วันที่ 10 มิถุนายน 2563
ที่ห้องประชุมศรีวรขาน สำนักงานเทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายสามารถ โรจนวิเชียร พัฒนาการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า
จากการที่รัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ OTOP มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการสร้างงาน
สร้างรายได้ ให้กับชุมชน และกรมพัฒนาชุมชนได้มอบหมายให้จังหวัดนครพนม ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมเครือข่ายองค์ความรู้
KBO (knowledge based OTOP) เพื่อส่งเสริมผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP
ให้มีความรู้ในการดำเนินกิจกรรมของตนเอง พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน
มีบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมก่อเกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพกลุ่ม การเปิดโอกาสให้ผู้ผลิต
ผู้ประกอบการ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการผลิต การพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค
เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศได้อย่างมั่นคง โดยมีสถาบันการศึกษา
หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนภาค และประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์ความรู้นั้น
โดยก่อนหน้านี้จังหวัดนครพนม ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา
และมีการลงพื้นที่ถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ทั้ง 12 อำเภอ
จากนั้นได้มีการพิจารณาคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความพร้อมตามเกณฑ์การคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์
OTOP โดยเครือข่ายองค์ความรู้ KBO จังหวัด
จำนวน 20 ผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น ผ้าทอมือเขียนลายบาติก ผ้าย้อมไม้มงคล ผ้ามัดหมี่
ผ้าพันคอ ผ้าย้อมคราม ผ้าย้อมเปลือกไม้มงคลผสมสมุนไพร ชุดดินปลูกไบโอชาร์ กระติบข้าวไม้ไผ่
เครื่องจักสาน ธูปสมุนไพร สบู่ ซีเรียลจากข้าวฮางงอก น้ำข้าวกล้องงอกถังเช่า ผงข้าวกล้องผสมถังเช่าพร้อมชง และสบู่กาแฟรูปสับปะรด
จากนั้นจึงได้เข้าสู่กระบวนการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ทั้งรูปแบบผลิตภัณฑ์
การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ เช่น การเพิ่มเรื่องราวผลิตภัณฑ์ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่โดยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่
เป็นต้น
และในวันนี้จึงได้มีการเปิดเวทีเพื่อเฟ้นหาสุดยอดผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว
ที่นำเสนอเรื่องราวที่สร้างสรรค์ น่าสนใจ มีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานและมีตลาดจำหน่ายที่ถาวรในช่องทางใดช่องทางหนึ่ง
โดยมีนายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการตัดสิน
ซึ่งผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่ได้คะแนนมากสุดจะได้เป็นตัวแทนจังหวัดนำผลิตภัณฑ์เข้าประกวดในระดับประเทศต่อไป
นอกจากนี้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม ยังเตรียมผลักดันผลิตภัณฑ์ทั้ง 20 ชิ้น
เข้าสู่ตลาดออนไลน์ เพื่อเปิดช่องทางการตลาดเพิ่มเติม
อันจะเป็นการสร้างรายได้ที่มากขึ้นให้กับคนในชุมชน

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น