วันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ที่บริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นสถานที่ปล่อยตัวนักวิ่งของกิจกรรมเดิน-วิ่ง ข้ามโขง "นครพนม-คำม่วน มาราธอน 2020" บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักของนักกีฬา 4,046 คน ที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมที่จังหวัดนครพนมร่วมกับมูลนิธิศรีโคตรบูรจัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 อย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยได้มีการตื่นตัวในการออกกำลังกายและเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ทุกคนได้มีประสบการณ์ในการวิ่งมาราธอน อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปสนับสนุนมูลนิธิศรีโคตรบูรเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชน ประชาชน ผู้สูงอายุ และผู้บกพร่องทางร่างกาย ให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ และสนับสนุนโรงพยาบาลนครพนมในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์มาบริการประชาชน
โดยสนามแข่งขันในครั้งนี้
ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสหพันธ์กรีฑาเอเซีย (Asian Athletics
Association) แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ประเภท
คือ HALF MARATHON ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร
มีผู้ร่วมกิจกรรม 1,031 คน MINI MARATHON ระยะทาง 10 กิโลเมตร จำนวน 1,567 คน และ FUN RUN ระยะทาง 5 กิโลเมตร
จำนวน 1,051 คน นอกจากนี้ยังมีประเภท VIP ชาย/หญิง ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมาเดิน - วิ่ง
สัมผัสบรรยากาศที่งดงามของจังหวัดนครพนมอีกจำนวน 397 คน โดยการปล่อยตัวได้เริ่มขึ้นในเวลา
05.00 น. จากนั้นจะเป็นการปล่อยตัวในแต่ละรุ่นห่างกัน 30 นาที สำหรับเส้นทางการวิ่งนั้นทุกคนจะได้วิ่งขึ้นไปสัมผัสกับบรรยากาศบนสะพานมิตรภาพแห่งที่
3 ซึ่งเป็นสะพานที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เป็นเส้นทางการคมนาคมขนส่ง ด้านการค้าและการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากประเทศไทยไปประเทศลาว
ประเทศเวียดนามและภาคใต้ของประเทศจีน โดยสะพานแห่งนี้มีความยาวรวม 780 เมตร กว้าง
13 เมตร มี 2 ช่องจราจร เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2554
โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทรงเสด็จเป็นประธานร่วมกับท่านบุญยัง วอละจิด
รองประธานประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อสัมผัสกับบรรยากาศบนสะพานแล้วก็จะเลี้ยวกับมาเข้าสู่เส้นทางการแข่งขันของแต่ละประเภทที่เป็นการเดิน-วิ่ง
บนเส้นทางจักรยานที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงเพื่อสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนในชุมชนและธรรมชาติที่งดงามยามรุ่งอรุณที่จะมองเห็นสะพานมิตรภาพแห่งที่
3 ทิวทัศน์ภูเขาหินปูนลูกน้อยใหญ่ที่เรียงรายทอดยาวตามเส้นทางการวิ่ง
ไปพร้อมกับการสูดเอาอากาศที่บริสุทธิ์และลมเย็น ๆ ที่พัดขึ้นมาจากแม่น้ำโขงซึ่งหาที่ใดเหมือน
ทั้งนี้ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนต้องมีการเช็คอิน
- เอาท์ ผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะ ผ่านจุดคัดกรองอุณหภูมิก่อนเข้างานและต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า
หรือ Face
Shied ขณะที่วิ่งจะมีจุดให้น้ำระหว่างทางที่เป็นแบบภาชนะปิดเท่านั้นไม่มีการรินน้ำจากแก้ว
เมื่อเข้าเส้นชัยแล้วนักวิ่งจะต้องแยกไปรับเหรียญหลังเส้นชัยในจุดที่กำหนดไว้ในแต่ละระยะแข่งขัน
เพื่อลดการรวมตัวหน้าเส้นชัย ส่วนอาหารก็จะเป็นแบบ box set และที่สำคัญคือผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันจะได้รับสิทธิ์ประกันชีวิตจากงานด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น