วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ผู้ว่าฯนครพนม นำทีมสาธารณภัยลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม


ผู้ว่าฯนครพนม นำทีมสาธารณภัยลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม
วันที่ 17 สิงหาคม 2563 ที่จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำก่ำ สำนักงานชลประทานที่ 7  ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม นายอำเภอนาแก ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำที่บริเวณประตูน้ำบ้านนาคู่ และบริเวณบ้านน้ำปากบัง ตำบลพิมาน อำเภอนาแก ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมทุกปี เพื่อร่วมกันประเมินและวางแผนในการบริหารจัดการน้ำ โดยมีผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ร่วมให้ข้อมูล

โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำก่ำ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำว่าในช่วงนี้ที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องและวันนี้มีปริมาณฝนตกในพื้นที่รับผิดชอบเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 1.3 มิลลิเมตร ซึ่งระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำหนองหารถ้าเทียบกับปีที่ผ่านยังน้อยกว่าอยู่ประมาณ 27.289 ล้านลูกบาตรเมตร แต่อย่างไรก็ดีด้วยปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องและไหลเข้าอ่างต่อวันเฉลี่ยอยู่ที่ 8.418 ล้านลูกบาตรเมตร ดังนั้นทางโครงการฯ จึงมีการบริหารจัดการน้ำโดยเปิดประตูระบายน้ำสุรัสวดีเพื่อระบายน้ำออกต่อวัน 6.899 ล้านลูกบาตรเมตร ทำให้ช่วงนี้ที่บ้านนาคู่มีการเปิดประตูระบายน้ำสูงขึ้นเป็น 90 เซนติเมตรเพื่อเร่งระบายน้ำรองรับน้ำที่จะไหลมา ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำก่ำสูงขึ้นกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ดีระดับน้ำที่บริเวณประตูน้ำบ้านนาคู่และบ้านปากบังยังคงอยู่ห่างจากจุดล้นตลิ่งประมาณ 3.4 เมตร ส่วนระดับน้ำโขงอยู่ที่ 7.03 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 63 เซนติเมตร และยังคงต่ำกว่าระดับตลิ่ง 6.81 เมตร
โดยในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ฝากกับผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับการร่วมตรวจเช็คและเฝ้าระวังระดับน้ำในพื้นที่ร่วมกับทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพราะคนในพื้นที่จะรู้ดีว่าระดับน้ำขนาดไหนมีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด และถ้ามีการบูรณาการข้อมูลทุกอย่างร่วมกัน การบริหารจัดการน้ำก็จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระดับน้ำสูงขึ้นจนมีความเสี่ยงที่จะล้นตลิ่งก็สามารถวางแผนแก้ปัญหาล่วงหน้าร่วมกันได้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น การแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าในการเก็บสิ่งของขึ้นที่สูงหรือที่ปลอดภัยก็จะช่วยลดในเรื่องของการสูญเสียทรัพย์สินและชีวิต หรือการหาวิธีระบายน้ำออกจากลำน้ำในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การสูบน้ำไปกักเก็บไว้ยังแหล่งน้ำอื่น ๆ ที่เป็นโครงการแก้ปัญหาภัยแล้งซึ่งปัจจุบันแหล่งน้ำเหล่านี้ยังมีน้ำมาเติมไม่เพียงพอ หรือถ้าระดับน้ำลดลงจนมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยแล้งก็ให้ประสานเข้ามา เพราะทางชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของเครื่องสูบน้ำและเครื่องมืออื่น ๆ ไว้คอยช่วยเหลือเช่นเดียวกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น