่พ่อแม่พี่น้องเกษตรกรได้ขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานเกษตร ประมง ปศุสัตว์แล้ว ท่านสามารถใช้เข้าไปเพิ่มข้อมูลบัญชีธนาคารใด ๆ ก็ได้ ที่หน้าเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com เพื่อที่จะรับเงินเยียวยา ซึ่งไม่จำเป็นว่า ต้องเป็นบัญชีของ ธ.ก.ส. เพียงอย่างเดียว โดยเป็นขั้นตอนที่ทุกคนสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองที่บ้านเพียงเข้าไปกรอกข้อมูลบัญชีตามแบบฟอร์มที่กำหนดให้เรียบร้อย เมื่อทางเกษตรส่งรายชื่อมาให้ ทาง ธ.ก.ส. ก็จะโอนเงิน 15,000 บาทเข้าบัญชีที่แจ้งไว้ทันที สำหรับการถอนเงินนั้นเพื่อความรวดเร็วสามารถดำเนินการผ่านทางตู้ ATM ของธนาคารทุกสาขา หรือถ้าไม่อยากใช้บัตร ATM ก็สามารถใช้แอพพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile ในการถอนเงินผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส.ก็ได้เหมือนกัน

เกษตรกรเฮทั้งประเทศ กระทรวงเกษตรฯ เปิดรับขึ้นทะเบียนเกษตรกรทุกประเภท ได้สิทธิ์รับเงินเยียวยา 5 พันบาท


วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายวินัย คงยืน หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต และนายอุดร ไพศาล หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ ได้ร่วมกันให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชน เพื่อเป็นสื่อกลางในการสื่อสารข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไปสู่เกษตรกรและประชาชน เกี่ยวกับกรณีที่มีเกษตรกรได้สอบถามถึงการไปขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรที่สำนักงานเกษตรอำเภอเพื่อขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 แล้วไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากเป็นบุคคลที่ไม่มีชื่อในที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งเป็นไปตามคู่มือการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2562 นั้น

โดยภายหลังทราบถึงปัญหาของพี่น้องประชาชน ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนมได้มีการประสานไปที่กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ได้ทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร ได้มีการจัดส่งคู่มือการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2563 ตัวใหม่ที่ทั่วประเทศจะต้องใช้เป็นแนวปฏิบัติต่อไปมาให้ โดยมีรายละเอียดสาระสำคัญที่เปลี่ยนแปลงไปจากปี 2562  เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนทั้งเกษตรกรรายใหม่และรายเดิม คือ เกษตรกรสามารถไปขึ้นทะเบียนได้ทุกลักษณะ ทั้งประเภทที่ครอบครองเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. และที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เช่น ภบท.5 ภบท.6 ภบท. 11 พื้นที่ป่าไม้ พื้นที่อุทยานแห่งชาติที่มีการอนุโลมให้เกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนได้ แต่จะต้องมีผู้นำชุมชนเป็นผู้รับรองการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 จากนั้นประมาณ 10 วัน จะมีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งเพื่อติดประกาศรายชื่อเกษตรกรผู้มีสิทธิ์รับเงินเยียวยา 5,000 บาท
นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 สำนักงานเกษตรอำเภอของจังหวัดนครพนม จะเปิดให้บริการปรับปรุงทะเบียนทุกวัน ไม่มีวันหยุดไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 และเกษตรกรสามารถตรวจสอบรายชื่อในการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้จากการติดประกาศของเจ้าหน้าที่ และหากพบปัญหาในการขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ให้ประสานเจ้าหน้าที่ได้เลยหรือจะโทรสอบถามที่สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนมก็ได้เช่นเดียวกัน