วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2563

พสกนิกรนครพนม พร้อมใจจัดกิจกรรมน้อมรำลึกเนื่องในโอกาสครบ 120 ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

วันที่ 21 ตุลาคม 2563 ที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม ตำบลหนองแสง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ แพทย์ พยาบาล เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม เจ้าหน้าที่ นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนมและประชาชนจังหวัดนครพนม ร่วมกันประกอบพิธีวางพานพุ่มเบื้องหน้าพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อปวงชนชาวไทย เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพครบ 120 ปี โดยในช่วงเช้าเวลา 7.00 น. พสกนิกรทุกหมู่เหล่าของจังหวัดนครพนมได้พร้อมใจกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 25 รูปถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน และในเวลา 10.30 น. ก็ได้พร้อมใจกันที่ป่าสาธารณประโยชน์ป่าช้าหนองไผ่ บ้านอูนนา หมู่ที่ 11 ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า เพื่อร่วมกันปลูกต้นไม้และบำรุงรักษาต้นไม้ที่เคยร่วมกันปลูกในโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่าจังหวัดนครพนมกับกิจกรรมวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่ทรงเป็นต้นแบบในการปลูกและบำรุงรักษาต้นไม้

สำหรับพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและประเทศชาตินั้นใหญ่หลวงเป็นอเนกปริยาย ทั้งด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งหน่วย มูลนิธิและโครงการ ที่สำคัญขึ้น อาทิ หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ซึ่งจะประกอบไปด้วยแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่เป็นอาสาสมัครทำงานด้วยความเสียสละ โดยมิได้รับเงินเดือน หรือค่าตอบแทนพิเศษอื่นใด โดยจะเคลื่อนที่ออกไปให้บริการตรวจรักษาชาวบ้านตามท้องถิ่นต่าง ๆ ที่กันดารห่างไกลความเจริญ มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทำขาเทียมและพระราชทานให้แก่ผู้พิการขาขาดที่ยากจนในชนบทโดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา และไม่คิดมูลค่า มูลนิธิถันยรักษ์ที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการตรวจวินิจฉัยเต้านม และโครงการพัฒนาดอยตุงที่เป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ทั้งเป็นการส่งเสริมงานให้ชาวไทยภูเขา ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงทรงได้รับขนานนามว่า สมเด็จย่า จากชาวไทยบนพื้นราบ หรือ แม่ฟ้าหลวง จากชาวไทยภูเขา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น