วันที่ 17 มิถุนายน 2563 ที่จังหวัดนครพนม
นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด
– 19 เราจะเห็นว่าแหล่งอาหารถือเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญยิ่ง ถ้าทุกคนมีอยู่ที่บ้านก็จะเป็นทางออกที่ดีแม้ไม่ใช่ในยามที่เดือดร้อน
โดยหลายคนอาจจะไม่มีองค์ความรู้ในด้านนี้และพยายามหาแหล่งเรียนรู้เพื่อนำไปปฏิบัติ
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ของชุมชน
ที่เป็นศูนย์กลางการบริการและการแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูลข่าวสารด้านการเกษตร ทั้งจากตัวเกษตรกร
กลุ่มเกษตรกร ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ
ดังนั้นเพื่อเป็นการขับเคลื่อนศูนย์ดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นจึงได้นำเกษตรอำเภอต่าง
ๆ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ และข้าราชการใหม่ในสังกัดสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนมลงพื้นที่บ้านโพนทา
ตำบลกุตาไก้ อำเภอปลาปาก เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระดับอำเภอ (DW) กับกลุ่มเกษตรกรที่ฟาร์มตัวอย่างหนองปลาค้อเฒ่า
ทำให้ทุกคนได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ แนวคิดใหม่ๆ ที่ได้มีการพัฒนา ต่อยอด ปรับปรุงจนประสบความสำเร็จและนำไปขยายผลต่อยังประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของตนเองผ่านทางศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร
ที่ต้องการขับเคลื่อนระบบส่งเสริมการเกษตรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน
ทำให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน
สำหรับฟาร์มตัวอย่างหนองปลาค้อเฒ่าแห่งนี้นั้น
เป็นฟาร์มแบบเกษตรอินทรีย์ ที่ถือเป็นต้นแบบการทำการเกษตรแบบพึ่งพาตนเองที่ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้มาเรียนรู้และนำไปปรับใช้ได้เป็นอย่างดี
โดยภายในฟาร์มมีกิจกรรมมากมายหลายรูปแบบทั้ง การทำก้อนเชื้อเห็ดและการเพาะเห็ดเพื่อจำหน่าย
การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ การเลี้ยงไส้เดือนเพื่อผลิตปุ๋ยหมักที่นอกจากจะช่วยในการย่อยสลายขยะอินทรีย์และเศษอาหารจากบ้านเรือนแล้วยังช่วยลดต้นทุนในการซื้อปุ๋ย
การผลิตถ่านไบโอชาร์จากวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรเพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงบำรุงดิน
เพิ่มปริมาณคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรและลดระยะเวลาในการเพาะปลูกพืชชนิดต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการปลูกพืชผักสวนครัวแบบอินทรีย์เพื่อการจำหน่าย
การปลูกมันเทศ ปลูกเมล่อน ปลูกไม้ยืนต้น เช่น ลิ้นจี่พันธุ์ นพ.1
ซึ่งเป็นลิ้นจี่ที่ได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ด้วยมีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว
คือผลมีขนาดใหญ่ เปลือกสีแดงอมชมพู รูปทรงเหมือนไข่ เนื้อผลแห้งสีขาวขุ่น
เมื่อปลอกออกมารับประทานจะให้รสหวานอมเปรียว ไม่มีรสฝาดเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
รวมถึงกิจกรรมการแปรรูปสินค้าเกษตรภายในฟาร์มเพื่อการจำหน่าย

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น