วันที่
22 กรกฎาคม 2563 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม พลเอก
อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ เป็นประธานนำคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา
ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ เกี่ยวกับการดำเนินการตามแผนปฏิบัติปฏิรูปประเทศ
ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมีนายรังสรรค์
คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และคณะหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด หัวหน้าหน่วยงานสาวนกลางในภูมิภาคและนายอำเภอต่าง
ๆ ร่วมให้การต้อนรับ ให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน
(จังหวัดพันธุ์ใหม่) เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
และเป้าหมายในการปรับเปลี่ยนภาครัฐสู่การเป็นภาครัฐของประชาชน เพื่อประชาชน ตามยุทธศาสตร์ชาติที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง
นอกจากนี้คณะกรรมาธิการการ ฯ ยังได้มีการติดตามเกี่ยวกับการประกอบกิจการให้เช่าที่พักในพื้นที่จังหวัดนครพนม
เพื่อรับทราบถึงปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะ รวมทั้งการดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่
6/2562 เรื่องมาตรการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานการประกอบธุรกิจโรงแรมบางประเภทในพื้นที่จังหวัดนครพนม
และประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินงานตามภารกิจของการประปาส่วนภูมิภาคในการให้บริการประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ในช่วงบ่ายคณะกรรมาธิการฯ จะมีการลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่หนองกะตึจังหวัดนครพนม
สำหรับการบริหารราชการแผ่นดิน (จังหวัดพันธุ์ใหม่)
จะเป็นการขับเคลื่อนจังหวัดที่มีความคล่องตัวทั้งในการบริหารระบบงาน
ระบบเงินและระบบกำลังคน ซึ่งระบบงานจะใช้กลไกคณะกรมการจังหวัดเพื่อพิจารณาเรื่องสำคัญหรือแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของพื้นที่
มีการพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่สนับสนุนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์จังหวัดของกระทรวงมหาดไทยที่มีอยู่แล้วให้เป็นปัจจุบัน
และมีการยกระดับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอให้เป็นศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ส่วนระบบเงิน คือแผนงานและงบประมาณ
ก็ให้นำแนวทางตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยเรื่องการทำแผนและประสานแผนพัฒนาพื้นที่ในระดับอำเภอและตำบลมาขับเคลื่อน
มีการมอบอำนาจให้จังหวัดในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโครงการตามแผนจังหวัดแทนส่วนกลาง
รวมทั้งให้มีการปรับกรอบวงเงินของกระทรวง
กรมมาให้จังหวัดบางส่วนเพื่อให้จังหวัดเสนอโครงการที่เป็นความต้องการของพื้นที่ และด้านระบบกำลังคน
ให้มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ว่าราชการจังหวัดให้มีความสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่
กำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างน้อย 4 ปี และขอความร่วมมือให้หัวหน้าส่วนราชการของหน่วยงานส่วนกลางในภูมิภาคมอบอำนาจการบริหารงานบุคคลให้ผู้ว่าราชการจังหวัด

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น