วันที่ 8 มิถุนายน 2564 ที่บริเวณศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็น 1 ใน 12 แห่งที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมที่นำโดย นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้จัดให้เป็นสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน บรรยากาศยังคงมีความคึกคักต่อเนื่องจากวันแรก โดยในวันที่ 2 นี้ประชาชนในเขตอำเภอเมืองนครพนมในกลุ่มผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังได้ทยอยเดินทางมารับวัคซีนเรื่อย ๆ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายมาเป็นระยะ ๆ โดยในวันนี้นอกจากกลุ่มผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังแล้วยังมีกลุ่มบุคลากรทางการศึกษา ที่ก่อนนี้มีการลงทะเบียนจองก็ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนเช่นเดียวกัน รวมถึงบุคคลากรด่านหน้าที่ครบกำหนดรับวัคซีนเข็มที่ 2 ด้วย
สำหรับการบริหารจัดการวัคซีนของจังหวัดนครพนมในภาพรวมนั้น
ได้มีการจัดเรียงลำดับการลงทะเบียนไว้ทั้งหมดแล้ว จากที่ประชาชนมีที่ลงทะเบียนจองวัคซีนผ่านระบบต่าง
ๆ ไม่ว่าจะเป็น การจองผ่าน application หมอพร้อม
นครพนมพร้อม หรือบางคนโทรศัพท์ไปจองที่โรงพยาบาล ที่ รพ.สต. หรือบางคนเดินทางไปจองด้วยตนเอง
รวมไปถึงที่ อสม.ไปเคาะประตูบ้านสอบถาม ซึ่งในรอบ 7-11 มิถุนายน เป็นรอบของกลุ่มผู้สูงอายุ
และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน
AstraZeneca
มา 12,100 โดส โดยผู้ที่จะได้รับวัคซีนในรอบนี้จะได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ไปยังเจ้าตัวเพื่อให้เข้ารับวัคซีนในห้วงเวลาดังกล่าว
ส่วนผู้ที่เหลือจะได้รับการประสานเช่นเดียวกันเมื่อวัคซีนมาในรอบถัดไป
นอกจากนี้ในล๊อตนี้จังหวัดนครพนมยังได้รับการจัดสรรวัคซีน Sinovac มาเพิ่มเติมอีกจำนวน 920 โดส ดังนั้นในส่วนนี้จึงได้จัดสรรให้บุคลากรทางการศึกษาก่อน
เพราะมีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียน
โดยคาดว่าบุคลากรทางการศึกษาจะได้รับครบทุกคนที่มีการจองลงทะเบียนก่อนเปิดภาคเรียน
นายแพทย์มานพ
ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ขอยืนยันว่าทุกคนที่ลงทะเบียนเข้ามาไม่ว่าจะผ่านช่องทางใดจะได้รับวัคซีนอย่างแน่นอน
แม้กระทั่งกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สะดวกในการช่วยเหลือตนเอง ทางคณะกรรมการโรคติดต่อก็ได้มีการวางแผนการฉีดวัคซีนให้
ซึ่งจะต่างจากกลุ่มอื่น ๆ โดยแผนวางไว้คือ แผน drive cruise ที่เบื้องต้นได้มอบนโยบายให้แต่ละโรงพยาบาลประสานขอความร่วมมือไปยัง อบต.
และเทศบาลต่าง ๆ ที่มีรถฉุกเฉินอยู่แล้วในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงมารับบริการ
หรือให้ตรวจสอบว่าบ้านของผู้ป่วยติดเตียงบ้านไหนที่มีรถยนต์เป็นของตนเองและสะดวกจะเดินทางมารับบริการ
โดยจะให้ผู้ป่วยอยู่บนรถที่กล่าวมาข้างต้นตลอดเวลาที่มารับบริการ
ไม่ต้องเคลื่อนย้ายอะไรอีกแล้ว ยกตัวอย่างว่าในอำเภอเมืองนครพนม มีผู้ป่วยติดเตียง
100 คน เราจะกำหนดไว้ที่ 10 วัน ๆ ละ 10 คน ก็จะประสานให้ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงและพนักงานขับรถนำผู้ป่วยเข้ามาที่จุดฉีดวัคซีนที่จัดไว้ให้
เมื่อรับบริการเสร็จแล้วตามขั้นตอนกระบวนการทั้งหมด ก็สามารถกลับบ้านได้เลย
รถคันต่อมาก็จะวิ่งเข้ามาต่อตามลำดับการนัดหมาย ซึ่งตรงนี้เป็นนโยบายที่วางไว้ เพื่อที่จะให้แต่ละโรงพยาบาลไปคิดดูว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความสะดวกที่สุดและปลอดภัยที่สุดเมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีนมา
เนื่องจากเราไม่มีนโยบายให้บุคลากรลงพื้นที่ไปฉีดตามบ้าน เพราะไม่มีความปลอดภัย อีกทั้งการฉีดในแต่ละครั้งต้องมีทั้งทีมแพทย์ที่เฝ้าสังเกตุอาการ
เครื่องมือและอุปกรณ์ในการดูแลรักษาพยาบาล หากเกิดเหตุฉุกเฉินรวมถึงปัจจัยอื่น ๆ
อีก


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น