วันที่ 11 มีนาคม 2564 ที่สำนักงานพานิชย์จังหวัดนครพนม นางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม เป็นประธานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจะซื้อจะขายลิ้นจี่พันธุ์นครพนม 1 หรือ นพ.1 ระหว่างตัวแทน วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ลิ้นจี่ นพ.1 กับ ไปรษณีย์ไทย สาขานครพนม ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สาขานครพนม และห้างสรรพสินค้าท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่คณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัดนครพนม (เซลล์แมนจังหวัดนครพนม) จัดขึ้น เพื่อหาช่องทางการตลาดให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ในพื้นที่จังหวัดนครพนม ที่มีการเพาะปลูกอยู่ประมาณ 2,548 ไร่ ให้มีช่องทางการจำหน่ายที่แน่นอน เป็นการสร้างความมั่นใจ ด้านการตลาด ภายใต้วิสัยทัศน์เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด และภายใต้ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต โดยกำหนดเป้าหมาย 3 เพิ่ม คือ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ เพิ่ม GDP ของประเทศและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการทุกระดับ
โดยในปี
2564 นี้ คาดว่าจะมีผลผลิตลิ้นจี่ นพ.1 ออกสู่ท้องตลาด ในช่วงปลายเดือนมีนาคม -
พฤษภาคม ประมาณ 1,400 ตัน ซึ่งเบื้องต้นทางไปรษณีย์ไทย สาขานครพนม จะรับซื้อจำนวน
100 ตัน โดยจะใช้รถปรับอุณหภูมิวิ่งส่งลิ้นจี่ในระยะทางไกล ส่วนระยะทางใกล้จะใช้รถที่ไม่มีเครื่องปรับอุณหภูมิวิ่งส่ง
เพื่อเป็นการป้องกันการเน่าเสียและคงคุณภาพของสินค้า ขณะที่ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร
สาขานครพนม จะรับซื้อจำนวน 300 ตัน และห้างสรรพสินค้าท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต จะรับซื้อไปเรื่อย
ๆ ในปริมาณที่ขายได้ ซึ่งทางห้างมีนโยบายจะไม่กดราคาสินค้าของเกษตรกร แต่ขอให้เป็นราคาเดียวกันกับเกษตรกรขายให้กลุ่มอื่น
ๆ ส่วนเรื่องการจัดส่งจะมีการแจ้งล่วงหน้า
ด้วยปริมาณเท่าไหร่ โดยแบ่งการส่งเป็น 2 แบบ คือส่งตรงสาขาในภาคอีสาน และส่งไปที่ศูนย์กระจายสินค้า
ทั้งนี้ในบันทึกข้อตกลงยังได้แบ่งเกรดลิ้นจี่ออกเป็น 3 ระดับ คือ เกรด A มีจำนวน 25 –
30 ผล/กิโลกรัม เกรด B มีจำนวน 31 -
35 ผล/กิโลกรัม และเกรด
C มีจำนวน
36 - 40 ผล/กิโลกรัม ส่วนราคาซื้อ - ขาย
จะเป็นไปตามปริมาณและคุณภาพที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกัน
นอกจากนี้คณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัด ที่มีทั้งหน่วยงานภาครัฐ
ภาคเอกชน มาทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนการค้าและจัดหาช่องทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรของจังหวัด
ยังเตรียมหาช่องทางการตลาดเพื่อจำหน่ายเพิ่มเติมทั้งในรูปแบบออนไลน์ ออฟไลน์ คอนแทรคฟาร์มมิ่ง
(การทำเกษตรพันธสัญญา) และ เคาน์เตอร์เทรด (การสร้างเวทีการจับคู่ธุรกิจ)
เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่
นพ.1 ซึ่งเป็นลิ้นจี่พันธุ์เบา และเป็นพืชเศรษฐกิจตัวแรกของจังหวัดนครพนม ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา
กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 2560 ด้วยลักษณะเด่นเฉพาะตัว คือ มีผลใหญ่ เนื้อแห้งไม่เละ
มีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย และไม่มีรสฝาด ทำให้เป็นที่นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลายของประชาชนทั่วไป


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น