วันที่ 16 กรกฎาคม 2563
ที่บริเวณหอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
(สทนช.) ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบไปด้วย
บริษัท พีซีบีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท วายพี คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท
เอ กรุ๊ป คอนซัลแตนท์ จำกัด ลงพื้นที่กลุ่มย่อยครั้งที่ 2 เวทีที่ 4 เพื่อนำเสนอการศึกษาความเหมาะสมของโครงการศึกษาการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งพื้นที่เกษตรและพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ
จังหวัดหนองคาย นครพนมและมุกดาหาร รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับผลการศึกษาจากหน่วยงานราชการ
ภาคเอกชน ผู้นำชุมชน และประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่
โดยโครงการดังกล่าวเป็นการศึกษาหาแนวทางการบริหารจัดการน้ำเพื่อสนับสนุนพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
ภัยแล้งและคงความสมดุลของระบบนิเวศ ซึ่งจะเป็นการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและพัฒนาเศรษฐกิจในเขตเศรษฐกิจพิเศษของทั้ง
3 จังหวัดอย่างยั่งยืน โดยแนวทางดังกล่าวจะสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ซึ่งจากการศึกษาทางเลือกรูปแบบในการพัฒนาโครงการที่เหมาะสมของจังหวัดนครพนมพบว่ามี
4 โครงการที่เป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากที่สุด สามารถเป็นแหล่งน้ำหลักในการจัดสรรน้ำเพื่อพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม
(ภูกระแต) และจัดสรรน้ำเพื่อการใช้ในการเพาะปลูกเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับผลการประชุมกลุ่มย่อยครั้งที่
1 เมื่อวันที่ 13-14 พฤศจิกายน 2562 ที่ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางการจัดหาแหล่งน้ำมาสนับสนุนและแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร
ซึ่ง 4 โครงการที่ว่า ประกอบไปด้วย โครงการขุดลอกปรับปรุงอ่างเก็บน้ำห้วยบ่อหลวง ตำบลเวินพระบาท
อำเภอท่าอุเทน ด้วยการยกระดับเก็บน้ำขึ้นอีก 1 เมตร จะทำให้สามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้น
1.35 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถเป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร การอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่
ตลอดจนเป็นแหล่งน้ำสำรองเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ โครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำฝายห้วยบ่อ
ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งน้ำสำรองสำหรับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ บริเวณนิคมอุตสาหกรรม
ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม โครงการพัฒนาอ่างเก็บน้ำห้วยมุเค ความจุ 6.91
ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ตำบลนาใน อำเภอโพนสวรรค์ ตำบลนาทรายและตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม
ซึ่งจะทำให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ และมีพื้นที่ชลประทานที่สามารถทำการเกษตรได้เพิ่มขึ้นอีกจำนวน
3,000 ไร่บริเวณท้ายอ่าง
และโครงการสุดท้ายโครงการขุดสระรับน้ำในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ตำบลอาจสามารถ
อำเภอเมืองนครพนม ซึ่งจะเป็นแหล่งน้ำสำหรับอุตสาหกรรมโดยตรง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น