วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ที่บริเวณชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสยาม
ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดนครพนม
โดยมีนายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายชาตรี จันทร์วีระชัย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คณะหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนนายอำเภอ ผู้นำท้องถิ่นที่ใช้ระบบ Video
Conference เข้าร่วมประชุมทางไกลด้วย
โดยการประชุมในครั้งนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าในเรื่องของการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาที่ดินของรัฐในพื้นที่จังหวัดนครพนมที่ประชาชนมีการสอบถามและร้องเรียนเข้ามา
ประกอบไปด้วย ที่สาธารณะประโยชน์บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงในพื้นที่อำเภอเมืองนครพนม
ซึ่งที่ดินดังกล่าวจังหวัดนครพนมได้ร่วมกับที่ดินจังหวัดนครพนม อำเภอเมืองนครพนม และเทศบาลเมืองนครพนม
ให้เอกชนเข้ามาถมที่เพื่อทำเป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนได้มาพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย
แต่เนื่องจากทางรัฐไม่มีงบประมาณจึงได้มีการร่วมมือกับภาคเอกชน โดยที่ดินจังหวัดนครพนมได้มีการเข้าไปรังวัดเพื่อกำนดเขตที่ชัดเจนแล้วและทางราชการไม่ได้ให้เอกชนเข้ามาใช้พื้นที่เพื่อดำเนินการอื่นใด
แต่ภาคเอกชนที่มาดำเนินการให้จะได้เพียงทัศนียภาพที่สวมงามใกล้เคียงกับพื้นที่ของตนเองเท่านั้น
ขณะเดียวกันในเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผู้ประกอบการที่ดำเนินการขออนุญาตแบบแพเพื่อบรรทุกคนโดยสารที่แม่น้ำโขงแล้วมีการดัดแปลงเป็นที่พักบนแพแบบค้างคืน
ทำให้ผิดวัตถุประสงค์การใช้งานรวมถึงมีผลกระทบในหลาย ๆ ส่วน ทั้งในเรื่องของความมั่นคง
วิถีชีวิตของคนในชุมชน ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความปลอดภัย ดังนั้นในที่ประชุมจึงได้มีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเข้าไปตรวจสอบเป็นการด่วน
หากสามารถปิดได้ให้ปิดทันทีหรือไม่ก็ต้องเป็นไปตามระเบียบกฎหมาย โดยการพิจารณาให้ยึดการออกแบบผังเมืองรวมจังหวัดนครพนมเป็นหลัก
และต้องพิจารณาให้ครอบคลุมหลากหลายด้าน มีความเหมาะสมที่ชัดเจน จากนั้นเป็นการติดตามความคืบหน้าที่ดินเกาะดอนแพง
ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง ที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน โดยความคืบหน้าภายหลังได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบผู้ที่บุกรุกและป้องกันการบุกรุกเพิ่มเติม
ได้แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือพื้นที่แรกที่มีการเข้ามาใช้ประโยชน์ในที่ทำกินนานแล้ว
มีเอกสารเช่าที่กับทางราชการ ในส่วนนี้คณะทำงานได้เข้าตรวจสอบและรังวัดพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว
พื้นที่ส่วนที่ 2 จะเป็นในส่วนเพิ่มเติมจากส่วนแรก ซึ่งในส่วนนี้คณะทำงานกำลังปรึกษาหารือเพื่อเตรียมขออนุมัติให้หน่วยงานราชการสามารถใช้พื้นที่กับกรมป่าไม้ได้ และพื้นที่ส่วนที่
3 จะให้ประชาชนที่บุกรุกเก็บเกี่ยวผลผลิตให้แล้วเสร็จจากนั้นให้หยุดทันที ถ้ากระทำต่อให้ถือว่าทำผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ยังมีที่สาธารณะประโยชน์
ดงคัดเค้าหรือโคกคัดเค้า เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอธาตุพนมและอำเภอนาแก ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง
พบว่าพื้นที่ดังกล่าวเคยมีการร้องเรียนจนศาลตัดสินให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกแล้ว จำนวน
11 ราย และมีการยื่นขออนุญาตฎีกาต่อ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น