พลตรี สถาพร บุญชู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 เปิดเผยว่า โครงการทหารพันธุ์ดีค่ายพระยอดเมืองขวาง เริ่มต้นจากการปรับปรุงพื้นที่เกษตรหลังค่าย เพื่อนำมาดำเนินการในโครงการทหารพันธุ์ดี เมื่อประมาณห้วงเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา และโครงการได้รับการอนุมัติจากกองทัพบกให้เป็นโครงการทหารพันธุ์ดีเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 มีพื้นที่ดำเนินการประมาณ 66 ไร่เศษ ซึ่งวัตถุประสงค์ของโครงการทหารพันธุ์ดี ประการแรกก็เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ในด้านการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ให้กับกำลังพลและครอบครัวภายในค่าย ทั้งเป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับกำลังพล ครอบครัวและประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วย ประกาศต่อมาคือเพื่อเป็นการส่งเสริมและขยายผล นำความรู้ ไปสู่ชุมชนรอบ ๆ ค่าย ตลอดจนโรงเรียนในพื้นที่รับผิดชอบ และประการสุดท้ายคือเป็นแหล่งท่องเที่ยวภายในค่ายทหาร และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระองค์ท่านได้พระราชทานโครงการนี้ให้กับค่ายพระยอดเมืองขวาง เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่มีประโยชน์มาก สำหรับกำลังพล และครอบครัว รวมทั้งประชาชนในพื้นที่รอบ ๆ ค่าย และพื้นที่รับผิดชอบของหน่วย ซึ่งทางหน่วยจะได้นำโครงการนี้ไปขยายผลและดำรงความต่อเนื่อง ธรรมรงค์ความมุ่งหมายในการปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริงต่อไป
ด้านพันเอก จักริน จิตคติ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 กล่าวว่า ในเบื้องต้นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าโครงการทหารพันธุ์ดี ถ้าโดยสรุปแล้วเป้าหมายที่สำคัญ 2 พันธุ์ คือ พันธุ์ที่เป็นผลผลิตของโครงการที่จะสามารถนำไปผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ สมุนไพรต่าง ๆ นำไปให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณประโยชน์หรือต่อพี่น้องประชาชน หรือต่อครอบครัวกำลังพล และพันธุ์ที่ 2 คือน้อง ๆ ทหารกองประจำการหรือผู้ที่สนใจได้เข้ามาทำกิจกรรมที่ค่ายพระยอดเมืองขวาง เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำการเกษตร ตามวัตถุประสงค์ของโครงการดังที่ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 ได้กล่าวไว้ ซึ่งในนี้จะมีกิจกรรมหลัก ๆ อยู่ 2 กิจกรรม คือกิจกรรมเกี่ยวกับพืชและกิจกรรมเกี่ยวกับสัตว์ โดยเบื้องต้นจะมีการส่งกำลังพล จำนวน 12 นายไปรับการศึกษา ฝึกอบรม เพื่อเรียนรู้การปลูก การดูแลรักษา กระทั่งเห็นผลผลิตที่เกิดขึ้นจากศูนย์จักรพันธุ์เพ็ญศิริ ที่จังหวัดเชียงราย แล้วก็นำมาทำที่ค่ายพระยอดเมืองขวางเพื่อเป็นต้นแบบให้กับน้อง ๆ ที่จะเข้ามาเรียนรู้ โดยกระบวนการที่ทุกคนจะได้เรียน คือตั้งแต่การเพาะเมล็ด จากนั้นนำไปลงดินปลูก ดูแลรักษาเพื่อให้พืชเจริญงอกงามจนกว่าจะเป็นผลิตผลที่เป็นเมล็ดพันธุ์ ที่สำคัญคือพืชที่ได้มีความปลอดภัยเพราะอยู่ในการควบคุมเป็นการปลูกแบบใช้เป็นสารอินทรีย์ ที่มีการบำรุงด้วยปุ๋ยอินทรีย์ที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของพืช โดยหลังจากที่ดำเนินโครงการมาประมาณครึ่งปีเชื่อว่ากำลังพลได้เอาไปทำแน่ๆ เพราะเป็นประสบการณ์ที่น้องๆ อยู่กับแปลงเกษตรอยู่แล้ว ส่วนกำลังพลที่ยังอยู่ก็เป็นรุ่นถัดมาซึ่งก็อยากให้ไปรับรู้จากตัวกำลังพลเองว่ารู้สึกแบบไหน ได้ความรู้อะไร เอาไปใช้ประโยชน์อะไรบ้างแล้วหรือยัง
โดยพลทหารณัฐวุฒิ เรณู ทหารกองประจำการมณฑลทหารบกที่ 210 กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าทำประจำก็ไม่อยากสำหรับการเลี้ยงปลานิลจิตรดา มาใหม่ ๆ ก็ต้องฝึกให้เข้าใจและมีความคล่องตัวอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ สำหรับตนเองเรื่องที่ยากก็คือตอนที่เอาไข่จากแม่พันธุ์ปลาเพราะต้องจับปลาและเรียนรู้วิธีการทำ ซึ่งมองว่าตรงนี้มีประโยชน์มาก สามารถนำไปต่อยอด ทำเป็นอาชีพที่บ้านได้เลยเพราะไม่ต้องลงทุนสูง ตอนนี้ก็มีการเลี้ยงไว้ที่บ่อดินที่บ้านแล้ว แต่ยังไม่เจริญเติบโตขนาดที่เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้
.jpg)
.jpg)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น