วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ รับฟังปัญหาจากเจ้าหน้าที่ และติดตามประเมินความพร้อมสถานที่กักตัวที่หน่วยงานรัฐจัดให้ ( Local Quarantine ) ของแต่ละตำบล อำเภอที่มีการจัดตั้งขึ้นภายหลัง จังหวัดนครพนมมีคำสั่งที่ 1624/2564 เรื่องให้บุคคลผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม กำหนดมารายงานตัว และมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครพนม ซึ่งกำหนดให้บุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ จังหวัดนครปฐม นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ปัตตานี ยะลา สงขลา สมุทรปราการ และจังหวัดสมุทรสาคร และพื้นที่ควบคุมสูงสุด 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตรัง เพชรบุรี และจังหวัดสระบุรี ที่เมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดนครพนม ต้องมารายงานตัว เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด - 19 และกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ทุกราย ยกเว้นฉีดวัคซีน SINOVAC 2 เข็ม มาแล้ว 2 สัปดาห์ หรือฉีดวัคซีน AstraZeneca 1 เข็ม มาแล้ว 4 สัปดาห์
ซึ่งในการกักตัวนั้นได้ยกเลิกการกักตัวที่บ้านเนื่องจากมีความไม่มั่นใจในมาตรฐานการปฏิบัติของแต่ละคน ประกอบกับจากสถิติข้อมูลพบว่าเมื่อมีการกักตัวที่บ้านมีการติดเชื้อในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนมีความปลอดภัยจึงได้ให้แต่ละตำบล อำเภอ มีการจัดตั้งสถานที่ Local Quarantine ขึ้นมา เพื่อให้ผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง 15 จังหวัดได้ใช้ในการกักตัวแบบไม่มีค่าใช้จ่าย และเพื่อให้ทุกแห่งมีมาตรฐานเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด จึงได้มีการแบ่งสายกันลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และตรวจประเมินมาตรฐาน เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนชาวจังหวัดนครพนม ว่าทุกคนที่ต้องกักตัวมีการปฏิบัติที่ถูกต้องเป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุขที่กำหนดโดยในวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่มาปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งเพื่อชาวนครพนม ซึ่งในการปฏิบัติขออย่าได้หย่อนยานในหน้าที่ เนื่องจากหลายคนอาจจะเป็นลูก เป็นหลานของตัวเจ้าหน้าที่เอง ซึ่งถ้ามีการหละหลวมแม้เพียงนิดเดียวนั้นหมายถึง อาจจะนำมาซึ่งความเสี่ยงของชาวนครพนมทั้งหมด เพราะไวรัสโควิดครั้งนี้สามารถติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ดังจะเห็นได้จากเคสที่เกิดขึ้นของนครพนมเอง ที่เดินทางมาด้วยกัน 11 คน ด้วยรถยนต์ 2 คัน พบว่า 9 คนติดโควิด เนื่องจากนั่งรวมกันมาในรถ ส่วนคนที่รอดคือคนที่นั่งท้ายกระบะมาจึงถือเป็นความโชคดีของ 2 คนที่ไม่ติดเชื้อ ทั้งยังได้ขอความร่วมมือผู้ที่กักตัวให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัดด้วย อดทนเพียงไม่กี่วันก็ได้กลับบ้านแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าหลายสถานที่อาจจะไม่สะดวกสบายเท่าที่บ้านของตัวเอง แต่ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของส่วนรวมวันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564
จ.นครพนม พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 4 ราย แนะผู้มาจากพื้นที่เสี่ยงประสานเจ้าหน้าที่ก่อนเดินทาง
วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้มอบหมายให้ นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายแพทย์กิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช นายแพทย์ชำนาญการ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในพื้นที่ ซึ่งในวันนี้พบมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันเพิ่มขึ้น 4 ราย เป็นผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงกรุงเทพฯ และจังหวัดชลบุรี ทำให้จังหวัดนครพนมมียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 184 ราย รักษาหายแล้ว 143 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 39 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ทั้งนี้ในผู้ที่ทำการรักษาอยู่ มีอาการรุนแรง 1 ราย ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจควบคู่กับการให้ยา Favipiravir ส่วนผู้ที่มีอาการปานกลาง 6 ราย อาการเล็กน้อย 21 ราย จะให้ยาต้านไวรัส Favipiravir และฟ้าทะลายโจร ขณะที่ผู้ที่ไม่มีอาการเลย 11 ราย ให้ฟ้าทะลายโจร ส่วนของเตียงรักษาที่จังหวัดนครพนมมีการเตรียมความพร้อมไว้ทั้ง 12 โรงพยาบาลมีทั้งสิ้น 144 เตียง ปัจจุบันยังว่างอยู่ 105 เตียง ไม่รวมโรงพยาบาลสนาม และในส่วนของสต๊อกยาเวชภัณฑ์ มีการสำรองเตรียมความพร้อมไว้ใช้งานได้มากกว่า 3 เดือน
สำหรับคลัสเตอร์ที่มีคำสั่งปิดหมู่บ้านของอำเภอเมืองนครพนมและอำเภอธาตุพนมนั้น จากการตรวจคัดกรองในรอบที่ 2 ของกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไม่พบมีผู้ป่วยเพิ่มเติม รวมทั้งการตรวจค้นหาเชิงรุกในชุมชนและในโรงเรียนก็ไม่พบเช่นเดียวกัน และจากข้อมูลภายหลังมีคำสั่งเซมิล๊อคดาวน์ในพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 -30 มิถุนายน 2564 จังหวัดนครพนมพบผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางกลับมาในพื้นที่รวมแล้ว 35 ราย ส่วนใหญ่มีการประสานผ่านมาทางโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลอำเภอก่อนเดินทางกลับ และด้วยจังหวัดไม่ได้มีมาตรการห้ามประชาชนกลับมารักษาตัวที่จังหวัด ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ป่วยได้มีการประสานงานล่วงหน้ามาก่อนเพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้เตรียมความพร้อมของทรัพยากร เตรียมการบริหารจัดการเตียงให้เป็นระบบ โดยในวันนี้มีผู้ประสานมาแล้ว 133 ราย ซึ่งทั้งหมดต้องเข้าสู่กระบวนการที่จังหวัดกำหนดไว้ คือ การรายงานตัว การตรวจคัดกรอง และกักตัวเป็นเวลา 14 วันตามสถานที่ที่รัฐจัดให้ทุกราย โดยในโอกาสนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมได้ขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัดด้วย เพราะไม่อยากให้เกิดการแพร่ระบาดในชุมชน รวมถึงไม่อยากให้ใครต้องรับโทษเนื่องมาจากการละเมิดคำสั่ง ในส่วนของการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ปัจจุบันจังหวัดนครพนมมีผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว แบ่งเป็นบุคลากรการแพทย์และบุคคลากรด่านหน้า 13,027 คน ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง 11,655 คน และกลุ่มอายุ 18-59 ปี 3,579 คน รวมทั้งสิ้น 28,261 คน คิดเป็น 30.57 ของผู้ที่ลงทะเบียนทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ที่ได้รับวัคซีน Sinovac แล้วมีผลข้างเคียง 2,212 คน มีอาการรุนแรง 3 คน ส่วนผู้ที่รับวัคซีน AstraZeneca มีอาการข้างเคียง 973 คน อาการรุนแรง 7 คน โดยปัจจุบันผู้ที่มีอาการข้างเคียงทั้งหมดรักษาหายหมดแล้ววันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2564
จ.นครพนม เปลี่ยนแผนผู้มาจากพื้นที่เสี่ยงกักตัวในที่รัฐจัดให้เท่านั้น ย้ำทุกรายต้องแจ้ง ตรวจคัดกรองก่อนเข้าชุมชน
วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564
จ.นครพนม เปิดสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชา โชว์เมนูเด็ดพร้อมความรู้ที่ถูกต้อง
วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2564
จ.นครพนม พบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 10 ราย ยันมีสถานที่รักษาที่เพียงพอพร้อมสำรองเวชภัณฑ์
วันที่ 27 มิถุนายน 2564 ที่ห้องประชุมร่มฉัตร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดในพื้นที่ ซึ่งวันนี้มีการพบผู้ป่วยยืนยัน 10 ราย (รายที่ 164 -173) โดยเป็นผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงและผู้สัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อ ส่งผลให้ปัจจุบันมียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 173 ราย มีการรักษาหายแล้ว 143 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 28 รายและเสียชีวิต 2 ราย และด้วยสถานการณ์ที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในคราวเดียวถึง 10 ราย ทำให้ประชาชนหลายคนอาจจะมีความกังวลเกี่ยวการรักษาทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมจึงได้มีการชี้แจงว่า
ในส่วนของจำนวนเตียงรักษาผู้ป่วยโควิด – 19 นั้น แต่ละโรงพยาบาลมีเตียงเฉพาะอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของโรงพยาบาลชุมชนเองถือว่ายังมีปริมาณที่มากพออยู่และเกือบทุกแห่งจะมีโรงพยาบาลสนามเป็นของตัวเองด้วย นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลสนามที่โรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์อีกแห่งที่พร้อมรองรับผู้ป่วย ส่วนโรงพยาบาลลหลักที่จะต้องดูแลผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ก็มีเตียงอยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร ประกอบไปด้วย โรงพยาบาลนครพนม โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม และ โรงพยาบาลศรีสงคราม ซึ่งทั้ง 3 แห่ง ได้มีการวางระบบส่งถ่ายผู้ป่วยในกรณีโรงพยาบาลชุมชนมีเตียงไม่เพียงพอ หรือเกิดกรณีผู้ป่วยมีอาการรุนแรง เช่น โรงพยาบาลปลาปากที่ในวันนี้มีถึง 14 ราย ก็ได้มีการแบ่งมาให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนมช่วยในการดูแลรักษา ซึ่งระบบสาธารณสุขทั้งหมดจะมีการประสาน ส่งต่อที่พร้อมให้การดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยจะมีการแชร์ทรัพยากรบุคคล เครื่องมือและยาเวชภัณฑ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการเตรียมความพร้อมในการจัดหาแบบที่สามารถใช้ต่อไปได้อีกประมาณ 2 - 3 เดือน จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่มีความมั่นใจว่าระบบสาธารณสุขของจังหวัดนครพนมยังพร้อมให้การรักษาทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
ในส่วนของโรงเรียนที่ก่อนหน้านี้ได้มีการวางแผนรองรับเป็นอย่างดีล่วงหน้า มีการตรวจผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน ครู ผู้ปกครอง คนที่จำหน่ายสินค้าในโรงเรียน ไปจนถึงพนักงานขับรถส่งนักเรียน แต่ด้วยมีบางคนไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดแล้วบังเอิญมีเด็กนักเรียน 3 คนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อซึ่งหากยังปล่อยให้โรงเรียนเปิดต่อไปก็อาจจะมีคลัสเตอร์ในโรงเรียนขึ้นมาได้ จึงให้ปิดเป็นการชั่วคราวไปก่อน และเบื้องต้นคาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์เมื่อสถานการณ์ทั่วประเทศคลี่คลาย สามารถเฝ้าระวังได้ โรงเรียนก็น่าจะสามารถเปิดเรียนได้ตามปกติ
โดยในพรุ่งนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม เตรียมหารือเกี่ยวกับประเด็นรถโดยสารที่อยากให้มีจุดจอดรายทางที่น้อยลงเพื่อลดอัตราการเกิดคลัสเตอร์ต่าง ๆ ยกเว้นในกรณีผู้โดยสารมีการตรวจคัดกรองยืนยันมาแล้ว รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับการกักตัวที่บ้าน ซึ่งที่ผ่านมาจากข้อมูลพบว่ามีการแพร่กระจายเชื้อสู่คนในครอบครัวในหลาย ๆ เคส จึงอาจจะมีการปรับให้ผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงต้องกักตัวตามสถานที่ที่ราชการกำหนดให้แทน ทั้งนี้มาตรการของจังหวัดนครพนมยังคงเหมือนเดิมทุกอย่างที่ออกมาก่อนหน้านี้ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่และผู้ที่เข้ามาในจังหวัดได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดด้วย
วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2564
จังหวัดนครพนม ตรวจพื้นที่และประชุมเตรียมพร้อมการรับเสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
วันที่ 23 มิถุนายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ตรวจติดตามและประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ ในการรับเสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามที่จังหวัดนครพนมได้รับหมายในการเสด็จพระราชดำเนินติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ระยะที่ 5 (พ.ศ. 2560-2569) ในสังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 ระหว่างวันที่ 21 - 23 กรกฎาคม 2564 โดยมีโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่จังหวัดนครพนม จำนวน 2 แห่ง คือโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนคอนราดเฮงเค็ล และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหนองดู่ ตำบลนาใน อำเภอโพนสวรรค์ และหมายเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอธาตุพนม
วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2564
นครพนม สั่งขันน๊อตเจ้าหน้าที่และขอความร่วมมือประชาชนเฝ้าระวังผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง
วันที่ 22 มิถุนายน 2564 ที่ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงสถานการณ์เกี่ยวกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด – 19 ในพื้นที่ ซึ่งในวันนี้จังหวัดนครพนมพบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันเพิ่มอีก 3 ราย เป็นบุคคลที่มาจากพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด ทำให้ปัจจุบันมียอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 152 ราย รักษาหายแล้ว 140 ราย กำลังอยู่ระหว่างการรักษา 10 ราย และเสียชีวิต 2 ราย โดยจากสถิติข้อมูลที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนมเก็บผลการปฏิบัติงานมาตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนจนถึงวันนี้ ยังไม่พบการติดเชื้อภายในจังหวัดที่เป็นการแพร่เชื้อจากชาวนครพนมเอง แต่เป็นการพบการติดเชื้อจากผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงแล้วมาแพร่เชื้อต่อให้ชาวนครพนม ซึ่งบางช่วงที่พบเยอะจะเป็นลักษณะผู้มาจากพื้นที่เสี่ยงมาเป็นหมู่คณะ แต่ด้วยการดำเนินการที่มีการใช้มาตรการเชิงรุกตั้งแต่เริ่มแรกทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมีความมั่นใจว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
โดยในวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้มีการสั่งให้ทุกอำเภอหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อเตรียมประชุมหารือแนวทางขันน๊อตมาตรการฝ้าระวังผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงให้มากยิ่งขึ้น ๆ ในวันพรุ่งนี้ ประกอบกับช่วงนี้ที่พบว่ามีนักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกันหลายวัน ดังนั้นจังหวัดนครพนมจึงได้มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับร้านค้า สถานที่บริการ หารือแนวทางปฏิบัติร่วมกันเพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในวันพรุ่งนี้เช่นกัน เนื่องจากเคยมีบทเรียนเรื่องนี้มาแล้วจากคลัสเตอร์สถานบริการ ซึ่งในครั้งนั้นต้องใช้เวลานานกว่าครึ่งเดือนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ แต่สิ่งสำคัญที่สุดในช่วงนี้ คือมีความเป็นห่วงลูกหลานที่เป็นเด็กนักเรียน ที่โรงเรียนมีการเปิดภาคเรียน ซึ่งก็ต้องขอความร่วมมือทุกท่านว่าถ้าบ้านไหนมีคนเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะผู้ปกครองที่มาแล้ว ขอความกรุณาอย่าเพิ่งสวมกอดลูกทันที เข้าใจว่ามีความรักความคิดถึงแต่ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการก่อนเพื่อลดความเสี่ยงให้คนในครอบครัวรวมถึงชุมชนด้วย เพราะถ้ามีการหลุดรอดเข้าไปได้จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบอีกจำนวนมาก และในโอกาสนี้ยังได้ฝากขอความร่วมมือเกี่ยวกับการร่วมกันสร้างกำแพงในการบล๊อกให้ผู้ติดเชื้อหรือผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงให้ไหลเข้าสู่ระบบของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เพราะกำลังเจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถปฏิบัติให้ครอบคลุมได้ ซึ่งทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมไม่ได้ห้ามใครกลับบ้าน แต่อยากให้ผู้ที่กลับบ้านเข้าสู่ระบบทั้งหมด ถ้าพบว่าป่วยจะได้ทำการรักษาอย่างทันท่วงทีและเป็นการป้องกันที่ดีให้กับทุกคนในสังคมด้วยสภากาชาดไทยมอบเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ติดตั้งสถานที่สำคัญนครพนม เฝ้าระวังประชาชนหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
สกู๊ปข่าว โคก หนอง นา โมเดล การพัฒนาที่ยั่งยืน
นายสุรพล แก้วอินธิ พัฒนาการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า โคก หนอง นา โมเดล เป็นการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา โมเดล โครงการนี้เป็นการน้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการนำเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งมีหลากหลายอย่าง ทั้งการบริหารจัดการดิน การบริหารจัดการน้ำ การดูแลป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยในหลวงรัชกาลที่ 10 ท่านทรงมาต่อยอดประยุกต์ให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือเวลาที่พี่น้องเกษตรกรทำเกษตรกรรม จะต้องมีโคกเพื่อปลูกพืชผักต่างๆ มีหนองเพื่อเก็บน้ำและเลี้ยงสัตว์น้ำต่างๆ กุ้ง หอยปู ปลา และที่สำคัญที่สุดชาวบ้านเราต้องมีนาในการประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงตัวเอง และเพื่อให้เข้าใจง่ายๆ โครงการนี้ก็คือทำโคก ทำหนอง ทำนา ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน สำหรับจังหวัดนครพนมนั้นมีงบประมาณอยู่ 2 โครงการด้วยกัน งบแรกก็คืองบเงินกู้ มีจำนวนทั้งหมด 81 แปลง ซึ่งตอนนี้กิจกรรมแรกคือการฝึกอบรมตามหลักกสิกรรมธรรมชาติเรียบร้อยไปหมดแล้ว หลังจากนั้นก็มาปรับพื้นที่แปลงนาให้มีโคก มีหนอง มีนา เสร็จแล้วก็จะมีกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ซึ่งเป็นการร่วมกันในเรื่องของการมาช่วยกันปลูกพืช ในเรื่องของการห่มดิน เรื่องของการปักดำต่าง ๆ ให้พี่น้องเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมาช่วยกันเอามื้อสามัคคีกัน ส่วนงบหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงก็มีจำนวน 115 หมู่บ้าน กระจายไปทั้ง 12 อำเภอ
ด้านนายชัยธวัช บุญมั่งมี เกษตรตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม หนึ่งในผู้ร่วมโครงการ เปิดเผยว่า แต่ก่อนพื้นที่ของตนเองเป็นนาอย่างเดียวจึงเปลี่ยนมาเข้าโครงการ 3 ไร่ ซึ่งจากการที่ได้เข้าร่วมอบรมแล้วมองเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับ มองว่ามีแต่สิ่งดี ๆ จึงยากทำ เมื่อมาลงมือปฏิบัติได้ 1 เดือน ก็เริ่มเห็นความแตกต่าง คือมีน้ำเพิ่มมากขึ้น พื้นดินมีความอุดมสมบูรณ์ไม่เหมือนแต่ก่อน ตอนนี้ในบ่อมีน้ำตลอดทำให้อยากที่จะเพาะปลูกพืชใหม่ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาเรื่อย ๆ โดยตั้งใจว่าจะเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้ยังสังเกตเห็นว่าเมื่อทำโครงการพื้นที่ก็เริ่มมีสัตว์น้ำมาอาศัยอยู่ด้วยเพิ่มเติมจากที่เลี้ยง ตอนนี้ก็พยายามศึกษาเพิ่มเติมไปเรื่อย ตรงไหนขาด ตรงไหนต้องปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เราจะเห็นว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของโคก หนอง นา แต่อย่างน้อยก็ทำให้เกษตรกรมั่นใจในความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แล้วทุกท่านพร้อมหรือยังที่จะรับการเปลี่ยนแปลงในลักษณะเช่นนี้
วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2564
จ.นครพนม ผ่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมเฝ้าระวังเข้มผู้มาจากพื้นที่เสี่ยง
วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2564
ผู้ว่านครพนม นำทีมลงพื้นที่แก้ปัญหาปลานิลในกระชังรอการจำหน่าย 78 ตัน
วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2564
โรงพยาบาลนาแก จ.นครพนม รับการตรวจประเมินมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ผ่านระบบออนไลน์
วันที่ 16 มิถุนายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายโชคชัย เดชอมรธัญ ประธานอนุกรรมการตรวจประเมินมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก คณะที่ 9 พร้อมคณะติดตามตรวจประเมินมาตรฐานการให้บริการศูนย์ราชการสะดวก ( Government Easy Contact Center : GECC ) ของโรงพยาบาลนาแก ที่ได้มีการสมัครขอรับรองมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก ประจำปี 2564 เพื่อให้คะแนนและตรวจดูสถานที่จริงว่าเป็นอย่างไร มีเอกสารที่จะต้องขอเพิ่มเติมหรือไม่ ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ที่ให้เจ้าหน้าที่พาชมจุดต่าง ๆ ตามที่คณะกรรมการมีข้อสงสัย ก่อนที่จะนำข้อมูลทั้งหมดของหน่วยงานเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ในการพิจารณารับรองศูนย์ราชการสะดวก โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายไอศวรรย์ รักชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนาแก ตลอดจนนายอำเภอนาแก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนาแก และคณะเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนาแกที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมประชุมและตอบข้อสักถามต่าง ๆ
โดยโรงพยาบาลนาแกเป็นโรงพยาบาลขนาด 60 เตียง มีบุคลากรด้านสาธารณสุขจำนวน 128 คน มีผู้เข้ารับบริการเฉลี่ยวันละ 432 คน/วัน มีอัตราครองเตียง 53.10 เตียง/วัน นอนเตียงเฉลี่ย 2.95 คน/วัน มีการเปิดให้บริการทั้งในและนอกเวลาราชการ ตลอด 24 ชั่วโมง มีระบบขนส่งสาธารณะที่เข้าถึงสถานที่บริการทำให้ประชาชนสามารถมารับบริการได้โดยสะดวก มีป้ายและสัญลักษณ์บอกทิศทางหรือตำแหน่งในการเข้าถึงจุดให้บริการอย่างชัดเจน มีการออกแบบสถานที่ที่คำนึงถึงผู้พิการ สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ และประชาชนทั่วไป รวมทั้งมีการออกแบบแผนผังและระบบการให้บริการระหว่างจุดก่อนเข้าสู่บริการและจุดให้บริการที่อำนวยความสะดวกทั้งสำหรับเจ้าหน้าที่และประชาชนทั่วไปทำให้เกิดความรวดเร็วในการให้บริการ ในส่วนสำคัญหรือจุดที่เป็นอันตรายก็มีการออกแบบหรือจัดให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนตามหลักสากลทั้งขณะที่ยืนหรือรถล้อเลื่อนผ่าน มีการกำหนดพื้นที่เขตปลอดบุหรี่ และจัดสถานที่เป็นการเฉพาะในบริเวณที่เหมาะสมให้เป็นเขตสูบบุหรี่ นอกจากนี้ยังมีการจัดระบบแสงสว่างให้เพียงพอทั้งในทางเดินและในห้องให้บริการต่าง ๆ มีการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ให้เพียงพอต่อปริมาณการใช้งาน มีห้องน้ำที่สะอาดถูกสุขอนามัย รวมถึงมีแบบประเมินความพึงพอใจจากผู้มาใช้บริการที่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ผ่านทางตู้รับความคิดเห็นและข้อร้องเรียน ไปจนถึงระบบออนไลน์ และในโอกาสนี้นายโชคชัย เดชอมรธัญ ได้กล่าวผ่านการประชุมว่า โรงพยาบาลนาแก เป็น 1 ใน 7 หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขที่ผ่านการประเมินผลการดำเนินงานเข้ามา ทั้งยังเป็น 1 ใน 2 หน่วยงานที่มีการสมัครเข้ามาเป็นครั้งแรกแต่มีผลงานดีเยี่ยม ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นมีคะแนนค่อนข้างสูงมากผ่านระดับพื้นฐานแบบสบาย ๆ ดังนั้นจึงอยากให้บุคลากรโรงพยาบาลทุกท่านได้มองข้ามระดับนี้ไป แต่ให้มุ่งไปที่ระดับที่สูงกว่านั้น มีความแอดวานซ์มากกว่านั้น เพราะนั้นหมายถึงประชาชนที่มารับบริการจะได้รับประโยชน์สูงสุด คุ้มค่ากับการเสียสละ ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปฏิบัติหน้าที่ของทุกคน โดยเกณฑ์การให้คะแนนรับรองมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวกในปี 2564 ยังแบ่งออกเป็น 3 ระดับเช่นเดิม คือ ระดับเป็นเลิศ (สีทอง) ได้คะแนนประเมิน 90-100 คะแนน คือมีการให้บริการด้วยการเพิ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับให้บริการระบบดิจิทัล สะดวกทุกที่ ทุกเวลา รองลงมาเป็นระดับก้าวหน้า (สีเงิน) ได้คะแนนประเมิน 80-89 คะแนน คือมีการให้บริการด้วยการเพิ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยีในการให้บริการ และระดับพื้นฐาน (สีฟ้า) ได้คะแนนประเมิน 70-79 คะแนน คือมีการให้บริการสะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่ายผู้ตรวจฯกระทรวงศึกษา ลงพื้นที่นครพนมตรวจความพร้อมรับฟังแนวปฏิบัติ หลังการเปิดภาคเรียน
วันที่ 16 มิถุนายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายธฤติ ประสานสอน ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและรับฟังการดำเนินการของสถานศึกษาในด้านความพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียน 1 ประจำปีการศึกษา 2564 ในสถานกาณ์โควิดที่บุคคลากรตลอดจนนักเรียนทุกคนต้องมีความเข้มงวดในการล้างมือ เว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัย
นายธฤติ ประสานสอน ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การตรวจเยี่ยมในครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางสาวตรีนุช เทียนทอง ที่ได้มอบหมายให้คณะผู้บริหารลงมาเป็นกำลังใจกับบุคคลากรทางการศึกษา รวมถึงตรวจความพร้อมและรับฟังแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่ก่อนนี้จำเป็นต้องเลื่อนการเปิดภาคเรียนมาตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2564 ซึ่งในส่วนของจังหวัดนครพนมได้รับข้อมูลจากศึกษาธิการจังหวัด ผอ.เขตพื้นที่มัธยมศึกษา ผอ.เขตพื้นที่ประถมศึกษา และคณะผู้บริหารสถานศึกษาของจังหวัดนครพนม ถึงการเตรียมความพร้อม โดยสถานศึกษาทุกแห่งได้ผ่านการประเมินด้วยโปรแกรม Thai stop covid หมดแล้ว อยู่ในระดับสีเขียว คือมีความพร้อม 100 % ที่จะเปิดทำการเรียนการสอนแบบ on site เช่น โรงเรียนเซนต์ยอแซฟนครพนมที่เป็นโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครพนม มีเด็กนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้มีการแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มเลขที่คู่กับเลขที่คี่เพื่อสลับกันมาเรียนเป็นการเว้นระยะห่าง นอกจากนี้คณะครูก็จะมีการสอนแบบ on line , on air และ on demand เพื่อให้นักเรียนได้เรียนควบคู่กันไปเสมือนเด็กที่อยู่บ้านได้มานั่งเรียนในห้องเรียนไปด้วย ดังนั้นเด็กนักเรียนทุกคนจะได้เรียนเหมือนกันหมดและตรงตามหลักสูตรที่กำหนดดไว้ ซึ่งก็ต้องขอชื่นชมและกราบขอบพระคุณคณะผู้บริหารสถานศึกษาทุกแห่ง คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน ที่ได้อุทิศตน ทุ่มเท เสียสละเวลาในการจัดการเรียนการสอนที่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชิน แต่จากประสบการณ์ในการจัดการเรียนการสอนทางไกลเมื่อภาคเรียนที่แล้วทำให้ภาคเรียนนี้มีความพร้อมมากยิ่งขึ้น ในส่วนของความปลอดภัยจากไวรัสโควิด – 19 นั้นก็ขอให้ผู้ปกครองทุกคนสบายใจได้ว่าบุตรหลานของท่านมาโรงเรียนแล้วมีความปลอดภัย เพราะด้วยมาตรฐานที่สถานศึกษาทุกแห่งต้องปฏิบัติอย่างเข้มงวดตามมาตรการสาธารณสุข และมาตรการของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดที่มีแผนปฏิบัติอย่างชัดเจนว่าแต่ละแห่งต้องทำอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการตรวจคัดกรองก่อนเข้าสถานศึกษา การเว้นระยะห่าง การประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และข้อปฏิบัติ การรักษาความสะอาด ไปจนถึงการปฏิบัติตัวที่ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า โดยปัจจุบันทราบว่าคณะครูและบุคคลากรทางการศึกษาของจังหวัดนครพนมได้มีเข้ารับการฉีดวัคซีนที่ทางจังหวัดจัดให้แล้ว
วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2564
นรข.นครพนม สกัดจับผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางยาบ้าเกือบล้านเม็ด
วันที่ 15 มิถุนายน 2564 ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม พลเรือตรีจรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผบ.นรข. พร้อมด้วย นาวาเอก ฤทธิ์ นาทวงศ์ ผบ.นรข.เขตนครพนม นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอธาตุพนม พันเอก วุฒธิพงศ์ อรรคคำ รองผู้บังคับการควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พันตำรวจเอก(ญ) จิระนัน ธนะสินห์ ผกก.พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นครพนม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงการจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 972,000 เม็ด และรถยนต์ยี่ห้อ อิชูชุ รุ่นดีแมกซ์ สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน กฉ 6986 ศรีสะเกษ ภายหลัง ผบ.นรข. ได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมาว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณบ้านสองคอน ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร
โดยภายหลังได้รับแจ้ง ผบ.นรข. ได้สั่งการให้ชุดปฎิบัติการพิเศษ นรข.ร่วมกับสถานีเรือธาตุพนมติดตามความเคลื่อนไหวที่บริเวณที่ได้รับแจ้งกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น.เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยวิ่งเข้ามาบริเวณดังกล่าว จึงได้เฝ้าสังเกตพฤติการณ์จนแน่ใจว่ามารับยาเสพติดจริง จึงได้ไล่ติดตามรถต้องสงสัยที่ขับเลาะริมแม่น้ำโขงมุ่งหน้าไปยังอำเภอธาตุพนม โดยรถได้เลี้ยวซ้ายบริเวณบ้านน้ำก่ำ ไปทางอ่างเก็บน้ำธรณิศนฤมิต เพื่อมุ่งหน้าไปยังถนนหมายเลข 212 ก่อนที่จะขับมุ่งหน้าต่อไปตามนถนนสายนาแก - สกลนคร กระทั่งถึงบ้านต้นแหน ตำบลพิมาน อำเภอนาแก เจ้าหน้าที่เห็นว่าเส้นทางมีความปลอดภัย ไม่มีประชาชนสัญจรไปมาในช่วงเวลาดังกล่าวจึงขับรถเข้าสกัดทำให้รถผู้ต้องสงสัยเสียหลักเข้าข้างทาง โดยคนขับได้อาศัยจังหวะที่รถเจ้าหน้าที่ยังจอดไม่สนิทเปิดประตูรถวิ่งหนีหายไปในความมืดทันที แต่อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมมาได้ 1 รายเป็นชาย อายุ 50 ปี ที่อ้างว่านั่งมาเป็นเพื่อนคนขับ โดยจากการตรวจสอบภายในห้องโดยสารพบกระสอบปุ๋ยยูเรีย สีน้ำเงิน จำนวน 3 กระสอบ และกระเป๋าผ้ามีซิป สีดำจำนวน 2 ใบ ที่ภายในบรรจุยาบ้า รวมทั้งสิ้น 972,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้นำผู้ต้องหาส่งตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ซึ่งผลตรวจเป็นลบ จากนั้นจึงได้ทำบันทึกจับกุม พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาแก เพื่อดำเนินการสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปเกษตรนครพนม หนุนเกษตรแปลงใหญ่ จัดเงินอุดหนุนพัฒนาอาชีพให้เข้มแข็งและยั่งยืน กว่า 15 ล้านบาท
วันที่ 15 มิถุนายน 2564 ที่ศูนย์สารสนเทศยางพารานครพนม สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับตัวแทนเกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ในจังหวัดนครพนม ที่กรมส่งเสริมการเกษตร โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนมจัดขึ้นเพื่อสนับสนุน ส่งเสริมให้เกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ได้พัฒนาอาชีพให้เข้มแข็งและยั่งยืน ตามโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ซึ่งเป็นโครงการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดทำขึ้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ให้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความหลากหลายมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาศักยภาพความเข้มแข็งในการบริหารจัดการแปลงใหญ่ โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการต่อยอดด้านคุณภาพ มาตรฐาน การแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และเพื่อเชื่อมโยงตลาดเป็นการสร้างโอกาสให้เกษตรกรยกระดับสู่การเป็นผู้ประกอบการที่มีรายได้ที่ยั่งยืน
ซึ่งในการลงนามในสครั้งนี้ประกอบไปด้วย กลุ่มแปลงใหญ่แมลงเศรษฐกิจ (จิ้งหรีด) อำเภอเรณูนคร กลุ่มแปลงใหญ่สับปะรดตำบลนาใน อำเภอโพนสวรรค์ กลุ่มแปลงใหญ่ผู้ปลูกสับปะรด GI ตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน กลุ่มแปลงใหญ่หอมแบ่ง หมู่ที่ 2 ตำบลกุดฉิม อำเภอธาตุพนม กลุ่มแปลงใหญ่ผักชีฝรั่ง หมู่ที่ 3 ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม และกลุ่มแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกแตงโมไร้เมล็ดศรีสงคราม อำเภอศรีสงคราม โดยทั้ง 6 กลุ่มจะได้รับเงินอุดหนุนรวมทั้งสิ้น 15,145,500 บาท จากโครงการเพื่อนำไปจัดซื้อปัจจัยการผลิต พัฒนากระบวนการผลิตและการแปรูปซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพ เช่น การนำไปจัดหารถแทรกเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อใช้ในปรับแปลงเพาะปลูกสับปะรด หอมแบ่ง ปลูกแตงโมไร้เมล็ด นำไปใช้ในการก่อสร้างโรงเรือนให้ได้มาตรฐานตามหลัก GMP สำหรับกลุ่มเกษตรกรที่เลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ (จิ้งหรีด) รวมทั้งใช้ในการบริหารจัดการกลุ่มให้มีคุณภาพและความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าเกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ทั้ง 6 กลุ่มจะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีกลุ่มไม่เกินสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนมได้มีการเน้นย้ำให้เกษตรกรแปลงใหญ่นำเงินงบประมาณที่ได้รับ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเกิดความคุ้มค่าตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล ที่ต้องการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรให้เป็นผู้ประกอบการและสามารถยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรไปสู่เกษตรสมัยใหม่ มีศักยภาพและความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นเทศบาลเมืองนครพนมบูรณาการชลประทาน ตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม เตรียมรับมือปริมาณน้ำฝนที่ตกต่อเนื่อง
วันที่ 15 มิถุนายน 2564 ที่บริเวณเขตเทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนม นายศาสตรา พรหมรักษ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครพนม คณะหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการเตรียมความพร้อมในการระบายน้ำออกจากพื้นที่เทศบาลเมืองนครพนม ลงสู่แม่น้ำโขง หลังลักษณะอากาศทั่วไปของจังหวัดนครพนมมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในพื้นที่มีปริมาณน้ำมาก ซึ่งหากมีปริมาณฝนตกลงมามากกว่าที่เป็นอยู่อาจเกิดเหตุน้ำท่วมรอการระบายได้ ประกอบกับที่สถานีอุตุนิยมวิทยานครพนม คาดการณ์ว่าใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ มหาสารคาม ขอนแก่น อุดรธานี บึงกาฬ และนครพนม โดยลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชั่น โคะงุมะ ยังคงปกคลุมที่ประเทศเมียนมาร์ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีฝนตกในบางพื้นที่
ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการระบายน้ำในพื้นที่เทศบาลเมืองนครพนมลงสู่แม่น้ำโขง เพราะเคยเกิดเหตุมาแล้วที่ฝนตกหนักลงมาเพียงครึ่งชั่วโมงแต่น้ำท่วมรอการระบายในพื้นที่นานกว่า 2 ชั่วโมง โดยในวันนี้เทศบาลเมืองนครพนมจึงได้มีการประสานไปยังโครงการชลประทานนครพนม ในการขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาด 450 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง จำนวน 4 เครื่อง มาสำรองเตรียมความพร้อมในการระบายน้ำหากเกิดเหตุให้สามารถใช้ได้ทันที โดยได้มีการกระจายไปตามจุดต่าง ๆ ที่เป็นประตูระบายน้ำของเขตเทศบาลเมืองนครพนม ประกอบด้วย ที่บริเวณถนนเทศาประดิษฐ์ แยกถนนสมุทรบรรหาร แยกไปรษณีย์ไทย และบริเวณหน้าวัดโพธิ์ศรี ทั้งนี้ปริมาณน้ำฝนจังหวัดนครพนมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 16 มิถุนายน 2564 มีปริมาณฝนที่ตกสะสมเฉลี่ย 551.4 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2563 มีปริมาณฝนมากกว่าถึง 126.5 มิลลิลิตร ขณะที่ระดับปริมาณน้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดนครพนม ในวันนี้เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 1.02 เมตร ระดับน้ำในปัจจุบันอยู่ที่ 5.52 เมตร ห่างจากระดับวิกฤติอยู่ที่ 6.48 เมตร ซึ่งเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2563 ที่ระดับน้ำโขงต่ำสุดถือว่าในปีนี้จังหวัดนนครพนมมีปริมาณน้ำไหลผ่านเพิ่มมากขึ้น สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งหมด 20 แห่งมีปริมาณความจุระดับเก็บกักรวม 56.514 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 32.505 ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็นร้อยละ 57.57 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2564
คกก. ลงพื้นที่สุ่มตรวจมาตรฐานการปฏิบัติของโรงเรียนรับการเปิดเทอมวันแรก
วันที่ 14 มิถุนายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมลงพื้นที่สุ่มตรวจติดตามประเมินผลการปฏิบัติตามมาตรการในการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด
– 19 ของโรงเรียน รับการเปิดเทอมวันแรกตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดให้โรงเรียนต่าง
ๆ สามารถเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2564 ได้โดยโรงเรียนหรือสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด
(สีแดง) หรือพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) สามารถจัดการเรียนการสอนได้ 5 รูปแบบ คือ On Site,
On Air, Online, On Hand, On Demand โดยรูปแบบ
On Site หรือการเรียนในโรงเรียนนั้น โรงเรียนหรือสถานศึกษาต้องผ่านเกณฑ์การประเมินความพร้อมของระบบ
Thai Stop Covid+ (TSC+) และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมได้มีการประชุมออนไลน์ร่วมกับคณะผู้บริหารสถานศึกษาทั่วทั้งจังหวัดเพื่อวางแนวทางในการปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับเด็กนักเรียน
และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองในการให้บุตรหลานมาโรงเรียนและสถานศึกษา รวมถึงมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมก่อนการเปิดภาคเรียนด้วย
ซึ่งการลงพื้นที่ในวันนี้เป็นการสุ่มตรวจรีเช็คอีกครั้งว่าโรงเรียนและสถานศึกษาแต่ละแห่งสามารถปฏิบัติตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อกำหนดไว้หรือไม่
มีช่องโหว่ที่ตรงไหนที่ต้องปรับปรุง เพื่อให้มีมาตรฐานความปลอดภัยเพิ่มมากยิ่งขึ้น
เพราะหากเกิดคลัสเตอร์ในสถานศึกษาจะเป็นเรื่องใหญ่ที่การควบคุมสถานการณ์อาจต้องใช้เวลานาน
โดยในการติดตามในวันนี้ทางโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย อำเภอเมืองนครพนม ที่มีนักเรียนมาเรียนใรวมทั้งสิ้น
1,181 คน สามารถปฏิบัติตามได้เป็นอย่างดี
เริ่มตั้งแต่ทางเข้าที่มีการตั้งจุดคัดกรองไว้อย่างเป็นระบบ
ที่นักเรียนทุกคนจะต้องผ่านจุดคัดกรอง
และต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในสถานศึกษา เมื่อเข้าสู่ตัวอาคารก็จะพบกับป้ายประชาสัมพันธ์แนะนำขั้นตอนการปฏิบัติตัว
รวมถึงมีการติดตั้งอ่างล้างมือและเจลแอลกอฮอล์ตามจุดต่าง ๆ
ไว้บริการเด็กนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา
โดยในโอกาสนี้หลังการตรวจเสร็จสิ้นทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม
ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมในจุดโรงอาหารที่ให้เพิ่มจุดวางแอลกอฮอล์ล้างมือให้มากกว่าที่เป็นอยู่
ที่เดิมมีเฉพาะทางเข้าโรงอาหาร
โดยให้ทุกร้านที่มาจำหน่ายอาหารให้มีแอลกอฮอล์ล้างมือทั้งหมด ในส่วนของการวางแผนให้นักเรียนมาโรงเรียนที่ให้มาสลับกันลำดับเลขที่คู่คี่เพื่อเว้นระยะห่างนั้นถือว่าแต่ละห้องมีความพอดีแล้ว
เพราะทุกคนจะได้เรียนเท่ากันทั้งในโรงเรียนและเรียนในระบบอื่น ๆ ที่มีความยืดหยุ่นตามความเหมาะสมของพื้นฐานแต่ละครอบครัว
เช่น เรียนผ่านอินเตอร์เน็ต
เรียนผ่านมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ DLTV เรียนที่บ้านด้วยเอกสาร เช่น หนังสือ แบบฝึกหัด
ใบงานในรูปแบบผสมผสานกับวิธีอื่นๆ
วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2564
ผู้ว่านครพนมลงพื้นที่ติดตาม การจำหน่ายสับปะรดท่าอุเทน พร้อมแนะรวมกลุ่มสร้างสหกรณ์อย่างจริงจัง
วันที่ 10 มิถุนายน 2564 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ติดตามผลการจำหน่ายสับปะรดท่าอุเทนที่ก่อนหน้านี้มีปัญหาราคาตกต่ำ และผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้มีการประสานห้างสรรพสินค้าเข้ารับซื้อ ซึ่งจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาปรากฏว่าสามารถพยุงราคาตลาดให้ดีขึ้นได้ โดยปัจจุบันกลุ่มเกษตรกรยังมีการส่งให้กับห้างสรรพสินค้าเช่นดังเดิม รวมไปถึงเมื่อคัดเกรดส่งให้ห้างสรรพสินค้าแล้วก็ยังมีการส่งผลผลิตที่เหลือเข้าโรงงานแปรรูป และจำหน่ายให้กับพ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อที่หน้าสวนด้วย
โดยในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้นำตัวอย่างโลโก้ที่ได้มีการออกแบบไปให้เกษตรกรได้เลือกเพื่อใช้ในการสร้างเป็นแบรนด์ของกลุ่ม เพื่อสร้างภาพจำให้กับประชาชนทั่วไปในการเลือกซื้อสินค้า และให้คำแนะนำเกษตรกรที่เข้าร่วมประชุม เกี่ยวกับการวางแผนการทำกลุ่มสหกรณ์เพื่อให้มีความต่อเนื่องในการผลิตสินค้าเกษตรเพื่อจำหน่ายให้กับห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะเป็นทางออกให้กับเกษตรกรในระยะยาว ที่จะแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำอย่างยั่งยืน เนื่องจากการรวมกลุ่มสหกรณ์จะทำให้มีอำนาจในเรื่องของความต่อเนื่องกับอำนาจในการต่อรอง ซึ่งความต่อเนื่องก็คือออเดอร์ที่มีการสั่งจองมาจากห้างสรรพสินค้าที่สหกรณ์สามารถนำไปกระจายยังสมาชิกในกลุ่มได้ เช่น ผลผลิตรายที่ 1 หมดก็เอาของรายที่ 2 รายที่ 3 ต่อไปเรื่อย ๆ ขึ้นอยู่กับการวางแผนการเพาะปลูกที่ดี ทำให้ผลผลิตที่มีระยะการเจริญเติบโตแน่นอนออกผลผลิตไล่เลี่ยกัน แต่เนื่องจากในปัจจุบันการรวมกลุ่มของเกษตรกรเป็นเพียงการรวมกลุ่มเพื่อนำไปจำหน่ายเท่านั้น จึงอยากให้ทุกคนปรับเปลี่ยนในตรงนี้ให้เป็นการรวมกลุ่มที่แท้จริงที่เริ่มตั้งแต่การวางแผนการผลิตไปจนถึงการจำหน่าย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นในอนาคตทางหน่วยงานภาครัฐก็สามารถหางบประมาณมาสนับสนุนเพิ่มเติมได้ เช่น การสร้างอาคารรวมผลผลิตเพื่อคัดแยกและกระจายสินค้า ซึ่งตรงนี้จะเป็นการต่อยอดในการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คนในชุมชนได้ เพราะทุกคนจะมีงานทำเพิ่มจากการผลิตสินค้าเกษตร ด้วยการมาทำงานในระบบบริหารของอาคารแห่งนี้ และถ้าสามารถทำระบบให้มีคุณภาพได้มาตรฐานสามารถจดทะเบียน GMP ได้ก็จะทำให้ผลผลิตของเกษตรกรมีราคาที่สูงเพิ่มม้กขึ้นไปอีก นอกจากนี้การตั้งสหกรณ์ยังมีข้อดี คือสามารถกู้เงินมาใช้ในการบริหารจัดการที่มีดอกเบี้ยต่ำเพียงร้อยละ 1 บาทซึ่งในเชิงธุรกิจถือว่าต่ำมาก และถ้าทุกคนร่วมใจกันบริหารจัดการดี ๆ ปลายปีก็มีเงินปันผลคืนให้กับสมาชิกสหกรณ์ เพียงทุกคนมีความเหนียวแน่น สมัครสมานสามัคคี พร้อมใจกัน เพราะการรวมกลุ่มสหกรณ์สามารถล้มได้ง่าย ๆ เหมือนกันเพราะพ่อค้าคนกลางจะมีวิธีการเพียงแค่เข้ามาซื้อผลผลิตในราคาที่สูงกว่าสหกรณ์ ถ้าทุกคนเห็นแก่ผลประโยชน์ตรงนั้น ก็จะทำให้สหกรณ์มีผลผลิตไม่เพียงพอตามออเดอร์ก็อยู่ไม่ได้ และเมื่อถึงตรงนั้นพ่อค้าคนกลางก็จะเข้ามาซื้อกดราคาเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นเกษตรกรต้องรู้เท่าทันในตรงนี้ด้วยนครพนม ปล่อยปลา 500,044 ตัว ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบรมราชินี
วันที่ 10 มิถุนายน 2564 ที่บริเวณหนองสาธารณะหนองแวง บ้านกลาง ตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ร่วมกันประกอบพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ที่สำนักงานประมงจังหวัดนครพนม ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดนครพนม อำเภอท่าอุเทน และองค์การบริหารส่วนตำบลโนนตาลจัดขึ้น เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและถวายเป็นพระราชกุศล เป็นการเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในแหล่งน้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งอาหารให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น ทั้งยังเป็นการปลูกจิตสำนึกให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ดูแลทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ของตนเองให้มีความอุดมสมบูรณ์ของตนเอง
โดยพิธีในครั้งนี้นอกจากจะมีการปล่อยปลาในบริเวณหนองสาธารณะหนองแวง บ้านกลาง ตำบลโพนตาลแล้ว ยังมีการมอบพันธุ์ปลาให้กับตัวแทนหมู่บ้าน จำนวน 15 หมู่บ้าน เพื่อนำไปปล่อยในแหล่งน้ำสาธารณะของชุมชนในหมู่บ้าน รวมจำนวนปลาทั้งสิ้นที่ประกอบพิธีปล่อยในครั้งนี้ 500,044 ตัว ประกอบไปด้วยปลา 5 ชนิด คือ ปลาบึก จำนวน 44 ตัว ปลากะพง จำนวน 44 ตัว ปลายี่สกไทย จำนวน 444 ตัว ปลาสร้อยขาว จำนวน 512 ตัว และปลาตะเพียนขาว จำนวน 499,000 ตัว และในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ยังได้ให้แนวคิดถึงวิธีการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ และการส่งเสริมการเลี้ยงปลาเพิ่มเติม เพราะทุกวันนี้พื้นที่ต้นน้ำถูกปิดกั้นด้วยเขื่อนต่างๆ ทำให้น้ำในแม่น้ำโขงอยู่ในภาวะที่คาดการณ์ไม่ได้ และมีผลกระทบต่อการประมงพื้นบ้าน แต่อย่างไรก็ดีจังหวัดนครพนมมีปริมาณน้ำฝนอยู่ประมาณปีละ 700 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งในการเก็บกักน้ำก็มีโครงการต่าง ๆ ตลอดจนโครงการ โคก หนอง นา ที่สนองแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสร้างแหล่งน้ำ สระน้ำในไร่นาเพื่อกักเก็บน้ำ ที่ทุกคนสามารถเพาะเลี้ยงปลาไว้รับประทานและจำหน่ายได้ทดแทนการที่จะออกไปทำการประมงตามแหล่งน้ำทั่วไป โดยเฉพาะพื้นที่ชุ่มน้ำระดับโลกอย่างลุ่มน้ำสงคราม ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญที่จะให้ปลาในแม่น้ำโขงไปวางไข่ เพราะถ้าทุกคนคิดถึงแต่ตรงนั้นปลาที่มีประมาณ 2,000 - 3,000 ชนิดในแม่น้ำโขงก็มีโอกาสที่จะสูญพันธุ์ได้
วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2564
คกก.นครพนม จัดวัคซีนให้บุคลากรทางการศึกษา พร้อมเตรียมแผน drive cruise สำหรับผู้ป่วยติดเตียง
วันที่ 8 มิถุนายน 2564 ที่บริเวณศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็น 1 ใน 12 แห่งที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมที่นำโดย นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้จัดให้เป็นสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน บรรยากาศยังคงมีความคึกคักต่อเนื่องจากวันแรก โดยในวันที่ 2 นี้ประชาชนในเขตอำเภอเมืองนครพนมในกลุ่มผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังได้ทยอยเดินทางมารับวัคซีนเรื่อย ๆ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายมาเป็นระยะ ๆ โดยในวันนี้นอกจากกลุ่มผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังแล้วยังมีกลุ่มบุคลากรทางการศึกษา ที่ก่อนนี้มีการลงทะเบียนจองก็ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนเช่นเดียวกัน รวมถึงบุคคลากรด่านหน้าที่ครบกำหนดรับวัคซีนเข็มที่ 2 ด้วย
สำหรับการบริหารจัดการวัคซีนของจังหวัดนครพนมในภาพรวมนั้น
ได้มีการจัดเรียงลำดับการลงทะเบียนไว้ทั้งหมดแล้ว จากที่ประชาชนมีที่ลงทะเบียนจองวัคซีนผ่านระบบต่าง
ๆ ไม่ว่าจะเป็น การจองผ่าน application หมอพร้อม
นครพนมพร้อม หรือบางคนโทรศัพท์ไปจองที่โรงพยาบาล ที่ รพ.สต. หรือบางคนเดินทางไปจองด้วยตนเอง
รวมไปถึงที่ อสม.ไปเคาะประตูบ้านสอบถาม ซึ่งในรอบ 7-11 มิถุนายน เป็นรอบของกลุ่มผู้สูงอายุ
และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน
AstraZeneca
มา 12,100 โดส โดยผู้ที่จะได้รับวัคซีนในรอบนี้จะได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ไปยังเจ้าตัวเพื่อให้เข้ารับวัคซีนในห้วงเวลาดังกล่าว
ส่วนผู้ที่เหลือจะได้รับการประสานเช่นเดียวกันเมื่อวัคซีนมาในรอบถัดไป
นอกจากนี้ในล๊อตนี้จังหวัดนครพนมยังได้รับการจัดสรรวัคซีน Sinovac มาเพิ่มเติมอีกจำนวน 920 โดส ดังนั้นในส่วนนี้จึงได้จัดสรรให้บุคลากรทางการศึกษาก่อน
เพราะมีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียน
โดยคาดว่าบุคลากรทางการศึกษาจะได้รับครบทุกคนที่มีการจองลงทะเบียนก่อนเปิดภาคเรียน
นายแพทย์มานพ
ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ขอยืนยันว่าทุกคนที่ลงทะเบียนเข้ามาไม่ว่าจะผ่านช่องทางใดจะได้รับวัคซีนอย่างแน่นอน
แม้กระทั่งกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สะดวกในการช่วยเหลือตนเอง ทางคณะกรรมการโรคติดต่อก็ได้มีการวางแผนการฉีดวัคซีนให้
ซึ่งจะต่างจากกลุ่มอื่น ๆ โดยแผนวางไว้คือ แผน drive cruise ที่เบื้องต้นได้มอบนโยบายให้แต่ละโรงพยาบาลประสานขอความร่วมมือไปยัง อบต.
และเทศบาลต่าง ๆ ที่มีรถฉุกเฉินอยู่แล้วในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงมารับบริการ
หรือให้ตรวจสอบว่าบ้านของผู้ป่วยติดเตียงบ้านไหนที่มีรถยนต์เป็นของตนเองและสะดวกจะเดินทางมารับบริการ
โดยจะให้ผู้ป่วยอยู่บนรถที่กล่าวมาข้างต้นตลอดเวลาที่มารับบริการ
ไม่ต้องเคลื่อนย้ายอะไรอีกแล้ว ยกตัวอย่างว่าในอำเภอเมืองนครพนม มีผู้ป่วยติดเตียง
100 คน เราจะกำหนดไว้ที่ 10 วัน ๆ ละ 10 คน ก็จะประสานให้ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงและพนักงานขับรถนำผู้ป่วยเข้ามาที่จุดฉีดวัคซีนที่จัดไว้ให้
เมื่อรับบริการเสร็จแล้วตามขั้นตอนกระบวนการทั้งหมด ก็สามารถกลับบ้านได้เลย
รถคันต่อมาก็จะวิ่งเข้ามาต่อตามลำดับการนัดหมาย ซึ่งตรงนี้เป็นนโยบายที่วางไว้ เพื่อที่จะให้แต่ละโรงพยาบาลไปคิดดูว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความสะดวกที่สุดและปลอดภัยที่สุดเมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีนมา
เนื่องจากเราไม่มีนโยบายให้บุคลากรลงพื้นที่ไปฉีดตามบ้าน เพราะไม่มีความปลอดภัย อีกทั้งการฉีดในแต่ละครั้งต้องมีทั้งทีมแพทย์ที่เฝ้าสังเกตุอาการ
เครื่องมือและอุปกรณ์ในการดูแลรักษาพยาบาล หากเกิดเหตุฉุกเฉินรวมถึงปัจจัยอื่น ๆ
อีก
วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2564
นครพนม พบผู้ป่วยติดเชื้อมาจากพื้นที่เสี่ยง 2 ราย พร้อมแนะข้อมูล Molnupiravir ที่อวดอ้างสรรพคุณรักษาหายภายใน 5 วัน
วันที่ 7 มิถุนายน 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายแพทย์กิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช นายแพทย์ด้านเวชกรรมป้องกัน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด – 19 ในพื้นที่ ซึ่งวันนี้จังหวัดนครพนมพบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันเพิ่ม 2 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงกรุงเทพฯ ทำให้มียอดสะสมผู้ป่วยติดเชื้อรวมเป็น 141 ราย โดยทั้ง 2 รายที่พบในวันนี้มีอาชีพรับจ้างก่อสร้าง อยู่ที่ไซต์งานทองหล่อ 25 ซึ่งผู้ป่วยรายที่ 141 มีอาการไอ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ ถ่ายเหลว วิงเวียน เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน จากนั้นทั้งสองคนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยรถยนต์ส่วนตัว เมื่อมาถึงได้ทำการกักตัวเองกระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 5 มิถุนายน จึงได้เข้าตรวจหาเชื้อ ผลปรากฏว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันทั้ง 2 ราย โดยในวันที่ตรวจพบผู้ป่วยรายที่ 140 ก็เริ่มมีอาการไข้ ไอ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ และวิงเวียน เช่นเดียวกับรายที่ 141 อย่างไรก็ดีด้วยการปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดตลอดการเดินทางและการกักตัวที่บ้านทำให้ในเคสนี้ไม่มีผู้เสียงสัมผัส






























