วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พลตำรวตรี ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พันตำรวจเอก ชัยพร พงษ์ศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พันตำรวจเอก ณัฎฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม นางฉวีวรรณ ฮึกเหิม นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม นายความสุข ไชยผง ผู้อำนวยการโรงเรียน บ้านหนองปลาดุก ร่วมกันแถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีที่มีผู้ต้องหาก่อเหตุเข้าไปทำร้ายครูระหว่างสอนเด็กนักเรียนอยู่ในห้องเรียนโรงเรียนบ้านหนองปลาดุก ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมจัดกำลังเข้าไล่ล่าจับกุมผู้กระทำผิด กระทั่งช่วงหัวค่ำวันเดียวกันได้จับกุมผู้ต้องหาได้ ซึ่งเมื่อนำไปตรวจปัสสาวะที่โรงพยาบาลนครพนมพบว่ามีสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนในร่างกาย จึงได้แจ้ง 3 ข้อกล่าวหาคือ บุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายในสถานที่ราชการ ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดี ซึ่งโทษดังกล่าวคือ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยในวันนี้เด็กนักเรียนยังมาโรงเรียนน้อยอยู่ เนื่องจากยังคงมีความหวาดกลัว รวมถึงผู้ปกครองยังมีความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็มีการลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือและเยียวยาสร้างขวัญกำลังใจ โดยทางตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมได้มีการส่งกำลังเข้าไปดูแลพื้นที่ตั้งแต่เกิดเหตุ ทำให้ทุกคนเริ่มคลายความกังวลลงบ้างแล้วคาดว่าอาทิตย์หน้านักเรียนทุกคนจะกลับมาเรียนครบตามปกติ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนมและทางโรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์ ก็กำลังเร่งดำเนินการตรวจประเมินสภาพจิตใจของคณะครู อาจารย์ เด็กนักเรียน ตลอดจนครอบครัวของเด็กนักเรียน เพื่อพิจารณาหาทางช่วยเหลือและเยียวยาในด้านต่าง ๆ หากพบว่าใครมีภาวะผิดปกติจะมีการประสานส่งต่อเพื่อทำการรักษานอกจากนี้ยังมีกำลังพลจากค่ายพระยอดเมืองขวางที่ได้ส่งหน่วยทหารมวลชนสัมพันธ์ลงพื้นที่สร้างขวัญกำลังใจให้กับทุกคน โดยในระยะยาวนั้นจะมีชุดอาสาสมัครศูนย์คุ้มครองเด็กและศูนย์ช่วยเหลือสังคมที่อยู่ในพื้นที่คอยเฝ้าระวังเกี่ยวกับสภาพจิตใจของทุกคน ที่เป็นเหมือนตาสัปปะรดคอยรายงานให้เจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วทราบ หากมีเหตุผิดปกติสามารถเข้าช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ในส่วนของนักเรียนก็จะมีสภาเด็กเข้าไปช่วยเพิ่มทักษะการเอาตัวรอดในลักษณะพี่สอนน้องเกี่ยวกับการป้องกันตัวเองจากภัยให้กับเด็กนักเรียนทุกคนในโรงเรียนด้วย
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น