น้ำถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทุกคนต้องใช้ในการดำรงค์ชีวิต
และทุกปีเรามักจะเห็นว่ามีหลายพื้นที่ต้องประสบกับภัยแล้งเนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ และกลายเป็นที่มาของโครงการต่าง ๆ ที่เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
นายชาตรี
จันทร์วีรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า โครงการจิตอาสาต้านภัยแล้ง
เริ่มต้นเลยคือศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานได้มีการเรียกประชุมเรื่องจิตอาสาประสานความร่วมมือการบรรเทาภัยแล้งอย่างยั่งยืนโดยมีระยะดำเนินการกำหนดไว้ที่
ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม ของ 2563
จากนั้นก็มีการจัดทำแผนฝึกอบรมเพื่อค้นหาวิธีการและรูปแบบการสร้าง แหล่งเก็บกักน้ำ
น้ำกินน้ำใช้น้ำเพื่อการเกษตรรวมถึงการรักษาระบบนิเวศเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน
และก็มีการ Kick Off ในจังหวัดที่ประสบภัยแล้ง ในส่วนของนครพนมก็มีการระดมปล่อยแถวขบวนรถน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง
แล้วก็มาสู่เรื่องของการขุดลอกหนองน้ำเดิม สร้างหนองน้ำใหม่ ขุดหลุมในคลอง
การเชื่อมหนองน้ำแหล่งน้ำในครัวเรือนหรือที่เรียกว่าโคกหนองนา
การสร้างแท้งค์น้ำขนาดใหญ่ การขุดเจาะบ่อบาดาล
การแจกจ่ายน้ำ ก็จะเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้มีการมอบหมายให้แต่ละอำเภอไปคิดกันว่าจะทำอะไร
พอเสร็จแล้วทุกโครงการก็จะมีการปลูกหญ้าแฝก ปลูกอะไรต่างๆ ซึ่งบางแห่งก็มีการคิดว่าปลูกผลไม้ไว้กิน
ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์ในอนาคตเพราะอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ที่สำคัญคือถ้าทุกคนมีส่วนร่วมคิด
ร่วมทำตั้งแต่ต้น
เขาก็จะรู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหนการแก้ไขปัญหาก็จะมีการแก้ไขได้ในระยะยาวและยั่งยืน
และทุกคนก็จะรักโครงการที่ทำขึ้นเพราะทำขึ้นมาเองกับมือและมีส่วนร่วม
นายจีรยุทธ
สมรฤทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านเหล่า หมู่ที่ 4 อำเภอศรีสงคราม เปิดเผยว่า
บึงนี้เป็นบึงวังสิ้วของตำบลนาคำ เดิมคลองนี้เป็นของเก่าประมาณ 100 กว่าปี
เมื่อประมาณสัก 10 ปีที่ผ่านมา คลองตรงนี้มีหญ้าขึ้นตื้นเขินจนคลองแทบจะหายไปเลย
และในต้นปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมาทางจิตอาสาพระราชทาน 904
ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ผู้ใหญ่บ้านทำประชาคมเป็นโครงการจิตอาสาต้านภัยแล้ง เป็นโครงการที่พี่น้องจิตอาสาทั้งหมดร่วมกันทำ
โดยบางส่วนใช้แรงงานจิตอาสา บางส่วนก็ใช้เครื่องจักรคือรถแม็คโครของหน่วยงานต่างๆ
ซึ่งทุกคนมีส่วนร่วมในการทำคลองใส้ไก่เส้นนี้ที่มีความยาว 3,000 เมตร ทำให้พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่
ประกอบไปด้วย บ้านเหล่า หมู่ที่ 4 , 14 ,15 และหมู่ที่ 9 บางส่วน ประมาณ 500
ครัวเรือน ได้รับผลประโยชน์ ได้รับน้ำในปีถัดไป จึงขอเป็นตัวแทนทุกคนกล่าวขอขอบมา
ณ โอกาสนี้
เราจะเห็นว่าโครงการจิตอาสาต้านภัยแล้ง
จะเน้นการดำเนินงาน ที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อที่จะได้มีความรัก
ความหวงแหนในโครงการ
และกลายเป็นพลังแห่งความสามัคคีที่พร้อมขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้หมดไปจากประเทศไทยอย่างยั่งยืน


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น