วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ผู้ว่าฯนครพนม นำทีมเยี่ยมติดตามการอำนวยความสะดวกประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ ย้ำเดินทางต้องปลอดภัย พื้นที่ต้องไร้ยาเสพติด

วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนมจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางกาญจนี รุจนเสรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่อำเภอโพนสวรรค์ อำเภอท่าอุเทน และอำเภอเมืองนครพนม เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และตรวจติดตามจุดตรวจ จุดบริการประชาชนที่คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครพนมจัดตั้งขึ้นมาเพื่อ ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน อำนวยความสะดวกและให้บริการแก่พี่น้องประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาในพื้นที่ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่าที่จะได้อยู่กับครอบครัว มาช่วยกันปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้นอกจากจะเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกคนแล้ว ยังได้นำเอาน้ำดื่ม อาหารแห้ง ยาสามัญประจำบ้าน เสื้อกั๊กและกระบองไฟจราจร มามอบให้เพื่อใช้ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ด้วย รวมถึงเป็นการนำคณะหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่จริง เพื่อรับรู้ รับทราบ ข้อมูลสถานการณ์ในการเดินทาง การให้บริการ ปัญหาของแต่ละพื้นที่ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และสิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานต้องการให้ทางจังหวัดสนับสนุนเพิ่มเติมในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาร่วมกันวางแผนกำหนดเป็นแนวทางในการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาในพื้นที่ ซึ่งในการลงพื้นที่นั้นได้มีการแต่งตั้งทีมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจในลักษณะนี้ทั้งสิ้น 5 ชุดด้วยกันเพื่อแยกย้ายกันลงพื้นที่ให้ครอบคลุมทั้ง 12 อำเภอ ทั้งนี้ได้มีการเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ทุกนายทุกฝ่าย โดยขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เข้มงวด มีความสม่ำเสมอ เป็นไปด้วยความถูกต้องและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ถ้าพบเห็นปัญหาไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่อย่าได้นิ่งนอนใจให้รีบรายงานผู้บังคับบัญชาที่สูงกว่าทันที เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไข เพราะเรื่องเล็กๆ อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ เช่น ถ้าพบว่าแสงสว่างบนเสาไฟฟ้าตามถนนไม่ติดเป็นบางจุด นั้นหมายถึงความสว่างของแสงไฟมีไม่เพียงพอ อาจส่งผลต่อการขับขี่ของผู้ใช้รถใช้ถนนที่นำมาซึ่งอุบัติเหตุได้ ที่สำคัญคือการดูแลลูกหลาน คนในครอบครัว และคนในชุมชนด้วยกันไม่ให้มีความประมาท เมื่อใช้รถใช้ถนนครั้งใดต้องมีความพร้อมทั้งร่างกาย และสติ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถขณะมึนเมา หรือถ้าพบเห็นผู้ใช้รถใช้ถนนมีอาการง่วง ก็ให้หยุดรถไว้อย่าให้คนขับฝืนขับต่อไปเพราะนั้นหมายถึงอันตรายทั้งต่อผู้ขับขี่และผู้ที่ใช้ถนนร่วม

และขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับการช่วยเป็นหูเป็นตาอีกแรงในการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย เพราะในช่วงนี้จากสถิติพบว่ามีการกระทำผิดสูง เนื่องจากเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่บางส่วนต้องมาประจำที่จุดตรวจ จุดบริการ ทำให้อาจมีช่องว่างที่ขบวนการทำผิดกฎหมายใช้ลักลอบดำเนินการได้ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายพร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อได้รับแจ้ง ทั้งในเรื่องการช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกในการสัญจรไปมา และการปราบปรามยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ เพื่อทำให้ทุกคนมีความปลอดภัย


มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ฯ เชิญถุงยังชีพพระราชทาน มอบให้ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย ที่นครพนม

วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ที่บ้านนาล้อม หมู่ที่ 2 ตำบลนาหัวบ่อ อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนมจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดนครพนม เป็นประธานประกอบพิธีเชิญถุงยังชีพพระราชทาน จากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มามอบให้ครอบครัว นายจับ มหาวงค์ และนายสมเลส อุนาพรม ที่ทั้ง 2 ครอบครัวประสบอัคคีภัยเมื่อวันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม สโมสรไลออนส์นครพนม สโมสรโรตารีนครพนม และผู้มีจิตอันเป็นกุศลร่วมบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ในครัวเรือนและเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัย

นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยในพสกนิกรของพระองค์ ทรงต้องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว อันจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและผ่อนคลายความทุกข์ร้อน อีกทั้งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ทุกคนในครอบครัวที่ประสบอัคคีภัยในครั้งนี้ให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ด้วยความเข้มแข็ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงยังชีพพระราชทานมามอบ จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครังทั้ง 2 ที่ประสบเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้ด้วย โดยในการช่วยเหลือหลังจากนี้นั้น จะมีการประสานกำลังพลทหารมาช่วยในการรื้อถอนบ้านที่เสียหายทั้งหลังออกก่อน จากนั้นจึงจะช่วยกันก่อสร้างขึ้นมาใหม่ โดยมีเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 มาช่วยเหลือเป็นค่าวัสดุซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเท่าที่จ่ายจริงหลังละไม่เกิน 49,500 บาท ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2560 เเละที่เเก้ไขเพิ่มเติม ร่วมกับเงินบริจาคที่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนสนับสนุนมา ส่วนบ้านที่เสียหายบางส่วนก็ได้มอบหมายให้นายอำเภอโพนสวรรค์บูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองท้องถิ่น ชุมชน ช่วยกันปรับปรุงซ่อมแซมให้เสร็จโดยเร็วที่สุด พร้อมกับให้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานเป็นระยะ ๆ จนกว่าทั้ง 2 หลังจะเสร็จสมบูรณ์


วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2564

จ.นครพนม ยืนยันผลตรวจพบผู้ป่วยโควิด สายพันธุ์โอมิครอน 4 ราย ชวน Walk-in ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3


วันที่ 29 ธันวาคม 2564 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายวรรณพล ต่อพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายแพทย์กิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวดนครพนม (ด้านเวชกรรมป้องกัน) และนายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ร่วมกันแถลงสถานการณ์ในการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวโควิดในพื้นที่ ซึ่งวันนี้มีผู้ป่วยยืนยัน 9 ราย แยกเป็นติดเชื้อในพื้นที่ 1 ราย และอีก 8 รายติดเชื้อนอกพื้นที่ ทำให้ปัจจุบันมียอดสะสมผู้ป่วยติดเชื้อ 5,272 ราย โดยในจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อนอกพื้นที่มี 2 รายมาจากเมืองโมทาลา ประเทศสวีเดน พร้อมญาติรวม 7 คน เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ทั้งหมดผ่านกระบวนการคัดกรองตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ที่ประเทศต้นทาง ไม่พบเชื้อ เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยด้วยประเภท Test & Go ก็ได้รับการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้งก็ไม่พบเชื้อ จากนั้นจึงได้เดินทางมาจังหวัดนครพนม และเริ่มมีอาการป่วยในวันที่ 27 ธันวาคม จึงตรวจ ATK ด้วยตนเอง ผลออกมาเป็นบวกทั้งคู่ จึงแจ้งหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนมรับตัวเข้ารักษา พร้อมเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อ ซึ่งปรากฎว่าผลตรวจยืนยันเป็นเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ขณะเดียวกันอีก 2 รายเป็นในพื้นที่อำเภอเมือง 1 ราย และอำเภอนาหว้า 1 รายซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่น
ซึ่งเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เป็นสายพันธุ์ที่เสี่ยงทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำได้ คนที่ติดโควิดและหายแล้วก็สามารถกลับมาป่วยได้อีก เป็นเชื้อที่แพร่ได้รวดเร็วแต่มีความรุนแรงของโรคน้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้า และอาจจะหลบภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดได้พอสมควร จะอย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์ นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ ระบุว่า สายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นถ้าหลบหลีกภูมิต้านทานจะทำให้ลดประสิทธิภาพของวัคซีนลง แต่ไม่ใช่ว่าวัคซีนจะไม่ได้ประสิทธิภาพเลย เช่น วัคซีนเคยได้ประสิทธิภาพ 90% สายพันธุ์ใหม่อาจจะลดลงมาเหลือ 70-80 % ดังนั้นการฉีดวัคซีนจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำให้ได้มากที่สุด เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าไวรัสนี้ไม่หมดไปอย่างแน่นอน ถ้าทุกคนมีภูมิต้านทานถึงแม้จะเป็นบางส่วนก็จะลดความรุนแรงของโรคลง ลดการป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลและการเสียชีวิต จะทำให้มองดูว่าการติดเชื้อนี้เป็นเหมือนกับโรคทางเดินหายใจทั่วไป ดังนั้น จังหวัดนครพนมจึงขอเชิญชวนชาวนครพนมเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสโควิด โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่หน่วยบริการใกล้บ้านทุกพื้นที่ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ สามารถ Walk-In เข้าไปขอรับการฉีดได้ทั้งเข็ม 1 เข็ม 2 และกระตุ้นเข็ม 3

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทานแก่ผู้ประสบภัยนครพนม

วันที่ 29 ธันวาคม 2564 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรีผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดนครพนม เป็นประธานในการประกอบพิธีมอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทานและชุดยาเวชภัณฑ์ของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ผู้สูงอายุและผู้ที่มีฐานะยากจนที่ได้รับผลกระทบจากภัยหนาว จำนวน 2,500 คน ประกอบไปด้วย อำเภอเมืองนครพนม 700 คน อำเภอท่าอุเทน อำเภอศรีสงคราม อำเภอบ้านแพง อำเภอนาหว้า อำเภอโพนสวรรค์ และอำเภอนาทม อำเภอละ 300 คน โดยมีตัวแทนของแต่ละอำเภอเข้ารับมอบเพื่อนำไปส่งต่อยังประชาชนในพื้นที่ เป็นการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข

นายชาธิป รุจนเสรีผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยสุขภาพอนามัยราษฎรที่ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดนครพนม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน และชุดยาเวชภัณฑ์มามอบให้ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบของอากาศหนาวเย็น และเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัย จึงขอให้ทุกคนได้ตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน และขอให้ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดีของชาติเป็นการแสดงถึงความกตัญญูกตเวทิตาและความจงรักภักดี

ทั้งนี้มูลนิธิราชมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ถือกำเนิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงห่วงใยต่อพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ ด้วยทรงต้องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ ให้ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว อันจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและผ่อนคลายความทุกข์ร้อนของประชาราษฎร์ทุกหนแห่ง และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรับมูลนิธิไว้ในพระราชูปถัมภ์ และทรงดำรงตำแหน่ง “องค์พระราชูปถัมภก” แห่งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทรงห่วงใยทุกข์ยากของราษฎรเป็นอันดับแรก ได้พระราชทานแนวทางในการปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยให้เป็นระบบ รวดเร็ว และไม่ซ้ำซ้อน โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ องคมนตรี ผู้แทนพระองค์ ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นำสิ่งของพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภค มอบแก่ราษฎรผู้ประสบภัย จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้


จ.นครพนม เปิดศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยเทศกาลปีใหม่ พร้อมตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็วให้บริการประชาชนตามสายทาง

วันที่ 29 ธันวาคม 2564 ที่บริเวณหมวดทางหลวงนครพนม บ้านดอนยานาง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดจุดบริการ ศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยเทศกาลปีใหม่ 2565 และปล่อยขบวนรถบริการ ที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้ร่วมกันบูรณาการเพื่อให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาในพื้นที่ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2564 - 4 มกราคม 2565 รวม 7 วัน

ทั้งนี้จังหวัดนครพนม ร่วมกับกรมทางหลวง โดยแขวงทางหลวงนครพนมและภาคีเครือข่ายได้มีการเตรียมความพร้อม โดยตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ประกอบไปด้วย ศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยในทางหลวงหมายเลข 22 ตอบควบคุม 0502 ตอนกุรุคุ-นครพนม ที่กม. 234+951 บริเวณหน้าหมวดทางหลวงนครพนม จัดตั้งหน่วยบริการเคลื่อนที่เร็วประจำหมวดทางหลวง 5 ชุด ได้แก่ หมวดทางหลวงนครพนม หมวดทางหลวงท่าอุเทน หมวดทางหลวงศรีสงคราม หมวดทางหลวงปลาปาก หมวดทางหลวงนาแก รวมถึงมีจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ/อำนวยการข้อมูลเพื่อประสานงาน ตรวจสอบข้อมูลและสถานการณ์ ในทางหลวงหมายเลข 212 ตอนท่าควาย-กลางน้อย ที่กม.319+140 สำนักงานแขวงทางหลวงนครพนม ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่อยู่เวรยามประจำตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้การบริการแก่ประชาชน ทั้งในด้านข้อมูลข่าวสารและการให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ตลอดจนใช้เป็นสถานที่พักรถชั่วคราวถ้าผู้ขับขี่มีความเหนื่อยล้าระหว่างการเดินทาง รวมถึงการออกตรวจตราความเรียบร้อยในสายทางที่รับผิดชอบเพื่อทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมามีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากที่สุด


จ.นครพนม จัดงานวันคนพิการสากลประจำปี 2564 สร้างการมีส่วนร่วมนำสู่โลกใหม่หลังโควิด -19

วันที่ 29 ธันวาคม 2564 ที่บริเวณ ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายวรรณพล ต่อพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเป็นประธานเปิดงานวันคนพิการสากล ประจำปี 2564 ที่จังหวัดนครพนม โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนมจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้คนพิการได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม เปิดโอกาสในคนพิการได้แสดงความสามารถและศักยภาพให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นและเกิดเจตคติที่ดีที่สร้างสรรค์ต่อคนพิการ เกิดการยอมรับคนพิการในฐานะที่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของสังคมที่ยังสามารถใช้สติปัญญาและความเชี่ยวชาญในการทำงานเลี้ยงตนเองและครอบครัว ทั้งยังเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ภายใต้แนวคิด คนพิการร่วมนำการเปลี่ยนแปลงเพื่อการเข้าถึงโดยสะดวกถ้วนหน้าสู่โลกใหม่หลังโควิด -19 อย่างยั่งยืน


โดยกิจกรรมในวันนี้ประกอบไปด้วย การรับฟังคำปราศรัย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเนื่องในวันคนพิการสากล ประจำปี 2564 พิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณพร้อมช่อดอกไม้แก่คนพิการที่ได้เป็นต้นแบบของจังหวัดนครพนมด้วยมีความสามารถที่หลากหลายที่พร้อมถ่ายทอดความรู้สู่เพื่อนคนพิการและประชาชนทั่วไป เป็นนักจัดรายการวิทยุ พิธีมอบเกียรติบัตรแก่คนพิการดีเด่นที่ประสบความสำเร็จในชีวิต พิธีมอบเกียรติบัตรแก่บุคคลและองค์กรที่ให้การสนับสนุนด้านงานคนพิการ สถานประกอบการที่ให้การส่งเสริมด้านการจ้างงานคนพิการ มอบรางวัลองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่นระดับจังหวัด มอบป้ายสิ่งอํานวยความสะดวกสําหรับคนพิการให้กับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อนำไปติดในสถานที่ที่เป็นมิตรสำหรับคนพิการและทุกคน และมอบไม้เท้าขาวให้ผู้พิการทางการมองเห็น นอกจากนี้ยังมีการจัดเวทีเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการจัดสวัสดิการสำหรับคนพิการระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ และการเปิดโอกาสให้คนพิการได้แสดงความสามารถในการร้องเพลง การเต้นประกอบเพลง ก่อนที่จะเปิดเวทีเสวนาเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับคนพิการอีกครั้งโดยผู้นำขององค์กรคนพิการแต่ละองค์กร


วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2564

บรรยากาศการท่องเที่ยวนครพนม ยังคงคึกคักต่อเนื่อง

วันที่ 28 ธันวาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาสัมผัสความงดงามทางธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรมอันสวยงามยังคงเป็นไปด้วยความต่อเนื่องและคึกคักตลอดทั้งวัน โดยในช่วงเช้าและช่วงกลางวันทุกคนเลือกที่จะไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ เช่น ไปไหว้พระธาตุพนมเพื่อขอพรรวมถึงไปไหว้พระธาตุประจำวันเกิด ขณะที่อีกหลายคนก็เลือกที่จะไปเยือนถ้ำนาคี ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูลังกา ฝั่งอำเภอบ้านแพง เพื่อสัมผัสตำนานความเชื่อในเรื่องของพญานาค ก่อนที่ในช่วงเย็นจะกลับเข้ามาพักที่ตัวเมืองพร้อมกับไปกราบไหว้ขอพรพญาศรีสัตตนาคราช และล่องเรือชมธรรมชาติ 2 ฝั่งโขง รวมถึงเดินเที่ยวที่ถนนคนเดินเพื่อเลือกซื้อของรับประทานและของฝากสำหรับคนทางบ้าน ก่อนที่จะไปเดินเก็บความทรงจำที่งดงามกับอุโมงไฟที่มีความยาวกว่า 300 เมตร ที่ตั้งอยู่บนเส้นทางจักยานริมฝั่งแม่น้ำโขง เป็นการออกกำลังกายไปพร้อมการสูดเอาอากาศบริสุทธิ์ และเก็บภาพประทับใจของแสงไฟและทิวทัศน์ริมฝั่งโขง ซึ่งอุโมงนี้จังหวัดนครพนมได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างขึ้นมาเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่โดยเฉพาะ ภายใต้งาน Nakhonphanom Winter Festival ตอนสายลมแห่งความทรงจำ ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2564 และจะมีไปจนถึงวันที่ 2 มกราคม 2565

และในวันนี้ก็ยังมีไฮไลท์กิจกรรมเด่นให้ทุกคนได้ร่วมสนุกและร่วมชม คือการแข่งขันเต้นบาสโลบและไลน์แดนซ์ ซึ่งเป็นการเต้นของ สปป.ลาว ที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝรั่งเศส โดยนิยมเต้นเวลาออกงานสังคม เช่นงานเลี้ยง งานสังสรรค์ งานแต่งงาน รวมถึงงานเลี้ยงรับรองที่เป็นทางการในการต้อนรับแขกระดับประเทศที่สำคัญๆ ซึ่งก่อนหน้านี้คณะทำงานได้จัดให้มีการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนมาเรื่อย จนถึงวันนี้ที่เป็นรอบตัดสินเหลือไม่กี่ทีมที่มีความพร้อมมากที่สุด เพื่อชิงความเป็นเลิศในการเต้นบาสโลบและไลน์แดนซ์ ที่พร้อมเพียงกัน ตรงจังหวะ มีท่วงท่าที่คมชัด โดยทีมที่ชนะเลิศจะได้รับโล่รางวัลพร้อมเงินรางวัล 4,000 บาท ส่วนรองอันดับ 1 จะได้โล่รางวัลพร้อมเงิน 3,000 บาท ส่วนอันดับ 2 จะได้รับโล่รางวัลพร้อมเงินรางวัล 2,000 บาท


สกู๊ป โคก หนอง นา แบบคู่ขนาน

หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าการทำ โคก หนอง นา นั้น สามารถทำควบคู่กับอาชีพอื่นได้ไหม ต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถแบ่งเวลาได้ วันนี้สำหนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม จึงพามาพบกับหนึ่งในเกษตรกรที่ทำโคก หนอง นา ควบคู่กับการทำงานราชการ เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจ

นายมงคล วงษ์ตา ผู้ใหญ่บ้านบ้านดงขวาง ตำบลแสนพัน อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในส่วนตัวแล้ว ตัวเองมีงานราชการที่ต้องดูแลรับผิดชอบอยู่ในหมู่บ้าน ส่วนงานการเกษตร โคก หนอง นา เป็นงานเสริมที่ตนเองมีความชื่นชอบ เพราะฉะนั้นจะต้องแบ่งเวลาให้ได้และสิ่งที่เป็นนวัตกรรมหรือความทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น น้ำหยดหรือว่าน้ำสปริงเกอร์ จึงเป็นตัวช่วยให้สามารถดำเนินการได้โดยที่ไม่เสียเวลา ทำให้สามารถทำงานราชการและการเกษตรควบคู่กันไปเป็นอย่างดี โคก หนอง นา นั้น จะมีหลาย ๆ กิจกรรมรวมอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์ รวมถึงการแปรรูปสินค้า ซึ่งถ้าใครคิดที่จะทำก็อยากให้เริ่มคิดในเบื้องต้น คือการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์เป็นอันดับแรกก่อน จากนั้นค่อยทำเพิ่มทีละเล็กทีละน้อย ซึ่งจากที่ตนเองทำมาไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป แต่ก็ต้องใจเย็น ๆ ค่อยเป็นค่อยไป เริ่มไปทีละก้าวอย่าใจร้อน เพราะต้นไม้ที่ปลูกลงไปประมาณ 2-3 เดือนจึงจะเริ่มเจริญเติบโตงอกงามก็มี ในส่วนที่ทำมาปัจจุบันเริ่มเห็นผลแล้วก็คือการเลี้ยงปลาในคลองไส้ไก่และในสระที่ขุดไว้ ตอนนี้มีผลผลิตสามารถจับขึ้นมาจำหน่ายเป็นรายได้ในเบื้องต้นแล้ว ต้นกล้วยที่เคยปลูกไว้อย่างเช่นกล้วยหอมทองก็เช่นเดียวกันได้ขายไปหลายรุ่นแล้ว เพราะฉะนั้นจึงคิดว่าไม่ยากสำหรับการทำให้ประสบความสำเร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทั้งนี้อยากฝากถึงคนที่จะมาทำในเรื่องนี้ จะต้องมีใจรักเป็นอันดับแรกเพราะโคก หนอง นา อาจจะไม่ได้สร้างความร่ำรวยให้ แต่จะสร้างความมั่นคง ความพออยู่พอกินให้กับครอบครัวของเราแทน เพราะเราไม่ได้ทำจำนวนมาก แต่เราทำหลากหลายอย่าง เหลือกินจึงจะขาย ซึ่งการขายก็ไม่ยุ่งยากอะไรเพียงในหมู่บ้าน ในตำบลก็หมดแล้ว ไม่ต้องไปไหนให้ไกลเสียเวลา



เราจะเห็นว่านี่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างของการทำโคก หนอง นา โดยเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเป็นตัวช่วยในการประหยัดเวลา แต่ก็นำมาซึ่งการมีแหล่งอาหารที่มั่นคงให้กับตนเองและครอบครัว ที่มาจากการทำการเกษตรแบบทำเล็กผสมน้อย

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2564

นครพนม คว้า 6 รางวัลชมรม TO BE NUMBER ONE

นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยภายหลังนำคณะตัวแทนจังหวัด/ อำเภอ/ ชมรม TO BE NUMBER ONE ที่ได้เป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าแข่งขันระดับประเทศที่เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรีว่า จากที่จังหวัดนครพนมได้มีการน้อมนำแนวทางการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มาเป็นเครื่องมือในการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2545 โดยยึดหลัก 2 ป. 2 บ. คือ ป้องกัน ปราบปราม บำบัดรักษา และบูรณาการ พร้อมขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติในระดับอำเภอ ระดับตำบล และเน้นย้ำให้มีการพัฒนาเยาวชนในจังหวัดนครพนมไปข้างหน้า เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ที่ว่า ชาวนครพนมมีสุข ด้วยวิถี TO BE NUMBER ONE ทุกภาคส่วนร่วมบูรณาการกัน ช่วยสร้างสรรค์เยาวชนให้เก่งและดี ภายใต้ยุทธศาสตร์การรณรงค์ปลูกจิตสำนึกและสร้างกระแสนิยมที่เอื้อต่อการป้องกันปัญหายาเสพติด ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจแก่เยาวชนและยุทธศาสตร์การสร้างและพัฒนาเครือข่ายเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ทำให้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และในปีนี้ได้เป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าแข่งขันผลงาน จำนวน 8 ชมรม

ซึ่งปรากฏว่าจังหวัดนครพนมสามารถคว้ารางวัลมาได้ทั้งสิ้น 6 รางวัล ประกอบด้วย ชุมชนบ้านนาราชควายสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทกลุ่มดีเด่น ชมรม TO BE NUMBER ONE ในชุมชนภูมิภาคมาได้ ส่วนจังหวัด TO BE NUMBER ONE จังหวัดนครพนม / ชมรม TO BE NUMBER ONE ชุมชนบ้านนาสมดี /ชมรม TO BE NUMBER ONE สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครพนม /ชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนธาตุพนม ได้รางวัลกลุ่มต้นแบบ และอีกหนึ่งรางวัลเป็นของนางสุพิศ ว่าวภู่ ตำแหน่งนักวิซาการอบรมและฝึกวิชาชีพชำนาญการพิเศษ (หัวหน้าสถานแรกรับ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครพนม) คือรางวัลผู้ปฏิบัติงานดีเด่น ประเภทบุคลากรในสังกัดกระทรวงยุติธรรม


วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2564

สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่งมอบบ้านและทุนประกอบอาชีพแก่คนพิการในพื้นที่จังหวัดนครพนม

วันที่ 21 ธันวาคม 2564 ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดนครพนม นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานในการส่งมอบบ้านและทุนประกอบอาชีพแก่คนพิการในพื้นที่ ที่สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดสรรงบประมาณโครงการสภาสังคมสงเคราะห์ 55 ปี ใต้ร่มพระบารมี สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการสลากการกุศลงบประมาณปี 2562 - 2564 เพื่อให้ศูนย์บริการคนพิการปัญญาพรจังหวัดนครพนม ได้ใช้เป็นทุนในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้แก่คนพิการในพื้นที่ จำนวน 32 หลังคาเรือน เฉลี่ยครัวเรือนละ 50,000 - 74,490 บาท และมอบทุนประกอบอาชีพสำหรับคนพิการและครอบครัว จำนวน 132 ครัวเรือน ๆ ละ 30,000 - 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับอาชีพที่จะนำไปลงทุน และมอบสิ่งอำนวยความสะดวกรถเข็นวิลแชร์ และเตียงปรับระดับให้ผู้พิการจำนวน 5 ราย เป็นการลดความเลื่อมล้ำทางสังคม ทำให้ครอบครัวคนพิการมีความสุข มีกำลังใจในการดำเนินชีวิต สังคมเกิดการยอมรับและเป็นแบบอย่างให้กับคนในชุมชนอื่น

โดยในการซ่อมแซมปรับสภาพบ้านนั้น ทางอาจารย์มหาวิทยาลัยนครพนม คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สาขาวิชาสถาปัตยกรรม ได้มีการออกแบบเพื่อปรับปรุงบ้านตามหลัก universal design ซึ่งเป็นการออกแบบเพื่อคนทั้งมวล ให้คนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย วัยเด็ก วัยหนุ่ม วัยชรา เด็กเล็ก และสตรีมีครรภ์ ตลอดจนผู้พิการประเภทต่างๆ ได้อยู่อาศัยในบ้านที่มีความมั่นคง ปลอดภัย ใช้งานง่าย มีความยืดหยุ่นที่ปรับเปลี่ยนได้ โดยทุกคนมีความเท่าเทียมกัน เพื่อให้หน่วยงาน ชุมชนและคนในพื้นที่ ได้ร่วมกันปรับปรุงซ่อมแซมสภาพบ้านให้กับผู้พิการในพื้นที่ ส่วนทุนประกอบอาชีพ จะเป็นการส่งเสริมให้คนพิการและครอบครัวได้มีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นจากการมีอาชีพเสริมตามความถนัด ความสมัครใจของคนพิการและคนในครอบครัว ที่มีทั้งที่จะนำไปเลี้ยงปลา เลี้ยงโค-กระบือ เลี้ยงสุกร ขายอาหาร สานกระติบข้าว ผลิตฟอร์นิเจอร์ ทอผ้าพื้นเมือง และปลูกแก้วมังกร นอกจากนี้ทางบริษัท สยามนิสสันนครพนม จำกัด ยังได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นมามอบให้ผู้พิการได้นำไปใช้ในครัวเรือน รวมถึงทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนมได้สนับสนุนน้ำดื่มให้แต่ละครอบครัวอีกด้วย


วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2564

คณะเกษตรและเทคโนโลยี ม.นครพนม เตรียมจัดกิจกรรม วิ่ง-ปั่นเลาะโขง เชื่อมโยงเกษตรหนองเซา Season 1

วันที่ 20 ธันวาคม 2564 ที่บริเวณสโมสรนักศึกษาคณะเกษตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนครพนม นายวรรณพล ต่อพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย ผศ.ดร.ถนอม ทาทอง คณบดีคณะเกษตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนครพนม นายประหยัด รูปคม รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และนายสมเกียรติ ศิริตัน ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานวิ่ง-ปั่นเลาะโขง เชื่อมโยงเกษตรหนองเซา Season 1 ประจำปี 2564 เนื่องในวันครบรอบ 9 ปี ของการสถาปนาคณะเกษตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนครพนม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกายและการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน ภายใต้แนวคิด วิ่งชิว ชิว ชมวิวทุ่งคำไฮ ปั่นจักรยานเส้นทางใหม่ สานสายใยพี่น้องไทย-ลาว

โดยกิจกรรมในครั้งนี้จะมีขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคม 2564 แบ่งออกเป็น กิจกรรมวิ่งชิว ชิว ระยะทางรวม 6 กิโลเมตร ซึ่งจะใช้พื้นที่โดยรอบบริเวณอ่างเก็บน้ำของคณะเกษตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนครพนม เป็นสถานที่ทำกิจกรรม โดยผู้ที่มาร่วมงานจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ร่มรื่น เย็นสบายที่เต็มไปด้วยป่าธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งในอนาคตสถานที่แห่งนี้จะมีการพัฒนาและสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติเพื่อให้กลายเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อน และกิจกรรมปั่นเลาะโขง ที่กำหนดจุดปล่อยตัวบริเวณริมเขื่อนแม่น้ำโขง ถนนสวรรค์ชายโขง จากนั้นปั่นมาตามเส้นทางจักรยานบริเวณท้ายเมือง เขตเทศบาลเมืองนครพนม มุ่งหน้าสู่เส้นชัยที่บริเวณอ่างเก็บน้ำคณะเกษตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนครพนม ระยะทางรวม 20 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางนี้จะได้พบกับวิถีชีวิตของชาวบ้านท่าค้อที่ในตอนเช้าออกไปหาปลาที่ลำแม่น้ำโขง รวมถึงการทำการเกษตรตามหลักทฤษฎีใหม่ และชมเส้นทางธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำโขง ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ที่ เว๊บไซต์ thaimaster.me หรือติดต่อที่คณะเกษตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนครพนม โดยกิจกรรมวิ่งชิว ชิว รับสมัครจำนวนจำกัด 400 คน ขณะที่กิจกรรมปั่นเลาะโขง รับสมัครจำนวน 800 คนเท่านั้น


นักศึกษาวิทยาลัยการทัพเรือ รุ่นที่ 54 ทำกิจกรรมเพื่อสังคม ดูแลผู้ยากไร้ คนชรา และชาวไทแสก นครพนม

วันที่ 20 ธันวาคม 2564 ที่บ้านอาสามารถ ตำบลอาสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม คณะคณาจารย์ที่นำโดย พลเรือตรี พิเศษ ขันแข็ง ผู้บัญชาการวิทยาลัยการทัพเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ และนักศึกษาวิทยาลัยการทัพเรือ รุ่นที่ 54 ที่นำโดย น.อ.อัคณัฐ รุ่งสิตา ประธานนักศึกษาวิทยาลัยการทัพเรือ รุ่น 54 จัดกิจกรรมเพื่อสังคมนำน้ำใจจากส่วนกลางของสมาชิกวิทยาลัยการทัพเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือสู่ชนบท ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า คุณจินตนา อนันต์ประกฤติ เจ้าของบริษัทอินเตอร์เมลามีน จำกัด บริษัท เค-แมน ออโต้เซอร์วิส จำกัดและคณะนักศึกษาวิทยาลัยการทัพเรือรุ่น 54 ที่ได้ร่วมกันบริจาคเพื่อมอบสิ่งของ ซึ่งประกอบไปด้วย ชุด PPE แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ หน้ากากอนามัย เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง น้ำมันพืช บะหมี่สำเร็จรูป และเครื่องใช้ในครัวเรือน จาน ชาม แก้วเมลามีน ให้ผู้ยากไร้ คนพิการ คนชราและชาวไทแสก เนื่องในโอกาสที่เดินทางมาศึกษาดูงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจังหวัดนครพนม โดยชาวไทแสกได้ให้การต้อนรับและตอบแทนด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรม แสกเต้นสากให้ได้ชม

โดยชาวไทแสกเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในตำบลอาสามารถ เดิมมีภูมิลำเนาอยู่ในตอนกลางของประเทศเวียดนาม ชายแถบเมืองรอง เมืองเว้ ต่อมาเวียดนามพยายามเข้าครอบครองจึงรุกรานชาวไทแสกจนทำให้ชนไทแสกตกอยู่ในการปกครอง แต่ก็มีชาวไทแสกบางกลุ่มได้เกณฑ์สมัครพรรคพวกอพยพลงมาทางตอนใต้ มาตั้งถิ่นฐานใหม่อยู่ใกล้เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว และอีกส่วนได้ย้ายครอบครัวข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ตำบลอาจสามารถ จังหวัดนครพนม ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองนครพนมประมาณ 4 กิโลเมตร และเป็นเพื่อนบ้านกับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) ด้วยมีพื้นที่รอยต่อใกล้กัน ที่ผ่านมา นรข. จะมีโครงการเยี่ยมเยือนชาวบ้านอยู่เป็นประจำ โดยจะมีการนำสิ่งของเครื่องใช้ครัวเรือน ผ้าห่ม ยารักษาโรคไปมอบให้ผู้ยากไร้และคนชราเสมอ นอกจากนี้เมื่อ นรข. จัดกิจกรรมเพื่อมวลชนชาวไทแสกก็จะเข้าร่วมกิจกรรมเสมอมา และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ที่ส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจ และการใช้ชีวิตของประชาชน ทำให้หลายคนต้องตกงาน ขาดรายได้ การดำเนินชีวิตที่ลำบากมากขึ้น ดังนั้นในโอกาสที่คณะคณาจารย์และนักศึกษาวิทยาลัยการทัพเรือ รุ่นที่ 54 เดินทางมาศึกษาดูงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือและจังหวัดนครพนมในครั้งนี้ จึงได้มีการจัดหาและรวบรวมสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวัน และสิ่งของที่จะเป็นประโยชน์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 มามอบให้ผู้ยากไร้ คนชรา และชาวไทแสกในวันนี้


วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2564

การท่องเที่ยวนครพนมคึกคัก นักปั่น 1,200 ชีวิต ร่วมกิจกรรมปั่นข้ามโขง

วันที่ 19 ธันวาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักของนักปั่นกว่า 1,200 คนและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมกิจกรรมปั่นข้ามโขงนครพนม 2021 ที่จังหวัดนครพนมร่วมกับสมาคมกีฬาจังหวัดนครพนม สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดนครพนม และชมรมกีฬาจักรยานจังหวัดนครพนม จัดขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและการออกกำลังกายในพื้นที่ หลังประชาชนต้องประสบปัญหาในเรื่องเศรษฐกิจ สังคมการประกอบอาชีพตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด

โดยเส้นทางปั่นในครั้งนี้ได้แบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 ประเภท เพื่อไม่ให้เกิดการรวมกลุ่มกันเกิน 1,000 คนตามมาตรการสาธารณสุข ซึ่งนักปั่นและผู้ที่เข้าร่วมงานทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยประเภทแรกเป็นการปั่น Racing ระยะทาง 78 กิโลเมตร ที่ใช้เส้นทางการปล่อยตัวจากบริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช มุ่งหน้าสู่สะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) จากนั้นเข้าสู่อำเภอท่าอุเทน และอำเภอโพนสวรรค์ ก่อนจะกลับเข้าสู่ตัวอำเภอเมืองนครพนมอีกครั้งโดยวิ่งตามถนนสายเลี่ยงเมืองและมาสิ้นสุดเส้นชัยที่บริเวณวัดมหาธาตุ ซึ่งตลอดเส้นทางจะมีความท้าทายนักปั่นทั้งการสปินขึ้นเนิน ลงเนิน การขับขี่บนถนนที่โค้งงอ เส้นทางหักศอก และเส้นทางเรียบที่ให้ทำความเร็วได้อย่างเต็มที่ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงาม ต้นไม้ที่ร่มรื่น วิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ส่วนอีกประเภทคือการปั่น Touring ระยะทาง 35 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางการปั่นที่มีจุดเริ่มต้นที่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราชเช่นเดียวกับประเภท Racing แต่จะปล่อยตัวห่างกัน 30 นาทีเพื่อให้มีระยะห่างจากประเภทแรก ซึ่งเส้นทางปั่นจะมุ่งหน้าสู่สะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) โดยประเภทนี้จะปั่นขึ้นสะพานข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ก่อนจะกลับมาเข้าสู่เส้นทางจักรยานริมฝั่งโขงเพื่อชมบรรยากาศ สถานที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และธรรมชาติที่สวยงามตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขงก่อนจะเข้าสู่เส้นชัยที่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช


ทั้งนี้นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 พร้อมด้วย นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนมมีความงดงามที่หลากหลายทั้งทางธรรมะ ธรรมชาติ และศิลปวัฒนธรรม ซึ่งล้วนเป็นที่ถวิลหาของประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งกิจกรรมกีฬาเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัด ทำให้ประชาชนมีรายได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นหลังจากนี้จังหวัดนครพนมจะได้บูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมกันจัดกิจกรรมด้านกีฬาให้ทุกคนได้มาออกกำลังกายพร้อมกับสัมผัสบรรยากาศที่สวยงามของจังหวัดนครพนมในรูปแบบต่าง ๆ เช่น กิจกรรมวิ่งข้ามโขงที่เร็ว ๆ จะมีการจัดให้ทุกคนได้มีโอกาสวิ่งข้ามสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว จากนั้นจะเป็นกิจกรรมปั่นย้อนรอยเส้นทางนาคาที่จะให้นักปั่นทุกคนได้ทดสอบความฟิตของร่างกายกับการปั่นพิชิตภูลังกา และกิจกรรมอื่น ๆ ที่จะตามมาอีกเรื่อย ๆ จึงขอเชิญผู้ที่รักสุขภาพและนักท่องเที่ยวทุกท่านมาสัมผัสมนต์ขลังนครพนมรับรองว่าแต่ละแห่งจะมีความแตกต่างที่สร้างความประทับใจให้อย่างแน่นอน

วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2564

จ.นครพนม เร่งปรับจุดเช็คอินแหล่งท่องเที่ยว พร้อมเปิดตัวต้อนรับนักท่องเที่ยวรับลมหนาวและปีใหม่

วันที่ 18 ธันวาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง มีศิลปะวัฒนธรรมที่หลากหลาย รวมถึงมีธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ทำให้มีจุดขายที่โดดเด่นบนความเชื่อและความศรัทธาของประชาชนและนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น พระธาตุพนม พระธาตุประจำวันเกิดทั้ง 7 วัน พญาศรีสัตนาคราช ถ้ำนาคีที่ถ้ำนาคีที่อุทยานภูลังกา และสถานที่อื่น ๆ ที่กระจายอยู่ในแต่ละอำเภอ ซึ่งเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดดีขึ้นก็มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาเยือนมากยิ่งขึ้นจึงได้มอบหมายให้แต่ละอำเภอค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ และปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวเดิมให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้นเพื่อเป็นของขวัญให้กับทุกคน โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ใกล้เทศกาลปีใหม่ จังหวัดนครพนมก็จะมีการจัดงาน Nakhonphanom Winter Festival มีชื่อตอนว่า Winter of Memories ซึ่งในตอนนี้เริ่มมีหลายแห่งที่เริ่มเปิดตัวสถานที่ให้ทุกคนได้มาสัมผัสแล้ว อย่างเช่น ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม ที่มีการปรับพื้นที่ ตกแต่งด้วยดวงไฟหลากสีจากดาวคริสต์มาสและแพดาวโดยรอบอาคารสำนักงาน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ศิลปะแบบตะวันตกผสมผสานกับศิลปะท้องถิ่น ทำให้มีความสวยงามกลายเป็นสถานที่เช็คอินภายใต้ชื่อ TAT Nakhonphanom Open House ที่หลายคนเห็นแล้วต้องอยากมาสัมผัสอย่างแน่นอน โดยจุดนี้จะเปิดให้บริการไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปกับบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยสีสันจากแสงไฟและดวงดาวที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง

นอกจากนี้ภายในงาน Nakhonphanom Winter Festival ก็ยังจะมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่รอให้ทุกคนได้มาสัมผัส ทั้งการแข่งขันบาสโลบ และ Line dance กิจกรรมหมู่บ้าน 8 ชนเผ่าที่จะนำเอาศิลปะ วัฒนธรรม อาหารพื้นที่ถิ่นและวิถีชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครพนมมาจัดแสดงให้เห็น การปรับเส้นทางจักรยานริมฝั่งแม่น้ำโขงให้มีอุโมงไฟขนาดความยาวประมาณ 300 เมตรเพื่อให้ทุกคนได้มาสัมผัสลมหนาวที่เย็นสบายพร้อมกับแสงไฟที่สวยงาม ที่เมื่อถ่ายภาพออกมาแล้วทุกคนต้องชื่นชอบไปตาม ๆ กัน โดยในส่วนของการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่ปัจจุบันพบมียอดผู้ติดเชื้อขึ้นลงแต่ไม่มากสามารถควบคุมได้ก็ได้มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด โดยที่ผ่านมาที่จังหวัดจัดกิจกรรมต่าง ๆ จะไม่พบว่ามีคลัสเตอร์เกิดขึ้น แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ก็ได้สั่งให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันก็ได้มอบหมายให้ทางฝ่ายปกครองร่วมหารือและขอความร่วมมือกับทางโรงแรม สถานที่พักต่าง ๆ ไม่ให้ปรับขึ้นค่าที่พักเหมือนช่วงไฮซีซันแต่ให้คงราคาไว้ตามปกติเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัด รวมทั้งได้มอบให้ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ช่วยในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาด้วย จึงอยากขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนได้เดินทางมาเยือนจังหวัดนครพนม ในช่วงลมหนาวและเทศกาลปีใหม่นี้


วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2564

จังหวัดนครพนม จัดพิธีมอบหนังสือพระราชทาน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 42 ให้กับสถานศึกษา 132 แห่งในพื้นที่

วันที่ 17 ธันวาคม 2564 ที่ศาลาประชาคมยงใจยุทธ บริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานพิธีมอบหนังสือพระราชทานสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เล่ม 42 ให้กับสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดนครนครพนม จำนวน 132 แห่ง เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษา จำนวน 51 แห่งและโรงเรียนอนุบาล – มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 81 แห่ง เพื่อให้นักเรียนได้ใช้ในการศึกษาและเข้าถึงสารานุกรมฯ ได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึงตามพระราชปณิธาน โดยมีคณะหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประกอบพิธี


นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ในการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยการนำเอาองค์ความรู้ที่แตกต่างกันตามหมวดสาขาวิชาต่าง ๆ ให้นักวิชาการ ผู้รู้ ช่วยกันเรียบเรียงในภาษาที่ง่าย เผยแพร่ไปสู่เด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ ในทุกจังหวัด ทำให้ทั้งผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ เด็ก และเยาวชน ได้มีโอกาสในการที่จะแสวงหาองค์ความรู้ที่แตกต่างหลากหลาย ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการที่จะทำให้เด็กสามารถเติบใหญ่ และทำให้ผู้ใหญ่สามารถแนะนำลูกหลาน ให้มีความรู้และความเข้าใจในสิ่งต่าง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก และที่สำคัญที่สุด ทรงมีพระราชดำริให้จัดทำสารานุกรมในรูปแบบ E-Book ด้วย อันจะยิ่งทำให้สามารถทำให้เรื่องราวต่างๆ ในสารานุกรมสามารถแพร่กระจายไปสู่ประชาชนทุกวัยได้โดยง่าย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานให้กับพวกเราชาวไทย

สำหรับการจัดพิมพ์ในเล่ม 42 เป็นการจัดพิมพ์ต่อเนื่องจากที่ดำเนินการมาแล้ว ตั้งแต่รัชกาลก่อนและมาสำเร็จบริบูรณ์ในรัชกาลปัจจุบัน เป็นเล่มที่มีความพิเศษยิ่ง เนื่องจากเป็นหลักฐานยืนยันถึงพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้ยั่งยืน โดยวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมาได้เป็นผู้แทนจังหวัดเข้ารับมอบจากกระทรวงมหาดไทย และได้เชิญมามอบให้แก่โรงเรียนต่างๆ ในวันนี้ เพื่อให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสอ่าน ศึกษาหาความรู้จากหนังสือพระราชทานฯ ที่ได้รวบรวมความรู้แขนงต่าง ๆ และนำไปปรับใช้ในชีวิตสร้างประโยชน์ให้กับตนเอง ครอบครัว ตลอดจนสังคม และประเทศชาติต่อไป

สกู๊ปข่าว การจัดซื้อจัดจ้าง หนึ่งหนทางสร้างความโปร่งใสในหน่วยงานรัฐ

นางสุธิษา จารุเมธาวิทย์ คลังจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า หลายๆท่านทราบดีอยู่แล้วว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด – 19 ภาคการลงทุนของเอกชนนั้นยังมีการชะลอตัว ดังนั้นบทบาทสำคัญในเรื่องของการใช้จ่ายภาครัฐจะส่งผลให้เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งตัวปัจจัยที่จะให้มีการเบิกจ่ายได้รวดเร็วขึ้น คือเราจะต้องมีการสร้างให้ผู้ปฏิบัติงาน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างท่องแท้ จึงเป็นที่มาของการจัดการอบรมโครงการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายของจังหวัดนครพนม ประจำปี 2565 กิจกรรมแนวทางการวางแผนและการเตรียมความพร้อมด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การเบิกจ่ายเงิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเบิกจ่าย งบประมาณจังหวัดนครพนม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อที่จะให้ทางหน่วยงานภาครัฐ คือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง สามารถที่จะก่อหนี้ผูกพันได้ภายในไตรมาสแรก ของปีงบประมาณเพื่อให้การเบิกจ่ายเงินเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล ในการเร่งรัดการเบิกจ่าย ทั้งเป็นการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนมให้มีสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นด้วย

โดยการจัดการอบรมมี 2 รุ่นด้วยกัน คือวันที่ 13 ธันวาคม 2564 สำหรับส่วนราชการ และในวันที่ 14 ธันวาคม 2564 สำหรับเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้าง ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ รวมถึงในเรื่องของหลักเกณฑ์ในการเบิกจ่ายเงิน การตรวจสอบในตัวของเอกสารต่าง ๆ ที่จะประกอบการเบิกจ่ายให้มีความถูกต้อง โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ ทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ปฏิบัติว่าสามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามระเบียบขั้นตอน ตั้งแต่ต้นทางของกระบวนการจัดหา ที่เป็นเรื่องของความต้องการของหน่วยงาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานต้องกำหนดความต้องการ ไม่ว่าในเรื่องของ สเปค คุณลักษณะเฉพาะของของ หรือ TOR (Term of Reference) ในตัวรายละเอียดของงาน ที่จะต้องมีการกำหนดตามความต้องการ แต่ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อจะเป็นการแสดงถึงการที่หน่วยงานภาครัฐได้ดำเนินการจัดหาที่มีความโปร่งใส คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ได้ใช้จ่ายไปของภาครัฐ ซึ่งผู้บริหารทุกคนต้องเข้าไปกำกับ ติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยงานให้เกิดการดำเนินการที่ถูกต้อง และผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าไปตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในการปฏิบัติงานของหน่วยงานนั้นๆ และเป็นไปตามกลไกและนโยบายของรัฐบาลในการป้องปรามเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่นในการจัดซื้อจัดจ้าง และการมุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างธรรมาภิบาลในหน่วยงานภาครัฐ ที่ก่อให้เกิดความคุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และตรวจสอบได้


วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2564

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานผ้าห่มกันหนาวแก่ผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดนครพนม

วันที่ 16 ธันวาคม 2564 ที่วิทยาลัยธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โปรดเกล้าให้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยรองศาสตราจารย์นายแพทย์องค์การ เรืองรัตนอัมพร รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เชิญผ้าห่มกันหนาวพระราชทานไปมอบแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครพนมที่ประสบภัยหนาว จำนวน 500 ชุด ประกอบไปด้วย อำเภอธาตุพนม 300 ชุด อำเภอนาแก 100 ชุด และอำเภอเรณูนคร 100 ชุด โดยมีนายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายอำเภอธาตุพนม นายอำเภอนาแก และนายอำเภอเรณูนคร เป็นตัวแทนเข้ารับพระราชทานเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ เพื่อนำไปส่งต่อยังผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่อีกครั้ง และในโอกาสนี้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ยังได้นำหน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ออกให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวให้มีสุขอนามัยที่แข็งแรงในสภาพอากาศที่หนาวเย็น และออกเยี่ยมบ้าน มอบสิ่งของพระราชทานที่ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม ให้แก่นายคณู ชะคู ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สมควรเป็นแบบอย่างให้กับประชาชนในชุมชนในการปฏิบัติตัว แม้ปัจจุบันจะอายุ 86 ปีแล้ว และเยี่ยมนางสมหมาย อรรคศรีวร ที่ป่วยไตวายเรื้อรัง ต้องทำการฟอกไตเป็นประจำที่โรงพยาบาลนครพนม เพื่อให้กำลังใจ ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวแก่ผู้ป่วยและญาติ และเยี่ยมนางสาวลำพันธุ์ รุ่งเรือง ที่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน ความดันและประสบอุบัติเหตุทำให้มีสุขภาพไม่แข็งแรงเพื่อให้กำลังใจ ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวแก่ผู้ป่วยและญาติ


สำหรับสถานการณ์ภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดนครพนม ได้รับอิทธิพลจากความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้อากาศหนาวเย็นทั่วทุกพื้นที่เป็นประจำทุกปี ประกอบกับลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดนครพนม ทางตอนเหนือสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนินสูงและที่ดอน มีป่าไม้สลับกับพื้นที่ราบ ทางตอนกลางทิศตะวันตกและทิศใต้ของพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มและที่ดอน ทางทิศตะวันออกติดกับแขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีแม่น้ำโขงเป็นแนวกั้นเขตพรมแดน และมีเทือกเขายาวตลอดเขตจังหวัด ทำให้มีสภาพอากาศหนาวเย็นทั่วทุกพื้นที่ของจังหวัด และด้วยพระกรุณาธิคุณ ของศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่มีต่อประชาชนชาวไทยที่ประสบความเดือดร้อนจากภัยหนาว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สำรวจความเดือดร้อนของประชาชนในทุกพื้นที่ที่ประสบภัยหนาวและโปรดให้เชิญชุดกันหนาวพระราชทานมามอบแก่ประชาชนผู้เดือดร้อน โดยในพื้นที่อำเภอธาตุพนม อำเภอนาแก และอำเภอเรณูนคร ของจังหวัดนครพนมมีประชาชนต้องการเครื่องกันหนาว รวมทั้งสิ้น 7,830 ครัวเรือน และด้วยพระเมตตาและความห่วงใยในครั้งนี้ ทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้ที่ทรงพระราชทานความช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากการดำรงชีวิตในเบื้องต้นแล้ว ยังเป็นการเยียวยาจิตใจ สร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ประสบความเดือดร้อน และในโอกาสราชวิทยาลัยจุฬาภารณ์ยังได้นำหน่วยแพทย์คลื่อนที่ออกให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น ให้คำปรึกษาคำแนะนำด้านสุขอนามัยด้วย

วันพุธที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2564

กตป.ลงพื้นที่นครพนม รับฟังความคิดเห็นด้านกิจการโทรคมนาคม พร้อมแนะอย่าหลงกลลวง SMS


วันที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กตป.) ได้มีการลงพื้นที่เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการโทรคมนาคมในพื้นที่จังหวัดนครพนม ประจำปี 2564 เพื่อนำประเด็นและข้อสรุปทั้งหมดที่ได้ไปรายงานผลการติดตามตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินการและบริหารงานของ กสทช. /สำนักงาน กสทช. / และเลขาธิการ กสทช. เพื่อนำเสนอต่อวุฒิสภาตามกฎหมาย และใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาปรับปรุงแก้ไขการดำเนินงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
พันเอก ดร.พีรวัส พรหมกลัดพะเนาว์ กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน ด้านกิจการโทรคมนาคม (กตป.) เปิดเผยว่า กตป. มีกำหนดการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นสาธารณะเพื่อติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานด้านกิจการโทรคมนาคม ประจำปี 2564 ทั้งสิ้น 5 ครั้ง ซึ่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เลือกจังหวัดนครพนม ส่วนอีก 4 ครั้งที่เหลือจะไปที่ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลางและภาคตะวันออก โดยในวันนี้เป็นการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการให้บริการคลื่นความถี่ที่ กสทช. กำกับดูแลอยู่หรือให้อนุญาตมา ไม่ว่าจะเป็นคลื่นความถี่ด้านโทรศัพท์ หรือด้านโทรคมนาคม คลื่นความถี่วิทยุคมนาคม และคลื่นความถี่ที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตต่างๆ ว่าที่ผู้ประกอบการได้รับใบอนุญาตมานั้น มีความเพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่ ใช้แล้วเต็มประสิทธิภาพหรือป่าว มีความคุ้มค่ากับ package ที่โฆษณาหรือไม่ ระบบโครงข่ายเป็นอย่างไร ทั้งคลื่นความถี่ 900 MHz, 1800 MHz และคลื่น 5g ใหม่ที่มีการประมูลมาแล้ว รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดสรรและการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz นอกจากนี้ยังมีในเรื่องการเร่งรัดการนำสายสื่อสารลงใต้ดินและการจัดระเบียบสายสื่อสารที่ต้องมีการบูรณาการในหลายภาคส่วน ทั้งการไฟฟ้า การประปา กระทรวงมหาดไทยและท้องถิ่น ตามมาด้วยเรื่องที่ กสทช. พยายามจะจัดทำระเบียบและให้ใบอนุญาตวงโคจรดาวเทียม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดประมูลและยกเลิกไปแล้ว แต่ก็ยังต้องการรักษาวงโคจรดาวเทียมของประเทศเอาไว้เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งในส่วนของประชาชนผู้บริโภคจะต้องรู้คือคลื่นความถี่โทรคมนาคมและคลื่นดาวเทียมมีสัญญาณรบกวนกัน ทำให้เกิดการติดขัดหรือรับชมไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ โดยปัจจุบัน กสทช. กับผู้ประกอบการกำลังดำเนินการหามาตรการเยียวยาอยู่ ทั้งพยายามสร้าง guard band ไม่ให้ความถี่รบกวนซึ่งกันและกัน เรื่องต่อมาคือ SMS หลอกลวงต่าง ๆ ที่ไม่อยากให้ประชาชนหลงเชื่อ เพราะส่วนใหญ่ SMS เหล่านี้จะอาศัยความโลภของคนเข้ามาเป็นตัวล่อ เช่นการชักชวนให้ไปสมัครงานบ้านโดยจะให้ค่าแรง 2,000 บาทต่อวัน ซึ่งในหลักความเป็นจริงไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือการกดรับแพ็คเกจฟรีต่าง ๆ ซึ่งจะมีรายละเอียดต่าง ๆ ที่เราต้องเสียไปแบบไม่รู้ตัวเนื่องจากอ่านข้อความไม่หมด จึงอยากให้ประชาชนวิเคราะห์ด้วยหลักและเหตุผลให้ดี โดยเฉพาะผู้สูงอายุและคนที่ไม่เก่งเทคโนโลยีที่อาจจะถูกหลอกลวงได้ง่าย

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2564

กตป. ลงพื้นที่นครพนม รับฟังความคิดเห็นด้านกิจการกระจายเสียง

วันที่ 14 ธันวาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กตป.) ได้มีการลงพื้นที่เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นสาธารณะจากประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการกิจการกระจายเสียงในพื้นที่จังหวัดนครพนม ประจำปี 2564 เพื่อนำประเด็นและข้อสรุปทั้งหมดที่ได้ไปวิเคราะห์ข้อเท็จจริง สรุปรายงานผลการติดตามตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินการและบริหารงานของ กสทช. /สำนักงาน กสทช. / และเลขาธิการ กสทช. เพื่อนำเสนอต่อวุฒิสภาตามกฎหมาย รวมถึงใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาปรับปรุงแก้ไขให้เกิดประโยชน์สูงสุดสมดังเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่บอกว่าคลื่นเป็นสมบัติของชาติ จะต้องดำเนินการที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน ต่อความมั่นคงและประเทศชาติ

นายณภัทร วินิจฉัยกุล ประธานคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กตป.) เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อมารับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน และภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการกระจายเสียง ซึ่งปีนี้ค่อนข้างเป็นปีที่สำคัญ มี 2 ประเด็นสำคัญ คือ กรณีที่สำนักงาน กสทช. ได้เรียกคืนคลื่นวิทยุที่มีอยู่ทั้งหมดมาจัดสรรใหม่ โดยช่วงแรกช่วงต้นปีหน้า จะดำเนินการในส่วนของวิทยุกำลังส่ง FM ทั้งคลื่นหลักและคลื่นกำลังส่งต่ำ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับวิทยุชุมชนและวิทยุสาธารณะ ในความหลักสำคัญในกรณีนี้คือเดิมวิทยุทดลองประกอบกิจการมีปัญหาแล้วมีเอกชนนำคดีไปฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด ต่อมาได้มีคำวินิจฉัยว่ากระบวนการในการดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2555 คลาดเคลื่อนไม่ถูกต้อง จึงมีการยกเลิกและดำเนินการใหม่ในรูปแบบที่เรียกว่าวิทยุทดลองประกอบกิจการในลักษณะเป็นคลื่นกำลังส่งต่ำ และประเด็นวิทยุใบอนุญาตและวิทยุออนไลน์ ซึ่งกรณีนี้ กสทช. ได้นำคลื่นมาดำเนินการจัดสรรใหม่โดยวิธีการประมูล โดยแนวทางการดำเนินการและการกำกับดูแลมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเสมอภาค เป็นธรรมในการแข่งขัน จึงเป็นที่มาของการมารับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะในวันนี้


ผอ.ศูนย์ความมือไทย-สหรัฐฯ ด้านสาธารณสุข นำคณะลงพื้นที่นครพนม เยี่ยมติดตามการปฏิบัติงานบุคลากร

วันที่ 14 ธันวาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม Dr. James Heffelfinger ผู้อำนวยการศูนย์ความมือไทย-สหรัฐฯ ด้านสาธารณสุข นำคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งประกอบด้วย นายแพทย์อนุพงค์ สุจริยากุล นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค Dr. Emily Bloss หัวหน้างานระบาดวิทยา DGHP Thailand ดร. สายทิพย์ เพ่งศรี นักระบาดวิทยา DGHP Thailand Ms. Natalie Wodniak CDC Fellows ดร. พงษ์พันธ์ สวาสดิ์วงศ์ นักเทคนิคการแพทย์ DGHP Thailand ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ หารือข้อปฏิบัติ ปัญหาอุปสรรค และติดตามการปฏิบัติงานของบุคคลากรในสังกัดหน่วยคุ้มครองสุขภาพโลกจังหวัดนครพนม (DGHP NP) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ด้านสาธารณสุข (Thailand – U.S. CDC Collaboration : TUC ) ที่มาปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดนครพนมในการดูแลด้านสาธารณสุขร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนมและโรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่ ในโอกาสที่มารับตำแหน่งใหม่ โดยมี นายแพทย์กิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) นางสาวรัชนี เต็มอุดม นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ (ด้านส่งเสริมพัฒนา) ดร.ศิริลักษณ์ ใจช่วง นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายแพทย์จุรงธรรม ขันตี รองผู้อำนวยการด้านการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ โรงพยาบาลนครพนม ดร. บารเมษฐ์ ภิราล้ำ ผู้จัดการโครงการ หน่วยคุ้มครองสุขภาพโลกจังหวัดนครพนม และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ

โดยที่ผ่านมาเป็นระยะเวลากว่า 18 ปี ที่หน่วยคุ้มครองสุขภาพโลกจังหวัดนครพนม ได้มีการบูรณาการความร่วมมือ สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ทั้งในด้านการวิจัย และการเฝ้าระวังโรคจนประสบความสำเร็จ นำมาซึ่งสุขภาพที่แข็งแรงประชาชนจังหวัดนครพนม ไม่ว่าจะเป็น การคัดกรองไข้หวัดนกในพื้นที่จังหวัดนครพนม การตรวจคัดกรองการระบาดวัณโรคในเรือนจำจังหวัดนครพนม การตรวจเพาะเชื้อจากเลือดในผู้ป่วยเพื่อประกอบการรักษาของแพทย์ การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลการป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเพื่อนำเสนอกระทรวงสาธารณสุขจนนำไปสู่นโยบายการให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในประชาชน และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่ประชาชนทั่วโลกกำลังประสบอยู่ ทางหน่วยก็ได้ให้การสนับสนุนร่วมปฏิบัติหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจคัดกรองผู้ป่วยโควิด – 19 และนำตัวอย่างจากผู้ป่วย มาตรวจวินิจฉัยยืนยันที่ห้องปฏิบัติการอณูชีวโมเลกุลทางการแพทย์ ด้วยกระบวนการ RT-PCR เพื่อค้นหาผู้ป่วยในการเฝ้าระวังควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่


จ.นครพนม ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี

วันที่ 14 ธันวาคม 2564 ที่วัดมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นการเสริมสร้างความรัก ความภาคภูมิใจและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์และพรบรมวงศานุวงศ์ ทั้งเป็นการส่งเสริม รักษา สืบสาน และเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามในพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่กับคนไทยไปตราบนานเท่านาน โดยมีพระราชสิริวัฒน์ เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดสว่างสุวรรณาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ประสูติเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2521 เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ โดยพระองค์มีพระขนิษฐาและพระอนุชาต่างพระมารดา คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงได้รับพระราชโองการแต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษ และได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นเสนาธิการกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ทั้งยังทรงปฏิบัติพระกรณียกิจในด้านต่าง ๆ เพื่อความผาสุกของอาณาประชาราษฎร์ ได้แก่ ทรงเป็นประธานกรรมการมูลนิธิอาสา เพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ในการสนับสนุนและเชื่อมโยงให้ภาครัฐและเอกชน มาร่วมกันเกื้อหนุนให้ประชาชนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในยามทุกข์ยากจากภัยธรรมชาติที่รุนแรง

นอกจากนี้ยังมีมูลนิธิ ณภาฯ ในพระดำริ ที่เน้นช่วยเหลือและให้โอกาสทางอาชีพกลุ่มผู้ด้อยโอกาส อันเกิดจากผลที่ได้รับทางกฎหมายและด้านสังคม ทั้งการประทานทุนการศึกษาสำหรับผู้ต้องการศึกษาต่อปริญญามหาบัณฑิตด้านกฎหมาย ณ Cornell Law School มหาวิทยาลัยคอร์แนล ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทรงจัดตั้ง ทุนพัชรกิติยาภาเพื่อการศึกษากฎหมาย ซึ่งรับสมัครเพื่อคัดเลือกจากผู้ที่จบปริญญาบัณฑิตด้านกฎหมาย และสอบไล่ได้เนติบัณฑิตของเนติบัณฑิตยสภาตามเงื่อนไขที่ทุนดังกล่าวกำหนดไว้ เพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษาได้นำความรู้มาแก้ไขปัญหาของประเทศ ที่ต้องอาศัยกฎหมายเป็นเครื่องมือ และด้วยพระปรีชาสามารถและพระจริยวัตรอันงดงาม ส่งผลให้หลายองค์กรต่างทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลต่าง ๆ เช่น กองทุนการพัฒนาเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UNIFEM) สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทูลเกล้าฯ ถวายตำแหน่ง “ทูตสันถวไมตรี” (Goodwill Ambassador) ในการต่อต้านความรุนแรงต่อสตรีด้านหลักนิติธรรม ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล Medal of Recognition ในฐานะที่ทรงมีบทบาทสำคัญในระดับนานาชาติ


วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2564

นรข.นครพนม ยึดยาบ้าวันเดียว 598,000 เม็ด จาก 2 เหตุการณ์

วันที่ 13 ธันวาคม 2564 ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) น.อ.พรภิรมย์ ยศบุญ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการเฝ้าระวังและป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในพื้นที่ หลังมีการบูรณาการจนนำไปสู่การตรวจยึดของกลางยาบ้าจำนวน 598,000 เม็ด จาก 2 เหตุการณ์

โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2564 ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม จึงได้ร่วมกันตรวจสอบข่าวและจัดกำลังลงพื้นที่ลาดตระเวนตามเป้าหมายที่ได้รับมอบ กระทั่งเวลา 22.45 ชุดที่ 1 ได้ตรวจพบว่ามีบุคคลกำลังขนวัตถุสีดำ เดินขึ้นมาจากริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณสวนยางพารา เหนือบ้านคับพวง ตำบลน้ำก่ำ ด้วยท่าทางเร่งรีบและน่าสงสัย จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่บุคคลดังกล่าวได้ทิ้งวัตถุที่กำลังขน แล้ววิ่งหลบหนีหายไปในความมืดด้วยความชำนาญในพื้นที่ ชุดลาดตระเวนจึงได้เข้าทำการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยพบเป็นยาบ้า จำนวน 298,000 เม็ด จึงได้ทำบันทึกตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนมเพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป ขณะเดียวกันชุดลาดตระเวนที่ 2 ได้ตรวจพบเรือกีบเพลายาวติดเครื่องยนต์ จำนวน 1 ลำ ดับเครื่องลอยลำไหลมาตามกระแสน้ำเทียบริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณบ้านนาถ่อนท่า ตำบลนาถ่อน จากนั้นชาย 2 คนที่มากับเรือได้โยนวัตถุต้องสงสัยลงจากเรือ แล้วหันหัวเรือติดเครื่องกลับไปทันที แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามเร่งเข้าพื้นที่เกิดเหตุแต่ก็ไม่ทัน เจ้าหน้าที่จึงได้ถอยมาซุ่มคอยผู้ที่จะมารับวัตถุต้องสงสัยนานกว่า 3 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 00.30 น. ก็ไม่มีใครมายังที่เกิดเหตุ จึงได้เข้าตรวจสอบพบเป็นยาบ้า จำนวน 300,000 เม็ด จึงได้ทำบันทึกตรวจยึดพร้อมนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.หลักศิลา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


นครพนม เสริมความรู้เพิ่มทักษะการจัดซื้อจัดจ้างและการเบิกจ่ายให้เจ้าหน้าที่รัฐ สร้างความคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

วันที่ 13 ธันวาคม 2564 ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายชาญชัย คงทัน เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมแนวทางการวางแผนและเตรียมความพร้อมด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การเบิกจ่าย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบประมาณจังหวัดนครพนม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ตามโครงการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายของจังหวัดนครพนม ที่สำนักงานคลังจังหวัดนครพนมจัดขึ้นเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ กฎหมาย ระเบียบ การเงิน การคลัง การพัสดุ และการเบิกจ่ายได้อย่างถูกต้อง สามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปด้วยความรวดเร็ว สามารถก่อหนี้ผูกพันและเบิกจ่ายเงินได้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2565 ทำให้การจัดซื้อจัดจ้างของจังหวัดนครพนมมีความคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลและเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้มีเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

โดยมีการฝึกอบรมในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 รุ่น ประกอบไปด้วย รุ่นที่ 1 ผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ จำนวน 81 หน่วยงาน รุ่นที่ 2 ผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดซื้อจัดจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 104 แห่ง โดยผู้ที่เข้ารับการอบรมจะได้รับความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบการเงินการคลัง การพัสดุ ขั้นตอนการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง วิธีการจัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้าง การจัดทำร่างขอบเขตงาน (TOR) และรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ วิธีการวิเคราะห์และตีความกรณีงานซื้อและงานจ้างก่อสร้างรวมอยู่ด้วยกัน การกำหนดหนังสือแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย การพิจารณาคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นกิจการร่วมค้า เกณฑ์การพิจารณาราคาและเกณฑ์ราคาประกอบอื่นไม่ว่าจะเป็นต้นทุนของพัสดุนั้นตลอดอายุการใช้งาน มาตรฐานของสินค้าหรือบริการ บริการหลังการขาย พัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริม การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ ข้อเสนอด้านเทคนิคหรือข้อเสนออื่น ในกรณีที่กำหนดให้มีการยื่นข้อเสนอด้านเทคนิคหรือข้อเสนออื่นก่อนตามวรรคหก แนวทางในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายงานก่อสร้าง และรายละเอียดการเขียนแบบแปลน รวมถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ปัญหาอุปสรรคที่เกิดจากกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ การตรวจสอบเอกสารหลักฐานประกอบการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายของจังหวัดนครพนม


วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2564

อนุทิน ลงพื้นที่นครพนม Kick of กัญชาริมโขงเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้ประชาชน

วันที่ 11 ธันวาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม ที่บริเวณถนนสวรรค์ชายโขง หมู่บ้าน 8 ชนเผ่า อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน Kick Off กัญชาริมฝั่งโขง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กระทรวงสาธารณสุข โดยเขตสุขภาพที่ 8 ร่วมกับจังหวัดนครพนมจัดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์ สร้างกระแสการใช้กัญชาในการดูแลสุขภาพ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยวกับเส้นทางธุรกิจที่รวมอัตลักษณ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น เชื่อมโยงกับแหล่งปลูกกัญชาทางการแพทย์ ให้กลายเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวกัญชาทางการแพทย์เชิงสุขภาพ (Medical and Wellness Tourism) เป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับกัญชา การแปรรูปผลิตภัณฑ์กัญชา ระหว่างหน่วยภาครัฐ ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปที่สนใจ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันการแพทย์ทางเลือกโดยการใช้กัญชาเป็นการรักษาที่โรงพยาบาลหลัก ๆ ทั่วประเทศมีการให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึงแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่าสารสกัดจากกัญชาสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้หลายโรค หรือสามารถลดความทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยของบางโรคได้ในระดับหนึ่ง และกำลังเร่งวิจัย พัฒนา คิดค้นผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมใหม่ๆจากสมุนไพรกัญชา กัญชง เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและถูกนำไปใช้ส่งเสริม ป้องกัน เยียวยา ฟื้นฟูสุขภาพ และสร้างสุขภาพที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนทุกคนโดยไม่เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย โดย 1 ปีที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกันผลักดันแก้กฎหมายกับฝ่ายต่าง ๆ ทำให้ต้น กิ่ง ก้าน ใบ รากของกัญชาและกัญชงไม่เป็นยาเสพติดควบคุมประเภทที่ 5 อีกต่อไป และเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ก็ได้มีประมวลกฎหมายอาญายาเสพติดฉบับใหม่ ที่มีผลบังคับใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจากนี้กระทรวงสาธารณสุขจะมีการประกาศรายชื่อยาเสพติดฉบับใหม่ ทั้ง 5 ประเภท และกำหนดให้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากกัญชาที่มีค่า THC (Tetrahydrocannabinol) เกินกว่า 0.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเป็นยาเสพติดตามมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนด ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น สบู่ เครื่องสำอาง อาหารเสริม จึงสามารถใช้ได้อย่างถูกต้องเพราะมีปริมาณสารสกัดไม่เกิน หรือแม้กระทั่งการใช้ใบกัญชาถ้ามีสารสกัดต่ำกว่า 0.2 เปอร์เซ็นต์ก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน

สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องน่ายินดี โดยเฉพาะในช่วงภาวะเศรษฐกิจที่ถูกคุกคามจากไวรัสโควิดเช่นนี้ ที่ทำให้ทุกอย่างช้าลง เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นประชาชนจะได้มีทางเลือกเพิ่มขึ้นอีกช่องทาง ในการทำมาหากินเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยผู้ที่สนใจจะปลูกไว้ใช้ในครัวเรือน ทำอาหาร ทำกับข้าว ทำยาสมุนไพรตามตำราของกรมแพทย์แผนไทย สามารถไปขอจดแจ้งได้กับเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยที่ไม่ต้องรอไปทำกับวิสาหกิจชุมชนอีกต่อไป ทั้งนี้ต้องแจ้งรายละเอียดให้ชัดเจนและต้องไม่ทำนอกเหนือจากสิ่งที่ขอจดทะเบียน และโดยสภาพพื้นที่ของภาคอีสานเหมาะกับการปลูกกัญชาเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าปลูกแบบใช้โรงเรือนและตามหลักวิชาการจะได้ผลผลิตที่มีมาตรฐาน เท่าที่ทราบมาใบกัญชาที่ปลูกในจังหวัดนครพนมเคยพุ่งไปถึงกิโลกรัมละ 5,000 บาทเลยทีเดียว


วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564

นครพนม เตรียมจัดกิจกรรมปั่นข้ามโขง 2021 กระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและการออกกำลังกายในพื้นที่

วันที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 พร้อมด้วยนายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และคณะทำงานร่วมกันแถลงข่าวการจัดกิจกรรมปั่นข้ามโขงนครพนม 2021 (ปั่นจักรยานข้ามโขงเชื่อมโยงสองแผ่นดิน ประเทศแถบอินโดจีน 2021 “นครพนม-คำม่วน”) ที่จังหวัดนครพนม ร่วมกับสมาคมกีฬาจังหวัดนครพนม สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดนครพนม และชมรมกีฬาจักรยานจังหวัดนครพนม จะจัดขึ้นในวันที่ 19 ธันวาคม 2564 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและการออกกำลังกายในพื้นที่ หลังประชาชนต้องประสบปัญหาในเรื่องเศรษฐกิจ สังคมการประกอบอาชีพตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัส

ซึ่งปัจจุบันจังหวัดนครพนมเป็นพื้นที่สีเหลือง และเป็น 1 ใน 10 ของจังหวัดที่มีผู้ป่วยต่ำสุด โดยก่อนหน้านี้ 2 สัปดาห์ในพื้นที่มียอดประชาชนเข้ารับวัคซีนต่ำสุดของประเทศ แต่ด้วยความร่วมมือของทุกคนทำให้มียอดเพิ่มขึ้นเป็น 60% แล้ว จึงทำให้ในพื้นที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สามารถจัดกิจกรรมได้ภายใต้มาตรการสาธารณสุขที่เคร่งครัด ซึ่งก่อนหน้านี้จังหวัดนครพนมมีการจัดกิจกรรมปั่นจักรยานไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วม 800 คน และไม่พบการแพร่ระบาดหรือคัตเตอร์เกิดขึ้น รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน ทำให้มีหลังการมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงวัน หยุด เสาร์-อาทิตย์ที่พักแทบจะไม่มีห้องว่าง โดยมีกิจกรรมในครั้งนี้ยังคงใช้มาตรการเดิมของการจัดงานที่จะต้องทำให้นักปั่นทุกคน ตลอดจนผู้ติดตามและพี่น้องประชาชนในพื้นที่มีความปลอดภัย โดยมีการกลั่นกรองจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมแล้วว่าทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่จะมาเข้าร่วมกิจกรรมต้องได้รับวัคซีนมาแล้ว หรือถ้ายังไม่ได้รับก็ต้องผ่านการตรวจคัดกรอง ATK จากเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะทราบผลภายใน 30 นาทีถึงจะให้เข้าร่วมกิจกรรมได้ นอกจากนี้ยังมีการเฝ้าระวังอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการปั่น โดยจะให้รถพยาบาลตามขบวนตลอดเส้นทาง และเมื่อกิจกรรมจบลงมีระบบติดตามอาการของผู้ร่วมกิจกรรมอีก 14 วัน

โดยกิจกรรมในครั้งนี้ภายหลังการเปิดให้ลงทะเบียน ปรากฏว่ามีผู้สนใจเข้าร่วมเติมจำนวน 1,200 คนในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง และยังมีผู้ที่สนใจทั้งจากในพื้นที่ ในจังหวัดข้างเคียงและจากทั่วประเทศสอบถามเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก เพราะอยากมาปั่นข้ามแม่น้ำโขง ชมทิวทัศน์และธรรมชาติที่สวยงาม บริเวณสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน)และสองฝั่งโขง แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และคณะทำงานต้องปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังของ ศบค.และมาตรการของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนครพนมจึงไม่สามารถเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้