วันที่ 1 พฤษภาคม 2563
ที่บริเวณสนามบินนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายแพทย์จิณณพิภัทร ชูปัญญา
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางสาวรัชนี เต็มอุดม
รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นำบุคลากรทางการแพทย์ ลงพื้นที่บูรณางานร่วมกับบุคลากรของสนามบินนครพนม
เพื่อตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมากับสายการบิน หลังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
(กพท.) เห็นชอบให้สายการบินเปิดดำเนินการภายในประเทศได้ โดยสนามบินนครพนมเปิดให้บริการวันละ
1 เที่ยวบิน
นายแพทย์นายจิณณพิภัทร ชูปัญญา
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า
ก่อนหน้านี้คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ได้มีการวางมาตรฐานการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าออกจังหวัดนครพนมผ่านทางสายการบิน
ประกอบกับที่กระทรวงคมนาคมได้กำหนดแนวทางให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทาง
ในช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาด ซึ่งวันนี้ที่เป็นวันแรกที่เปิดดำเนินการ ดังนั้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอน
ระเบียบ ทั้งเป็นการเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้ที่เดินทาง จึงได้นำบุคลากรทางการแพทย์บูรณางานร่วมกับทางสนามบินนครพนมเพื่อตรวจเช็คความพร้อมของเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้งาน
ตลอดจนกำหนดจุดให้บริการและซักซ้อมการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจในลำดับขั้นตอน
ก่อนการปฏิบัติหน้าที่จริง ทำให้เมื่อถึงเวลาเปิดดำเนินการ
บรรยากาศจึงเป็นไปด้วยความคล่องตัวที่มีมาตรฐานตามที่กำหนด ผู้เดินทางแต่ละรายที่มากับสายการบินจะใช้เวลาเพียงไม่นานก็สิ้นสุดกระบวนการ
โดยวันนี้มีผู้มาใช้บริการแบ่งเป็น ขาเข้า จำนวน 72 ราย และขาออก จำนวน 66 ราย
ซึ่งทุกรายมีอุณหภูมิไม่เกิน 37.3 องศาเซลเซียส และไม่มีอาการที่ผิดปกติแต่อย่างใด
สำหรับขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่นั้น
เริ่มตั้งแต่แจ้งให้ผู้เดินทางล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ กรอกประวัติข้อมูล
จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจคัดกรองด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน ถ้ามีอาการไข้จะถูกแยกตัวไปต่างหาก
ถ้าไม่มีจะผ่านเข้าสู่ขั้นตอนการส่งแบบฟอร์มประวัติและรับคำแนะนำการปฏิบัติตัว
จากนั้นจึงจะสามารถไปรับสัมภาระที่ระบบสายพานลำเลียงที่ทางสนามบินนครพนมมีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้วเพื่อกับที่พัก
ทั้งนี้ทางจังหวัดนครพนมจะส่งทีมสาธารณสุขลงพื้นที่ติดตามผลทุกราย


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น