วันที่
24 กันยายน 2563 ที่บริเวณศาลหลักเมืองจังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายสมชาย ชำนิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอดจนประชาชนจังหวัดนครพนม
ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดนครพนมที่อยู่ในที่ต่าง
ๆ เช่น ศาลหลักเมือง พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 5 ศาลพระภูมิเจ้าที่ภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัด (หลังเก่า)
ศาลเจ้าพ่อคำแดง วัดโอกาสศรีบัวบาน(พระติ้ว/พระเทียม/ศาลเจ้าพ่อหมื่น/ศาลปู่ย่า)
องค์พญาศรีสัตตนาคราช วัดศรีเทพประดิษฐาราม(หลวงปู่จันทร์/หลวงพ่อพระแสง)
ศาลเจ้าพ่อสิบสอง และศาลเจ้าพ่อสัมมะติ ที่คอยปกป้องคุ้มครองให้ทุกคนปลอดภัยและอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขมาโดยตลอด
เพื่อกราบไหว้ขอพรและเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนที่จะเปิดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาด
ประจำปี 2563 ในวันที่ 25 กันยายน ซึ่งจะมีไปจนถึงวันที่
4 ตุลาคม 2563 ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนมและบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง
เลียบถนนสุนทรวิจิตร เทศบาลเมืองนครพนม
สำหรับงานประเพณีไหลเรือไฟเป็นประเพณีเก่าแก่
ที่ชาวจังหวัดนครพนมจัดขึ้นทุกปีในช่วงวันออกพรรษา ตามความเชื่อที่ว่าการไหลเรือไฟเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่พระพุทธองค์ประทับไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที
เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมเทศนาโปรดพญานาคที่เมืองบาดาล
รวมถึงเป็นการระลึกถึงพระคุณของแม่น้ำโขงที่ได้ใช้หล่อเลี้ยงชีวิตมาและขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินลงไป
โดยในปีนี้จังหวัดนครพนมได้มีการจัดสร้างเรือไฟขนาดใหญ่ 12 ลำ ที่มีการประดับตกแต่งลวดลายให้มีความสวยงามวิจิตรตระการตาด้วยตะเกียงไฟรวมกว่าแสนดวงและในช่วงนี้ที่ยังอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด
– 19 จังหวัดจึงมีการมาตรการและการบริหารจัดการในการเฝ้าระวังป้องกันโรคที่กำหนดให้ผู้ที่มาร่วมงานต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า
100 %
ต้องผ่านการตรวจคัดกรองและลงทะเบียนเข้าร่วมงานจากเจ้าหน้าที่ที่มีการตั้งจุดตรวจคลอบคุมพื้นที่บริเวณงานมากถึง
34 จุด โดยต้องมีการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร
ที่สำคัญในปีนี้ยังมีการเพิ่มพื้นที่ให้ผู้ชมที่จะมาร่วมงาน
ด้วยการเพิ่มวันไหลเรือไฟแข่งขันเป็น 3 วัน จากเดิมที่มีเพียงวันเดียว โดยประเภทความคิดสร้างสรรค์ไหลวันที่
30 กันยายน จำนวน 2 ลำ วันถัดมาไหล 3 ลำ วันที่ 2 ตุลาคมที่เป็นวันออกพรรษาไหลเรือไฟประเภทสวยงาม
จำนวน 7 ลำ ส่วนวันอื่น ๆ ที่ไม่มีการแข่งขันก็มีเรือไฟไหลโชว์พร้อมกับการปล่อยกระทงสาย
โดยการปล่อยเรือจะเริ่มในเวลา 19.00 น. ของทุกวัน และจะปล่อยห่างกันทุก ๆ 30 นาที ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเลือกมาวันไหนก็ได้
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์และพิธีทางศาสนา
กิจกรรมออกสลากกาชาดเพื่อหารายได้มาสนับสนุนภารกิจเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสและผู้ประสบภัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
การประกวด B-Boy And Cover Dancing Contest 2020 การลิ้มชิมรสอาหารชาวนครพนมในงานพาข้าวแลง
และการเลือกหาข้าวของเครื่องใช้กับสินค้าขึ้นผลิตภัณฑ์ otop ของแต่ละชุมชน
โดยงานนี้การันตีความปลอดภัยจากหน่วยงานความมั่นคงและงานด้านสาธารณสุข
ที่พร้อมให้การป้องกันและช่วยเหลือประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานตลอดเวลา

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น