วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2563

โครงการบ้านพอเพียงเลี้ยงชีวิตสู้โควิด – 19 ที่นครพนม เห็นผลช่วยสร้างแหล่งอาหารที่มั่นคงและลดรายจ่ายได้เป็นอย่างดี


วันที่ 9 กันยายน 2563 ที่จังหวัดนครพนม นายระวิน สีกาลัง เกษตรกรตำบลท่าลาด อำเภอเรณูนคร เปิดเผยว่า ตนเป็นหนึ่งในหลาย ๆ คน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 จนต้องตกงาน เดิมตนเองเคยทำงานร้านอาหารอยู่ภายในสนามบิน แต่เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ทำให้สนามบินต้องหยุดดำเนินการชั่วคราวเพื่อควบคุมการแพร่เชื้อของโรค ส่งผลให้ร้านต้องปิดการให้บริการตามไปด้วย จึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านที่นครพนม ในช่วงนี้ก็พยายามหาอะไรทำไปเรื่อยเพราะว่างงาน และไม่มีรายได้อะไรเข้ามาเลย โชคดีได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านที่เป็นอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) ที่มีมาแนะนำเกี่ยวกับโครงการบ้านพอเพียงเลี้ยงชีวิตสู้โควิด – 19 ที่ให้ปลูกพืชและสมุนไพรไว้รับประทาน ซึ่งจะเป็นทั้งแหล่งอาหารและการลดภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว ประกอบกับตนเองมีความชอบในเรื่องทำการเกษตรอยู่แล้ว พอได้รับคำแนะนำและได้พันธุ์พืชที่ทางกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจกมาให้ตามโครงการก็เลยมาทำแปลงเกษตรไว้รอบ ๆ บ้าน รวมถึงไปหาพันธุ์พืชชนิดอื่นมาปลูกแซมในแปลงด้วย ปัจจุบันแปลงเกษตรของตนเองสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เป็นอย่างดี ทำให้ทุกคนในครอบครัวมีแหล่งอาหารที่เพียงพอ ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่ได้มีโครงการดี ๆ ออกมาส่งเสริมและช่วยเหลือในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้เราทุกคนมีแหล่งอาหารที่มั่นคง ทั้งยังได้แจกจ่ายต้นพันธุ์ให้กับเพื่อนบ้านเป็นการต่อยอดน้ำใจออกไปเรื่อย ๆ อีกด้วย  

ด้านนายราชันย์  ไชยศิลป์ หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า  จังหวัดนครพนมได้รับการจัดสรรต้นพันธุ์พืชตามโครงการบ้านพอเพียงเลี้ยงชีวิตสู้โควิด – 19 ทั้งสิ้น 55,056 ต้น เป็นพืชผักและสมุนไพรหลักที่นิยมรับประทานและสามารถปลูกได้ง่าย 4 ชนิด ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร มะละกอ พริก และมะเขือ  ส่วนพืชผักและสมุนไพรเสริม มี 3 ชนิด ได้แก่ มะรุม ผักหวานบ้านและแคบ้าน โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดได้มอบให้อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) จำนวน 1,139 คน นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนจำนวน 1,139 ครัวเรือนจาก 3,417 หมู่บ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 นอกจากนี้ยังได้จัดหาต้นพันธุ์พริกไทยและปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดมามอบให้เพิ่มเติมอีกด้วย ขณะเดียวกันก็ได้มอบหมายให้สำนักงานเกษตรอำเภอแต่ละอำเภอทำแปลงเรียนรู้ต้นแบบขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนที่สนใจสามารถเดินทางมาศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้ตลอดเวลา เริ่มตั้งแต่การเตรียมดิน การปลูก การดูแลรักษา ไปจนถึงสรรพคุณของพืชแต่ละชนิด โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา คำแนะนำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น