จากที่จังหวัดนครพนมต้องการส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่
มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม ในการทำนา ให้หันมาปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้นทดแทน
เพื่อร่วมกันสร้างพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างรายได้ให้กับครอบครัว
จึงเป็นที่มาของโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ของจังหวัดนครพนม
นายวินัย คงยืน
หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต เปิดเผยว่า มองในสภาพภูมิประเทศของนครพนม
ประกอบกับปริมาณน้ำฝน จะเห็นว่านครพนมมีความเหมาะสมสำหรับการปลูกพืชสวนอยู่ค่อนข้างที่จะดี
ซึ่งนครพนมเหมาะสมสำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิมก็คือข้าว เพราะนครพนมมีพื้นที่นาเป็นหลัก
โดยในปีนี้ได้งบประมาณในการส่งเสริมให้ปลูกเงาะโรงเรียนและมังคุด เป้าหมายเกษตรกรมีอยู่ทั้งหมด
300 รายใน 12 อำเภอ ซึ่งเงาะและมังคุด เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีราคาจำหน่ายไม่สูงมาก ผู้บริโภคหรือตลาดสามารถที่จะซื้อหามารับประทานได้
ถ้ามีการผลิตที่ปลอดภัย มีการดูแลรักษาได้มาตรฐาน GAP ตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องสภาพพื้นที่ปลูก ดินที่เพาะปลูก การดูแลรักษาก็จำทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น
และจากการสำรวจข้อมูลจากเกษตรกรที่เคยไปทำงานที่ภาคตะวันออกหรือภาคใต้แล้วได้ซื้อพันธุ์กลับมาปลูกที่นครพนม
จะเห็นว่ามีผลผลิตค่อนข้างที่จะดี รสชาติเป็นที่นิยม บางสวนแทบจะขายหมดในสวนเลยเมื่อผลผลิตออก
ส่วนคุณภาพจะแตกต่างจากภาคตะวันออกและภาคใต้ที่ฉ่ำเนื้อฉ่ำน้ำ แต่ของนครพนมจะออกรสชาติที่แห้งกรอบ
โดยโครงการนี้เราพยายามที่จะฝึกให้เกษตรกรตั้งแต่เริ่มต้นเหมือนกับการตั้งไข่ให้
เริ่มพื้นฐานการปลูกจากจำนวนน้อยๆ ดูแรงงานของตัวเองในครอบครัวว่ามีแรงงานที่เพียงพอที่จะดูแลรักษาแปลงสวนให้ได้คุณภาพ
เน้นทำในพื้นที่ขนาดเล็ก เพื่อให้ได้สินค้าที่ดี ตรงตามความต้องการของตลาด เมื่อสำเร็จแล้วค่อยขยายพื้นที่ออกไปจะดีมากกว่า
เพราะไม่อยากให้พี่น้องเกษตรกรไปปลูกในพื้นที่ปริมาณมากๆที่เกินกำลังตนเองแล้วต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน
จากนี้เราคงต้องรอดูต่อไปว่า พืชเศรษฐกิจตัวใหม่
ที่หน่วยงานหวังไว้ จะผลิดอกออกผลมากน้อยเพียงใด สร้างรายได้ให้เกษตรกรมากน้อยขนาดไหน
และในอนาคตจะก้าวขึ้นมาเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของจังหวัดอีกตัวหรือไม่


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น