วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ม.นครพนม จับมือ อปท. ขับเคลื่อนรากแก้วให้ประเทศ แก้ปัญหาความยากจน

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานและเป็นสักขีพยานในลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างมหาวิทยาลัยนครพนม กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดนครพนม เพื่อบูรณาการงานร่วมกันในการขับเคลื่อนโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ หรือ “U2T” สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับการแก้ปัญหาความยากจนในตำบลอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการพัฒนากลไกการทำงานร่วมมือกันระหว่างประชาชนในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และมหาวิทยาลัย ตามนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในการวางแผนยุทธศาสตร์ของระบบอุดมศึกษา และการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยในประเทศไทย (Reinventing University) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ศักยภาพของการเรียน และองค์ความรู้ของบัณฑิตให้ตรงกับสังคมและยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด

นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ประเทศไทย 4.0 (มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน) เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง มีความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่งและความไม่สมดุลในการพัฒนา อีกทั้งยังติดอยู่ในโมเดลเศรษฐกิจแบบ “ทำมากได้น้อย” จึงจะต้องปรับเปลี่ยนให้เป็น “ทำน้อยได้มาก” โดยเปลี่ยนจากการผลิตสินค้า “โภคภัณฑ์” ไปสู่สินค้าเชิง “นวัตกรรม” และเปลี่ยนจากการขับเคลื่อนประเทศด้วยภาคอุตสาหกรรมไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ซึ่งเป็นนโยบายที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงของมหาวิทยาลัยนครพนมและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในจังหวัดนครพนม จำนวน 103 แห่ง องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง และสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 1 แห่ง รวมทั้งสิ้น 105 แห่ง ในครั้งนี้จะเป็นการยกระดับขีดความสามารถของบุคลากร ทั้งการดำเนินการด้านการศึกษา การวิจัยและพัฒนา ตลอดจนการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม มีการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกันเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของชุมชน เกิดเครือข่ายในการพัฒนาพื้นที่ ทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ด้วยการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และเทคโนโลยีเข้าไปช่วยพัฒนาศักยภาพคนในชุมชน ซึ่งจะตอบโจทย์เป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่  12 ที่จะขับเคลื่อนไปสู่การเป็นประเทศที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาล


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น