จ.นครพนมเน้นมาตรการเชิงรุกคุมโควิด พร้อมเปิดสายด่วนรับแจ้งผู้ติดเชื้อและเร่งประชาสัมพันธ์มาตรการสวมแมสนอกเคหะสถาน

วันที่ 30 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม และพลตำรวจตรี ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 ของจังหวัดนครพนม ที่วันนี้มียอดสะสมเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย รวมทั้งสิ้น 102 ราย โดยมีผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 24 ราย เสียชีวิต 1 ราย และอยู่ระหว่างการรักษา 77 ราย

โดยในวันนี้ทางจังหวัดนครพนมยังคงเน้นย้ำถึงการใช้มาตรการเชิงรุก ที่ต้องค้นหาให้ไว เจอให้เร็ว รักษาให้ทัน เพราะที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดจากคลัสเตอร์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยหลังจากนี้คาดว่าจะมีเคสพบผู้ป่วยติดเชื้อในลักษณะประปราย เนื่องจากจะมีประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงเดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเอง โดยได้มีการสั่งการในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขึ้นอีก เช่นในพื้นที่เทศบาลเมืองนครพนม ที่มีลักษณะเป็นชุมชนเมือง ก็ให้มีการแบ่งโซนเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เคาะประตูบ้านสแกนหาคนที่มาจากพื้นที่เสี่ยงเพื่อทำการตรวจคัดกรองหาเชื้อและให้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ส่วนที่สนามบินก็จะให้ตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าทันทีที่ลงจากเครื่อง ทั้งนี้ได้มีการขอความร่วมมือไปยังประชาชนในการช่วยเป็นหูเป็นตาร่วมกันเฝ้าระวังป้องกัน และแจ้งข้อมูลผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงแล้วไม่ปฏิบัติตามมาตรการให้เจ้าหน้าที่ได้ทราบด้วย ส่วนตัวของผู้ป่วยติดเชื้อก็ขออย่าได้ปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ของตนเองเพราะนั้นมีเคสในวันนี้ที่ผู้ป่วยก่อนหน้าปกปิดข้อมูลทำให้ญาติอันเป็นที่รักได้รับเชื้อตามไปด้วย ซึ่งการปกปิดข้อมูลนอกจากจะทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักเพิ่มมากขึ้นแล้ว บุคคลข้างเคียงก็กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงเพิ่มตามไปด้วยทั้งยังก่อให้เกิดความเสี่ยงกับบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็น หมอ พยาบาล ผู้ปฏิบัติงานรวมไปถึงคนในชุมชน ซึ่งเชื้อไวรัสโควิดสายพันธ์ UK เป็นสายพันธ์ที่ติดง่าย มีความรุนแรงและบางรายไม่แสดงอาการซึ่งตรงนี้จะมีโอกาสส่งต่อเชื้อไปยังบุคคลใกล้ชิดได้

นอกจากนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมยังได้มีการเปิดสายด่วน 191 รับแจ้งเหตุผู้ป่วยโควิดที่ต้องการเข้าทำการรักษา เป็นการเสริมมาตรการทางสาธารณสุขจังหวัดนครพนม เนื่องจากกรุงเทพฯและปริมณฑลมีข่าวผู้ป่วยติดเชื้อแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วไม่มีบุคลากรไปดำเนินการ หรือไปดำเนินการช้าทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตหรือเข้าขั้นภาวะวิกฤต เป็นการสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ซึ่งเมื่อรับแจ้งเหตุแล้วจะมีการประสานแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลอำเภอ หรือโรงพยาบาลจังหวัด ในการเข้าดำเนินการทันทีโดยจะมีการบูรณางานร่วมกันจนกว่าผู้ป่วยจะได้รับการนำส่งโรงพยาบาลที่รับผิดชอบ รวมถึงปัจจุบันได้มีการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และเข้าใจและปฏิบัติตามเกี่ยวกับมาตรการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่ออกจากเคหะสถานทุกครั้ง ซึ่งมีโทษษปรับตามระเบียบอัตราโทษไม่เกิน 20,000 บาท ที่ครั้งแรกจะปรับอยู่ที่ 6,000 บาท ครั้งที่ 2 จะปรับ 12,000 บาท และครั้งที่ 3 จะปรับเป็น 20,000 บาท

นครพนม เปิดศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารโควิด สร้างความเชื่อมั่นและเข้าถึงให้ประชาชนผ่าน App

วันที่ 29 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และนายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 ของจังหวัดนครพนม ที่วันนี้มียอดสะสมเพิ่มขึ้นอีก 5 ราย รวมทั้งสิ้น 100 ราย โดยผู้ป่วยที่พบในครั้งนี้เป็นชาวอำเภอปลาปากทั้งหมด แบ่งเป็นผู้ป่วยที่มีการกักตัวอยู่แล้วแต่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุกจากกรณีปิด 2 หมู่บ้าน 1 ราย และครอบครัวผู้ป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงอีก 3 ราย ส่วนด้านของการรักษานั้นมีผู้ที่ได้กลับบ้านไปแล้ว 15 ราย เสียชีวิต 1 ราย คงเหลือเข้ารับการรักษา 84 ราย โดยมี 17 รายที่มีอาการปอดอักเสบซึ่งได้ให้การรักษาโดยให้ยาฆ่าเชื้อไวรัสฟาวิพิราเวียร์และยาต้านการอักเสบรวมถึงให้ออกซิเจนครบทุกราย ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนผู้ป่วยรายอื่นที่เหลือมีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีเลย และขอให้ชาวนครพนมอย่าได้วิตกกังวลในเรื่องเรื่องของยาหรือเตียงที่จะใช้ในการรักษาว่าจะมีไม่เพียงพอ เพราะได้มีการวางแผนบริหารจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว

โดยภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้นำคณะสื่อมวล เยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารจังหวัดนครพนม ซึ่งจะเปิดดำเนินการเพื่อบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการรวบรวมข้อมูลที่สำคัญ เพื่อให้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมได้ใช้ประโยชน์เป็นหลัก ขณะเดียวกันภาคเอกชน สื่อมวลชนหรือประชาชนทั่วไปก็สามารถเข้ามาดูข้อมูลในส่วนนี้ได้เพียงใช้การยืนยันตัวตนด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ซึ่งข้อมูลที่ได้จะมีการอัพเดททุกวันเท่าที่จะทำได้ เช่น ข้อมูลคนที่เดินทางมาจากกลุ่มจังหวัดเสี่ยงสูงที่จะมีการอัพเดทจากทุกอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ว่าในแต่ละวันมีบุคคลเข้ามาในพื้นที่เท่าไหร่ มีการตรวจหาเชื้อไปแล้วกี่คน ผลออกมาเป็นอย่างไร เป็นบวกหรือเป็นลบ บุคคลที่ต้องกักตัวมีเท่าไหร่ ทำได้กี่วันแล้วครบ 14 วันไปกี่คน รวมทั้งแผนการบริหารในการฉีดวัคซีนที่ประชาชนทั่วไปก็สามารถเข้ามาตรวจเช็คได้ว่าจะได้รับการฉีดเมื่อไหร่ นอกจากนี้ยังได้รวมในเรื่องอื่นๆเพิ่มเติมเข้ามาอีก เช่น เรื่องเงินงบประมาณที่จะใช้ในการป้องกันหรือยังยั้งการแพร่ระบาดเหลืออยู่เท่าไหร่ ใช้งบประมาณไปในส่วนไหนอย่างไร หรือแม้กระทั่งโรงพยาบาลสนามก็จะบอกไว้เลยว่ามีเตียงอยู่เท่าไหร่ ยาเวชภัณฑ์หรือเครื่องมือมีเพียงพอหรือไม่ ซี่งทั้งหมดที่กล่าวมาจะทำเป็นระบบอัตโนมัติ ภายใต้ LINE Official ที่ชื่อ NPM-COVID19 เพราะฉะนั้นทุกคนจะสามารถเข้ามาดูได้เลย เนื่องจากข้อมูลต่างๆจะถูกป้อนเข้าไปในระบบนี้ ซึ่งเดิมที่ข้อมูลดังกล่าวจะกระจัดกระจายอยู่ตามหน่วยงานต่าง ๆ ทำให้การบริหารจัดการมีความลำบาก เวลาทำงานในบางครั้งตัวเลขมีความคลาดเคลื่อน แต่เมื่อทุกอย่างถูกนำเข้าสู่ระบบตรงนี้จะทำให้เกิดประโยชน์มากขึ้น และในอนาคตอันใกล้นี้จังหวัดนครพนมยังวางแผนไว้ว่าจะมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ เข้ามาเสริมเพิ่มเติมอีกและจะให้มีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำ เพื่อคอยตอบคำถาม ตอบข้อสงสัยประชาชนด้วย

ครอบครัวผู้ใจบุญมอบเครื่องช่วยหายใจ สนับสนุนการรักษาผู้ป่วยโรงพยาบาลนครพนม

วันที่ 29 เมษายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม เปิดเผยว่า ในการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินที่อยู่ในภาวะวิกฤตนั้น เครื่องช่วยหายใจเป็นหนึ่งในเครื่องมือแพทย์ที่มีความจำเป็นและมีประโยชน์ต่อการรักษาเป็นอย่างมากเพราะจะช่วยให้ผู้ป่วยที่มีระบบทางเดินหายใจผิดปกติ สามารถหายใจได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนที่เพียงพอ โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 เช่นนี้ ที่ผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรงจำเป็นจะต้องใช้ ซึ่งนับเป็นข่าวดีอย่างยิ่งของชาวนครพนม เพราะในวันนี้ทางโรงพยาบาลได้รับการบริจาคเครื่องช่วยหายใจ ยี่ห้อ CareFusion T Bird Series รุ่น VELA Plus จำนวน 2 เครื่อง ในราคารวม 900,000 บาท จากครอบครัวผู้ใจบุญ คือครอบครัวของคุณมัติกานต์ อินทร์ดี และ Mr. Alan Randall ที่ได้ติดต่อประสานผ่านทางนางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่เป็นลูกหลานชาวนครพนมจนนำมาสู่การนำเครื่องช่วยหายใจมามอบให้ในครั้งนี้

จึงขอเป็นตัวแทนชาวนครพนมและผู้ป่วยทุกคนที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพนมในการขอบคุณครอบครัวผู้ใจบุญที่มีจิตอันเป็นกุศลนำเครื่องช่วยหายใจมามอบให้ในวันนี้ โดยเครื่องรุ่นนี้มีคุณลักษณะที่โดดเด่น คือเป็นเครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุมด้วยปริมาตรและความดัน สามารถใช้กับผู้ป่วยได้ทั้งที่เป็นเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งสามารถควบคุมการปรับตั้งค่าด้วยระบบ Touch Screen หรือจะใช้ปุ่มหมุนก็ได้เช่นเดียวกัน มีระบบล็อคจอภาพที่แสดงผลปริมาตรของการหายใจ แสดงระยะเวลาและจำนวนครั้งของการหายใจ และค่าอื่น ๆ อีกหลายอย่างด้วยจอภาพสีชนิด LCD ขนาด 10.4 นิ้ว มีการควบคุมการจ่ายอากาศด้วยระบบ Turbine สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ Invasive และแบบ Non-invasive มีระบบช่วยหายใจสำรอง Apnea backup ventilation ที่สามารถเลือกการทำงานเป็นแบบ Volume หรือ Pressure สามารถใช้งานกับแหล่งจ่ายออกซิเจนได้ทั้งแบบ High pressure และ Low pressure มีระบบพ่นยาจากตัวเครื่อง โดยพ่นยาเฉพาะช่วงหายใจเข้า ซึ่งสามารถพ่นยาได้นานสูงสุด 60 นาที มีระบบ Leak Compensation ที่สำคัญคือมีแบตเตอรี่สำรองภายในตัวเครื่องในกรณีไฟฟ้าขัดข้องสามารถใช้งานได้ประมาณ 2 ชั่วโมง

บุคลากรด่านหน้านครพนม เข้ารับวัคซีนโควิด – 19 เข็มที่ 2

วันที่ 29 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมศรีโคตรบูรณ์ ชั้น 5 อาคารอำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด - 19 ของจังหวัดนครพนมที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาล โดยวันนี้บุคลากรด่านหน้า หน้าที่ประกอบไปด้วย แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงานด่านหน้า และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชน จำนวน 900 คน ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปเมื่อ 8 เมษายน 2564 เริ่มทะยอยเข้ารับวัคซีนเข็มที่ 2 ซึ่งหลายคนยังคงมีความตื่นเต้นเหมือนเดิมแต่ไม่มากเท่าครั้งแรกที่เข้ารับวัคซีน ขณะที่ส่วนใหญ่มีความมั่นใจและสบายใจว่าจะไม่มีผลข้างเคียงอะไร เนื่องจากในครั้งที่รับวัคซีนเข็มแรกตนเองมีความปกติ

โดยในวันนี้ทุกคนยังคงต้องปฏิบัติตามขั้นตอนเหมือนเดิม คือการลงทะเบียน ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน จากนั้นไปที่จุดคัดกรองเพื่อทำการซักประวัติประเมินความเสี่ยงโดยในขั้นตอนนี้จะต้องนำบัตรบันทึกข้อมูลการฉีดวัคซีนมาแสดงด้วย จากนั้นจะไปรอฉีดวัคซีน เมื่อได้คิวก็เข้ารับวัคซีนแล้วออกมานั่งพักสังเกตอาการเป็นเวลา 30 นาที พร้อมกับรับชมวีดีทัศน์เกี่ยวกับสถานการณ์ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ เกี่ยวกับไวรัสโควิด – 19 ซึ่งถ้าไม่มีอาการข้างเคียงก็ไปตรวจเช็คความดันและตรวจเช็คอาการข้างเคียงอีกครั้งถ้าร่างกายปกติจะได้รับหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

สำหรับวัคซีนที่จังหวัดนครพนมได้รับการจัดสรรนั้น ณ ปัจจุบันได้รับแล้วจำนวน 3 ล๊อต โดยล็อตแรกได้รับการจัดสรรจำนวน 1,800 โด๊ส ล็อตที่ 2 ได้รับการจัดสรร 4,360 โด๊ส และล๊อตที่ 3 ได้รับการจัดสรร 4,760 โด๊ส ซึ่งบุคลากรด่านหน้าที่เข้ารับการฉีดวัคซีนล็อตแรกครบกำหนดรับวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันนี้ ส่วนล๊อตที่ 2 จะครบกำหนดฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2564 และล็อตที่ 3 ครบกำหนดฉีดในวันที่ 17-18 พฤษภาคม 2564

นครพนม เตรียมตั้งจุดตรวจคัดกรองด้วยวิธี Swab หาเชื้อโควิดที่สนามบิน

วันที่ 28 เมษายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์ขวัญชัย ประเสริฐยิ่ง นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) นำทีมปฏิบัติการภายใต้กำกับของคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข (Emergency Operation Center: EOC) จังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ท่าอากาศยานนครพนม ร่วมหารือ วางแผนแนวทางดำเนินการในการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 กับนายภิรมย์ มีแก้ว ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครพนมและคณะเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานนครพนม เพื่อเตรียมยกระดับมาตรฐานการตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าด้วยวิธีการ Swab ตรวจหาเชื้อโรคทันทีหลังลงเครื่อง

จากที่จังหวัดนครพนมได้มีคำสั่งยกระดับมาตรการและแนวทางในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด - 19 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งมาตรการที่ให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเป็นการชั่วคราว การห้ามดำเนินการหรือจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค การให้สถานประกอบการหรือสถานที่เช่น ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ร้านเสริมสวย ตลาดนัดตลาดสด ตลาดชุมชน สถานที่บริการ ที่พักอาศัยหรือสถานสงเคราะห์อื่นที่จัดสวัสดิการให้แก่เด็กหรือผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึงพิงต้องปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ขอให้ประชาชนงดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัดหากไม่จำเป็น ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครพนมสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างถูกต้องหรือถูกวิธีทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหะสถานหรือสถานที่พำนัก ซึ่งถ้าผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษ รวมถึงมีมาตรการเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ มาตรการในการตั้งจุดตรวจจุดคัดกรองเพื่อค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดในชุมชน และหนึ่งในนั้นคือท่าอากาศยานนครพนม ซึ่งหลังจากนี้ผู้โดยสารขาเข้าของท่าอากาศยานนครพนม จะต้องมีการลงทะเบียนผ่านแอพพิเคชั่น NPM covid-19 หรือกรอกข้อมูลประวัติเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นจะต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยวิธีการ Swab เก็บเชื้อตัวอย่างเพื่อส่งตรวจ จึงจะสามารถกลับบ้านหรือสถานที่พักเพื่อทำการกักตัวเองเป็นเวลา 14 วันสำหรับผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงสูง ส่วนผู้ที่มาจากจังหวัดที่เหลือต้องได้รับการประเมินความเสี่ยงจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขถ้ามีความเสี่ยงให้ใช้มาตรการเดียวกับ 18 จังหวัดสูงสุด กรณีไม่มีความเสี่ยงหรือฉีดวัคซัน ครบ 2 เข็มให้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

เหล่ากาชาดนครพนม เร่งบรรจุถุงธารน้ำใจ เตรียมส่งมอบช่วยชาวบ้านกักตัวโควิด – 19 อ.ปลาปาก

วันที่ 28 เมษายน 2564 ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางกรรณิกา กองฉลาด นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ได้ระดมกำลังคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดนครพนม ช่วยกันบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคใส่ถุงยังชีพสภากาชาดไทย (ชุดธารน้ำใจ) จำนวน 800 ชุด เพื่อนำไปช่วยเหลือชาวบ้านโคกกลาง หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 15 ตำบลปลาปาก อำเภอปลาปาก จำนวน 388 ครัวเรือน ที่ต้องกักตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทีมสอบสวนโรคได้เข้าดำเนินการเชิงรุก ในการตรวจค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่เพิ่มเติม หลังจังหวัดมีคำสั่งที่ 1006/2564 ให้ปิด 2 หมู่บ้านเป็นการชั่วคราว เนื่องจากพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด – 19 ในพื้นที่(รายที่ 61) ซึ่งตามไทม์ไลน์พบว่าผู้ป่วยมีญาติมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง คือจังหวัดชลบุรีและสมุทรปราการมาเยี่ยมและได้รับประทานอาหารร่วมกัน ทั้งได้ไปร่วมงานบุญประเพณีที่ 2 หมู่บ้านจัดขึ้น ซึ่งมีทั้งการนำรถแห่มาร่วมงาน มีหมอลำให้ดู ทำให้ประชาชนในหมู่บ้านกลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง /เสี่ยงต่ำ ซึ่งเบื้องต้นในหมู่บ้านตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อแล้วจำนวน 7 ราย โดยทั้งหมดได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปลาปาก และยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจอีกประมาณ 500 ราย

สำหรับชุดธารน้ำใจที่จะนำไปมอบในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากที่เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนมได้มีการประสานกับฝ่ายปกครองอำเภอปลาปาก ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ในพื้นที่ทำการสำรวจและทำการบันทึกข้อมูลขอความช่วยเหลือ ผ่านระบบ application พ้นภัย ของสภากาชาดไทย จนนำไปสู่การจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคมาช่วยเหลือ โดย 1 ชุด จะประกอบไปด้วย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง ผงซักฟอก สบู่ แชมพู ข้าวสาร และน้ำดื่มที่สามารถดำรงชีพได้ 14 วัน

ในส่วนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโรควิด- 19 ของจังหวัดนครพนมนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมพร้อมด้วย นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และนายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 เพิ่มขึ้น 4 ราย รวมสะสม 95 ราย รักษาหายได้กลับบ้าน 10 ราย เสียชีวิต 1 ราย และอยู่ระหว่างการรักษา 84 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้ที่มีอาการปอดอักเสบ 19 ราย คิดเป็นร้อยละ 20 ของผู้ป่วยทั้งหมด ซึ่งทุกรายได้รับยาต้านไวรัสแล้ว ส่วนรายอื่น ๆ มีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลย ทั้งนี้ในพื้นที่จังหวัดนครพนมมี 3 อำเภอที่ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อเลย คืออำเภอนาแก อำเภอโพนสวรรค์และอำเภอนาทม

นครพนม ป่วยโควิดสะสม 91 ราย สาเหตุยังมาจากคลัสเตอร์เดิม ๆ แนะประชาชนอย่าเคลื่อนย้ายถ้าไม่จำเป็น

วันที่ 27 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมร่มฉัตร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และนายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 ของจังหวัดนครพนม ที่วันนี้มียอดสะสมเพิ่มขึ้นอีก 7 ราย รวมทั้งสิ้นเป็น 91 ราย โดยผู้ป่วยที่พบในครั้งนี้เป็นผู้ป่วยที่มีการกักตัวอยู่แล้วแต่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ไปสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยัน 2 ราย ผู้ป่วยที่ไปสถานที่เสี่ยง 1 ราย ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 1 ราย และอีก 3 รายเป็นการค้นหาเชิงรุกจากกรณีปิด 2 หมู่บ้านที่อำเภอปลาปาก

โดยในวันนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เปิดเผยว่า วันนี้เป็นอีกวันที่จังหวัดนครพนมมียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 7 ราย กระจายอยู่ 3 อำเภอ คืออำเภอวังยาง ธาตุพนมและอำเภอปลาปาก ซึ่งจากการสอบสวนโรคพบว่ามีลักษณะการติดเชื้อเหมือนกับรายก่อน ๆ และเป็นคลัสเตอร์เดิม ๆ ที่ส่งต่อเชื้อให้กัน เพราะฉะนั้นจึงอยากนำเรียนว่าในช่วงนี้ถ้าพี่น้องประชาชนไม่มีความจำเป็นในการเดินทางก็ขอให้อยู่กับที่ คือไม่ต้องมาและไม่ต้องไปจะเป็นการปลอดภัยที่สุด อีกทั้งก็ต้องระวังผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงสูงที่จะมาเยี่ยมเยียน มาร่วมรับประทานอาหารและสังสรรค์ ซึ่งหลายคนอาจจะนำเชื้อมาฝากโดยไม่ตั้งใจ ดังนั้นในช่วงนี้ถ้าไม่มีความจำเป็นก็ขอให้ใช้โทรศัพท์ในการติดต่อพูดคุย หรือถ้ากลัวไม่เห็นหน้าก็เปิด video call ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้อีกทาง และในสถานการณ์อย่างนี้ก็ขอความร่วมมือร้านค้า สถานประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดด้วย

ด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากข้อมูลจะเห็นได้ว่ามียอดเพิ่มขึ้นทุกวันซึ่งอาจจะสูงกว่าหลายจังหวัด แต่ก็ขออย่าได้ตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะที่เราพบเยอะมาจากมาตรการตรวจค้นเชิงรุกที่เราได้ปฏิบัติซึ่งถ้าไม่ทำในลักษณะในอนาคตจังหวัดนครพนมจะมีผู้ที่ติดเชื้ออีกเป็นจำนวนมาก เมื่อเราสามารถดักจับได้ก่อน รักษาได้ไวจึงเป็นสิ่งที่ดีกว่าปล่อยให้กระจายและมีอาการป่วยแล้วค่อยทำการรักษาซึ่งมีโอกาสสูงที่จะเสียชีวิต เพราะเชื้อโควิด – 19 สายพันธ์ UK ร้ายแรงกว่าตัวอื่นหลายเท่าทั้งยังติดง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเคสร้านจิวเวอร์รี่ที่นั่งรถยนต์มาด้วยกัน 2 คัน 11 คน ตอนนี้ติดไปแล้ว 9 คนที่นั่งมาในรถส่วน 2 คนที่เหลือที่นั่งมาท้ายกระบะก็ต้องรอลุ้นต่อไปเพราะช่วงที่กักตัวมีการรับประทานอาหารร่วมกับคนที่ติด อีกทั้งที่ผ่านๆมามีการตรวจพบว่าการติดเชื้อเกิดขึ้นในส่วนของสถานบริการ หรือร้านต่าง ๆ ที่อยู่ในสถานที่แออัด การถ่ายเทอากาศไม่สะดวก หรือบางแห่งมีการติดแอร์ซึ่งเป็นเหมือนตัวกระจายเชื้อ จึงอยากจะให้ทุกคนเพิ่มความระมัดระวังเพิ่มมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อของจังหวัดนครพนม ปัจจุบันมีผู้ที่รักษาหายได้กลับบ้านแล้ว 9 ราย เสียชีวิต 1 ราย และยังทำการรักษาอยู่ที่ 81 ราย ซึ่งทั้งหมดไม่มีอาการที่อยู่ในภาวะวิกฤติที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่มีผู้ป่วยที่ปอดอักเสบ 17 ราย คิดเป็นร้อยละ 20 ของผู้ป่วยทั้งหมด โดยโรงพยาบาลได้ให้ยาต้านไวรัสครบทุกราย ส่วนรายอื่น ๆ ก็มีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลย ทั้งนี้ขอยืนยันว่ายาต้านไวรัสของจังหวัดนครพนมยังคงมีเพียงพอ

จ.นครพนม พร้อมเปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่มทันทีหากมีความจำเป็น

วันที่ 27 เมษายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ในพื้นที่ ซึ่งในแต่ละวันคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมที่นำโดย นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม จะมีการออกมาแถลงข่าว เพื่อชี้แจ้งสถานการณ์ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบถึงความเคลื่อนไหว แนวทางปฏิบัติ ตลอดจนข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และจะเห็นว่าข้อมูลในแต่ละวันของจังหวัดนครพนมมีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทำให้หลายคนอาจมีความกังวลว่าจะมีเตียงรักษาเพียงพอหรือไม่ จึงขอเรียนชี้แจงว่ายอดของจังหวัดนครพนมที่พบเพิ่มขึ้นทุกวันนั้น มาจากมาตรการค้นหาเชิงรุก ซึ่งเป็นการควานหาผู้ป่วยก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดในชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่มีอาการอะไรเลย โดยข้อมูล ณ นี้จังหวัดนครพนมมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 91 ราย มีที่หายกลับบ้านได้แล้ว 9 ราย เสียชีวิต 1 ราย ที่เหลือทำการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอีก 81 ราย

แต่อย่างไรก็ดีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับโรงพยาบาลสนามไว้เช่นเดียวกันหากจังหวัดนครพนมมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยมีการเตรียมความพร้อมทั้งในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ได้แก่ ที่โรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์ จำนวน 36 เตียง ที่ว่าการอำเภอธาตุพนม 30 เตียง ที่เมืองเวสเตเดียมอำเภอเรณูนคร 50 เตียง ที่ศูนย์การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดนครพนม อำเภอเมืองนครพนม 20 เตียง ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอปลาปาก 20 เตียง ที่ว่าการอำเภอท่าอุเทน 30 เตียง ที่วิทยาลัยเทคนิคบ้านแพง อำเภอบ้านแพง 30 เตียง ที่ว่าการอำเภอนาทมหลังเก่า 20 เตียง ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลอำเภอนาแก 15 เตียง ที่ว่าการอำเภอศรีสงคราม 30 เตียง ที่โรงเรียนบ้านนาหว้าอำเภอนาหว้า 30 เตียง ที่สำนักงานที่ดินอำเภอโพนสวรรค์ 10 เตียง และที่โรงเรียนวังยางวิทยาคม อำเภอวังยาง 20 เตียง นอกจากนี้ยังมีที่โรงยิมอเนกประสงค์ สนามกีฬากลางจังหวัดนครพนม อีก 1 แห่ง ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลสนามที่เปิดรักษาผู้ป่วยติดเชื้อมีเพียงโรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์เท่านั้นและเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ ทั้งนี้ทุกแห่งพร้อมเปิดดำเนินการได้ทันทีหากมีความจำเป็น

และในโอกาสนี้ก็ต้องขอขอบคุณมูลนิธิเอสซีจีที่ได้มีการสนับสนุนเตียงสนามกระดาษ ซึ่งเป็นผลิตจากกระดาษรีไซเคิล 100% ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ เพื่อรองรับการใช้งานของสรีระของคนเอเชีย น้ำหนักเบา ประหยัดพื้นที่ขนส่งและการจัดเก็บ ประกอบง่ายใน 8 นาที โดยไม่ต้องใช้กาว ใช้ได้นาน 3 เดือน (หากไม่โดนน้ำ) และรับน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัมในแนวราบ จำนวน 100 ชุด มาให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนมใช้ในการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้ โดยได้มีการส่งมอบเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2564 ที่ผ่านมาเพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนได้สู้ไปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังได้รับการประสานจากสโมสรโรตารี่จังหวัดนครพนมที่จะสนับสนุนเตียงยางพาราเพื่อใช้ในโรงพยาบาลสนามอีกจำนวน 100 ชุด เช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งเตียงสนามกระดาษและเตียงยางพารามีแผนวางไว้ว่าจะใช้กับโรงพยาบาลสนามที่โรงยิมอเนกประสงค์สนามกีฬากลางจังหวัดนครพนมที่เป็นทางเลือกสุดท้ายที่กรณีที่มีการระบาดเกินกว่า 300 รายขึ้นไป แต่ถ้าโรงพยาบาลไหนในพื้นที่มีความจำเป็นก็จะมีการจัดสรรให้ไปก่อนได้เหมือนกัน

เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม จัดถุงยังชีพช่วยผู้ถูกกักตัวโควิด – 19 ตามคำสั่งปิด 2 หมู่บ้านในพื้นที่

วันที่ 26 เมษายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นางกรรณิกา กองฉลาด นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ได้มอบหมายให้ นางสาวไพวรรณ์ เหล่าวัฒนาถาวร คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่บ้านโคกกลาง หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 15 ตำบลปลาปาก อำเภอปลาปาก เพื่อมอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนที่ต้องกักตัว 14 วัน หลังจังหวัดนครพนมมีคำสั่งที่ 1006/2564 ให้ปิด 2 หมู่บ้านเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 25 - 28 เมษายน 2564 เนื่องจากพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด – 19 ในพื้นที่รายที่ 61 ซึ่งตามไทม์ไลน์พบว่าผู้ป่วยมีญาติจากพื้นที่เสี่ยงสูง จังหวัดชลบุรีและสมุทรปราการมาเยี่ยม และได้มีการทานข้าวด้วยกันที่บ้าน อีกทั้งได้ไปร่วมงานบุญประเพณีที่ 2 หมู่บ้านได้ร่วมกันจัดขึ้นในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยในกิจกรรมครั้งนั้นมีการนำรถแห่มาร่วมงาน มีหมอลำให้ดู ทำให้ประชาชนในหมู่บ้านมาร่วมสนุกกันเป็นจำนวนมาก และทำให้กลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง /เสี่ยงต่ำ รวม 1,278 ราย จาก 388 หลังคาเรือน ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทีมสอบสวนโรคได้เข้าดำเนินการเชิงรุก ในการตรวจค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค จังหวัดนครพนมจึงได้มีคำสั่งให้ปิด 2 หมู่บ้านดังกล่าวเป็นการชั่วคราว

โดยถุงยังชีพที่นำไปมอบช่วยเหลือผู้ที่ถูกกักตัวในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย อาหารกึ่งสำเร็จรูป น้ำมันพืช น้ำปลา สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน น้ำยาล้างจาน และผงซักฟอก จำนวน 300 ชุด โดยได้นำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ อสม. ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้านที่บริเวณหน่วยบริการวัดบ้านโคกกลาง ตำบลปลาปาก เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่ถูกกักตัวในหมู่บ้านต่อไป

เบื้องต้นในหมู่บ้านพบผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว 5 รายและได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปลาปากทั้งหมด ส่วนคนอื่น ๆ อยู่ระหว่างรอผลตรวจ ทั้งนี้นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ได้มีการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยได้มีการร่วมกันวางแผนและวางแนวทางปฏิบัติกับทางอำเภอปลาปากในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เช่น ในการปิด 2 หมู่บ้าน ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ 2 ฝากทางของถนนทางหลวงหมายเลข 2276 ก็จัดให้มีเจ้าหน้าที่ประจำจุดเพื่อสอบถามประชาชนที่ใช้เส้นทาง รวมถึงชี้แจง ทำความเข้าใจ และเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น มีชุดปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินในการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ มีทีมแพทย์พยาบาล เจ้าหน้าที่ อสม.ในการตรวจเช็คสุขภาพของผู้ที่ถูกกักตัวในแต่ละวัน มีทีมเคลื่อนที่เร็วหากเกิดกรณีฉุกเฉิน และมีการเตรียมโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ไว้รองรับเพิ่มเติม หากเกิดเหตุสุดวิสัยมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นจนโรงพยาบาลปลาปากรับไม่ไหว

นครพนม ป่วยโควิดสะสมเพิ่มอีก 7 ราย เตรียมยกระดับมาตรการเปิดปิดร้านสะดวกซื้อตามเวลา ร้านอาหารซื้อกลับบ้านเท่านั้น

 

วันที่ 26 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และนายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 ของจังหวัดนครพนม ที่วันนี้มียอดสะสมเพิ่มขึ้นอีก 7 ราย รวมทั้งสิ้นเป็น 84 ราย โดยผู้ป่วยที่พบในครั้งนี้เป็นผู้ป่วยที่มีการกักตัวอยู่แล้วแต่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ไปสัมผัสกับผู้ป่วยรายเดิมของจังหวัดนครพนม 5 ราย และผู้ป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 2 ราย

โดยในวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในการยกระดับมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องการที่จะให้ร้านอาหารเปิดขายได้แต่ไม่ให้นั่งรับประทานที่ร้านเพราะมีข้อบ่งชี้ที่จังหวัดนนทบุรี ว่าร้านอาหารที่เป็นแบบ open air ก็มีการติดเชื้อ ดังนั้นเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจึงให้ร้านอาหารเปิดดำเนินการได้แต่ไม่ให้นั่งทาน และอีกประเด็นคือให้ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า สถานบริการต่างๆ เปิดทำการได้ตั้งแต่ 5:00 น. และให้ปิดไม่เกิน เวลา 22:00 น. ทั้งนี้ไม่ใช่การประกาศเคอร์ฟิวเพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนยังสามารถออกนอกบ้านได้ตามปกติ และนี่คือมาตรการที่จังหวัดนครพนมจะยกระดับขึ้น รวมถึงอาจจะมีการปิดสถานบริการที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสโดยตรง เช่น นวดแผนโบราณที่อาจจะต้องปิด 14 วัน เรื่องงานบุญต่างๆ ก็ขอให้งดไปก่อน เพราะอย่างเคสของอำเภอปลาปาก ที่เกิดในช่วงสงกรานต์ ที่มีการจัดงาน มีรถแห่ ในงานบุญ ซึ่งเป็นการรวมคนจนนำไปสู่การติดเชื้อและต้องปิดหมู่บ้านเป็นเวลา 5 วัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนโรค ค้นหาเชื้อคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด

ด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ปัจจุบันเราสามารถควบคุมสถานการณ์ในหลาย ๆ คลัสเตอร์ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเคสทองหล่อที่กลับมาเยี่ยมบ้าน เคสที่มาจากพื้นที่เสี่ยงจังหวัดปทุมธานี เคสครอบครัวชาวจีนที่กลับมาบ้านนครพนม ส่วนเคสร้านจิวเวอร์รี่ที่นั่งรถมาด้วยกัน 11 คน ซึ่งวันนี้ตรวจพบเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย ทำให้เคสนี้ตรวจพบเชื้อแล้วทั้งสิ้น 9 รายคาดว่าคนที่เหลือไม่น่าจะพบเชื้อเนื่องจากนั่งมาที่ท้ายกระบะ ส่วนเคสสถานบันเทิงตอนนี้กำลังรอผลตรวจหาเชื้ออีก 47 ราย และขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังพยายามที่จะจบเคสอำเภอปลาปากที่มีการปิดหมู่บ้านอยู่ แต่ที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้คือมีประชาชนจากพื้นที่ต่าง ๆ กลับมายังภูมิลำเนาของตัวเองจำนวนมาก จึงอยากให้ทุกคนได้ปฏิบัติตามมาการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ส่วนใครที่มาจากพื้นที่เสี่ยงก็ขอให้กักตัวเป็นเวลา 14 วันรวมถึงขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อทำการตรวจคัดกรองหาเชื้อด้วย  

ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อของจังหวัดนครพนม มีผู้ที่รักษาหายแล้ว 7 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทำให้ปัจจุบันเหลือผู้ป่วยที่อยู่ในการรักษาทั้งสิ้น 76 ราย ซึ่งในจำนวนนี้พบว่ามีผู้ที่ปอดอักเสบ 14 ราย คิดเป็นร้อยละ 20 ของผู้ป่วยทั้งหมด โดยโรงพยาบาลได้ให้ยาต้านไวรัสครบทุกราย ส่วนรายอื่น ๆ ก็มีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลย ทั้งนี้ก็ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนขอให้งดการเดินทางไปที่โรงพยาบาลถ้าไม่จำเป็น ยกเว้นเจ็บป่วยฉุกเฉิน กรณีป่วยเรื้อรังที่มีนัดรับยาสามารถติดต่อขอรับได้ที่ รพ.สต.ใกล้บ้านหรือทางไปรษณีย์เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง 

จ.นครพนม เพิ่มมาตรการสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในชุมชน ก่อนส่งผู้ป่วยโควิดที่หายกลับบ้าน

 

วันที่ 25 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และนายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 ของจังหวัดนครพนม ที่วันนี้มียอดสะสมเพิ่มขึ้นอีก 4 ราย รวมเป็น 77 ราย โดยรายที่ 74,75 เป็นผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันรายที่ 67 ซึ่งเมื่อ 2 รายนี้ติดเชื้อเพิ่มเติมขึ้นมา ทำให้วันนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมซึ่งได้มีการหารือร่วมกับทางอำเภอและท้องที่หมู่บ้านมีมติปิดบ้านโคกกลาง หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 15 อำเภอปลาปาก เป็นเวลา 3 วัน เพื่อสืบสวนสอบสวนโรค ตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเคลียร์พื้นที่เป้าหมายประมาณ 1,200 คน ก่อนที่จะมีการกระจายเชื้อไปยังหมู่บ้านข้างเคียง ส่วนรายที่ 76 เป็นนักเที่ยวที่ไปสถานบันเทิงชื่อดังนครพนม และรายที่ 77 เป็นผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันรายที่ 76

โดยในวันนี้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนมได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันนครพนมมีผู้ป่วยติดเชื้อที่ทำการรักษาอยู่ 75 ราย มีผู้ป่วยที่มีจะต้องให้ดมออกซิเจนธรรมดา 3 ราย ส่วนคนไข้รายอื่นมีอาการปกติ โดยมีอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้กลับบ้านพรุ่งนี้ประมาณ 10 ราย เพราะรักษาครบ 10 วันตามเกณฑ์ของกรมการแพทย์แล้ว และวันต่อๆ ไปก็จะมีผู้ที่ได้กลับบ้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับการเข้ารับการรักษาและอาการ ซึ่งเราจะมีการประเมินเป็นรายๆ ไป รวมถึงมีมาตรการพิเศษเพิ่มเติมขึ้นมาจากแนวทางของกรมการแพทย์ เพื่อสร้างความมั่นใจและความสบายใจให้ประชาชนในพื้นที่ คือผู้ที่จะกลับบ้านต้องตรวจหาปริมาณเชื้อเพื่อเป็นการยืนยันว่าปริมาณของเชื้อได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ลดลง และมีผลตรวจเอกซเรย์ปอดดี ส่วนกลับไปแล้วก็ไม่ได้ให้ไปใช้ชีวิตตามปกติในพื้นที่ แต่ยังต้องกักตัวอีกเป็นเวลา 14 วัน โดยจะมีทีมแพทย์ อสม.ในพื้นที่ติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เปิดเผยว่า สำหรับไทม์ไลน์ที่จังหวัดออกมานั้นขอยืนยันว่าข้อมูลที่ทีมแพทย์ทำการสอบสวนโรคมีการเก็บรายระเอียดเชิงลึกทั้งหมดแล้ว ประชาชนสามารถสบายใจได้ อย่าได้กังวลว่าจะไปในสถานที่เสี่ยงหรือป่าว เนื่องจากข้อมูลตามไทม์ไลน์ที่เห็นมีสถานที่ไม่เยอะ ซึ่งจากการปฏิบัติงานเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ถ้าใครมีความเสี่ยงสูงจะได้รับการติดต่อไปทันทีถ้าผู้ป่วยไม่มีการปกปิดข้อมูล และอันไหนที่ไม่เป็นประโยชน์ไม่สำคัญที่ทำให้ประชาชนรู้ไปแล้วมีความวิตกกังวล ตื่นตระหนกตกใจก็ไม่ได้ลงให้ เช่น ที่ไม่ได้ลงตำบล หมู่บ้าน เพราะอาจจะถูกเหมาร่วมทั้งหมด ซึ่งตรงนี้อาจจะก่อให้เกิดความแตกแยกในชุมชนได้ แต่อันไหนที่จำเป็นจะลงในไทม์ไลน์ทั้งหมด โดยก่อนจะมีการเผยแพร่ข้อมูลทุกครั้งจะมีการชั่งน้ำหนักถึงผลเสียและผลได้ก่อนเสมอ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกคน  

ส่วนรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เปิดเผยในเรื่องการติดตามพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดเสี่ยงทั้ง 18 จังหวัดที่เข้ามาสู่พื้นที่จังหวัดนครพนม ตามตำบล หมู่บ้านต่างๆ ว่า ต้องขอความร่วมมือทุกท่านที่เข้ามาได้แจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. หรือทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้รับทราบในเบื้องต้นด้วย  ซึ่งปัจจุบันมีพี่น้องมาจากจังหวัดเสี่ยงเป็นจำนวนมาก โดยในแต่ละวันจะมีการจัดข้อมูลในแต่ละอำเภอ ทั้ง 12 อำเภอ เพื่อตรวจสอบว่ามีคนกลับมาในพื้นที่เท่าไร กี่คน เป็นการตรวจเช็คข้อมูลและนำมาใช้ในการบริการจัดการสถานการณ์และความเสี่ยงต่าง ๆ โดยผู้ที่เข้ามาแล้วทุกคนจะได้รับการแนะนำในเรื่องของการปฏิบัติตัว การตรวจร่างกาย และการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ส่วนใครที่จะกลับก่อนก็ฝากให้แจ้งข้อมูลกับทางพื้นที่ด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามหรือไม่กักตัวถือว่ามีความผิด และประชาชนในพื้นที่ที่พบเห็นสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อดำเนินการได้ทันทีเป็นการร่วมด้วยช่วยกัน ในการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิคในครั้งนี้

จ.นครพนม ผู้ป่วยโควิดยอดสะสม 73 ราย เสียชีวิต 1 รักษาหายกลับบ้านแล้ว 1 ราย

 

วันที่ 24 เมษายน 2563 ที่ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มาน พ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม และนายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 ของจังหวัดนครพนม ที่วันนี้มียอดสะสมเพิ่มขึ้นอีก 7 ราย รวมทั้งสิ้นเป็น 73 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยรายที่ 67,68 เป็นผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูงจากลุ่มที่เข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงนครพนมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รายที่ 69,70 และ 71 เป็นครอบครัวชาวจีนที่เดินทางมาจาก กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง รายที่ 72 เป็นผู้ที่เข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงนครพนม และรายที่ 73  เป็นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง

โดยในวันนี้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนมได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ป่วยที่เสียชีวิตเป็นเพศชาย อายุ 45 ปี ภูมิลำเนาเป็นคนอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม มีประวัติเป็นโรคประจำตัวเบาหวาน ความดัน ไขมันสูงเกิน เคยเจาะปอดเมื่อ 5 ปีก่อน และเคยผ่าตัดสมอง โดยมีการเข้าไปสัมผัสกับเชื้อในสถานบันเทิงช่วงก่อนสงกรานต์ประมาณวันที่ 8-12 เม.ย มีอาการผิดปกติตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. และเข้าตรวจหาเชื้อในวันที่ 17 เม.ย.เมื่อพบเชื้อทีมแพทย์ได้ทำการรักษาด้วยการให้ยาต้านไวรัสและยาลดการอักเสบ กระทั่งในวันที่ 21 พบว่าผู้ป่วยมีภาวะไตวาย วันที่ 22 มีความดันโลหิตต่ำแพทย์ได้ให้ยาเพิ่มความดัน  และวันที่ 23 ผู้ป่วยได้เสียชีวิต ซึ่งทีมแพทย์ได้จัดการศพตามมาตรฐานการจัดการศพที่ติดเชื้อโควิดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ป่วยรายอื่น ๆ ที่ทำการรักษามีผู้ป่วยที่มีอาการปอดปวม 6 ราย ซึ่งทีมแพทย์ได้ให้ยาต้านไวรัสแล้วอาการไม่น่าเป็นห่วง ที่เหลือมีอาการเล็กน้อย รวมถึงมีผู้ป่วยที่รักษาหายได้กลับบ้านเมื่อวาน 1 ราย ทำให้ ณ ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ทำการรักษาเหลืออยู่ 71 ราย

ด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนมได้เปิดเผยว่า ในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดของนครพนมพยายามที่จะปิดคลัสเตอร์ต่าง ๆ ให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งปัจจุบันเชื่อว่าคลัสเตอร์ที่น่าจะจบไปแล้วคือกรณีทองหล่อที่มีผู้ติดเชื้อกลับมาเยี่ยมบ้านก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ กรณีร้านจิวเวอร์รี่ที่ทุกคนนั่งรถมาด้วยกัน และกรณีที่มาจากพื้นที่เสี่ยงจังหวัดปทุมธานี ส่วนกรณีครอบครัวชาวจีน 3 คนที่พบติดเชื้อรายใหม่ 69-71 ที่เดินทางมาจาก กทม. ก็ไม่น่าจะมีการแพร่ระบาดเพิ่มเติมเพราะเมื่อมาถึงได้เข้ารับการตรวจในทันที ซึ่งเมื่อตรวจพบก็ได้เข้ารับการรักษาทั้งครอบครัวแล้ว ส่วนกรณีสถานบันเทิงในนครพนมคาดว่าน่าจะจบในอีกไม่นาน เจ้าหน้าที่กำลังพยายามติดตามเก็บรายละเอียดในส่วนที่เหลืออยู่ โดยพรุ่งนี้จะมีการเปิดให้ประชาชนที่เข้าไปใช้สถานบันเทิงหรือกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงดังกล่าวที่อาจจะมีตกค้างอยู่มาตรวจหาเชื้อได้ที่หอประชุมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม ตั้งแต่เวลา 9.00 น.เป็นต้นไป

ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เปิดเผยว่า ณ ปัจจุบันได้มีข่าวลือเรื่องโรงพยาบาลสนามที่ กทม.เต็ม ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ประชาชนเดินทางกลับมาบ้าน ดังนั้นจึงได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์นี้ด้วย โดยทุกคนที่เข้ามาในนครพนมจะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อและกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ทั้งนี้อยากจะฝากไปยังพี่น้องประชาชนว่ามาตรการป้องกันที่ดีที่สุดเริ่มที่ตัวท่านเอง ถ้าไม่ตั้งอยู่ในความประมาท ก็ไม่มีความเสี่ยง ส่วนการกักตัวนั้นบางคนอาจจะไม่สะดวกเนื่องจากเป็นครอบครัวใหญ่ที่บ้านมีทั้งคนแก่ คนป่วย คนที่มีโรคประจำตัวอยู่ในบ้าน ก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะได้จัดหาสถานที่กักตัวให้ ซึ่งในส่วนนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเพราะใช้งบประมาณของรัฐบาลในการดูแลประชาชน

ส่วนรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เปิดเผยว่า เพื่อให้มาตรการคัดกรองมีประสิทธิภาพจังหวัดนครพนมได้มีการตั้งจุดคัดกรองที่บริเวณรอยต่อจังหวัดเพื่อเป็นด่านแรก ก่อนที่จะมีด่าน 2 – 3 อยู่ในชุมชน จึงอยากขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ขอให้ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย

ผู้ช่วย รมช.สธ. สนใจการแก้ปัญหาโควิดนครพนม สั่งเก็บข้อมูลเชิงวิจัยเสนอกระทรวง

วันที่ 23 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุนคร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และนายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 ของจังหวัดนครพนม ที่วันนี้มียอดสะสมเพิ่มขึ้นอีก 4 ราย รวมทั้งสิ้นเป็น 66 ราย โดยผู้ป่วยที่พบทั้ง 4 รายเป็นผู้ที่มีไทม์ไลน์เกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์สถานบันเทิงในพื้นที่ ซึ่งเป็นการตรวจยืนยันผลในรอบที่ 2 หลังจากที่ตรวจไปก่อนหน้านี้แล้ว 1 ครั้งเมื่อเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ๆ ไม่พบ 

โดยในวันนี้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนมได้เปิดเผยว่า ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มีการติดตามการดำเนินงานของจังหวัดนครพนมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งลักษณะการระบาดในสถานบันเทิงปกติทั่วไปกว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนหรือมากกว่านั้น แต่จากการดำเนินงานของจังหวัดนครพนมที่ผ่านมา ข้อมูลตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อมียอดลดลงภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทำให้มีความสนใจในมาตรการที่ใช้ คือมาตรการคัดกรองเชิงรุกที่สามารถดับจับตัวเลขได้ค่อนข้างเยอะมาก ถึงแม้ว่าจะมีประเด็นในเรื่องของ rabbit test จึงได้ขอให้ทางจังหวัดนครพนมเก็บข้อมูลต่างๆในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นลักษณะ ในเชิงของการวิจัย เพื่อเตรียมนำไปเสนอต่อกระทรวงสาธารณสุข ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไปในอนาคต จึงถือเป็นนครพนมโมเดลอีกหนึ่งเรื่องที่ทางกระทรวงให้ความสนใจ นอกจากนี้ยังมีข่าวดีที่สำนักงานโรคติดต่อของกระทรวงสาธารณสุข ได้อนุมัติจัดสรรเครื่องตรวจวัณโรคหรือตรวจโควิดจำนวน 1 เครื่อง เพื่อให้โรงพยาบาลนครพนมได้ใช้ในการให้บริการประชาชน ซึ่งปกติทั่วไปเครื่องประเภทนี้จะมีอยู่โรงพยาบาลละ 1 เครื่อง โดยการพิจารณาในครั้งนี้จะดูที่ศักยภาพของโรงพยาบาล รวมถึงจำนวนผู้ป่วย และมาตรฐานต่างๆของโรงพยาบาล ประกอบกับจังหวัดนครพนมเป็นเมืองด่านหน้าที่มีชาวต่างประเทศเข้ามาดูแลรักษาในภาวะปกติด้วย

ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า วันนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดของนครพนมยังคงมีอยู่ จึงอยากให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งจากข้อความของ ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ที่ได้โพสต์เฟซบุ๊กไว้มีเรื่องที่น่าจนใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับ 5 เรื่องที่ต้องรู้เมื่อเชื้อโควิด – 19 ระลอกนี้ดุกว่าเดิม ซึ่งท่านได้ชี้ให้เห็นว่าเชื้อโควิดอยู่ในร่างกายเราได้นานขึ้น โดยเชื้อระลอกแรกผ่าน 7 วันไปแล้วเชื้อจะน้อยลง แต่เชื้อระลอกนี้ 10 วันแล้วยังเพาะเชื้อขึ้นอยู่แสดงให้เห็นว่าเชื้ออยู่ในร่างกายได้นานขึ้น ประเด็นต่อมาคือถึงสุขภาพจะแข็งแรงก็เกิดปอดอักเสบได้ ซึ่งในการระบาดครั้งก่อนจะไม่ค่อยพบวัยรุ่นที่มีสุขภาพแข็งแรงเกิดปอดอักเสบ แต่รอบนี้พบมากกว่าเดิม ประเด็นต่อมาคือติดเร็วติดแรงอาการทรุดได้เร็วกว่าเดิมหลังจากติดเชื้อไปแล้ว 1 สัปดาห์ คนที่มีความเสี่ยงจะเริ่มมีอาการทรุดหนัก อาการปอดอักเสบเกิดขึ้นได้เร็วกว่าเดิม ประเด็นต่อมาคือมีผู้ป่วยเคสหนักต้องอยู่ใน ICU มากขึ้น ซึ่งก็สอดรับกับภาพรวมของประเทศในเรื่องของการเสียชีวิตและการนอนเตียงในห้อง ICU และประเด็นสุดท้ายคือเชื้อสามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่าเดิมเพราะปริมาณเชื้อในโพรงจมูกและเสมหะที่มีมากกว่าเดิมทำให้เชื้อกระจายได้ง่าย ซึ่งเรื่องเหล่านี้อยากให้เป็นความรู้ เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้พี่น้องประชาชนได้ตระหนักถึงความรุนแรง แต่อย่าได้ตระหนกจนเกินไป และเชื่อว่าถ้าทุกคนช่วยกัน ร่วมมือกันเราจะผ่านเรื่องทั้งหมดไปได้ และขออย่าได้รังเกียจคนติดเชื้อโควิดเพราะเขาเหล่านั้นไม่ได้มีความผิดอะไร 

ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ ซึ่งวันนี้ผู้ที่อยู่ในภาวะวิกฤติ 1 ราย ปัจจุบันอาการดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย โดยความเข้มข้นในเลือดเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานอยู่ที่ประมาณ 80 % แต่ยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ ส่วนผู้ป่วย 4 ราย ที่มีอาการปอดติดเชื้อได้ให้ยาต้านไวรัสทั้งหมด และมี 3 ราย ที่ต้องให้ออกซิเจนแบบชนิดดมช่วยเพื่อทำให้อาการไม่เหนื่อยมาก ส่วนผู้ป่วยคนอื่น ๆ ที่มีอาการเล็กน้อยก็รักษาไปตามอาการ นอกจากนี้ในวันนี้ก็มีผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 1 ราย จะได้กลับบ้าน โดยเมื่อกลับไปแล้วยังต้องกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการเพิ่มเติมอีกเป็นเวลา 14 วัน 

จ.นครพนม ประกอบพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

วันที่ 23 เมษายน 2564 ที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม ถนนประชาสุขสันต์ ตำบลหนองแสง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม พนักงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชนจังหวัดนครพนม ร่วมประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ จุดธูปเทียน เครื่องทองน้อย และกล่าวถวายราชสดุดี เบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต ประจำปี 2564

โดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2 มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตริย์ ทรงพระราชสมภพ ณ พระราชวังจันทน์ เมื่อปี พ.ศ.2098 ในขณะที่พระองค์ทรงพระเยาว์ พระเจ้าบุเรงนองกษัตริย์พม่าได้ยกทัพมาตีเมืองพิษณุโลก และทรงขอสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไปเลี้ยงเป็นพระราชบุตรบุญธรรม เพื่อเป็นตัวประกันที่หงสาวดีจนพระชนมายุได้ 15 พรรษา พระองค์จึงได้เสด็จกลับกรุงศรีอยุธยาและในปี พ.ศ.2098 ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระมหาอุปราชปกครองเมืองพิษณุโลก โดยพระองค์ได้ทรงกอบกู้อิสรภาพของชาติไทยจากการเสียกรุงให้กับพม่า และทรงหลั่งน้ำทักษิโณทกประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง เมื่อ พ.ศ.2126 ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาแม้หงสาวดีจะเพียรพยายามส่งกองทัพเข้ามารบหลายครั้ง แต่ก็ถูกกองทัพกรุงศรีอยุธยาตีแตกพ่ายไปทุกครั้ง และเมื่อพระบิดาหรือสมเด็จพระมหาธรรมราชาเสด็จสวรรคต พระองค์ก็ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2133 ซึ่งในขณะนั้นทรงมีพระชนมายุได้ 35 พรรษา ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย ไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม ทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขเสมอมา สิริรวมการครองราชสมบัติ 15 ปี และทรงเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2148 รวมพระชนมพรรษา 50 พรรษา และเพื่อเป็นการเผยแพร่เชิดชูพระเกียรติคุณ พระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตลอดจนเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติไทย ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 กำหนดให้ทุกวันที่ 25 เมษายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และจัดให้มีพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ

นครพนม ยอดผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 3 รวมสะสม 62 ราย

วันที่ 22 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และนายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 ของจังหวัดนครพนม ที่วันนี้มียอดสะสมเพิ่มขึ้นอีก 3 ราย รวมทั้งสิ้นเป็น 62 ราย โดยรายที่ 60 ผู้ที่เดินทางเข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงนครพนมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รายที่ 61 เป็นผู้ที่ไปสัมผัสกับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง และรายที่ 62 เป็นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง

ซึ่งในวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้เปิดเผยว่า สถานการณ์ในวันนี้ของจังหวัดนครพนม มีผู้ป่วยน้อยลงตามที่คาดไว้ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ยังคงปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขไม่เคร่งครัด ยังมีความหละหลวมในหลาย ๆ จุด อย่างเช่นรายที่ 61 ก็เกิดจากการที่มีญาติอันเป็นที่รักมาจากพื้นที่เสี่ยงแล้วไปร่วมรับประทานอาหารด้วยจึงนำมาซึ่งการติดเชื้อและมีโอกาสที่จะกระจายเชื้อต่อไปยังบุคคลข้างเคียงรวมถึงแพทย์พยายบาลที่ทำการรักษา ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนได้ตระหนักถึงตรงนี้ เพราะถ้าเกิดพบผู้ป่วยขึ้นมา 1 คน จะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ใช้แพทย์พยาบาลเท่าไหร่ รวมถึงเครื่องมืออุปกรณ์อีกเท่าไหร่กว่าจะรักษาหาย ที่สำคัญอีกอย่างก็คือเมื่อรู้ว่าญาติป่วยแล้ว มีการแนะนำให้เดินทางกลับมารักษาตัวที่บ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดเพราะมีโอกาสกระจายเชื้อตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง และถึงมาแล้วก็ต้องเข้ารับการรักษาเหมือนกันไม่ว่าที่ไหน ญาติพี่น้องไม่สามารถที่จะไปเฝ้าหรือเข้าไปเยี่ยมได้เหมือนการเจ็บป่วยทั่วไป

ส่วนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณผู้มีจิตอันเป็นกุศลทุกท่านที่ได้ให้การสนับสนุนกำลังใจ ปัจจัย อาหาร ขนม เครื่องดื่ม ตลอดจนเครื่องมืออุปกรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นในเวลาอันจำกัด ที่ทุกคนต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ดีที่สุด และทำให้ทุกคนมีความปลอดภัย โดยจะเน้นการทำงานในเชิงรุกภายใต้หลักวิชาการ อย่างไรก็ตามอยากกราบเรียนว่าสถานการณ์ ณ ตอนนี้ในส่วนของคลัสเตอร์สถานบันเทิงในนครพนมสามารถปิดจ๊อบเรื่องการค้นหาเชิงรุกทั้งหมดได้แล้ว ตอนนี้เป็นการติดตามในส่วนของกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและกลุ่มคนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ซึ่งหลังจากนี้ที่ สปสช. ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายกับประชาชนที่มีความเสี่ยงหรือที่แพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเข้าเกณฑ์ของการสอบสวนโรค ก็จะมีการประชุมบุคลากรที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แนวทางการปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตามในประเด็นเรื่องของการคัดกรองและตรวจ rabbit test จังหวัดนครพนมยังต้องคงมีมาตรการอยู่อีกประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากที่ผ่านมายังเป็นมาตรการคัดกรองที่สามารถตรวจจับผู้ป่วยติดเชื้อก่อนที่จะเช้าสู่ชุมชน หมู่บ้านได้ถึง 23 ราย ซึ่งถ้าบุคคลเหล่านี้หลุดผ่านเข้าไปได้จะมีการกระจายเชื้อออกไปอีกจำนวนมาก

ด้านผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อที่อยู่ในภาวะวิกฤติ 1 ราย นั้นอาการยังคงทรงตัวเหมือนเมื่อวาน ยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจความเข้มข้นในเลือดเหลือประมาณ 40-60 %  ส่วนผู้ป่วย 3 รายที่มีอาการปอดติดเชื้อเมื่อวาน วันนี้มีอาการปอดปวมก็ได้ให้ยาต้านไวรัสทั้งหมดและต้องใช้ออกซิเจนแบบชนิดดมช่วยทำให้อาการไม่เหนื่อยมาก ส่วนผู้ป่วยคนอื่น ๆ ที่มีอาการเล็กน้อยก็รักษาไปตามอาการ ทั้งนี้อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนที่รับยาต่อเนื่อง อยากจะให้ประสานขอรับยาทางไปรษณีย์หรือรับยาที่ รพ.สต.ใกล้บ้านแทนเพื่อลดความเสี่ยงและความแออัดของโรงพยาบาล

นครพนม ฉีดวัคซีนโควิดให้บุคลากรด่านหน้า ล๊อตที่ 2

วันที่ 21 เมษายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับการฉีดวัคซีนของจังหวัดนครพนมในล๊อตที่ 2 วันนี้กำลังฉีดอยู่ โดยวัคซีนของนครพนมได้ล็อตแรก 1,800 dose ล็อตที่ 2 ประมาณ 4,360 dose ซึ่งทั้ง 2 ล็อต จะเป็นการฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบุคคลากรด่านหน้าเป็นหลัก ซึ่งแต่ละล็อตจะแบ่งเป็นการฉีด 2 ครั้ง ห่างกันประมาณ 3 สัปดาห์ สำหรับตัวเลขบุคลากรทางการแพทย์มีอยู่ประมาณ 3,775 ราย นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ อสม. บุคลากรด่านหน้า ตำรวจ ทหาร คนที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วย covid  โดยล๊อตที่ 3 คาดว่าจะมาในช่วงประมาณปลายเดือนเมษายน ซึ่งรัฐบาลกำลังบริหารวัคซีนภายใต้สถานการณ์ที่มีวัคซีนจำนวนจำกัด เพราะฉะนั้นจะมีการส่งให้ในส่วนของจังหวัดต่าง ๆ ตามจำนวนความจำเป็น จำนวนของผู้ป่วย จำนวนของบุคลากรและประชาชนเป็นหลัก ซึ่งจะมีการจัดส่งมาให้เรื่อยๆ โดยเป้าหมายกลุ่มบุคลากรด่านหน้าคาดว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนครบภายในกลางเดือนพฤษภาคม จากนั้นก็จะเป็นการฉีดให้ประชาชนทั่วไป

ด้านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ประชาชนทุกคนต้องเข้าใจให้ตรงกันว่าการฉีดวัคซีนแล้วก็สามารถติดเชื้อไวรัสโควิดได้ วัคซีนไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อเพียงแต่ว่าเมื่อฉีดแล้วถ้าเป็นหรือติดเชื้อจะบรรเทาความรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิตลงได้ แต่สิ่งที่ดีกว่าวัคซีนก็คือการระมัดระวังป้องกันไว้ก่อน ที่ติดกันอยู่เพราะตั้งอยู่บนความประมาท ชอบไปในที่อโคจร จึงมักจะพบกับอันตรายที่แอบแฝงอยู่ เวลามีอะไรเกิดขึ้นผลเสียก็จะอยู่ในนั้น ซึ่งหลักการที่ดีก็คือปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะโรคนี้มากับคน เพราะฉะนั้นเราก็ต้องระวังคน โดยเฉพาะคนที่มาจากพื้นที่เสี่ยง อย่าไปคิดว่าไว้ใจเพราะเขาเป็นลูก เป็นหลาน เป็นคนที่เรารัก สนิท ชอบพอ เพราะบางทีเจ้ากรรมนายเวรอาจจะมาในรูปของการนำเชื้อมาฝากแทน และขอความกรุณาอย่ารังเกียจคนที่ติดเชื้อ วันนี้จังหวัดนครพนมพุ่งเป้าไปที่คนมาจากพื้นที่เสี่ยง เพราะสถานการณ์เท่าที่ฟังจากบุคคลรอบข้าง จากสื่อออนไลน์ จากการแถลงที่เป็นทางการของรัฐบาล รู้สึกว่าทุกจังหวัดหนักเหมือนกันหมด แต่ก็ยังคิดว่าจังหวัดนครพนมค่อนข้างที่จะมาถูกทางแล้ว ในแง่ของการควานหาก่อนที่จะหลุดไปเป็นตัวแพร่เชื้อในชุมชน หมู่บ้าน ไปสร้างความลำบากให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่อยากให้ระวังคือผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เพราะจะเป็นปัจจัยที่เพิ่มการเสียชีวิตหากติดเชื้อ จึงอยากประชาสัมพันธ์และย้ำเตือนไปยังพี่น้องประชาชนทุกคน

นครพนม ป่วยโควิดสะสมเพิ่มอีก 7 ราย สั่งฟันสถานบันเทิงและผู้ใหญ่บ้านต้นตอกระจายเชื้อหากผิดจริง

วันที่ 21 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุนคร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และนายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 ของจังหวัดนครพนม ที่วันนี้มียอดสะสมเพิ่มขึ้นอีก 7 ราย รวมทั้งสิ้นเป็น 59 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่เข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิงนครพนม 1 ราย ส่วนที่เหลือ 6 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยที่มาจากพื้นที่เสี่ยงกรุงเทพมหานคร และปทุมธานี

โดยในวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า วันนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดของนครพนม มีประเด็นเกี่ยวกับสถานบริการในพื้นที่ ปรากฏว่ามีเด็กอายุ 18 ปีไปฉลองหลังสอบเสร็จ เชื่อได้ว่าไม่น่าจะไปคนเดียวและไม่ได้ไปกลับญาติผู้ใหญ่ ซึ่งเมื่อมีการประกาศให้มารายงานตัวและตรวจหาเชื้อที่หอประชุมยงใจยุทธแล้วพบว่า 1 รายติดเชื้อ ส่วนเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันกำลังติดตามตัวอยู่ โดยประเด็นต่อมาก็คือสถานบริการดังกล่าวปล่อยให้เด็กอายุ 18 ปีเข้าไปใช้บริการได้อย่างไร และไม่ใช่แค่คนเดียว ซึ่งตามคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 ข้อ 4 (1) ผู้ประกอบกิจการสถานบริการหรือสถานประกอบการใดยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าไปใช้บริการให้ผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจเพิกถอนใบอนุญาตหรือสั่งปิด และห้ามมิให้การเปิดสถานประกอบการหรือสถานบริการในสถานที่ดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งปัจจุบันมีหลักฐานแค่ไทม์ไลน์ของผู้ป่วย จึงได้มีการสั่งการให้ทางอำเภอเมืองนครพนมลงไปสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ถ้าพบว่าผิดจริงสถานบริการแห่งนี้จะต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาตพร้อมกับที่ดินแปลงนี้จะต้องเปิดสถานบริการไม่ได้เป็นเวลา 5 ปี และอีกกรณีคือที่เป็นผู้ใหญ่บ้านที่อำเภอธาตุพนมก็ได้สั่งการให้มีการสอบข้อเท็จจริงเช่นเดียวกัน หากว่าพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการอย่างเฉียบขาดในทุกข้อหาที่มีอยู่เพราะถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งจากข้อมูลไทม์ไลน์พบว่าไปอบรมในกรุงเทพฯ และไปนอนที่จังหวัดปทุมธานีกับลูกหลานจากนั้นกลับมานครพนมพร้อมกันในช่วงสงกรานต์แล้วไม่ยอมกักตัวเอง กระทั่งตรวจพบติดเชื้อ ซึ่งตามระเบียบผู้ใหญ่บ้านเป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ฉบับที่ 3 และ 4 พ.ศ. 2563 แต่กลับกระทำผิดเสียเอง

ด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากข้อมูลไทม์ไลน์ของการสืบสวนโรค พบว่าผู้ป่วยสามารถติดเชื้อได้ง่ายมาก โดยในกรณีร้านจิวเวอร์รี่ที่นั่งรถมาด้วยกัน 2 คัน 11 คน ปรากฏว่าขณะนี้ติดเชื้อไปแล้ว 7 คน ส่วนคนที่นั่งอยู่ท้ายกระบะยังตรวจไม่พบเชื้อ เพราะฉะนั้นจึงอยากให้ทุกคนได้เฝ้าระวังตัวเองมากขึ้น เพราะร้อยละ 70 ถึง 80 ของคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง จะไม่แสดงอาการอะไรเลย เพราะฉะนั้นมาตรการที่เป็นเกาะป้องกันตัวเองที่ดีที่สุดคือ เว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมแมส ไม่ไปในพื้นที่เสี่ยง

ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับการรักษาผู้ติดเชื้อที่โรงพยาบาลนครพนมปัจจุบันมีผู้อยู่ในภาวะวิกฤติ 1 ราย ด้วยมีโรคไขมัน ความดัน เบาหวานและอ้วน ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ให้การรักษาอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ก็ยังมีผู้ป่วยติดเชื้อ 3 รายที่มีอาการปอดเริ่มติดเชื้อ ส่วนที่เหลือมีอาการเล็กน้อย

นครพนม พบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 9 ราย ย้ำบุคลลที่มาจากพื้นที่เสี่ยง 18 จังหวัดต้องกักตัวและตรวจRapid Test ทุกราย

 

วันที่ 20 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมร่มฉัตร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายมานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และนายแพทย์สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ร่วมกันแถลงผลยืนยันการพบผู้ป่วยติดเชื้อ Covid-19 จังหวัดนครพนมที่วันนี้มียอดสะสมรวมเป็น 52 ราย เพิ่มขึ้นจากเดิม 9 ราย โดยมี 5 รายเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง AEC PUB นครพนม คือรายที่ 50, 51 ไปเที่ยว รายที่ 44 ,45 และ 49 เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากการใกล้ชิดผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางไปเที่ยว ส่วนที่เหลือ 3 ราย เป็นผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรปราการ คือ รายที่ 46,47, 48  และรายที่ 52 เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อที่มาจากกรุงเทพมหานคร

ซึ่งจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ให้ความมั่นใจกับประชาชน ว่ามาตรการเชิงรุกที่จังหวัดนครพนมปฏิบัติได้ผลเป็นอย่างดี เพราะปัจจุบันมีหลายจังหวัดได้ให้ความสนใจและมีการประสานขอแนวทางไปใช้ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งหลังจากนี้จังหวัดนครพนมจะยังคงใช้มาตรการดักจับผู้ติดเชื้อก่อนที่จะมีสู่ชุมชนหมู่บ้านเช่นเดิมต่อไป ส่วนสถานกาณ์โควิดของจังหวัดนครพนม คาดว่าอีกประมาณ 2 วันยอดผู้ป่วยติดเชื้อจะลดลงเรื่อย ๆ เพราะจากข้อมูลที่ดำเนินการมาจะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมสถานการณ์จนสามารถค้นหากลุ่มเสี่ยงได้ทั้งหมดแล้วและปัจจุบันอยู่ระหว่างการกักตัว โดยปัจจุบันยังต้องรอผลตรวจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงในนครพนมอีกประมาณ 700 ราย จากการค้นหาเชิงลึก

ด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการของผู้ที่จะเข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครพนมถ้ามาจากพื้นที่เสี่ยง 18 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร สุพรรรณบุรี ชลบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ ตาก สระแก้ว ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี สงขลา และจังหวัดภูเก็ต จะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธีการ Rapid Test ทุกรายรวมถึงต้องกักตัว 14 วัน ยกเว้นกรณีที่มีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบไม่พบเชื้อภายในเวลา 72 ชม โดยทุกคนเมื่อมาแล้วต้องรายงานตัวต่อผู้นำชุมชน อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำอำเภอ หากกรณีมาอยู่นครพนมไม่ครบ 14 วัน สามารถขอกลับก่อนได้แต่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่

 ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิดของนครพนมนั้น ขณะนี้มีผู้ป่วย 1 รายอยู่ในภาวะวิกฤติ เนื่องจากเดิมผู้ป่วยมีโรคประจำตัวคือโรคอ้วน ความดันและเบาหวาน ซึ่งปัจจุบันต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ส่วนคนอื่น ๆ อยู่ในภาวะปกติ ทั้งนี้จึงอยากให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพราะจะเป็นเกาะป้องกันที่ดีให้ทุกคน โดยต้องหมั่นล้างมือบ่อย ๆ  สวมใส่แมสเมื่อออกไปสู่ชุมชน รวมถึงเว้นระยะห่างและไม่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงด้วย

นครพนม ยอดสะสมผู้ป่วยโควิด 43 ราย สั่งเพิ่มมาตรการเข้มหยุดการระบาด

 

วันที่ 19 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุนคร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และนายแพทย์สมโภชน์  กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 ของจังหวัดนครพนม ที่วันนี้มียอดสะสมเพิ่มขึ้นอีก 10 ราย รวมทั้งสิ้นเป็น 43 ราย ซึ่งเป็นไปตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมได้คาดการไว้ล่วงหน้า เนื่องจากมีการใช้มาตรการกวาดบ้านเคลียร์พื้นที่ ซึ่งเป็นการดำเนินการเชิงรุกที่เป็นการค้นหาบุคคลกลุ่มเสี่ยงตามทามไลน์ของคลัสเตอร์ต่าง ๆ ก่อนที่จะมีอาการป่วย โดยในส่วนของยอดที่เพิ่มขึ้นมาในวันนี้ 1 รายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากคลัสเตอร์ทองหล่อ ที่เป็นการตรวจยืนยันผลรอบที่ 2 หลังรอบแรกตรวจไม่พบเชื้อ อีกรายเป็นนักศึกษาที่มาจากพื้นที่เสี่ยงกรุงเทพมหานคร ส่วนที่เหลือมาจาก AEC PUB นครพนม สถานบันเทิงในพื้นที่

ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ขอให้พี่น้องประชาชนอย่างเพิ่งตระหนกตกใจกับยอดที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดในครั้งนี้ เพราะมาตรการที่ทำอยู่เป็นการค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อก่อนที่จะมีการไปกระจายเชื้อ ถ้ารีบตรวจ รีบเจอ รีบรักษา เหตุการณ์ของเราก็จะจบเร็ว ดีกว่ารอให้มีผู้ป่วยแล้วค่อยดำเนินการซึ่งถ้าทำแบบนั้นจะรับไม่ไหว ปัจจุบันบุคคลกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจเชื้อและมีการกักตัวทั้งหมดแล้ว คาดว่าคลัสเตอร์ AEC PUB นครพนม จะจบภายในเวลา 2-3 วันนี้ โดยหลังจากนี้จะมีการดำเนินการในส่วนอื่น ๆ ตามมา เพราะยังมีบุคคลที่จะกลับเข้ามาในพื้นที่หลังสงกรานต์ รวมถึงพี่น้องประชาชนที่เดินทางไปติดต่อค้าขายหรือไปทำธุระตามต่างจังหวัด ซึ่งก็มีโอกาสนำเชื้อกลับเข้ามาเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นมาตรการตรวจเชิงรุกจึงจำเป็นอยู่ เพื่อไม่ให้เชื้อหลุดเข้าไปสร้างปัญหาในหมู่บ้านชุมชน โดยจะยังคงให้มีการตรวจค้นหาเชื้อที่บริเวณศาลายงใจยุทธเช่นเดิมสำหรับเขตอำเภอเมือง ส่วนอำเภอต่าง ๆ รอบนอกก็ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลชุมชน

ด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ได้ชี้แจ้งว่าคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ได้มีมาตรการต่าง ๆ เพิ่มออกมาอีก โดยเตรียมปรับพื้นที่จังหวัดเสี่ยงจากเดิมที่มีอยู่ 9 จังหวัดเป็น 18 จังหวัดตามที่ ศบค. ได้ประกาศ เพราะจากข้อมูลการเดินทางในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาจังหวัดนครพนมมีผู้เดินทางเข้าออกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการตรวจพบว่ามีผู้ป่วย 2-3 รายที่ตรวจ Rapid Test รอบแรกแล้วไม่พบเชื้อแต่พอตรวจรอบ 2 กลับพบว่ามีเชื้อ ดังนั้นผู้ที่เข้ามาจากนี้ต้องกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด และต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการคัดกรองและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ โดยผู้ที่พบเห็นบุคลที่ไม่ปฏิบัติตามสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ 

 ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม ผู้ป่วยปกติที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการผ่าตัด เช่น ทำฟันทางโรงพยาบาลจะให้รอไปก่อน ส่วนผู้ป่วยที่จะมารับยาก็จะให้ไปรับที่โรงพยาบาลส่งเสริมตำบลแทนหรือบางรายก็จะมีการจัดส่งยาให้ทางไปรษณีย์เพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยให้ทุกคน  ส่งนผู้ป่วยติดเชื้อในปัจจุบันให้การรักษาอยู่ทั้งสิ้น 24 ราย ซึ่ง 4 รายมีอาการแต่ไม่ถึงกับหนักมาก ส่วนอีก 20 รายมีอาการเป็นเหมือนไข้หวัดธรรมดา ซึ่งก็ขอยืนยันว่านครพนมมีเตียงรองรับผู้ป่วยที่เพียงพอ ปัจจุบันโรงพยาบาลทุกแห่งยังสามารถรับผู้ป่วยไปรักษาได้อยู่ ยังไม่จำเป็นต้องใช้โรงพยาบาลสนามที่จังหวัดก็มีแผนสำรองเตรียมไว้รองรับผู้ป่วยเช่นเดียวกับจังหวัดอื่น ๆ ทั้งนี้ก็ไม่อยากฝากไปยังพี่น้องประชาชนทุกคนด้วยว่าขอให้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพราะจะเป็นเกาะป้องกันอย่างดีให้เรา คือ หมั่นล้างมือบ่อย ๆ สวมใส่แมสเมื่อออกไปสู่ชุมชน รวมถึงการเว้นระยะห่าง ไม่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ที่สำคัญคือเมื่อมีอาการป่วยแล้วก็อย่าได้ปกปิดทามไลน์ของตนเองเพราะจะทำให้ทีมแพทย์ทำงานลำบาก นั้นหมายถึงการเพิ่มความเสี่ยงให้บุคคลอื่น ๆ ด้วย