วันที่ 30 สิงหาคม 2564 ที่บริเวณหอประชุมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็น 1 ใน 12 สถานที่ที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมจัดให้เป็นสถานที่ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิดสำหรับประชาชน บรรยากาศยังคงเป็นไปด้วยความคึกคักของประชาชนที่เดินทางมารอรับวัคซีน โดยในวันนี้ทางโรงพยาบาลนครพนมได้นัดหมายให้ประชาชนกลุ่ม A608 ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่ม 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปเข้ารับวัคซีน จำนวน 1,459 คน ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ทั้งหมด โดยแพทย์และเจ้าหน้าที่ต้องมีการปรับแผนการฉีดวัคซีนใหม่เล็กน้อย เนื่องจากหลายคนที่มารับวัคซีนในวันนี้ยังคงมีความตื่นเต้นและส่งผลให้เวลาตรวจสุขภาพมีความดันเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหากเข้ารับวัคซีนทันทีจะเป็นอันตราย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงให้นั่งรอจนกว่าความดันจะปกติ พร้อมกับเลื่อนลำดับคนถัดไปที่มีความพร้อมเข้ารับการฉีดวัคซีนก่อน เพื่อไม่ให้เสียเวลารอสำหรับคนอื่น ๆ
โดยจากข้อมูลสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2564 เวลา 8.00 น. มีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่ไปแล้ว แบ่งเป็น กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่ม 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปที่มีการลงทะเบียนนครพนมพร้อมไว้ 32,878 คน ฉีดไปแล้ว 31,212 คน ส่วนกลุ่มประชาชน 18-59 ปี ที่ลงทะเบียนไว้ 65,275 คน ฉีดไปแล้ว 53,450 คน ขณะที่กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้ามีการลงทะเบียนฉีดครั้งแรกไว้ 15,287 คน แต่มีเปลี่ยนใจลงทะเบียนเพิ่ม ทำให้ปัจจุบันมีการฉีดไปแล้ว 22,200 คน โดยในภาพรวมทั้งหมดจังหวัดนครพนมมียอดสะสมการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 106,862 คน คิดเป็นร้อยละ 94.20 ของประชากรที่ลงทะเบียน แต่เมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมดจะอยู่ที่ร้อยละ 14.89 โดยวัคซีนที่ได้รับ ประกอบไปด้วย วัคซีน Sinovac 98,375 โดส AstraZeneca 62,637 โดส Sinopharm 634 โดส และ Pfizer 4,120 โดสวันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2564
วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2564
รมช.กระทรวงมหาดไทย มอบโฉนดที่ดินนำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชนชาวนครพนม
วันที่ 29 สิงหาคม 2564 ที่ศาลาการเปรียญ วัดโคกชาด หมู่ที่ 4 ตำบลหนองแวง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานมอบโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชน จำนวน 50 แปลง ตามโครงการมอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน ที่กรมที่ดินได้ดำเนินการเดินสำรวจ รังวัดทำแผนที่ เพื่อออกโฉนดที่ดินในพื้นที่จังหวัดนครพนม มุกดาหาร และจังหวัดสกลนคร ตามโครงการเดินสำรวจและรังวัดรูปแปลงโฉนดที่ดินให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ประจำปีงบประมาณ 2564 ทั้งเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน ลดปัญหาข้อโต้แย้งพิพาทเรื่องแนวเขตที่ดินของราษฎร ซึ่งดำเนินการโดยศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดนครพนม-มุกดาหาร-สกลนคร เป็นผู้รับผิดชอบมีเป้าหมายทั้งสิ้น 4,284 แปลง โดยใช้อัตรากำลังเจ้าหน้าที่สายสำรวจ จังหวัดนครพนม จำนวน 3 สายสำรวจจังหวัดมุกดาหาร 2 สายสำรวจ และจังหวัดสกลนคร 1 สายสำรวจ เข้าดำเนินการกระจายไปในแต่ละพื้นที่เป้าหมาย ด้วยการนำเทคโนโลยีการรังวัดระบบโครงข่ายการรังวัดด้วยดาวเทียมหาค่าพิกัดตำแหน่งที่ดินบนหลักเขตที่ดินมาใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อสร้างระบบแผนที่และการรังวัดรูปแปลงในโฉนดที่ดินให้มีความถูกต้องได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ราษฎรนำเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินโดยเป็นที่ดินที่ไม่มีหลักฐานสำคัญในที่ดินมาก่อน และได้มีการกันเขตป่าไม้ เขต สปก. รวมถึงตรวจสอบที่สาธารณะประโยชน์ชัดเจนแล้ว
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปัญหาที่ดินเป็นปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เพราะที่ดินคือต้นทุนที่สำคัญในการที่จะก่อให้เกิดการผลิต ก่อให้เกิดรายได้ในครัวเรือน ถ้าเราสามารถแก้ปัญหาการถือครองที่ดินได้ให้แก่ประชาชนได้ เราก็จะสามารถลดความเหลื่อมล้ำในสังคมนี้ได้ เพราะฉะนั้นการกระจายการถือครองที่ดินจึงเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นอีกหนึ่งนโยบายสำคัญที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการใช้ทรัพยากรที่ดินของชาติ เพราะเมื่อประชาชนสามารถสร้างผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้นได้ ก็มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามมา รัฐบาลก็จะสามารถเก็บภาษีจากพี่น้องประชาชนมาใช้ในการบริหารประเทศชาติได้ ซึ่งในอนาคตกรมที่ดินจะมีระบบการโอนที่ดินออนไลน์ที่มาเพิ่มความสะดวกสบายในการให้บริการประชาชน โดยจะเริ่มจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครก่อนเพราะมีความพร้อมในเรื่องระบบดาวเทียมที่ทั่วถึง สำหรับโครงการมอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน เป็นนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ที่มอบให้กรมที่ดินดำเนินการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินให้แก่พี่น้องประชาชน ในปี 2564 นี้มีการประกาศลงนามเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ 50 จังหวัด ซึ่งก็ต้องขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวจังหวัดนครพนม 2,000 กว่าท่านที่ได้รับโฉนดที่ดินในครั้งนี้ แต่ด้วยสภาวะการแพร่ระบาดของไวรัส covid ที่ต้องมีการรักษาระยะห่าง จึงได้ให้มีการจัดตัวแทนมารับมอบเพียง 50 แปลงเท่านั้นในวันนี้วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2564
นครพนม พบผู้ป่วยโควิดน้อย รักษาหายเยอะ คาด 2 สัปดาห์ปิดโรงพยาบาลสนามได้
วันที่ 27 สิงหาคม 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดของประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 31 ของโลก ในส่วนของจังหวัดนครพนมวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 26 ราย เป็นผู้ป่วยที่มาจากพื้นที่เสี่ยง 17 ราย ผู้ป่วยในพื้นที่ 9 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 4,428 ราย รักษาหาย 3,595 ราย กำลังรักษาอยู่ 814 รายและเสียชีวิตสะสม 19 ราย ซึ่งจะเห็นได้ว่าสัดส่วนผู้ที่รักษาหายได้กลับบ้านมีปริมาณที่มากกว่าการพบผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน จึงถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะนั้นหมายถึงจังหวัดของเราประสบผลสำเร็จในการดูแลและเฝ้าระวังป้องกัน ทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมคลายความกังวลไปได้มาก แต่อีกส่วนที่ต้องตระหนักและเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในแต่ละพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ คือการติดเชื้อในพื้นที่หมู่บ้านชุมชน ดังนั้นในส่วนนี้จึงได้มีการจัดตั้งชุดปฏิบัติการหมู่บ้าน เพื่อเข้าไปดูแล สอดส่อง ติดตามข้อมูลข่าวสารพี่น้องประชาชนที่กลับมาแล้วให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดไม่ให้มีหลุดรอดหรือฝ่าฝืนกฎระเบียบได้ โดยปัจจุบันจังหวัดนครพนมได้มีคำสั่งข้อปฏิบัติสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในจังหวัดนครพนม แบ่งเป็นมาตรการจังหวัดสีแดง 61 จังหวัดและจังหวัดสีเหลือง 15 จังหวัด ฉะนั้นจึงอยากให้ทุกคนที่จะเข้ามาศึกษาให้ดีเพราะไม่อยากให้เกิดการแพร่ระบาดในพื้นที่
วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2564
ผวจ.นครพนม นำทีมติดตามความคืบหน้าการดำเนินมาตรการแก้ปัญหาคลัสเตอร์พนักงานขนส่งสินค้าเข้า - ออก หรือผ่านเขตพื้นที่
วันที่ 26 สิงหาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายพรต ภูภักดิ์ ปลัดจังหวัดนครพนม และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามมาตรการในการแก้ไขปัญหาที่บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ 3 นครพนม-คำม่วน คลังตรวจสินค้า R8 ด่านศุลกากรนครพนม หลังมีการตรวจพบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ โดยช่องทางจุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพ 3 และกระจายไปสู่ชุมชนทำให้คนในพื้นที่จังหวัดนครพนมติดเชื้อโควิด และจังหวัดนครพนมได้มีคำสั่งที่ 2039/2564 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2564 เรื่องมาตรการการขนส่งสินค้าเข้า – ออกหรือผ่านเขตพื้นที่จังหวัดนครพนม ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เนื่องจากการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวยังเกิดปัญหาในแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน จากนั้นได้ร่วมประชุมหารือทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเพื่อสร้างความเข้าใจในมาตรการขนส่งสินค้าที่ชัดเจนร่วมกัน
โดยในส่วนต่าง ๆ ที่มีการลงพื้นที่ตรวจได้มีการดำเนินการไปแล้วเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงการปรับปรุงสถานที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ พนักงานขนส่ง และพนักงานขนถ่ายสินค้ามีความปลอดภัยไม่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิดระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ในส่วนของการหารือในที่ประชุมยังคงให้ใช้มาตรการเดิมคือก่อนเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดนครพนม พนักงานขับรถขนส่งสินค้าและคนประจำรถขนส่งสินค้าทุกคน จะต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโควิดจากจังหวัดต้นทางที่เป็นที่ตั้งของผู้ประกอบการ หรือจังหวัดต้นทางที่ส่งสินค้า ทั้งนี้ กรณีตรวจโดยวิธี Antigen Test Kit (ATK) ต้องมีผลเป็นลบไม่เกิน 48 ชั่วโมง หรือกรณีตรวจโดยวิธี RT- PCR ต้องให้ผลเป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมง สำหรับแผนและมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในพนักงานบริษัท พนักงานขับรถขนส่งสินค้าและบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทางจังหวัดนครพนมขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการทุกบริษัทเพิ่มเติมในส่วนของการเฝ้าระวังพนักงานที่มีการจอดรถตามรายทางให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วย เพราะปัจจุบันมีโอกาสที่จะไปสัมผัสกับเชื้อในระหว่างการเดินทางได้ ส่วนการฉีดวัคซีนนั้นได้ขอให้ทางสาธารณสุขจังหวัดนครพนมพิจารณาเพิ่มเติมบุคคลากรกลุ่มนี้เข้าไปจัดลำดับการรับวัคซีนในระดับต้น ๆ ด้วย เพราะถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดและประเทศให้มีการเจริญเติบโต ซึ่งจากข้อมูลพบว่าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเช่นนี้มีการนำเข้า-ส่งออกนับแสนล้านบาท ณ จุดผ่านแดนแห่งนี้ โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะมีการจัดระเบียบลานตู้คอนเทนเนอร์ที่มีอยู่ในพื้นที่ทั้งหมดให้มีความชัดเจนเป็นระบบ ตามระเบียบกฎหมาย ภายใต้การกำกับดูแลของท้องถิ่นวันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2564
ผวจ.นครพนม นำทีมตรวจเชิงรุกและสร้างความเข้าใจให้ชุมชน หลังพบกลุ่มพนักงานขนถ่ายสินค้าติดโควิด
วันที่ 25 สิงหาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ครั้งที่ 92/2564 นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายกิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด ในชุมชน ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit ( ATK) หลังได้รับรายงานในที่ประชุมว่ามีกลุ่มพนักงานขนถ่ายสินค้าของศูนย์กระจายสินค้าในเขตเศรษฐกิจพิเศษติดเชื้อโควิดเพิ่มเติมจากที่ก่อนหน้านี้มีกลุ่มพนักงานขับรถบรรทุกติดเชื้อ ซึ่งได้มีการสั่งปิดหมู่บ้านไปแล้ว 3 หมู่บ้าน
โดยวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่เร่งตรวจคัดกรองประชาชนในพื้นที่เสี่ยงของอำเภอเมืองนครพนมให้ครบทุกราย ประกอบไปด้วย 4 จุดใหญ่ คือ บ้านโพนค้อ หมู่ที่ 10 ตำบลคำเตย บ้านหนองยาว หมู่ 11 ตำบลคำเตย บ้านโชคอำนวย หมู่ 3 ตำบลวังตามัว และบ้านขามเฒ่า หมู่ 2 ตำบลขามเฒ่า เบื้องต้นทั้ง 4 หมู่บ้านทางอำเภอเมืองนครพนมได้มีคำสั่งปิดหมู่บ้านเป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกัน และให้ทุกคนได้กักตัวสังเกตอาการตัวเอง ซึ่งหลังจากนี้อีกประมาณ 5- 7 วัน จะมีการตรวจคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อโควิดในชุมชนซ้ำอีกครั้ง เพื่อเป็นการยืนยันว่าทุกคนปลอดภัยไม่มีเชื้อ โดยระหว่างการตรวจคัดกรองก็จะมีการสร้างขวัญกำลังใจ สร้างความเข้าใจให้กับคนในชุมชน ทั้งในเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ขั้นตอนการปฏิบัติตัว การสังเกตอาการของตนเองและคนในครอบครัว ช่องทางการติดต่อหากมีอาการหรือมีข้อสงสัยทำให้ทุกคนไม่ให้เกิดความตระหนกมากจนเกินไป และทำให้ทุกคนได้เข้าใจถึงขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานและมาตรการด้านสาธารณสุขวันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564
โคก หนอง นา ทางรอดแบบพอเพียง
วันที่ 24 สิงหาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม นางพินใจ สุพร เกษตรกรบ้านดอนกลาง หมูที่ 6 ตำบลหนองแวง อำเภอบ้านแพง เปิดเผยว่า ตนเองและสามีมีเนื้อที่อยู่ 21 ไร่ ซึ่งแต่ก่อนทำนาอย่างเดียว เมื่อถึงฤดูแล้งที่ไม่มีน้ำก็ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ทำอะไร แต่จะหันไปรับจ้างก่อสร้างแทน ซึ่งรายได้ของครอบครัวส่วนใหญ่มาจากการขายข้าวที่เหลือจากเก็บไว้รับประทาน ก็จะเหลือแค่ทุนอยู่ประมาณปีละ 2-3 หมื่นบาท และตนเองก็เคยคิดไว้ว่าถ้ามีทุนจะขุดคลองรอบที่นา เพราะอยากทำแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจากการศึกษาและการไปดูงานตามที่ต่างๆ จะต้องมีคันคูรอบที่นาเพื่อไม่ให้น้ำจากที่อื่นเข้ามาได้ ประจวบเหมาะกับที่มีโครงการ โคก หนอง นา ของผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ที่ทางเกษตรอำเภอได้ออกมาสอบถามว่าใครสนใจ ก็ได้ตอบตกลงไปในทันทีโดยไม่ให้คิดอะไรมากมาย
จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่พัฒนาที่ดิน เจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นเข้ามาสอบถามว่าตนเองต้องการให้ทำแบบไหนอย่างไร ก็ได้ชี้แจงไป กระทั่งเดือนเมษายนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้ามาขุดสระ ขุดคลองไส้ไก่ และนำดินที่ขุดขึ้นมาทำคันคูให้จนแล้วเสร็จ จากนั้นตนเองก็เริ่มปลูกพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่มีอยู่ ที่ปลูกใหม่ก็จะมี เงาะ ลิ้นจี่ ขนุน มะพร้าว ลำไย และกล้วยน้ำหว้า รวมถึงไม้เศรษฐกิจ เช่น ประดู่ มะค่า ยางนา ซึ่งพันธุ์ไม้ที่นำมาปลูกมีหลากหลายอย่างเพราะมีทั้งที่หน่วยงานราชการให้มา ตนเองซื้อมาและขอจากเพื่อนบ้านมาได้ ปัจจุบันก็เป็นรูปเป็นร่างแล้ว จึงคิดว่าแผนที่วางไว้น่าจะอยู่ได้ตลอดทั้งปี เพราะสระน้ำที่ได้มีความลึกประมาณ 5 เมตร น้ำก็เต็มสระนั่นหมายถึงตลอดทั้งปีจะมีน้ำหล่อเลี้ยงแปลงเกษตรแห่งนี้ ที่สำคัญคือพอมีน้ำก็มีปลามาอาศัย ทั้งจากที่ตนเองปล่อยเลี้ยงไว้และมาจากที่อื่น ซึ่งคาดว่าหลายปีผ่านไปน่าจะมีปลากมากขึ้นกว่าเดิม เพราะอย่างในปีนี้ที่เพิ่งขุดสระไม่นานก็มีปลามาให้เห็นแล้ว เป็นปลาลูกคอกประมาณ 4-5 กลุ่ม ส่วนการใช้น้ำที่มีก็เตรียมที่จะหาระบบพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในการสูบน้ำรดต้นไม้ที่ปลูก เป็นการทุ่นแรงงานและทำให้ต้นไม้ที่ปลูกได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอ สำหรับที่นาแปลงนี้คิดไว้ว่าจะทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์ จึงพยายามปลูกให้มีพืชทุกอย่างที่เราอยากกิน เพื่อจะได้ไม่ต้องไปหาซื้อที่อื่น และถ้ามีมากเพียงพอก็จะเปิดให้คนเข้ามาเยี่ยมชม ใครสนใจสินค้าเกษตรตัวไหน ก็สามารถเลือกเก็บได้ด้วยตนเองจากแปลงเกษตรนี้แล้วค่อยมาจ่ายเงินรวมทีเดียวเลย ส่วนตอนนี้ตนเองและสามี มีรายได้จากการขายหมู เป็ดและไก่ โดยในอนาคตระยะสั่นที่กำลังจะเกิดขึ้นคือการเก็บพืชผักไปตั้งแผงขายในหมู่บ้าน โดยจะทำในลักษณะร้านค้าขายผักที่มีทุกอย่างให้ทุกคนจับจ่ายซื้อหาในจุดเดียว ไม่ว่าจะเป็น พริก มะเขือ ฟักแพง แตงกวา หอม ตะไคร้ ใบมะกูด มะนาว ซึ่งจะเก็บไปขายทุกวันได้แค่วันละ 200-300 ก็เพียงพอแล้วไม่ต้องเป็นหมื่นเป็นแสน เพราะเท่านี้ก็อยู่อย่างสบายเนื่องจากมีทุกอย่างให้ได้เก็บมารับประทานในครัวเรือนหมุนเวียนไปเรื่อยวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2564
นครพนม เตรียมสร้างตลาดสีฟ้าตรวจ ATK คนขาย เพิ่มความมั่นใจคนซื้อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
วันที่ 22 สิงหาคม 2564 ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และนายนพดล จอมเพชร นายอำเภอเมืองนครพนม ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในพื้นที่ ซึ่งวันนี้มีผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม ขึ้น 25 ราย ทั้งหมดเป็นผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมกลายเป็น 4,196 ราย มีการรักษาหายแล้ว 3,174 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,006 ราย และเสียชีวิตสะสม 16 ราย
สำหรับสถานการณ์โดยรวมมีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่และทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมได้ดำเนินการแก้ไขและมีการถอดบทเรียนสร้างแนวป้องกันให้มีความปลอดภัยสำหรับประชาชนมากยิ่งขึ้น เช่นกรณีเหตุการณ์การแพร่ระบาดในหมู่รถบรรทุกภายหลังการดำเนินการจนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทางจังหวัดก็ได้มีการออกมาตรการสำหรับรถบรรทุกขนส่งสินค้าเข้า-ออก หรือผ่านเขตพื้นที่จังหวัดนครพนม คือบริษัทต้องมีการตรวจคัดกรองพนักงานขับรถและผู้ติดตามตั้งแต่ต้นทาง มีมาตรการเฝ้าระวังพนักงานของตนเอง ทุกราย เมื่อมาถึงนครพนมต้องมีการตรวจคัดกรองจาก 4 ด่านหลักอีกครั้ง มีการตรวจเอกสารที่ด่านเข้าออกมีมาตรการระหว่างรอส่งของที่ต้องมีการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด มีมาตรการเฝ้าระวังในกลุ่มพนักงานขับรถบรรทุกที่อยู่ในพื้นที่นครพนม ส่วนกรณีที่มีคำสั่งปิด 3 ตลาดเพื่อการตรวจค้นหาเชิงรุกภายหลังการพบผู้ติดเชื้อนั้น หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าทำไมถึงต้องปล่อยเวลาออกไปอีก 1 วัน จึงมีคำสั่งปิดตลาด ซึ่งทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมได้ชี้แจงว่า ที่ต้องปล่อยออกไปอีก 1 วันก่อนสั่งปิด เพราะพ่อค้าแม่ค้าได้มีการซซื้อสินค้าที่เป็นประเภทอาหารสดมาจำหน่ายแล้วหากไม่ได้จำหน่ายจะได้รับความเสียหายจำนวนมาก แต่ก็ได้ยืนยันให้ประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อหาได้มั่นใจว่าจะไม่มีการแพร่ระบาดอย่างแน่นอน เพราะกลุ่มผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงสูงทั้งหมดเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปรักษาและกักตัวหมดแล้ว ซึ่งหลังมีคำสั่งปิดตลาดก็ให้ผู้รับผิดชอบตลาดดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดทั้งหมด โดยหลังจากนี้ทางจังหวัดก็ได้เตรียมสร้างมาตรการตลาดสีฟ้าออกมา เพื่อการันตีและสร้างความมั่นใจให้ประชาชนที่จะมาจับจ่ายซื้อหาสินค้าว่าจะมีความปลอดภัยห่างไกลจากไวรัสโควิด โดยจะให้ผู้ที่มาจำหน่ายสินค้าตรวจ ATK ทุกรายในตลาดสด ตลาดนัด ตลาดค้าส่งที่มีความเสี่ยง และจะมีการสุ่มตรวจเป็นระยะตามวงรอบ เช่นเดียวกับสถานที่ขนส่ง/ขนส่งสาธารณะทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และแคมป์คนงานก่อสร้าง เนื่องจากถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาด ทั้งยังเป็นสถานที่สำคัญที่ช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัด ขณะเดียวก็มีกรณีเหตุการณ์ที่จะต้องมีการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจพบบุคคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงาน Cohort ward ดูแลผู้ป่วยโควิด ที่เคยป่วยเป็นผู้ติดเชื้อโควิดที่มีการรักษาหายแล้ว กลับมาตรวจพบเชื้ออีกครั้ง แม้จะมีการเข้ารับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว โดยเป็นวัคซีน Sinovac และ Pfizer ซึ่งการตรวจพบในครั้งนี้เป็นการรีเช็คตามวงรอบสำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ว่าเป็นเชื้อตายเดิมที่กลับมาใหม่ หรือเป็นการติดเชื้อใหม่จากการปฏิบัติหน้าที่วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2564
จ.นครพนม เรียกผู้เกี่ยวข้องประชุมด่วน หาแนวทางป้องกันโควิดจากเหตุการณ์คลัสเตอร์รถบรรทุก ซ้ำสอง
วันที่ 17 สิงหาคม 2564 ที่ห้องประชุมด่านศุลกากรนครพนม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้มีการเชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการนำเข้า -ส่งออก ผ่านจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม - คำม่วน) ทั้งหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ร่วมกันหารือถึงแนวทางและมาตรการในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 เนื่องจากที่ผ่านมาพบมีผู้ติดเชื้อและกลายเป็นคลัสเตอร์รถบรรทุกขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ จำนวน 21ราย และทางจังหวัดต้องมีคำสั่งที่ 2002/ 2564 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ปิดบ้านสำราญเหนือ หมู่ที่ 2 และบ้านห้อม หมู่ที่ 11 ตำบลอาจสามารถ เป็นการชั่วคราว เพื่อสืบสวนสอบสวนโรคและควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งจากข้อมูลพบว่ามีผู้ประกอบการขนส่งระหว่างประเทศรายหนึ่ง มีการใช้เอกสารอันเป็นเท็จที่ได้จากแล็ปเฮาท์แห่งหนึ่ง เพื่อยืนยันเกี่ยวกับพนักงานขับรถขนส่งสินค้าและคนประจำรถขนส่งสินค้าที่นำสินค้ามาจากต้นทางซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเข้มเพื่อส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ว่าได้ผ่านการตรวจคัดกรองโรคแล้วแต่มีการติดเชื้อ จึงส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มรถบรรทุกและคนในพื้นที่ ซึ่งเบื้องต้นทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ได้มีคำสั่งให้สถานประกอบการดังกล่าวหยุดดำเนินการขนส่งสินค้าในทันที และเพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการรายอื่นได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปด้วย จึงได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมหารือแนวทางและวางมาตรการในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ร่วมกัน
โดยในที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่วมกันในมาตรการเบื้องต้น คือก่อนเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดนครพนม พนักงานขับรถขนส่งสินค้าและคนประจำรถขนส่งสินค้าทุกคน จะต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัวโควิด - 19 จากจังหวัดต้นทางที่เป็นที่ตั้งของผู้ประกอบการ หรือจังหวัดต้นทางที่ส่งสินค้า ทั้งนี้ กรณีตรวจโดยวิธี Antigen Test Kit (ATK) ต้องมีผลเป็นลบไม่เกิน 48 ชั่วโมง หรือกรณีตรวจโดยวิธี RT- PCR ต้องให้ผลเป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมง รวมถึงให้ผู้ประกอบการทุกบริษัทจัดทำแผนและกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพนักงานบริษัท คนขับรถขนส่งสินค้าและบุคคลอื่น ๆ ส่งให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนมเพื่อรวบรวมส่งให้กับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม โดยหลังจากนี้จะมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สุ่มตรวจการดำเนินการตามมาตรตการเป็นระยะ ๆ เพื่อเป็นการเฝ้าระวังการเกิดเหตุซ้ำในอนาคตUNICEF สนับสนุนวัสดุการแพทย์วินิจฉัยและอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPEs)โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดนครพนม
วันที่ 17 สิงหาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม
ดร. บารเมษฐ์ ภิราล้ำ ผู้จัดการโครงการหน่วยคุ้มครองสุขภาพโลกจังหวัดนครพนม
เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องปฏิบัติหน้าที่เพิ่มมากขึ้น
ส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์จำนวนมากมาสนับสนุนด้วยเช่นเดียวกัน
ซึ่งตั้งแต่เริ่มพบผู้ติดเชื้อในจังหวัดนครพนม ทางหน่วยคุ้มครองสุขภาพโลกจังหวัดนครพนม
(Division of Global
Health Protection : DGHP) ก็ได้มีการสนับสนุนวัสดุทางห้องปฏิบัติการและนักเทคนิคการแพทย์เพื่อร่วมตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด
-19 ด้วยวิธีการ RT PCR มาอย่างต่อเนื่อง
และจากสถานการณ์ปัจจุบันที่ในแต่ละวันยังคงพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้ออยู่
ดร. เบท สเกต หน้าหน้าแผนกห้องปฏิบัติการ DGHP
ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ด้านสาธารณสุข จึงได้มีการประสานขอการสนับสนุนวัสดุการแพทย์วินิจฉัยและอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล
(PPEs) เพิ่มเติมจากองค์กรทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) เพื่อมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ และเมื่อวันที่
16 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมาก็ได้รับการจัดสรรวัสดุและอุปกรณ์มาให้ จึงได้ร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่หน่วยคุ้มครองสุขภาพโลกจังหวัดนครพนม
(DGHP NP) เป็นตัวแทนหน่วยคุ้มครองสุขภาพโลก (Division
of Global Health Protection : DGHP) ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ
ด้านสาธารณสุข และ UNICEF ส่งมอบให้กับโรงพยาบาลนครพนมเพื่อใช้ในการดำเนินงานป้องกันและควบคุมไวรัสโควิด
– 19 ซึ่งประกอบไปด้วย ชุดตรวจหาเชื้อวรัสโคโรนา 2019
สำหรับเครื่อง GeneXpert จำนวน 250 ชุด
ชุดกราวน์ จำนวน 110
ชุด หน้ากาก N95 จำนวน 350 ชิ้น หน้ากากอนามัย จำนวน 40
กล่อง ถุงมือไนไตร จำนวน 70 กล่อง โดยมีนายแพทย์สมโภช ธีระตระกูลสุข
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม นายวิชิต เหล่าวัฒนาถาวร ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านบริหารการเงิน
และนางชิดชนก พรหมคง หัวหน้างานพยาธิวิทยาเป็นตัวแทนรับมอบ นอกจากนี้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยชุดกราวน์
จำนวน 220 ชุด หน้ากาก N95 จำนวน 450 ชิ้น หน้ากากอนามัย จำนวน
60 กล่อง ก็ได้นำไปส่งมอบให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม
โรงพยาบาลศรีสงคราม และโรงพยาบาลวังยางให้ได้ใช้ด้วยเช่นเดียวกัน
สภาสังคมสงเคราะห์ จัดกิจกรรมน้ำพระทัยพระราชทานส่วนภูมิภาค ส่งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัยโควิดนครพนม
วันที่ 17 สิงหาคม 2564 ที่บริเวณหอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางฉวีวรรณ ธรรมชาติ ประธานชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดนครพนม ตลอดจนคณะหัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมส่งมอบเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 98 ชุดให้กับผู้นำชุมชนซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ตกงาน ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ประสบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนและผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ในจังหวัดนครพนม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ภายใต้กิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทานส่วนภูมิภาค สภาสังคมสงเคราะห์ฯ 76 จังหวัด ประจำปี 2564 เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ร่วมกับจังหวัดนครพนม จัดขึ้น โดยการสนับสนุนจากโครงการสลากการกุศล
โดยกิจกรรมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ. 2541 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ศาสตราจารย์ประภาศน์ อวยชัย ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ ในขณะนั้นนำคณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายเงินรายได้จากการจำหน่ายดอกมะลิงานวันแม่แห่งชาติ จำนวน 2 ล้านบาท และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินจำนวนดังกล่าวคืนให้สภาสังคมสงเคราะห์ฯ พร้อมทั้งได้มีพระราชเสาวนีย์ให้จัดตั้งกองทุนอาหารกลางวันเลี้ยงผู้ตกยาก ผู้ประสบทุกข์ยากเดือดร้อน รวมทั้งครอบครัวในภาวะวิกฤต โดยสภาสังคมสงเคราะห์ได้น้อมเกล้าฯ รับพระราชเสาวนีย์มาดำเนินการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินส่วนพระองค์ จำนวนกว่า 15 ล้านบาท สนับสนุนโครงการและทรงพระกรุณาให้ราชเลขานุการในพระองค์ฯ เยี่ยมเยียนโครงการอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ยังได้พระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคให้โครงการตลอดมาเช่นกัน โดยปีนี้เป็นปีที่ 23 ที่มีการจัดกิจกรรมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย ทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้ทุกคนได้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2564
จิตอาสานครพนม รวมใจสร้างศูนย์สมุนไพรและป่าชุมชนเฉลิมพระเกียรติฯ
วันที่ 16 สิงหาคม 2564 ที่บริเวณบ้านนาราชควาย หมู่ที่ 11 อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะประชาชนจิตอาสาร่วมทำกิจกรรม จิตอาสาพัฒนาชุมชนเฉลิมพระเกียรติ ต้านภัยโควิด – 19 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม ด้วยการร่วมกันปลูกพืชสมุนไพรและไม้ยืนต้นบริเวณพื้นที่สาธารณประโยชน์โดยรอบห้วยคำหมากแปป
นายอดิศักดิ์ โพนชัยยา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 เปิดเผยว่า ห้วยหมากแปปเป็นแหล่งน้ำของชุมชนที่ใช้ในการอุปโภคและการเกษตรอยู่ติดกับที่สาธารณประโยชน์ของบ้านนาราชควาย หมู่ที่ 11 มีเนื้อที่รวมกันประมาณ 10 ไร่ ซึ่งก่อนหน้านี้ห้วยมีความตื้นเขินตามกาลเวลาและทางอำเภอเมืองนครพนมได้เห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้มีการจัดสรรงบประมาณมาขุดลอกให้ห้วยกลับมากักเก็บน้ำได้อีกครั้ง โดยดินที่ขุดขึ้นมาก็ได้นำมาปรับพื้นที่สาธารณประโยชน์ที่เดิมเป็นหลุมเป็นบ่อให้เท่ากัน ทำให้ทุกเห็นว่าพื้นที่ตรงนี้น่าจะสร้างประโยชน์สำหรับชุมชนได้มากกว่าการปล่อยทิ้งร้างไว้ จึงได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ วางแผนเพื่อพัฒนาและนำมาสู่กิจกรรมในครั้งนี้ โดยพื้นที่สาธารณประโยชน์ส่วนหนึ่งมีการปลูกไม้ยืนต้นที่ในอนาคตจะกลายเป็นผืนป่าที่ให้ทั้งความชุ่มชื้นและร่มเงาสำหรับคนชุมชน ซึ่งการปลูกก็ได้ออกแบบให้มีลักษณะเป็นเลข 89 ที่เท่ากับพระชนมายุของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในปีนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติของพระองค์ท่าน โดยพันธุ์ไม้แต่ละชนิดได้รับการสนับสนุนจากสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดนครพนม ขณะที่อีกด้านของพื้นที่จะสร้างให้เป็นศูนย์สมุนไพรที่พร้อมให้ทุกคนได้เข้ามาศึกษาและเรียนรู้ โดยแปลงสมุนไพรที่ว่าได้ร่วมกันออกแบบให้เป็นเลข 10 ที่หมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมีกรอบสี่เหลี่ยมล้อมรอบ ที่หมายถึงประชาชนในชุมชนทั้ง 4 ทิศ ที่พร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริของพระองค์ท่านมาสืบสาน รักษาและต่อยอดเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของคนในชุมชนและทำให้พื้นที่ตรงนี้กลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่มีองค์ความรู้สำหรับทุกคนที่สนใจในเรื่องของสมุนไพรพื้นบ้าน โดยเฉพาะช่วงนี้ที่กำลังเป็นที่กระแสนิยมของผู้ป่วยโควิด ไม่ว่าจะเป็น ฟ้าทลายโจร ขิง ข่า ตระไคร้ ขมิ้นชัน กระชายขาว หอมแดง กระเทียมและพืชชนิดอื่น ๆ อีก ซึ่งในส่วนนี้ประชาชนในชุมชนแต่ละคนจะเลือกเอาสมุนไพรที่มีอยู่ในบ้านของตนเอง หรือสมุนไพรหายากที่อยากจะอนุรักษ์เอาไว้ มาร่วมกันปลูกไปพร้อมๆ กับการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน โดยแต่ละวันหลังจากนี้ จะมีตัวแทนคุ้มของคนในหมู่บ้านผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมารดน้ำ ดูแลพืชสมุนไพรและต้นไม้เหล่านี้ให้เจริญงอกงามวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2564
นครพนม พบผู้ป่วยเพิ่ม 94 ราย พร้อมไขข้อสงสัยของประชาชนในคลัสเตอร์รถบรรทุก และวัคซีน Pfizer
วันที่ 13 สิงหาคม 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม พันโทนายแพทย์รวิศ สุวรรณแสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายพระยอดเมืองขวาง ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดของจังหวัดนครพนมที่ในวันนี้มีผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้น 94 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้มียอดสะสมผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 3,637 ราย รักษาหายแล้ว 2,118 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,504 ราย และเสียชีวิตสะสมรวม 15 ราย
โดยสถานการณ์จำนวนเตียงรักษาผู้ป่วยโควิดของจังหวัดนครพนม มีความสมดุลใกล้เคียงกันระหว่างผู้ป่วยที่รักษาหายและจำนวนผู้ป่วยที่ครองเตียง คือมีผู้ใช้เตียงรักษาอยู่ที่ 1,504 เตียง ขณะที่มีเตียงรักษาเหลือ 1,094 เตียง ส่วนการฉีดวัคซีนนั้นปัจจุบันดำเนินการไปแล้วทั้งสิ้น 109,295 dose โดยในจำนวนนี้มีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด้านหน้าได้รับวัคซีนบูธ เป็นวัคซีน Pfizer จำนวน 3,165 ราย พร้อมทั้งได้ตอบข้อสงสัยของประชาชนเกี่ยวกับที่มีทหารยศสิบโทที่ได้รับวัคซีน Pfizer ว่า เนื่องจากเป็นบุคคลากรด่านหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่นายสิบพยาบาลที่โรงพยาบาลค่ายพระยอดเมืองขวาง ต้องดูและพลทหารใหม่ที่เข้ามาประจำการที่มาจากหลากหลายพื้นที่ รวมถึงขับรถพยาบาลรับและส่งผู้ป่วยโควิดของโรงพยาบาลค่ายด้วย ดังนั้นจึงได้รับการจัดสรรวัคซีนเช่นเดียวกับบุคลากรท่านอื่นๆ แต่เนื่องจากมีการโพสต์รูปภาพและข้อความเล็กน้อยในสื่อโซเชียล แต่ไม่ได้อธิบายถึงการปฏิบัติหน้าที่จึงทำให้ประชาชนมีข้อสงสัย ดังนั้นในส่วนนี้ทางจังหวัดจึงได้มีการชี้แจงถึงรายละเอียดในส่วนนี้ รวมทั้งได้มีการกำชับไปยังบุคลากรที่ได้รับวัคซีน Pfizer ทุกท่านว่าหากจะมีการโพสต์ในลักษณะนี้ขอให้ชี้แจงรายละเอียดการปฏิบัติหน้าที่ด้วย จะทำให้ประชาชนที่พบเห็นได้เกิดความกระจ่าง ซึ่งทางสาธารณสุขจังหวัดนครพนมยืนยันว่าในการจัดสรรวัคซีน Pfizer นั้นมีความโปร่งใสอย่างแน่นอน ไม่มีการจัดสรรให้ VIP แต่อย่างใด ส่วนกรณีคลัสเตอร์รถบรรทุกนั้น ปัจจุบันมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อแล้วทั้งสิ้น 21 ราย โดยจังหวัดได้มีคำสั่งปิดหมู่บ้านในตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนมไปแล้ว 2 หมู่บ้าน คือหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 11 บางส่วน เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนโรค โดยสาเหตุของเคสนี้เริ่มต้นจากสถานีจอดรถชิปปิ้ง จากนั้นแพร่ระบาดต่อไปยังอู่ซ่อมรถ และคนในหน่วยงานราชการ ซึ่งทั้งหมดได้รับการตรวจหาเชื้อหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลตรวจยืนยันรอบ 2 ว่าจะมีผู้ติดเพิ่มอีกหรือไม่ ในส่วนของการสืบสวนโรคที่ได้รับแจ้งว่าพนักงานขับรถมีการซื้อผลตรวจจากแล็ปเฮาท์มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ ซึ่งถ้ามีความคืบหน้าจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง และจากการวิเคราะห์สถาณการณ์ในส่วนของคัตเตอร์รถบรรทุกนั้น มีโอกาสเกิดขึ้นได้อีก ดังนั้นจึงได้วางมาตรการใหม่ โดยเบื้องต้นให้ปิดสถานีจอดรถชิปปิ้งที่เกิดเหตุไปแล้ว รวมทั้งมีการวางมาตรการให้บริษัทมีการตรวจหาเชื้อพนักงานขับรถตั้งแต่ต้นทาง นอกจากนี้ยังให้บริษัทมีมาตรการควบคุมการขับรถ หรือกิจกรรมต่างๆ ของพนักงานขับรถให้มีความเป็นมาตรฐานมากยิ่งขึ้นวันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2564
นครพนม บูรณาการความร่วมมือขับเคลื่อน โคก หนอง นา สร้างความรู้สู่ประชาชนผ่านสื่อกรมประชาสัมพันธ์
วันที่ 11 สิงหาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม พร้อมด้วย สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดนครพนม สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือในการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์สู่การปฏิบัติในรูปแบบ โคก หนอง นา โดยมี นางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และนางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ร่วมเป็นประธานผ่านระบบออนไลน์
โดยบันทึกการลงนามในครั้งนี้นอกจากจังหวัดนครพนมแล้ว ยังมีประชาสัมพันธ์จังหวัด และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือในการที่จะร่วมกันผลิตและเผยแพร่ สารคดีวิทยุ จัดทำข่าว สกู๊ปข่าวโทรทัศน์ และรายการโทรทัศน์ เพื่อนำมาประชาสัมพันธ์ถ่ายทอดความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ โคก หนอง นา ให้กับประชาชนในพื้นที่ผ่านช่องทางสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนได้ผ่านพ้นวิกฤตจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีได้น้อมนำพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปฏิบัติ โดยได้อนุมัติงบประมาณให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการ ผ่านกรมพัฒนาชุมชน เพื่อขับเคลื่อนพื้นที่ พัฒนาต้นแบบตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่การปฏิบัติในรูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล ซึ่งมีหลากหลาย ทั้งการบริหารจัดการดิน การบริหารจัดการน้ำ การดูแลป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มาเรียนรู้และนำไปปรับใช้กับพื้นที่ของตนเอง ก่อเกิดภูมิคุ้มกันในทุกครัวเรือน บนพื้นฐานขององค์ความรู้และสามารถในการปรับตัวในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข รวมทั้งเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน ผ่านการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับเกษตรกร แรงงาน บัณฑิตจบใหม่ และแรงงานที่อพยพกับหมู่บ้านชุมชน หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดวันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2564
จ.นครพนม ประกอบพิธีปล่อยปลา 500,090 ตัว ถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
วันที่ 10 สิงหาคม 2564 ที่บริเวณแหล่งน้ำหนองสิม บ้านปฏิรูป หมูที่ 9 ตำบลศรีสงคราม อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันประกอบพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประจำปี 2564 ที่สำนักงานประมงจังหวัดนครพนม ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดจังหวัดนครพนม และองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสงครามจัดขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเป็นการสร้างจิตสำนึกให้ทุกคนมีความรัก ความหวงแหนในแหล่งน้ำของชุมชน ร่วมกันฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ให้มีความอุดมสมบูรณ์ มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สามารถหล่อเลี่ยงชีวิตทุกคนต่อไปได้ตราบนานเท่านาน และเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและชาวจังหวัดนครพนม ดังจะเห็นได้จากพระราชกรณียกิจนานัปการ ที่พระองค์ท่านทรงอุทิศพระวรกาย พระปัญญาและพระราชทรัพย์เพื่อให้พสกนิกรผู้ยากไร้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
โดยพระราชกรณียกิจที่สำคัญที่ได้ขยายเป็นวงกว้างไปยังทุกพื้นที่ในประเทศไทย คือ โครงการศูนย์ศิลปาชีพในพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมอาชีพให้ราษฎร โดยเฉพาะชาวนาในท้องถิ่นชนบทได้ทำอาชีพเสริม โดยใช้เวลาว่างจากการทำนา ทำไร่ มาทำงานศิลปาชีพ จนราษฎรเหล่านั้นมีความรู้ความสามารถในงานผลิตงานศิลปหัตถกรรมเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและระดับสากล ขณะที่ด้านการส่งเสริมอนุรักษ์ธรรมชาติ พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งโครงการป่ารักน้ำ โครงการสวนสัตว์ป่าเปิดภูเขียวตามพระราชดำริ โครงการอนุรักษ์และขยายพันธุ์เต่าทะเล โครงการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่า โครงการปลูกป่าเสริมธรรมชาติและโครงการต่าง ๆ อีกมากมาย ทั้งยังทรงเป็นแบบอย่างในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ทุกคนได้น้อมนำไปปฏิบัติตามในชีวิตประจำวัน และเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ท่าน พสกนิกรจังหวัดนครพนมจึงได้พร้อมใจกันประกอบพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ ณ หนองสิม บ้านปฏิรูป หมู่ที่ 9 ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ของชุมชน ที่ประชาชนในพื้นที่ใช้เป็นแหล่งหาอาหาร ใช้ในการอุปโภคและการเกษตร สำหรับพันธุ์สัตว์น้ำที่นำมาปล่อยในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย ปลาสวาย 10,000 ตัว ปลาโพง 40,090 ตัว ปลาตะเพียน 300,000 ตัว และปลากระแห 150,000 ตัว รวมทั้งสิ้น 500,090 ตัว ซึ่งนอกจากจะปล่อยในหนองสิมแล้ว ยังได้แบ่งส่วนหนึ่งมอบให้กับผู้นำ 10 ชุมชนในตำบลศรีสงครามเพื่อ นำไปปล่อยในแหล่งน้ำในพื้นที่ตนเองเพิ่มเติมอีกด้วยวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2564
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำข้าราชการประกอบพิธีลงนามถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำข้าราชการประกอบพิธีลงนามถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2564
นครพนม ฉีดไฟเซอร์บูธโดสให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิด
วันที่ 8 สิงหาคม 2564 ที่บริเวณหอประชุมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่จัดให้ฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดจนประชาชนทั่วไป โดยบรรยากาศในวันนี้ยังคงเติมไปด้วยความตื่นเต้นของผู้ที่มาฉีดวัคซีน โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทุกคนที่ต้องสัมผัสดูแลผู้ป่วยโควิดอย่างใกล้ชิด ซึ่งทุกคนต่างก็ขอบคุณรัฐบาลและทางหน่วยงานที่ได้เล็งเห็นความสำคัญ มีการปรับหลักเกณฑ์การให้วัคซีนไฟเซอร์ใหม่ แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยให้ครอบคลุมเจ้าหน้าที่ด่านหน้าทุกคนที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิดโดยตรงทุกกลุ่ม รวมทั้งนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิดจากการปฏิบัติงาน เช่น แผนกผู้ป่วยนอก แผนกผู้ป่วยใน คลินิกทางเดินหายใจ ห้องฉุกเฉิน แผนกผู้ป่วยวิกฤต รพ.สนาม เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสถานที่กักกัน หรือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจดูแลผู้ป่วยโควิดอื่น ๆ ตามการพิจารณาของสถานพยาบาลหรือหน่วยงานต้นสังกัด เจ้าหน้าที่อื่น ๆ ที่ปฏิบัติงานเสี่ยงติดเชื้อในระดับท้องถิ่นตำบล กลุ่มเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเก็บศพ กู้ภัย สัปเหร่อ และจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์มาให้ฉีดในวันนี้
นางจงกล ธมิกานนท์ หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่าในวันนี้บุคคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในเขตสุขภาพที่ 8 จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์บูธโดส จำนวนทั้งสิ้น 24,240 โดส โดยจังหวัดนครพนมได้รับการจัดสรรวัคซีนมา 3,120 โดส เพื่อกระจายให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิดทั้ง 12 อำเภอในจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนามและศูนย์พักคอย โดยที่หอประชุมยงใจยุทธแห่งนี้ นอกจากจะมีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข จำนวน 852 คนแล้ว ก็ยังมีการให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป กลุ่ม A หรือกลุ่มที่เป็นประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไปและ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง จำนวน 200 คน ฉีดให้กับกลุ่ม B หรือกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีการลงทะเบียนหมอพร้อมของนครพนมและมีการนัดหมายล่วงหน้าอีก 200 คน ซึ่งทั้งหมดในวันนี้จะมีการฉีดวัคซีนที่จุดให้บริการนี้ทั้งสิ้น 1,250 คนวันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2564
นรข.นครพนม บูรณาการหน่วยความมั่นคง รวบ 4 วัยรุ่นแอบแพ็คกัญชาส่งทางบริษัทขนส่งพัสดุเอกชน
วันที่ 7 สิงหาคม 2564 ที่สโมสรทหารสัญญาบัตร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม พลเรือตรี จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) พร้อมด้วยนาวาเอก เสริมศักดิ์ บุญทา หัวหน้ายุทธการและข่าว นรข.เขตนครพนม นาวาโท วรภัทร แสงสุวรรณ หัวหน้าสถานีเรือนครพนม นายพรต ภูภักดิ์ ปลัดจังหวัดนครพนม พันตำรวจโท จีรุฎจ์ พิมพา รองผกก.สภ.เมืองนครพนม ตลอดจนเจ้าหน้าที่กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ด่านศุลกากรนครพนมและสรรพสามิตพื้นที่นครพนม ร่วมกันแถลงการณ์จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 160 แท่ง/กิโลกรัม ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ BERETTA ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 ซอง ซองกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 ซอง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง และกรณีตรวจยึดกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวนว 404 แท่ง/กิโลกรัม หลังหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่
โดยเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564
ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในโดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อ
Mitsubishi เป็นพาหะ จึงได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสืบสวน สภ. เมืองนครพนม
ติดตามค้นหากระทั่งวันที่ 6 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 12:45 น
เจ้าหน้าที่ได้พบรถยนต์คันดังกล่าวขับออกจากบริษัทขนส่งพัสดุเอกชนแห่งหนึ่งในตัวอำเภอเมืองนครพนม
จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิดจนรถได้ขับเข้าไปจอดภายในบ้านที่อยู่ในซอยสุขาวดี
ตำบลอาจสามารถ จึงได้แจ้งหน่วยต่าง ๆ บูรณาการร่วมกันปิดล้อมสถานที่ดังกล่าวเอาไว้
จากนั้น พลตำรวจตรี เชาว์ลิต ธีมานนท์ สว.สส.สภ.เมืองนครพนม หัวหน้าชุดได้แสดงตัว
แจ้งยศ นาม ตำแหน่ง และบัตรเจ้าพนักงาน ปปส. เลขที่ 582596
เพื่อขอเข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวไม่นานก็มีชายวัยรุ่น 4 คน
เปิดประตูบ้านออกมาหา เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงความบริสุทธิ์ใจต่อหน้าทุกคน
และทำการตรวจค้นปรากฎว่าในตัวไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ระหว่างที่ตรวจค้นทั้งหมดมีอาการตื่นเต้นตกใจ
ตัวสั่นอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงได้ขอเข้าตรวจค้นภายในบ้านต่อ
ซึ่งพบว่าภายในห้องหลังบ้านมีกัญชาแห้งอัดแท่งห่อด้วยกระดาษฟอยล์สีทอง
มีพลาสติกใสพันรอบอีกชั้นที่เตรียมแพ็คใส่กล่องไปรษณีย์ส่งไปตามสถานที่ต่าง ๆ
จำนวน 140 แท่ง/กิโลกรัม นอกจากนั้นยังพบยาไอซ์ประมาณ 100 กรัม
อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ BERETTA ขนาด 9
มม. จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 ซอง ซองกระสุนปืนขนาด 9
มม. จำนวน 2 ซอง ซุกซ่อนอยู่ภายในตู้เสื้อผ้า รวมถึงโทรศัพท์มือถือ จำนวน 3
เครื่อง จึงได้ทำบันทึกจับกุม ตรวจยึด
และสืบสวนขยายผลติดตามไปที่บริษัทขนส่งพัสดุเอกชนที่เห็นรถยนต์ขับออกมา
ซึ่งปรากฎว่าผู้ต้องหาได้นำกัญชาแห้งอัดแท่งที่แพ็คใส่กล่องอย่างดีแล้วไปฝากส่งอีกจำนวน
20 กล่อง จึงได้ทำบันทึกตรวจยึดและนำของกลางทั้งหมดมารวมกันที่ สภ.เมืองนครพนมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน นรข.
ก็ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง
บ้านท่าดอกแก้ว ตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน
จึงได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกำลังออกลาดตระเวนทั้งทางบกและทางน้ำ กระทั่งเวลา
19:30 น. เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบเรือต้องสงสัยลอยอยู่กลางลำแม่น้ำโขง
และมุ่งหน้าไปจอดที่บริเวณหัวบ้านท่าดอกแก้ว
จากนั้นได้ลำเลียงวัตถุต้องสงสัยลงจากเรือมาทิ้งไว้และหันหัวเรือกลับทันที
เจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังดักซุ่มรอกระทั่งเวลา 22:00 น. ไม่พบมีผู้ใดมายังพื้นที่ดังกล่าว
แต่ด้วยสภาพอากาศที่ฝนจะตก
เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยพบเป็นถุงกระสอบสีดำ จำนวน 10
กระสอบ ภายในบรรจุกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 404 แท่ง/กิโลกรัม
จึงได้ทำบันทึกตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสืบสวนสอบสอนสอบสวน
สภ. ท่าอุเทนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปเช่นเดียวกัน
วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2564
ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพวิถีพุทธนครพนม เดินหน้าขับเคลื่อนแก้ปัญหาสุขภาพพระสงฆ์ในยุคโควิด
วันที่ 6 สิงหาคม 2564 ที่ห้องประชุมชั้น 5 สำนักงานเทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม คณะกรรมการศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพวิถีพุทธของวัดมหาธาตุที่เป็นมหานิกาย และวัดศรีเทพประดิษฐารามที่เป็นฝ่ายธรรมยุต ร่วมกับโรงพยาบาลนครพนมและภาคีเครือข่ายส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์จังหวัดนครพนม ได้มีการประชุมหารือเพื่อวางแนวทางขับเคลื่อนงานและต่อยอดความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาวะของพระสงฆ์ สร้างให้วัดจังหวัดนครพนมมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ ภายใต้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงานธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ สร้างการเข้าถึงสิทธิ รู้เท่าทันและการแก้ไขปัญหาสุขภาพในพระสงฆ์ สามเณร และแม่ชี ตลอดจนพุทธศาสนิกชนในยุคโควิด
วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2564
นครพนม เปิดโรงพยาบาลสนาม 300 เตียง เพิ่มศักยภาพรับผู้ป่วยสีส้มอ่อน สีเหลืองและสีเขียว
วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2564
นครพนม เตรียมพัฒนาศักยภาพ อสม. เสริมกำลังแพทย์คัดกรองผู้ป่วยโควิด พร้อมเสริมความรู้ที่ถูกต้องให้ประชาชน
วันที่ 4 สิงหาคม 2564 ที่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม และท้องถิ่นจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่เยี่ยมให้กําลังใจและติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานระดับอำเภอ ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 ในพื้นที่ พร้อมรับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน
วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2564
สกู๊ปข่าว โคก หนอง นา ตลาดประจำครอบครัว
วันที่ 3 สิงหาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายนัทธวัฒน์ หารู้ เกษตรกรบ้านเชียงยืน หมู่ที่ 4 ตำบลเวินพระบาท อำเภอท่าอุเทน เปิดเผยว่า เมื่อก่อนพื้นที่ของตนเองถ้าเข้าสู่ฤดูแล้งจะไม่มีน้ำ ทำให้พอปลูกอะไรขึ้นมาแต่ละอย่างเกิดปัญหาตามมา ดังนั้นตนเองจึงได้พยายามศึกษาหาความรู้ผ่านทางระบบโซเชียลทั้งในเว็บไซต์ และเฟสบุ๊กของผู้ที่เคยทำเกษตรมาก่อน ซึ่งก็จะเห็นที่เป็นผลสำเร็จแล้วแต่เราก็ยังไม่รู้ปัญหาอยู่ดี หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.เข้ามาให้ความรู้และพูดถึงเรื่องของโคก หนอง นา ซึ่งก็บังเอิญเข้ากับที่ตัวเองกำลังศึกษาอยู่ แต่ก็ยังไม่เข้าใจทั้งหมดอยู่ดีว่าทำไมต้องมีโคก มีหนอง มีนา สุดท้ายได้รู้จักกับท่านพัฒนาการที่ได้ลงพื้นที่และมาดูแปลงจริงพร้อมกับแนะนำให้เข้าร่วมโครงการโคก หนอง นา และได้ไปอบรมอย่างจริงจัง ซึ่งสอนให้รู้จักกับภูมิศาสตร์ของพื้นที่ตัวเองว่าต้องวางโคกอยู่ตำแหน่งไหน วางหนองในส่วนใด และอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง จากนั้นจึงได้กลับมาออกแบบแปลงของตัวเองใหม่ทั้งหมด ให้มีทั้งโคก หนอง นา และคลองไส้ไก่ที่ใช้กระจายน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้พื้นที่อย่างทั่วถึง ส่วนการปลูกพืชหลักๆ ตนเองจะปลูกไม้ผล ส่วนไม้ยืนต้นที่ให้ร่มเงาก็จะปลูกไม้พยุงและยางนา ซึ่งส่วนสำคัญเวลาที่เราปลูกอะไรก็ตามเราต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้เพื่อรอผลผลิตอย่างเดียว โดยเฉพาะในช่วงที่เป็นดินใหม่ เราต้องรู้จักปรับปรุงบำรุงดินเพื่อให้พืชได้กินสารอาหารที่ครบสมบูรณ์ ปัจจุบันในแปลงเกษตรของตนเองมีพืชหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กล้วย พริก มะละกอ ข่า ตะไคร้ ที่ปลูกทุกอย่างลงไปก่อนเพื่อเป็นแหล่งอาหารสำรอง ส่วนปุ๋ยเราก็จะเอามาจากมูลสัตว์ จึงทำให้ในแปลงไม่มีสารเคมีและเป็นผลดีต่อสุขภาพของทุกคนในครอบครัว
โดยในสถานการณ์โควิด – 19 ช่วงแรก ๆ ตนยังไม่ได้ขุดบ่อน้ำก็จะปลูกผักและต้นไม้บางชนิด รวมถึงการ เลี้ยงจิ้งหรีดขาย แต่พอมีบ่อน้ำก็ปลูกเพิ่มเติมอีกหลายอย่าง อยากทานอะไรก็เอามาปลูก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้จะกินอะไรมีทุกอย่างแล้ว มีผลไม้ให้ได้กินตามฤดูกาล ได้กินเหมือนกับคนที่อยู่ในตัวเมือง เหมือนเราอยู่ในตลาด ผลไม้ที่เพิ่งรับประทานไปก็มีมะม่วงและขนุน ตอนนี้แก้วมังกรก็เริ่มสุกแล้ว ซึ่งถ้าถามความรู้สึกก็ต้องบอกว่าดีใจในสิ่งเกิดขึ้นจากที่เราได้ทำมาเพราะทำให้ครอบครัวมีความสุข มีทุกอย่างที่อยากกิน เป็นไปตามที่เราได้อบรมมาทุกอย่าง และอยากฝากถึงผู้ที่กำลังจะทำโคก หนอง นา จริงๆจังๆ อยากให้ศึกษาก่อนว่าพื้นที่ภูมิศาสตร์ของเรามีลักษณะแบบไหนเพราะแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน เราสัมผัสและอยู่กับพื้นที่จริง ๆ อยู่แล้วจะรู้ว่าปัญหาอยู่จุดไหน ถ้าเราสามารถวางแผนได้ จะทำให้เราสามารถทำอย่างอื่นๆ ตามมาได้ง่ายขึ้น






















