วันที่
26 สิงหาคม 2563 ที่จังหวัดนครนครพนม นายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการมาตรฐานการดำเนินงานอนามัยแม่และเด็กการดูแลหญิงตั้งครรภ์กลุ่มเสี่ยงและการดำเนินงานมหัศจรรย์
1,000 วันแรกของชีวิต และร่วมเป็นสักขีพยานร่วมกับศูนย์อนามัยที่ 8 อุดรธานี ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนมหัศจรรย์
1,000 วันแรกของชีวิตจังหวัดนครพนม ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมกับสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครพนม
สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดนครพนม สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม
และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครพนม จัดทำขึ้น เพื่อที่จะร่วมกันขับเคลื่อนงานส่งเสริมสุขภาพสตรีตั้งครรภ์และเด็กปฐมวัย
นับตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึง 2 ขวบปีแรก ซึ่งเป็นช่วงวัยทองของเด็กที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาสมอง
เพราะเป็นช่วงที่โครงสร้างสมองมีการพัฒนาสูงสุด มีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก ส่งผลต่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
ทำให้เด็กมีพัฒนาการสมวัย มีโภชนาการที่ดี สูงดีสมส่วน
โดยเป็นการดำเนินการที่ส่งเสริมให้ครอบครัว ชุมชนและสังคม ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลหญิงตั้งครรภ์
สร้างความสัมพันธ์ระหว่างเด็ก ครอบครัวและชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีมาตรฐาน
เนื่องจากในปัจจุบันประเทศไทยมีการเกิดของเด็กน้อยลงและมีระดับเชาว์ปัญญาค่อนไปทางต่ำกว่าค่ามาตรฐานสากล
โดยจากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขที่มีการสำรวจในปี 2559 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่
11 พบว่าระดับสติปัญญานักเรียนไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทั่วประเทศจำนวน 23,641 ราย มีระดับเชาวน์ปัญญา (Intelligent
Quotient : IQ) เฉลี่ยเท่ากับ 98.23
ถือเป็นระดับสติปัญญาที่อยู่ในเกณฑ์ปกติแต่ค่อนไปทางต่ำกว่าค่ากลางของมาตรฐานสากลในยุคปัจจุบัน
(IQ=100) ซึ่งในภาพรวมของประเทศยังมีเด็กประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มี IQ ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติอยู่ถึงร้อยละ 31.81
และยังมีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ที่มีระดับสติปัญญาอยู่ในเกณฑ์บกพร่องอยู่ถึงร้อยละ 5.8 ส่วนการสำรวจ
EQ โดยใช้แบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ เด็กอายุ 6-12 ปี (ฉบับย่อ) สำหรับครู ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยกรมสุขภาพจิต จากเด็กจำนวน 23,276 ราย พบว่ามี EQ อยู่ในระดับปกติขึ้นไปร้อยละ 77 และ EQ อยู่ในระดับควรได้รับการพัฒนาร้อยละ 23
อีกทั้งประเทศไทยอย่างกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และคาดว่าจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในปี
2567 ซึ่งถ้าเราไม่เร่งพัฒนาในส่วนนี้จะส่งผลการขับเคลื่อนประเทศต่อไปในอนาคต


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น