วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ที่บริเวณเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่จังหวัดนครพนมจัดให้ประชาชนสามารถ Walk – in เข้ารับวัคซีน Moderna 2 เข็ม ได้ฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งไม่มีการรับจองล่วงหน้า โดยคุณสมบัติต้องเป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดเข็มที่ 1 และต้องอาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนม ภายหลังที่จังหวัดนครพนม ได้มีการประกาศแจ้งไปยังประชาชนในพื้นที่ให้ทราบล่วงหน้า ว่าจะมีการให้บริการฉีดเข็มแรกได้ในวันที่ 30 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2564 และฉีดเข็มที่ 2 ในวันที่ 26-27 ธันวาคม 2564 ซึ่งมีจำนวนจำกัด 5,000 คนเท่านั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นให้ประชาชนมีความรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด -19 และออกมาฉีดวัคซีนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทำให้ตลอดทั้งวันของวันนี้มีประชาชนเดินทางมาเข้าคิวเพื่อรับบริการเป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากการฉีดวัคซีน Moderna 2 เข็มแล้ว ยังมีการให้บริการฉีดวัคซีนสูตรอื่น ๆ ให้ด้วยตามความสมัครใจของแต่ละคนที่มารับบริการ
ทั้งนี้จากข้อมูลสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 จังหวัดนครพนมได้รับการจัดสรรวัคซีน ทั้งสิ้น 836,316 โดส ฉีดให้กับประชาชนไปแล้ว 603,691 โดส ครอบคลุมการฉีดแยกตามทะเบียนราษฎร์ 332,717 คน คิดเป็นร้อยละ 45.90 ของประชากรทั้งหมด โดยประชาชนอำเภอบ้านแพงเข้ารับวัคซีนมากสุด รองลงมาเป็นอำเภอเรณูนคร อำเภอวังยาง อำเภอเมือง อำเภอธาตุพนม อำเภอศรีสงคราม อำเภอโพนสวรรค์ อำเภอนาหว้า อำเภอท่าอุเทน อำเภอนาทม อำเภอปลาปาก และอำเภอนาแก ตามลำดับ ทั้งนี้ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงคือกลุ่ม 608 ที่ประกอบไปด้วย กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรค คือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคอ้วน, โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชาชนกลุ่มนี้แล้วร้อยละ 91.98วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
นครพนม บูรณาการขับเคลื่อนหลักประกันสุขภาพวิถีพุทธ สู่ Health literacy ของคนในชุมชนในยุคโควิด
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่ห้องประชุมศรีโคตรบูรณ์ ชั้น 5 โรงพยาบาลนครพนม จังหวัดนครพนม พระเทพวรมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายวรรณพล ต่อพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงาน วัดรอบรู้ด้านสุขภาพ พัฒนาศักยภาพพระสงฆ์ให้มีความรู้ความสามารถ สู่การเป็น Health literacy ที่มีทักษะในการเข้าถึงข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ ประเมินการปฏิบัติกิจของสงฆ์และจัดการตนเอง รวมทั้งสามารถชี้แนะเรื่องสุขภาพส่วนบุคคลให้กับพุทธศาสนิกชนในชุมชนได้มีสุขภาพที่ดี ร่วมกันจัดทำโครงการของบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น และต่อยอดความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาวะอนามัยของพระสงฆ์ ภายใต้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงานธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ สร้างสิทธิ์การเข้าถึง รู้เท่าทัน และการแก้ไขปัญหาสุขภาพในพระสงฆ์ สามเณร และแม่ชี ตลอดจนพุทธศาสนิกชนในยุคโควิด
โดยสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่าในแต่ละปีมีพระสงฆ์มากกว่าแสนรายที่มีอาการอาพาธเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการบริโภคไม่ถูกหลักโภชนาการ ทั้งพระสงฆ์ไม่สามารถเลือกฉันอาหารเองได้ ต้องฉันตามที่ฆราวาสตักบาตรหรือนำมาถวาย ประกอบกับสถานภาพของพระสงฆ์ไม่เอื้อต่อการออกกำลังกายทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่าย และจากการตรวจคัดกรองสุขภาพพระสงฆ์ สามเณรทั่วประเทศ ระหว่างปี 2559-2564 มีแนวโน้มในการอาพาธเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นทุกปี 5 อันดับแรก ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมองตีบ และโรคไตวายเรื้อรัง ดังนั้นสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จึงได้นำร่องจัดตั้งศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพวิถีพุทธขึ้นในเขตสุขภาพที่ 8 จำนวน 5 แห่ง ในปี 2563 และในปี 2564 เปิดเพิ่มอีกจำนวน 32 แห่ง เพื่อขับเคลื่อนการเข้าถึงสิทธิการบริการในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ ด้านการรักษาเมื่อเจ็บป่วย และเสริมสร้างสุขภาพป้องกันโรคไม่ให้เป็นผู้ป่วยรายใหม่ รวมถึงสิทธิด้านอื่น ๆ ที่พึงได้รับ และด้วยการดำเนินงานประสบผลสำเร็จก่อให้เกิดระบบบริการไร้รอยต่อยกเว้นใบ Refer ใน 7 จังหวัดอีสานตอนบน กลายเป็นนวัตกรรมแห่งแรกของประเทศ ที่มีการขยายผลและพัฒนาระบบให้กับประชาชนทั่วไปได้ใช้บริการ นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดพระนักสื่อสารหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่ ที่พร้อมให้ความรู้ด้านสุขภาพและหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแก่พุทธศาสนิกชน จำนวน 663 รูป และเพื่อบูรณาการขับเคลื่อนหลักประกันสุขภาพวิถีพุทธของจังหวัดนครพนม สู่การเป็น Health literacy ทำให้ทุกคนที่มีสุขภาพที่ดีจึงได้มีการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
นรข.นครพนม จับผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า 72,000 เม็ดและกัญชาเกือบ 1 ตัน
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง น.อ.พรภิรมย์ ยศบุญ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม พ.ต.อ.จตุรงค์ มหิทธิโชติ ผู้กำกับสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม นายปิตานนท์ ปัญญา นายอำเภอท่าอุเทน พ.ต.ท. ฌานนท์ เนื่องกัลยา รองผู้กำกับสืบสวน สภ.ท่าอุเทน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 72,000 เม็ด กัญชาอัดแท่ง 940 แท่ง/กิโลกรัม และเรือลำเลียง 1 ลำ หลังได้รับแจ้งข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในพื้นที่บริเวณด้านใต้ศาลหลักเมืองท่าอุเทนอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม
โดยหลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้บูรณาการร่วมกันตรวจสอบข่าว พร้อมจัดชุดลาดตระเวนกระจายกำลัง ทั้งทางบกและทางน้ำเข้าตรวจสอบพื้นที่ กระทั่งเวลา 4.00 น. ของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ได้ตรวจพบเรือต้องสงสัยแล่นมาจากบริเวณกลางแม่น้ำและลอยลำมาจอดริมฝั่งแม่น้ำโขงตามที่ได้รับแจ้ง ห่างจากจุดที่ชุดลาดตระเวนดักซุ่มประมาณ 100 เมตร จากนั้นชายฉกรรจ์ 2 คน ที่มากับเรือได้พยายามขนวัตถุบางอย่างลงจากเรือด้วยความเร่งรีบ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจสอบ เมื่อชายฉกรรจ์เห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้ทิ้งของทั้งหมดวิ่งหลบหนีทันที เจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งไล่จับมาได้ 1 คน ส่วนอีกคนหลบหนีไปในความมืดได้ ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนในพื้นที่ตำบลท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน อายุ 47 ปี ได้รับการจ้างวานให้มาขนยาเสพติดกับเพื่อนที่หลบหนีไปได้ที่เป็นคนบ้านนาเหนือ โดยการรับจ้างครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ลงมือทำและไม่ทราบชื่อผู้จ้างวาน ส่วนค่าจ้างจะได้รับเมื่อทำงานเสร็จคนละ 8,000 บาท ซึ่งก่อนลงมือได้มีการเสพสารเสพติด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกการจับกุมไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งนำผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ต้องหาไม่ทราบว่าผู้ใดจ้างวาน โดยจะมีการเร่งขยายผลเพิ่มเติมจากหลักฐานต่าง ๆ ที่มีอยู่ ซึ่งถ้าหากผู้ต้องหาไม่ให้การเป็นเท็จก็จะมีการเชื่อมโยงเพื่อจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดมาดำเนินคดีได้โดยเร็ว สำหรับโทษผู้ที่นำเข้ายาเสพติดมาในราชอาณาจักรมีโทษสูงสูดคือประหารชีวิต โดยในโอกาสนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกคนยังได้กล่าวขอบคุณประชาชนพลเมืองดีในพื้นที่ที่ได้แจ้งเบาะแสเข้ามาจนนำไปสู่การตรวจยึดและจับกุมในครั้งนี้ และในอีกหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมาด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกนายพร้อมปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ให้หมดไปจิตอาสานครพนม บำเพ็ญสาธารณประโยชน์เนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ที่มหาวิทยาลัยนครพนม ตำบลขามเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนจิตอาสาร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในหลากหลายสาขาเพื่อปวงชนชาวไทยและประเทศชาติ ทั้งด้านการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ การทหาร การศึกษา การสาธารณสุข การต่างประเทศ การคมนาคม ศิลปวัฒนธรรม ด้านวรรณกรรม และทรงตั้งกองเสือป่าเพื่อสร้างความมั่นคงให้ประเทศชาติ โดยนำเยาวชนมาฝึกอบรมตามหลักวิชาการทหาร เพื่อเป็นกำลังสำรองในการป้องกันประเทศ และเมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตปวงชนชาวไทยจึงได้รวมใจกันน้อมถวายพระราชสมัญญาว่า พระมหาธีรราชเจ้า อันหมายถึงมหาราชผู้ทรงเป็นจอมปราชญ์ และทางการได้กำหนดให้วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันวชิราวุธ เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ แต่เนื่องด้วยมีการค้นพบหลักฐานว่าช่วงเวลาที่เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธสวรรคตนั้นตรงกับช่วงตี 1 ของวันที่ 26 พฤศจิกายน แต่ทางราชการยังคงให้ถือวันที่ 25 พฤศจิกายนเป็นวันวชิราวุธเช่นเดิม
วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
ทหารค่ายพระยอดเมืองขวางรวมใจ ออกแจกน้ำบรรเทาภัยแล้งช่วยประชาชนในพื้นที่
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ที่มณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จังหวัดนครพนม พลตรีสถาพร บุญชู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 210 เปิดเผยว่า จากที่กำนันตำบลนามะเขือได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์น้ำสะอาดเพื่อใช้ในการอุปโภคในครัวเรือนมายังมณฑลทหารบกที่ 210 เนื่องจากปัจจุบันชาวบ้านนามะเขือ หมู่ที่ 1 ตำบลนามะเขือ อำเภอปลาปาก จำนวน 126 ครัวเรือน กำลังประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้ในครัวเรือนมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 ด้วยแหล่งน้ำในหมู่บ้านแห้งขอดเร็วกว่าทุกปี ทำให้ไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาใช้ทำระบบประปาหมู่บ้านได้ ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่มีน้ำไม่เพียงพอต่อการใช้ในครัวเรือน แม้ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนตำบลจะมีการบูรณาการขอน้ำจากชุมชนใกล้เคียงมาช่วยเหลือแล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอ
นครพนม ปรับส่วนราชการทุกแห่งเป็น COVID Free Setting สร้างมาตรการปลอดภัยองค์กร
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มอบหมายให้นายวรรณพล ต่อพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมนายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม และนายแพทย์กิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงและรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในพื้นที่ที่ในวันนี้มีการพบผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 3 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 2 ราย และติดเชื้อในพื้นที่ 1 ราย ทำให้ปัจจุบันนครพนมมียอดรวมสะสมผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ 5,094 ราย รักษาหายแล้ว 5,021 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 45 ราย และเสียชีวิตสะสม 28 ราย
โดยในวันนี้จังหวัดนครพนมมีมหกรรมฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด คิกออฟพร้อมกันทั้ง 12 อำเภอ ตั้งเป้ามีประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มแรก 10,000 คน เพื่อขยับอันดับให้อยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 70 ของประชากรทั้งหมดในจังหวัดที่เข้ารับวัคซีน เพื่อสร้างมาตรการภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดที่จะมีการเปิดให้จัดกิจกรรมต่าง ๆ อันจะก่อให้เกิดรายได้กับประชาชนในพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้ได้มีการบูรณาการหน่วยงานร่วมกันประชาสัมพันธ์ทั้งผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย วิทยุกระจายเสียง เสียงตามสาย รถแห่และสื่อบุคคลเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนพร้อมกับเชิญชวนให้ผู้ที่ยังไม่เข้ารับวัคซีนได้ตัดสินใจ walk in เข้ารับวัคซีนเข็มแรกในยี่ห้อที่ตนเองต้องการได้ตามสูตรการฉีดวัคซีน โดยในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนครพนมมีจุด คือ ที่โรงเรียนนครพนมวิทยาคมและที่โรงพยาบาลนครพนม ส่วนนอกเขตสามารถขับรับบริการได้ที่ รพ.สต.ใกล้บ้าน ขณะที่ต่างอำเภอติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนวัคซีนโควิดของแต่ละอำเภอ ขณะเดียวกันในวันนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมก็ได้มีการอนุมัติให้โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสามารถเปิดการเรียนการสอนแบบ On Site ได้เพิ่มเติมอีกรวม 82 แห่ง ทำให้ปัจจุบันมีโรงเรียนที่สามารถเปิดได้แล้วรวมทั้งสิ้น 429 แห่ง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 18 แห่ง และในส่วนของการกำหนดพื้นที่ COVID Free Setting ในภาพรวมของจังหวัดที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ทุกส่วนราชการในจังหวัดนครพนมเป็น COVID Free Setting ซึ่งหมายถึงบุคลากรต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ มีการจัดการสิ่งแวดล้อมในหน่วยงานให้ปลอดไวรัสโควิด ส่วนผู้รับบริการหากยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบ อาจจะต้องตรวจคัดกรองด้วย ATK ก่อนเข้าพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรและผู้รับบริการรายอื่น ทั้งนี้ในส่วนของธนาคารยังต้องรอความชัดเจนของแต่ละแห่งก่อนว่ามีความสมัครใจเข้าร่วมโครงการหรือไม่ และในส่วนของแม่ค้าพ่อค้าที่อยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองนครพนมที่ประชุมมีมติว่ากลุ่มที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ทุกคนต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ นอกจากนี้ก็ได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปติดตาม ว่าจะมีภาคส่วนไหนที่พร้อมเข้าร่วมโครงการ COVID-Free Setting เพิ่มเติมนครพนม เตรียมส่งเสริมเกษตรกรปลูกหญ้าสุวรรณภูมิ เป็นอาหารสัตว์และวัตถุดิบผลิตไฟฟ้า
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ที่ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์นครพนม อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม นายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตามดูความคืบหน้าแปลงเพาะปลูกพันธุ์หญ้าสุวรรณภูมิ ที่เป็นพืชในกลุ่มหญ้าเนเปียร์ เป็นพืชพลังงาน ที่จังหวัดนครพนมกำลังจะมีการส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ได้เพาะปลูก เพราะนอกจากจะสามารถเป็นอาหารสัตว์ได้แล้ว ยังสามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ ซึ่งในอนาคตในพื้นที่จะมีการจัดตั้งโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพใน 4 อำเภอ ประกอบไปด้วย อำเภอเมืองนครพนม อำเภอธาตุพนม อำเภอท่าอุเทน และอำเภอนาทม ซึ่งจะมีการใช้หญ้าสุวรรณภูมิเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งหากเกษตรกรมีการเพาะปลูกก็จะทำให้มีอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงทั้งยังมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการจำหน่ายหญ้าสุวรรณภูมินี้
นายสมัย ศรีหาญ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์นครพนม เปิดเผยว่า หญ้าตัวนี้เป็นพืชพลังงาน ที่ปลูกแล้วสามารถจะเอาไปใช้ในการผลิตไฟฟ้าได้ รวมถึงสามารถนำไปเป็นอาหารสัตว์ได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะนำไปเลี้ยงโค – กระบือ นอกจากนั้นก็ยังมีสัตว์ปีก เช่น เป็ดเทศที่มีการทดลองแล้วสามารถผสมอาหารได้สูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ โดยที่น้ำหนักสัตว์ไม่ได้มีความแตกต่างกับการเลี้ยงด้วยอาหารสัตว์ทั่วไป ซึ่งการที่จะปลูกหญ้าตัวนี้ในพื้นที่นครพนมคิดว่ามีความเหมาะสม สามารถปลูกได้ เพราะจากการที่ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์นครพนมได้ทำการวิจัยและศึกษาเปรียบเทียบระหว่างหญ้าที่มีในศูนย์หลายๆพันธุ์ ทั้ง หญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 หญ้าหวาน หญ้าขน และหญ้าพื้นเมืองที่มีอยู่ โดยใช้มูลสัตว์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น มูลเป็ด มูลไก่ มูลกระบือบำรุง แล้วก็ปลูกในดินธรรมชาติพร้อมกัน ปรากฏว่า หญ้าสุวรรณภูมิให้ผลผลิตที่สูงที่สุด ตอบสนองต่อปุ๋ยคอกที่เป็นมูลสัตว์ประเภทสัตว์ปีกมากสุด แต่ถ้าเปรียบเทียบภาพรวมทั้งหมดแล้วผลผลิตที่ได้ไม่แตกต่างกันมากนัก อีกอย่างที่พบคือหญ้าชนิดนี้สามารถทนแล้งได้เป็นอย่างดีเมื่อเปรียบเทียบกับหญ้าชนิดอื่นๆ โดยการแตกหน่อยิ่งตัดยิ่งเพิ่มจำนวน ส่วนการปลูกจะใช้ท่อนพันธุ์ที่มีตาอยู่ประมาณ 2 ข้อ ข้อที่ 1 เวลาปลูกเอาลงดินอีกข้อโผล่พ้นดินเพื่อแตกหน่อ โดยมีระยะห่างการปลูกลงแปลงปกติประมาณ 1.2 เมตร แต่ถ้าใครมีงบประมาณก็สามารถปลูกใส่ท่อซีเมนต์ได้เพราะตัวนี้จะให้ผลผลิตที่ดีกว่าเนื่องจากเราสามารถคุมแร่ธาตุในดินได้ โดยจากการศึกษาพบว่าการใช้ท่อซีเมนต์รัศมี 1.2 เมตรปลูกเพียงแค่ 4 ต้นพันธุ์ก็พอแล้ว ส่วนการดูแลก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเมื่อตัดทุกครั้งต้องนำเอาปุ๋ยคอกมาใส่ครั้งละ 5 กิโลกรัมต่อท่อ จากนั้นก็รดน้ำตามปกติ หญ้าก็จะมีการเจริญงอกงามขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนระยะเวลาการตัดที่เหมาะสมในการเอาไปเป็นอาหารสัตว์อยู่ที่ประมาณ 2 เดือน/ครั้ง แต่ถ้าจะใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้าจะต้องมีอายุอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไปวันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
นครพนม สืบสานประเพณีลอยกระทงแบบกระจายจุดลดความเสี่ยงโควิด
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศการสืบสานประเพณีลอยกระทงยังคงเป็นไปด้วยความคึกคักของชาวนครพนมและนักท่องเที่ยวที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันนำกระทงมาลอยที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยมีทั้งที่เตรียมกระทงมาจากที่บ้าน มาหาซื้อเอาก่อนเข้าบริเวณงาน และถ้าใครไม่อยากซื้อคณะทำงานก็มีบูธสอนการประดิษฐ์กระทง ที่เตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ให้อย่างครบครัน เมื่อประดิษฐ์เสร็จแล้วสามารถนำไปลอยได้เลยแบบไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งหลายคนเลือกที่จะมาลอยกระทงตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 17.30 น. เพื่อให้มีระยะห่างระหว่างการลอย เป็นการลดความเสี่ยงตามมติคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ที่มีการแนะนำประชาชนในการทำกิจกรรมในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 คือต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่มีการรวมกลุ่ม มีการเว้นระยะห่าง และมั่นล้างมือ
นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ประเพณีลอยกระทงนั้นเป็นประเพณีที่สำคัญของคนไทยเราตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ซึ่งเรามีการสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามนี้มาโดยตลอด เพื่อเป็นการระลึกถึงพระคุณของแหล่งน้ำที่ได้อาศัยหล่อเลี้ยงชีวิตของเรามา เป็นการขอขมาลาโทษต่อพระแม่คงคาที่ได้ล่วงเกิน กระทำให้แม่น้ำสกปรก และมีวิวัฒนาการในการจัดงานทั้งการประกวดกระทง การประกวดนางนพมาศ และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย และแม้นว่าปีนี้จะไม่สามารถจัดงานให้ยิ่งใหญ่เท่าในอดีตที่ผ่านมาได้ แต่ก็ยังคงสามารถจัดได้อยู่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส covid-19 ซึ่งในวันนี้จังหวัดนครพนม มีการจัดงานในหลาย ๆ พื้นที่ ครบทั้ง 12 อำเภอ เช่น ในเขตอำเภอเมืองนครพนมก็มีในการจัดเฉพาะเขตเทศบาลเมืองนครพนมก็มี 2 จุด คือ จุดบริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช และที่บริเวณสวรรค์ชายโขง บ้าน 8 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติแห่งนี้ เป็นการกระจายกันจัดเพราะไม่ต้องการให้พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวมาแออัดอยู่ในจุดเดียวมากจนเกินไป โดยในสถานการณ์ปัจจุบันจังหวัดนครพนมยังสามารถรวมกลุ่มกันได้ครั้งละไม่เกิน 1,000 คน ดังนั้นคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจึงพยายามที่จะส่งเสริมให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการจัดงานประเพณีต่าง ๆ สำหรับการจัดงานในวันนี้ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ผู้ที่มาร่วมงานในวันนี้นอกจากจะได้ประกอบพิธีลอยกระทงขอขมาลาโทษแม่น้ำแล้ว ยังจะได้ชมการประกวดกระทงที่ประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ 100 % จากชุมชนต่าง ๆ ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันประดิษฐ์ขึ้นมาด้วยความวิสาหะ น้ำหนึ่งใจเดียวกันจนสวยงามเป็นกระทงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เป็นพญานาค เป็นหอประสาทผึ้ง ที่ใครเห็นต้องติดใจและแวะเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกของความทรงจำ นอกจากนี้ยังจะได้ชมการประกวดนักร้องลูกทุ่งสิงห์ภูธร การประกวดแม่ฮ่างมหาเสน่ห์ และกิจกรรมจำหน่ายสินค้า OTOP และสินค้าชุมชนด้วยนครพนม ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. พร้อมหน่วยบำบัดทุกข์ดูแลประชาชนอำเภอนาทม
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ที่โรงเรียนบ้านดอนเตย ตำบลคำเตย อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยคณะหัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดนครพนม ออกให้บริการประชาชนร่วมกับโครงการจังหวัดเคลื่อนที่แบบบูรณาการ หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน สร้างการเข้าถึงแบบครบวงจรในจุดเดียว
โดยการออกหน่วยเคลื่อนที่ในครั้งนี้ ได้มีการแนะนำส่วนราชการต่าง ๆ ให้กับประชาชนได้รู้จักเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละหน่วย เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ารับบริการได้อย่างถูกต้องตามความต้องการ รวมถึงตอบข้อซักถามที่ประชาชนสงสัย ทั้งยังได้นำเอานโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล ไปชี้แจงให้ประชาชนได้รับรู้ รับทราบ จากนั้นจึงได้ร่วมกันมอบพันธุ์ปลาแก่ผู้นำชุมชนเพื่อนำไปปล่อยตามแหล่งน้ำ จำนวน 50,000 ตัว มอบเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน จำนวน 20 ราย มอบเงินช่วยเหลือให้บริการสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะยากลำบาก จำนวน 10 ราย และมอบถุงยังชีพเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม จำนวน 90 ถุง จากนั้นทุกคนจึงได้แยกย้ายไปเข้ารับบริการตามจุดต่าง ๆ ที่ออกหน่วยให้บริการ ประกอบไปด้วย จุดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดนครพนม ที่คณะแพทย์ได้นำเครื่องมือและอุปกรณ์สาธารณสุขต่าง ๆ มาให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้นทำทันตกรรม พร้อมกับให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ และการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสโควิดเพิ่มอีกหนึ่งช่องทางนอกเหนือจากที่ประชาชนจะเดินทางไปรับบริการตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง และจุดให้บริการอื่น ๆ ที่หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน มาให้บริการแบบฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งด้านการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ ที่ดิน การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย การเลือกใช้พลังงาน การให้คำปรึกษาคำแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย การสร้างบ้าน การทำบัตรประชาชน การฝากเงินออม การทำประกันสังคม การวางแผนออมกับ กอช. การรับเรื่องราวร้องทุกข์ร้องเรียน การถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ปัจจุบันกำลังมีการหาเสียงของผู้ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งตามท้องถิ่นต่าง ๆ การแจกพันธุ์ต้นไม้ การขึ้นทะเบียนและทำหมันสัตว์ รวมถึงการออกร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก สินค้าทางการเกษตร และสินค้า OTOP เพื่อให้ประชาชนได้เลือกซื้อไปใช้ในครัวเรือนวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
นรข.นครพนม แถลงยึดยาบ้า 246,164 เม็ด พร้อมไอช์ 10.16 กรัม
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง น.อ.พรภิรมย์ ยศบุญ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม พ.ต.อ.จตุรงค์ มหิทธิโชติ ผู้กำกับสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม พ.ต.ท.ฌานนท์ เนื่องกัลยา รองผู้กำกับสืบสวน สภ.ท่าอุเทน พ.อ.เถลิงศักดิ์ มูลประดับ เสนาธิการ มทบ. 210 นายยุทธพงษ์ มีศรี ปลัดฝ่ายความมั่นคง อำเภอท่าอุเทน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดบาบ้า จำนวน 246,164 เม็ดและยาไอซ์ นำหนักประมาณ 10.06 กรัม ที่ตรวจยึดได้ ภายหลังได้รับแจ้งข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในพื้นที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านท่าดอกแก้ว ตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม
โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ง ได้มีการบูรณาการหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ร่วมตรวจสอบข่าวพร้อมจัดชุดลาดตระเวน ทั้งทางบกและทางน้ำเข้าตรวจสอบพื้นที่ กระทั่งเวลาประมาณ 18:53 น. เจ้าหน้าที่ได้ใช้กล้องกลางคืนตรวจพบเรือต้องสงสัยแล่นลอยลำมาจากบริเวณกลางแม่น้ำทางด้านทิศใต้ จากนั้นไหลเข้าไปจอดบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านท่าดอกแก้ว ห่างจากจุดลาดตระเวนที่ดักซุ่มอยู่ประมาณ 300 เมตร เมื่อเรือจอดนิ่งชายฉกรรจ์ที่มากับเรือ 2 คน ได้แบบวัตถุต้องสงสัยลงจากเรือมาทิ้งไว้ที่ริมแม่น้ำโขง เมื่อชุดลาดตระเวนเห็นดังนั้นจึงได้แสดงตัวเพื่อขอเข้าทำการตรวจสอบ ปรากฏว่าเมื่อได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ชายฉกรรจ์ก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงเปิดทางแล้ววิ่งหลบหนี จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อสกัดกั้น แต่ชายฉกรรจ์ทั้งสองก็ได้อาศัยความมืดและความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้ เมื่อเหตุการณ์สงบเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่พบถุงกระสอบ จำนวน 2 กระสอบ ที่ภายในบรรจุยาบ้าและยาไอช์วางอยู่จึงได้ร่วมกันทำบันทึกตรวจยึดของกลางไว้เป็นหลักฐานพร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปสกู๊ป การพัฒนาเส้นทางคมนาคมรองรับการขยายตัวของเขตเศรษฐกิจพิเศษ
ทางเลี่ยงเมืองเป็นอีกหนึ่งแผนงาน ที่จะมาพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สร้างรายได้ให้กับประชาชน รองรับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจพิเศษ โดยก่อนการก่อสร้างจะมีการศึกษาในด้านต่าง ๆ เพื่อวางแผนและออกแบบให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่
นครพนม เตรียมส่งเสริมอาชีพเสริมเกษตรกรสวนยาง สร้างรายได้ที่ยั่งยืน
วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
นรข.นครพนม ยึดกัญชาอัดแท่ง 854 กิโลกรัม พร้อมรถยนต์ และเรือลำเลียง
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง น.อ.พรภิรมย์ ยศบุญ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม พ.ต.อ.จตุรงค์ มหิทธิโชติ ผู้กำกับสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม และจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดกัญชาอัดแท่ง จำนวน 854 แท่ง/กิโลกรัม พร้อมรถยนต์และเรือลำเลียง ที่ได้บูรณาการร่วมกันปฏิบัติงาน ภายหลังได้รับแจ้งข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในพื้นที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านยางนกเหาะ ตำบลเวินพระบาท อำเภอท่าอุเทน และบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงด้านใต้ศาลหลักเมืองท่าอุเทน จังหวัดนครพนม
โดยหลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้บูรณาการร่วมกันตรวจสอบข่าว พร้อมจัดชุดลาดตระเวนกระจายกำลัง ทั้งทางบกและทางน้ำเข้าตรวจสอบพื้นที่ กระทั่งเวลา 18:35 น. ได้ตรวจพบเรือต้องสงสัยแล่นมาจากบริเวณกลางแม่น้ำและมาจอดอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านยางนกเหาะ จากนั้นก็ชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งมาขนวัตถุต้องสงสัยลงจากเรือ ไม่นานก็มีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า แคป สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ยธ 2930 นครราชสีมา ขับเข้ามาจอดใกล้ๆ กลุ่มชายฉกรรจ์ก็ได้แบกวัตถุต้องสงสัยขึ้นใส่ท้ายรถ เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวขอตรวจค้น ทั้งหมดต่างวิ่งหนีหายไปคนละทิศละทางโดยอาศัยความชำนาญในพื้นที่แม้เจ้าหน้าที่พยายามจะวิ่งไล่จับจนได้รับบาดเจ็บที่ขาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบถุงกระสอบสีดำ จำนวน 13 กระสอบอยู่ท้ายรถกระบะ อีก 3 กระสอบถูกวางทิ้งไว้ที่ข้างรถ ภายในบรรจุกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 655 แท่ง/กิโลกรัม ขณะเดียวกันระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจนับอยู่นั้นก็ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงด้านใต้ศาลหลักเมืองท่าอุเทน จึงได้จัดชุดลาดตระเวนซุ่มติดตามต่อเนื่องกระทั่งเวลา 2:35 น. ได้ตรวจพบเรือต้องสงสัยแล่นมาจากบริเวณกลางแม่น้ำทางด้านทิศเหนือ มาจอดยังจุดที่ได้รับแจ้งห่างจากจุดดักซุ่มประมาณ 500 เมตร จากนั้นมีชายกลุ่มหนึ่งช่วยกันขนกระสอบโยนลงมาไว้ริมฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น กลุ่มชายดังกล่าวจึงได้รีบสตาร์ทเครื่องเรือเตรียมหลบหนี เป็นจังหวะเดียวกับชุดปฏิบัติทางน้ำขับเรือลาดตระเวนมาสมทบจึงแล่นสกัดไม่ยอมให้เรือลำดังกล่าวหลบหนีข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้ เมื่อเห็นจวนตัวคนในเรือจึงสละเรือโดดลงน้ำว่ายหนีหายไปกับความมืด เจ้าหน้าที่จึงนำเรือของกลางกลับเข้าฝั่ง พร้อมตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยในกระสอบสีเหลือง จำนวน 5 กระสอบ ปรากฏว่าเป็นกัญชาอัดแท่งจำนวน 199 แท่ง/กิโลกรัม จึงได้ทำบันทึกตรวจยึดของกลางที่ปฏิบัติการทั้ง 2 เหตุการณ์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายนครพนม อนุมัติเปิดเรียนเพิ่ม 88 แห่ง พร้อมเดินหน้ารณรงค์ฉีดวัคซีนประชาชน
วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มอบหมายให้นายวรรณพล ต่อพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมนายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม และนายแพทย์กิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงและรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในพื้นที่ที่ในวันนี้มีการพบผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 3 ราย เป็นการติดเชื้อในพื้นที่อำเภอบ้านแพง 2 ราย และอำเภอโพนสวรรค์ 1 ราย ทำให้ปัจจุบันนครพนมมียอดรวมสะสมผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ 5,074 ราย รักษาหายแล้ว 4,960 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 86 ราย และเสียชีวิตสะสม 28 ราย โดยไม่พบผู้เสียชีวิตต่อเนื่องมาแล้ว 6 วัน
โดยการประชุมในวันนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ได้พิจารณาอนุมัติให้สถานศึกษาเปิดการเรียนการสอนแบบ On-Site ได้เพิ่มอีก 88 แห่ง เป็นโรงเรียนในพื้นที่อำเภอเมืองนครพนม 16 แห่ง อำเภอเรณูนคร 10 แห่ง อำเภอนาแก 6 แห่ง อำเภอปลาปาก 9 แห่ง อำเภอนาทม 13 แห่ง อำเภอโพนสวรรค์ 6 แห่ง อำเภอธาตุพนม 6 แห่ง อำเภอศรีสงคราม 16 แห่ง และอำเภอนาหว้า 6 แห่ง ทำให้ปัจจุบันสามารถเปิดเรียนในระบบ On-Site ได้แล้วรวมทั้งสิ้น 371 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 67.33 ของสถานศึกษาทั้งหมด ในส่วนของการให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนนั้นที่ประชุมได้รับทราบแผนการฉีดวัคซีนที่จะให้ทุกหน่วยงานบูรณาการรณรงค์เร่งรัดการฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรตามสิทธิ์การรักษาฯ ระหว่างวันที่ 17-30 พฤศจิกายน 2564 ตั้งเป้าหมายการให้บริการให้ได้วันละ 7,670 คน โดยจะมีกิจกรรมสัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีน จัดทีมฉีดวัคซีนเชิงรุกในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และขยายในกลุ่มแรงงานต่างด้าว มีการค้นหากลุ่มเป้าหมายเชิงรุกที่ยังไม่ได้ฉีด มีการสื่อสารทำความเข้าใจให้ข้อมูลที่ถูกต้องสำหรับประชาชน รวมทั้งสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันจังหวัดนครพนมมีการฉีดวัคซีนเข็ม 1 ไปแล้ว 292,744 ราย คิดเป็นร้อยละ 58.28 จากจำนวนประชากรที่ควรได้รับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันระดับจังหวัด (70%) คือ 502,312 คน ดังนั้นในวันนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมจึงขอเชิญชวนประชาชนจังหวัดนครพนมเข้ารับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพราะถ้าทุกคนได้รับวัคซีนมีภูมิคุ้นกัน จังหวัดก็จะสามารถขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ ได้ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทุกคนมีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีวัคซีนสูตรไขว้ให้ทุกคนได้เลือกรับบริการ ไม่ว่าจะเป็น เข็ม 1 ซิโนแวค เข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้าที่ต้องมีระยะเวลาห่างกัน 4 สัปดาห์ หรือเข็ม 1 แอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 ไฟเซอร์ ระยะเวลาห่าง 6 สัปดาห์ และสูตรเข็ม 1 ซิโนแวค เข็มที่ 2 ไฟเซอร์ระยะห่างกัน 4 สัปดาห์ ซึ่ง สามารถขอรับบริการฉีดวัคซีนได้ แบบ Walk-In ณ โรงพยาบาลทุกแห่ง และ รพ.สต.ที่แต่ละพื้นที่กำหนด โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนวัคซีนโควิดของแต่ละอำเภอนครพนม เปิดตลาดนัดข้าวเปลือก เพิ่มทางเลือกให้เกษตรกรในการจำหน่ายข้าว
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ที่สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.นครพนม จำกัด (สกต.นครพนม) ตำบลนาทราย อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักของเกษตรกรที่นำข้าวมาจำหน่ายในโครงการตลาดนัดข้าวเปลือก ปีการผลิต 2564/65 ที่จังหวัดนครพนมได้มีการประสานผู้ซื้อมารวมกัน ณ จุดเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกและแบ่งเบาภาระการขนย้ายสินค้าให้กับเกษตรกร เพิ่มโอกาสให้ทุกคนมีช่องทางการจำหน่าย และมีอำนาจในการต่อรองการขายข้าวเปลือกมากยิ่งขึ้น และเข้าร่วมโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/65 ที่ความชื้นไม่เกิน 15% สิ่งเจือปนไม่เกิน 2% โดยตลอดทั้งวันมีเกษตรกรผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันนำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวมาจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการจำหน่ายนั้นเกษตรกรส่วนใหญ่เลือกที่จะแบ่งข้าวออกเป็น 4 ส่วน คือส่วนที่นำมาจำหน่ายเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวผลิต ส่วนที่เก็บไว้รอให้ราคาข้าวเปลือกสูงขึ้นมากกว่านี้จึงจะนำมาขาย ส่วนที่จะใช้รับประทานในครอบครัว และส่วนที่จะนำไปเป็นเมล็ดพันธุ์ในการผลิตปีถัดไป
นายปรมัศวร์ ทองโพธิ์กลาง ผู้จัดการ สกต.นครพนม เปิดเผยว่า เกษตรกรที่นำข้าวเปลือกมาจำหน่ายในวันนี้จะได้ในราคาพิเศษที่สูงกว่าราคากลางในพื้นที่เฉลี่ยประมาณตันละ 200 บาท ซึ่งเกษตรกรสามารถเลือกเข้าร่วมโครงการได้ 2 แบบ คือเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวที่นำข้าวหอมมะลิแห้งมาจำหน่ายที่จุดบริการ นอกเหนือจากตัวเกษตรกรจะได้ในราคาที่สูงแล้ว ก็ยังจะได้ในส่วนของโครงการชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีด้วย โดยจะได้ราคาที่เป็นราคาตามกลไกที่รัฐบาลกำหนด ราคาอยู่ที่ประมาณ 10.70 - 11 บาท ถือว่าสูงกว่าราคาท้องตลาดมากพอสมควร คิดคราว ๆ ประมาณตันละ 1,000 บาท นอกเหนือจากนี้ยังจะได้ในส่วนของเงินตามประมาณตันละ 500 บาท ส่วนอีกรูปแบบคือการจำหน่ายปกติในตลาดนัด ที่เกษตรกรสามารถเลือกผู้ประกอบการที่จะขายให้ได้ตามที่ตนเองต้องการ ซึ่งในวันที่จัดตลาดนัดจะได้ราคาที่เพิ่มขึ้นประมาณตันละ 200 บาท เพราะฉะนั้นจึงอยากเชิญชวนให้พี่น้องเกษตรกรที่กำหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงนี้ได้มาจำหน่ายในกิจกรรมในครั้งนี้ โดยทางจังหวัดนครพนมมีการจัดตลาดนัด 2 ครั้งคือ วันที่ 17-18 พฤศจิกายน 2564 จะอยู่ที่สหกรณ์แห่งนี้ ส่วนอีกครั้งอยู่ที่ท่าข้าวชีวาพืชผล ตำบลโพนสวรรค์ อำเภอโพนสวรรค์ ในวันที่ 23-24 พฤศจิกายน 2564 แต่ถ้าใครมาไม่ทันทั้ง 2 ครั้งที่จัดงาน ก็ยังสามารถมาจำหน่ายหรือเข้าร่วมโครงการได้ตามปกติ เพียงแต่ว่าจะต้องนำข้าวเปลือกไปจำหน่ายกับผู้ประกอบการที่ต้องการโดยตรง แต่ถ้ามาในช่วงที่จัดงานนี้จะมีผู้ซื้อมารวมกันที่จุดเดียวทำให้เกษตรกรทุกคนมีความสะดวกสบายมากกว่า
วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
นครพนมเปิดร้าน premium farmer shop ช่วยเกษตรกรจำหน่ายสินค้าเกษตร
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ที่บริเวณด้านข้างประตูทางเข้าศาลากลางจังหวัดนครพนม นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดร้าน premium farmer shop ช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่จำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน GAP และมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ภายใต้การพัฒนาการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรจังหวัดนครพนม เพื่อพัฒนาให้จังหวัดนครพนมเป็นเมืองแห่งเกษตรอินทรีย์
โดยในช่วงแรกที่มีการเปิดใหม่อีกครั้ง หลังต้องหยุดให้บริการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดที่ผ่านมา ซึ่งร้าน premium farm shop จะมีการรวบรวมสินค้าทางการเกษตรที่จากเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครพนมมาวางจำหน่ายในทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 17.00 น. โดยผู้แทนกลุ่มเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และภาคเอกชนรับผิดชอบ จะร่วมกันพิจารณาคัดเลือกสินค้าเกษตรและแปรรูปที่ได้มาตรฐานมีความปลอดภัยมาวางจำหน่ายให้ผู้ที่สนใจได้มาจับจ่าย ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มสินค้าประเภทข้าว กลุ่มสินค้าประเภทผลไม้ กลุ่มสินค้าประเภทพืช ผัก กลุ่มสินค้าประมงและปศุสัตว์ กลุ่มสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และกลุ่มสินค้าหัตถกรรม ซึ่งสินค้าที่นำมาจำหน่ายจะเป็นราคาที่เป็นกันเอง มีความสดและใหม่เสมอ เช่น ผักปลอดสารพิษจำหน่ายในราคากำละ 10 บาท น้ำปลาร้าผสมกัญชา ราคาขวดละ 65 บาท ปลาร้าทรงเครื่องผสมกัญชา ราคากระปุกละ 70 บาท ข้าวหอมมะลิถุง 5 กิโลกรัม ราคา 220 บาท ปลาส้ม ราคาถุงละ 150 บาท ปลาตากแห้ง ราคาแพ็คละ 100 บาท จิ้งหรีดทอดกรอบ ราคากระปุกละ 10 บาท จิ้งหรีดอบแห้งทอดกรอบ ราคาแพ็คละ 20 บาท ทั้งนี้ผู้สนใจนอกจากจะมาเลือกซื้อด้วยตนเองที่ร้านแล้ว ยังสามารถสอบถามหรือสั่งซื้อทาง www. farmershoponline.com ได้เช่นเดียวกัน
คณะส่วนล่วงหน้าลงพื้นที่จังหวัดนครพนม เตรียมการรับเสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ที่มหาวิทยาลัยนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พลอากาศตรี วินัย พุ่มไพจิตร ราชองครักษ์ในพระองค์ หัวหน้าคณะนำส่วนล่วงหน้าฯ ลงพื้นที่ซักซ้อมการปฏิบัติ และตรวจติดตามการเตรียมการรับเสด็จในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนครพนม ประจำปีการศึกษา 2564 จำนวน 1,305 คน ณ อาคารศรีโคตรบูรณ์ มหาวิทยาลัยนครพนม ในวันที่ 15 ธันวาคม 2564 โดยมี นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมคณะหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับและร่วมประชุมหารือ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสมพระเกียรติอย่างสูงสุด
ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการแจ้งหนังสือจากสำนักพระราชวังและกำหนดการทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน แทนพระองค์ ไปพระราชทานปริญญาบัตร รวมถึงได้หารือแนวทางและมาตรการป้องกันในการเฝ้าระวังการติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การถวายความปลอดภัย ผังเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินฯไปพระราชทานปริญญาบัตร ผังที่นั่งบัณฑิตภายในหอประชุมศรีโคตรบูรณ์ ชั้น 3 ผังภายในห้องเตรียมปริญญาบัตร(ด้านข้างเวที) ผังห้องรองรับบัณฑิตสำหรับโหลด ห้องรามราชและนาคราช ชั้น 1 รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
นครพนม เปิดเวทีชี้แจงโครงการสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร เลี่ยงเมืองศรีสงคราม
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดการประชุมปฐมนิเทศ โครงการสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางเลี่ยงเมืองศรีสงครามที่กรมทางหลวงได้จัดทำแผนพัฒนาทางหลวงขึ้นตามทิศทางของการพัฒนาระบบคมนาคมและการขนส่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยจังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดเขตเศรษฐกิจพิเศษและมีความสำคัญในการเชื่อมโยงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งจะเป็นประตูสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าบริเวณชายแดนกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และอำเภอศรีสงครามเป็นอำเภอหนึ่งที่มีการเจริญเติบโตและการขยายตัวของชุมชนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับทางหลวงสายหลักที่ผ่านตัวเมืองมีเขตทางคับแคบ จึงไม่สามารถก่อสร้างขยายช่องทางจราจรเพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นได้ และจำเป็นต้องมีการพัฒนาทางเลี่ยงตัวเมืองศรีสงครามเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางและขนส่งสินค้าให้มีความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลาและลดต้นทุนการขนส่ง เป็นการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตชุมชนด้วยการระบายการจราจรไปสู่พื้นที่อำเภอข้างเคียงที่มีการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมทางถนน ทั้งเป็นการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดน สนับสนุนยุทธศาสตร์ของประเทศ
โดยการดำเนินงานในขั้นตอนนี้เป็นระยะเริ่มต้นของการศึกษา โครงการสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องทางจราจร ทางเลี่ยงเมืองศรีสงคราม เพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารของโครงการอย่างถูกต้อง ครบถ้วนและเพียงพอต่อการนำไปพิจารณาประกอบ ในการเสนอแนะให้ข้อคิดเห็น และประเด็นข้อกังวลต่าง ๆ ของประชาชนในพื้นที่ โดยพื้นที่ศึกษาในครั้งนี้ มีจุดเริ่มต้นบนทางหลวงหมายเลข 2032 มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และตัดผ่านทางหลวงหมายเลข 2132 (ท่าแร - ศรีสงคราม) และมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือผ่านลำน้ำอูน ไปสิ้นสุดโครงการที่ทางหลวงหมายเลข 2177 (ศรีสงคราม – อากาศอำนวย) ซึ่งในการดำเนินงานนั้นจะต้องสอดคล้องกับโครงการของกรมทางหลวงในบริเวณใกล้เคียง และโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพื่ออำนวยความสะดวกทางจราจรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ลดผลกระทบต่อชุมชน สภาพแวดล้อมในพื้นที่ เป็นไปตามมาตรฐานสากลที่ทันสมัยและมาตรฐานการออกแบบของกรมทางหลวง ไม่ว่าจะเป็น การสำรวจและคาดการณ์ปริมาณจราจรและวิเคราะห์ระดับการให้บริการ งานสำรวจแนวทางและระดับ งานสำรวจตรวจสอบดินและวัสดุ การจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน การออกแบบรายละเอียดงานทาง การออกแบบรายละเอียดทางแยก ออกแบบโครงสร้างชั้นทาง การวิเคราะห์เสถียรภาพและการทรุดตัวของคันทาง การออกแบบโครงสร้างสะพาน โครงสร้างทางแยกต่างระดับ อาคารระบายน้ำและโครงสร้างอื่น ๆ ถ้ามี เช่น ระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้า สถาปัตยกรรม และการทางด้านสิ่งสาธารณูปโภค รวมถึงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น มาตรการป้องกันแก้ไขและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาตรการส่งเสริมและปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อม และการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมโดยประชาชนมีส่วนร่วมสกู๊ป โคกหนองนา Style ผู้นำต้องทำก่อน
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
จ.นครพนม ประกอบพิธีวันพระบิดาแห่งฝนหลวง น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ร.9
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 ที่บริเวณหอเฉลิมพระเกียรติพระราชวงศ์จักรี จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2564 เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงตรากตรำพระวรกายในการทรงงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต บำบัดทุกข์ บำรุงสุขของราษฎรผู้ยากไร้ ด้อยโอกาสทั่วทุกภาคของประเทศให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น
โดยเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 คณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันพระบิดาแห่งฝนหลวง เพื่อให้ประชาชนคนไทยและมวลมนุษยชาติ ได้น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน ในฐานะองค์พระบิดาแห่งฝนหลวง เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ทุรกันดารภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทรงทอดพระเนตรเห็นความทุกข์ยากของพสกนิกรจากปัญหาการขาดแคลนน้ำ และทรงทอดพระเนตรเห็นเมฆบนฟ้าลอยผ่าน ณ เวลานั้น พระองค์จึงทรงตั้งพระราชหฤทัย ที่จะแปรเมฆเหล่านั้นให้เป็นเม็ดฝนเพื่อมาแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำให้กับราษฎร โดยพระองค์ท่านทรงมุ่งมั่นทุ่มเทพระสติปัญญา พระวรกาย และสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ทำการศึกษาวิจัย พัฒนาจนประสบความสำเร็จเป็นเทคโนโลยีการทำฝนเทียมที่มีประสิทธิภาพ ก่อกำเนิดเป็นโครงการพระราชดำริฝนหลวงขึ้นมาตราบจนทุกวันนี้ โดยโครงการพระราชดำริฝนหลวงได้สร้างคุณูปการ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำให้แก่ประเทศไทย ที่สำคัญเทคโนโลยีฝนหลวงยังเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ได้รับการจดสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธยทั้งในประเทศและต่างประเทศ และหลายๆ ประเทศก็ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เพื่อนำเทคนิคและวิธีการที่ทรงคิดค้นขึ้นมาไปปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งในประเทศของตัวเองวันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
นรข.นครพนม ยึดกัญชาอัดแท่ง 608 กิโลกรัม
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม
ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง พร้อมด้วย นายชาธิป
รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.จุลฤทธิ์ จุลกะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.หญิง
จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนมและจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดกัญชาอัดแท่ง
จำนวน 608 แท่ง/กิโลกรัม ที่ได้บูรณาการร่วมกันปฏิบัติงานภายหลังได้รับแจ้งข้อมูลจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในพื้นที่ตำบลแสนพัน
จนถึงตำบลดอนนางหงส์ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
โดยภายหลังการรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันปฏิบัติงานขยายผลจากแหล่งข่าวกระจายกำลังตรวจสอบในพื้นที่
กระทั่งเวลา 21.30 น. ของวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ได้ใช้กล้องตรวจการณ์ในเวลากลางคืนตรวจพบว่ามีเรือแล่นจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านข้ามฟากมายังบริเวณจุดที่ได้รับแจ้งบริเวณรอยต่อบ้านนาถ่อนใต้ตอนบนบ้านดอนนางหงส์
โดยอาศัยความมืดเข้ามา จึงได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบว่ามีกระสอบวางอยู่บนริมเขื่อนแม่น้ำโขงจำนวนหนึ่ง
แต่ไม่พบเรือที่วิ่งข้ามฟากเข้ามา ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้รอซุ่มปฏิบัติการต่อ ว่าจะมีกลุ่มบุคคลเข้ามาขนย้ายวัตถุต้องสงสัยหรือไม่
กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 4 ชั่วโมงก็ไม่พบว่าผู้ใดเข้ามายังที่มีกระสอบวางอยู่ คาดว่าเนื่องจากพื้นที่ฝั่งไทยเจ้าหน้าที่มีการปฏิบัติงานอยู่อย่างต่อเนื่อง
โดยในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 มีการจับกุมขบวนการนำรถข้ามแดน และได้มีรถของกลางจมน้ำ และเจ้าหน้าที่กำลังเก็บกู้อยู่
จึงทำให้ขบวนการลักลอบนำเข้ายาเสพติดเกรงกลัวเจ้าหน้าที่ จึงไม่มีบุคคลใดออกมา
ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบกระสอบที่วางอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง จำนวน 14
กระสอบ พบว่าภายในเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 กัญชา จำนวน 608 แท่ง/กิโลกรัม จึงได้ร่วมกันทำบันทึกตรวจยึดและนำส่งพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
นครพนม บูรณาการลงนามขับเคลื่อนสร้างความปลอดภัยในสถานประกอบการและสถานศึกษา
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนาองค์กรสู่ความปลอดภัยให้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีและร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระหว่างจังหวัดนครพนม สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครพนม ชมรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานจังหวัดนครพนม หอการค้าจังหวัดนครพนม สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม เทศบาลเมืองนครพนม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 ที่จะร่วมกันพัฒนาการทำงานในพื้นที่จังหวัดนครพนมให้ครอบคลุมทุกมิติ มุ่งให้แรงงานทั้งในระบบและนอกระบบมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความปลอดภัยอย่างสูงสุด และมอบประกาศนียบัตรเพื่อเป็นการยกย่องและเชิดชูเกียรติแก่ประกอบสถานประกอบการและสถานศึกษาที่ผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐานแรงงานตามโครงการต่าง ๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับจังหวัดในปี 2564 จำนวน 212 รางวัล
ทั้งนี้โครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนาองค์กรสู่ความปลอดภัย ให้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นโครงการที่จังหวัดนครพนม จะมีการบูรณาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคนิค วิธีการ ขั้นตอนปฏิบัติ ระหว่างภาคีเครือข่าย เพื่อขับเคลื่อนและยกระดับมาตรฐานงานความปลอดภัยในการทำงานในระดับพื้นที่ให้สูงขึ้น ภายใต้แนวคิด Nakhonphanom Safety Community ซึ่งมีการตั้งเป้าหมายว่าในปี 2564 ซึ่งเป็นปีแรกจะร่วมกันคิดออกแบบงานใหม่ ๆ เพื่อสร้างความปลอดภัย 3 เรื่องสำคัญ คือระบบการป้องกันและระงับอัคคีภัย ระบบการจราจรและการเดินทาง และระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า ปีต่อมาเป็นการค้นหาต้นแบบคุณภาพยอดเยี่ยมเพื่อให้สถานประกอบการและสถานศึกษาอื่น ๆ ได้นำไปปรับใช้ตามบริบทของตนเอง จากนั้นในปีที่ 3 จะเป็นการขยายผลสู่องค์กรอื่น ๆ เพื่อให้ทุกหน่วยงานมีความปลอดภัย โดยหวังว่าในปีที่ 4 ทุกแห่งในจังหวัดนครพนมจะมีความปลอดภัยในการทำงานวันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
นครพนม วางมาตรการสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวรับ Sandbox Nakhonphanom
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ประชุมหารือกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ในการติดตามผลการดำเนินงานการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในพื้นที่ ที่วันนี้ยังมีการพบผู้ป่วยติดเชื้ออยู่จำนวน 6 ราย เป็นการติดเชื้อในพื้นที่ 3 ราย และเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 3 ราย รวมถึงมีการพิจารณาอนุมัติให้โรงเรียนและสถานศึกษาสามารถเปิดการเรียนการสอนแบบ On Site ได้ อีกจำนวน 70 แห่ง ประกอบไปด้วย โรงเรียนในพื้นที่อำเภอปลาปาก 10 แห่ง อำเภอธาตุพนม 10 แห่ง อำเภอโพนสวรรค์ 11 แห่ง อำเภอท่าอุเทน 11 แห่ง และอำเภอศรีสงคราม 28 แห่ง ทำให้ปัจจุบันอนุมัติไปแล้ว 309 แห่ง จากโรงเรียนทั้งสิ้น 551 แห่ง
ขณะเดียวกันก็ได้มีการหารือถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการขับเคลื่อนการท่องเที่ยว นครพนม เมืองงาม 3 ที่สุด ในรูปแบบ Sandbox Nakhonphanom ตามนโยบายรัฐบาลที่มีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวไปตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งจังหวัดนครพนมกำหนดเปิดในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ภายใต้นโยบายขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เชิงสุขภาพ (Medical Tourism) ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่านวัตกรรมผลิตภัณฑ์ บริการทางสุขภาพ มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ส่งเสริมต่อยอดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและสุขภาพ ซึ่งจังหวัดนครพนม มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง และมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ตามแนววิถีชุมชน โดยเฉพาะอำเภอเมืองนครพนม อำเภอธาตุพนม อำเภอเรณูนคร อำเภอบ้านแพง และอำเภอท่าอุเทน ดังนั้นจึงได้กำหนดเส้นทางการท่องเที่ยวใน 5 อำเภอดังกล่าว และมีการเตรียมความพร้อมในส่วนต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ประกอบไปด้วย จัดให้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ วางแผนเส้นการท่องเที่ยวในชุมชนเพื่อให้ชุมชนเกิดรายได้ จัดอบรมเสริมทักษะความรู้ให้กับบุคลากรทางการท่องเที่ยว เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 จัดมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ขอความร่วมมือสถานประกอบการ ร้านค้า โรงแรม ที่พักให้เข้าร่วมมาตรฐาน Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสำหรับกิจการด้านการท่องเที่ยว เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวว่ามาจังหวัดนครพนมแล้วมีความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ทั้งนี้ ได้วางเงื่อนไขสำหรับนักท่องเที่ยว (กลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ) จะต้องได้รับวัคซีนครบแต่ไม่เกิน 1 ปี ต้องลงทะเบียน “Application นครพนมพร้อม” ต้องเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการของจังหวัด โดยนักท่องเที่ยวจะต้องพักอาศัยอยู่ในโรงแรมที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ และต้องทำกิจกรรมท่องเที่ยวภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดนครพนม เตรียมจัดกิจกรรมรับหนาวส่งท้ายปี Nakhonphanom Winter Festival
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เชิญคณะทำงานร่วมประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมส่งเสริมเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ Nakhonphanom Winter Festival ประจำปี 2565 เพื่อเป็นการยกระดับกิจกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดให้มีความโดดเด่นน่าสนใจ และกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวให้มาเยือนจังหวัดนครพนมมากยิ่งขึ้น
โดยมีกิจกรรมเด่น ๆ ที่อยู่ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 เบื้องต้นได้มีการกำหนดจัดกิจกรรมขึ้นระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2564 - 2 มกราคม 2565 รวมทั้งสิ้น 10 วัน ซึ่งยังคงมีกิจกรรมที่ชวนให้นักท่องเที่ยวมาเยือนจังหวัดนครพนมในช่วงฤดูหนาวเช่นเคยเหมือนทุกปี เช่นมีอุโมงค์ไฟที่ประดับแสงสีเป็นอัตลักษณ์ทอดยาวตามเส้นทางจักรยานที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ความยาว 100 เมตร ให้นักท่องเที่ยวได้แวะถ่ายภาพเก็บความประทับใจ ทางกลางธรรมชาติที่งดงาม มีกิจกรรมแห่ดาว /รถดาวคริสต์มาส และกิจกรรมวันรวมชนเผ่าไทนคร ที่จะมีทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรม 8 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนมได้ชม มีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าอาหารถิ่น สินค้า OTOP ให้ผู้ที่สนใจได้ลิ้มรสความอร่อยและซื้อหาเป็นของฝากของที่ระลึก นอกจากนี้ยังจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนนครพนม ที่มีการจำลองการใช้ชีวิตของแต่ละชนเผ่ามาให้นักท่องเที่ยวได้เห็นถึงอัตลักษณ์ความโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น การแต่งกาย สำเนียง ภาษา และลักษณะบ้านที่ใช้อยู่อาศัย รวมถึงมีกิจกรรมเคาต์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่ และการทำบุญตักบาตรเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลวันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
นครพนม เตรียมพัฒนาทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ
โดยโครงการดังกล่าวจะเป็นการบูรณาการความร่วมมือ ระหว่างสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานจัดหางานของจังหวัด และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือ ฝึกทักษะอาชีพ ให้กับนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลา 4-6 เดือน จากแรงงานไร้ฝีมือ กลายเป็นแรงงานที่มีฝีมือสูง มีอัตราค่าจ้างมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำโดยทั่วไป เนื่องจากเป็นผู้ที่มีทักษะความสามารถทางวิชาชีพ และมีฐานะเป็นแรงงานที่มีฝีมือ มีใบประกาศนียบัตรรับรองหลังจบการฝึกอบรมในสายอาชีพ ซึ่งนักเรียนที่เข้ารับการฝึกอบรมทักษะด้านอาชีพตามโครงการตลอดหลักสูตรจะไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นการเรียนฟรี พักฟรี กินฟรี มีเงินสนับสนุนระหว่างการฝึกอบรม เมื่อจบแล้วสามารถมีงานทำ โดยจะมีการสำรวจและจำแนกนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2564 – 31 มกราคม 2565 จากนั้นระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2565 จะเป็นการนำนักเรียนกลุ่มเป้าหมายไปศึกษาดูงานและรับสมัครเข้าอบรมที่สถาบันหรือสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด และเริ่มฝึกอบรมตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนเมษายน - กันยายน 2565





























