วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2565

สมาคมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครพนม มอบรถเข็นวิวแชร์ 73 คัน ดูแลคนพิการในพื้นที่

วันที่ 26 กันยายน 2565 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางกาญจนี รุจนเสรี ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครพนม คณะหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครพนม ตลอดจนเจ้าหน้าที่และสมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครพนม ร่วมกันส่งมอบรถเข็นวิวแชร์ให้กับนายอำเภอต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวแทนนำไปส่งมอบต่อยังผู้พิการในพื้นที่ เป็นการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อปวงชนชาวไทย

โดยกิจกรรมในครั้งนี้เกิดขึ้นจากที่จังหวัดนครพนมได้มีโครงการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง "นครพนม สร้างสังคมอุดมสุข ทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน" ประจำปี 2565 เพื่อให้การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในพื้นที่ ทั้งเป็นการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของครัวเรือนเป้าหมายที่ประสบความเดือดร้อนและยากจนไม่ผ่านเกณฑ์ จปฐ. ปี 2564 ด้านรายได้ ข้อ 22 (รายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 38,000 บาท/คน/ปี) จากระบบการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (TPMAP) ปี 2562 ครัวเรือนเปราะบาง และครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเวทีประชาคม 5 มิติ ได้แก่ ด้านสุขภาพ ด้านความเป็นอยู่ ด้านการศึกษา ด้านรายได้ และด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประชุมปรึกษาหารือ และร่วมกันลงพื้นที่สำรวจ หาข้อมูล จนได้ข้อสรุปถึงกลุ่มเป้าสหมายที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งทาง สมาคมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครพนม ได้เล็งเห็นว่าผู้พิการหลาย ๆ คนไม่มีรถเข็น ทำให้เวลาที่จะทำอะไรไม่มีความสะดวก อีกทั้งยังต้องเป็นภาระให้กับคนในครอบครัวที่ต้องมาคอยดูแลตลอดเวลาทั้งที่ยังสามารถเคลื่อนไหวช่วยเหลือตนเองได้ ส่งผลให้หลายครอบครัวขาดรายได้ ดังนั้นจึงได้ร่วมกับจังหวัดนครพนมจัดหารถเข็นวิวแชร์ จำนวน 73 คัน มามอบให้ผู้พิการของอำเภอเมืองนครพนม 11 คัน อำเภอธาตุพนม 5 คัน อำเภอนาแก 10 คัน อำเภอเรณูนคร 2 คัน อำเภอโพนสวรรค์ 17 คัน อำเภอนาหว้า 15 คัน อำเภอศรีสงคราม 9 คัน อำเภอนาทม 3 คัน และอำเภอวังยาง 1 คัน เพื่อใช้ในโอกาสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภายในบ้านและการออกไปข้างนอกเพื่อปรับเปลี่ยนบรรยากาศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อสภาวะจิตใจของผู้ป่วย และเป็นการลดภาระของผู้ดูแลในครอบครัว เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทำให้ทุกคนมีความสุขมากยิ่งขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น