วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มอบหมายให้นายวรรณพล ต่อพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมนายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม และนายแพทย์กิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงและรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในพื้นที่ที่ในวันนี้มีการพบผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 3 ราย เป็นการติดเชื้อในพื้นที่อำเภอบ้านแพง 2 ราย และอำเภอโพนสวรรค์ 1 ราย ทำให้ปัจจุบันนครพนมมียอดรวมสะสมผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ 5,074 ราย รักษาหายแล้ว 4,960 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 86 ราย และเสียชีวิตสะสม 28 ราย โดยไม่พบผู้เสียชีวิตต่อเนื่องมาแล้ว 6 วัน
โดยการประชุมในวันนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ได้พิจารณาอนุมัติให้สถานศึกษาเปิดการเรียนการสอนแบบ On-Site ได้เพิ่มอีก 88 แห่ง เป็นโรงเรียนในพื้นที่อำเภอเมืองนครพนม 16 แห่ง อำเภอเรณูนคร 10 แห่ง อำเภอนาแก 6 แห่ง อำเภอปลาปาก 9 แห่ง อำเภอนาทม 13 แห่ง อำเภอโพนสวรรค์ 6 แห่ง อำเภอธาตุพนม 6 แห่ง อำเภอศรีสงคราม 16 แห่ง และอำเภอนาหว้า 6 แห่ง ทำให้ปัจจุบันสามารถเปิดเรียนในระบบ On-Site ได้แล้วรวมทั้งสิ้น 371 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 67.33 ของสถานศึกษาทั้งหมด ในส่วนของการให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนนั้นที่ประชุมได้รับทราบแผนการฉีดวัคซีนที่จะให้ทุกหน่วยงานบูรณาการรณรงค์เร่งรัดการฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรตามสิทธิ์การรักษาฯ ระหว่างวันที่ 17-30 พฤศจิกายน 2564 ตั้งเป้าหมายการให้บริการให้ได้วันละ 7,670 คน โดยจะมีกิจกรรมสัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีน จัดทีมฉีดวัคซีนเชิงรุกในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และขยายในกลุ่มแรงงานต่างด้าว มีการค้นหากลุ่มเป้าหมายเชิงรุกที่ยังไม่ได้ฉีด มีการสื่อสารทำความเข้าใจให้ข้อมูลที่ถูกต้องสำหรับประชาชน รวมทั้งสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันจังหวัดนครพนมมีการฉีดวัคซีนเข็ม 1 ไปแล้ว 292,744 ราย คิดเป็นร้อยละ 58.28 จากจำนวนประชากรที่ควรได้รับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันระดับจังหวัด (70%) คือ 502,312 คน ดังนั้นในวันนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมจึงขอเชิญชวนประชาชนจังหวัดนครพนมเข้ารับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพราะถ้าทุกคนได้รับวัคซีนมีภูมิคุ้นกัน จังหวัดก็จะสามารถขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ ได้ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทุกคนมีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีวัคซีนสูตรไขว้ให้ทุกคนได้เลือกรับบริการ ไม่ว่าจะเป็น เข็ม 1 ซิโนแวค เข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้าที่ต้องมีระยะเวลาห่างกัน 4 สัปดาห์ หรือเข็ม 1 แอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 ไฟเซอร์ ระยะเวลาห่าง 6 สัปดาห์ และสูตรเข็ม 1 ซิโนแวค เข็มที่ 2 ไฟเซอร์ระยะห่างกัน 4 สัปดาห์ ซึ่ง สามารถขอรับบริการฉีดวัคซีนได้ แบบ Walk-In ณ โรงพยาบาลทุกแห่ง และ รพ.สต.ที่แต่ละพื้นที่กำหนด โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนวัคซีนโควิดของแต่ละอำเภอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น